ถ้าตอนมหาลัยนัดกันเที่ยวตอนเช้าแล้วไปตอนเย็นบ่อยๆ หรือบอกจะไปแปปเดียวแต่ล่อเข้าไป 3 วัน ตัดภาพกลับมาตอนเรียนจบ การนัดกันไปเที่ยวนี่ดูเป็นอะไรที่ยากเย็นเหลือเกิ๊นนนนน เพราะไหนจะพึ่งเริ่มทำงาน ลาไม่ได้เยอะ ไม่กล้าลาไปเที่ยวกลัวโดนเจ้านายดุ หรือหาวันลาพร้อมเพื่อน หรือเลือกที่จะไปกันไม่ได้ซักที รีวืวนี้ขอแนะนำให้ลางานไปเที่ยวกันวันธรรมดา ไม่ต้องหงุดหงิดรถติด ป้าแม่ค้าไม่หน้าหงิกเพราะขายดี เอ๊ะ ยังไง 5555 หรือจะอีกหลายๆ เรื่องที่ต้องแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวในวันหยุด แต่ถ้าเปลี่ยนไปเที่ยววันธรรมดา อะไรๆ ก็เลิศ นี่คือเชียงใหม่(อีกแล้ว) แต่เป็นแค่ 3 วัน 2 คืน ไปแบบชิวๆ กันไปเลย
เชียงใหม่นั่งรถอาจกินเวลาไป 8 – 9 ชั่วโมง แต่ด้วยวันลาที่น้อยนิด เครื่องบินตอบโจทย์ที่สุด ไทย แอร์เอเชียบินตรงสู่เชียงใหม่มากกว่า 20 เที่ยวบินต่อวัน ทั้งจากกรุงเทพ หรือเที่ยวบินข้ามภาค ถ้าเป็นคนเชียงใหม่อยากบินไปเที่ยวนอกอย่างกัวลาลัมเปอร์ มาเก๊า ฮ่องกง หางโจว หรือฉางซา ก็ไม่ต้องมาต่อเครื่องที่กรุงเทพ เพราะมีบินตรงจากเชียงใหม่เหมือนกัน บางคนบอกหาตั๋วโปรฯ เอเชียไม่เคยเจอถูกๆ เลย พอถามว่าเลือกวันไหน นางก็บอกว่าเลือกวันหยุด โอ้ยยยย!
มีคนเร็วกว่าพวกเธอแล้วจองไปก่อนแล้ว แต่ถ้าเลือกไปเที่ยววันธรรมดาโอกาสเจอตั๋วโปรฯก็เยอะกว่า บอกแล้วไงว่าวันธรรมดาอะไรก็ถูกกว่าเดิมเยอะ เก็บตังค์ที่ต้องซื้อตั๋วแพงในวันหยุดไปซื้ออาหารบนเครื่องไว้เผื่อหิวเถอะ
กาดหลวงไม่ใช่แค่ที่แวะซื้อไส้อั่ว หมูทอด
ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ ก็จะฮิตพูดกันติดปากว่า “กาดหลวง กาดหลวง” แค่จะมีซักกี่คนที่จะเดินเที่ยวกาดหลวงมากกว่าไปแวะซื้อไส้อั่วแล้วรีบวิ่งกลับ ยิ่งมาวันหยุดคนเป็นหนอนแสนยั้วเยี้ย เห็นคนเยอะๆ ก็ไม่มีอารมณ์จะเดินเล่นที่ไหนละ หื้มมมมมม น่าเสียดายจริงๆ ค่ะพี่ตา เพราะนี่คือตลาดที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งนึงในเชียงใหม่ ร้านไส้อั่ว หมูทอดเจ้าดังเป็นเพียงเสี้ยวของกาดหลวงนี้เท่านั้น! กาดหลวงรอบนี้เลยได้ชิวกว่าเดินเพราะมาวันธรรมดา นักท่องเที่ยวนอกกระแสวันหยุดแบบเราไม่เยอะ จะต่อราคาอะไร จะเดินไปซื้ออะไรแบบต๊ะต่อนยอนก็แฮปปี้ แม่ค้าก็อารมณ์ดี ลดแลกแจกแถมกันเยอะไปอีก
เราแนะนำให้เดินรอบๆ มาทางตรอกเล่าโจ้ว นอกจากจะมีก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ดอยู่ตรงนั้นร้านนึงแล้ว ยังเป็นย่านขายของ จุ๊กจิ๊กน่ารัก ทำมือของพี่น้องชาวเขาที่ขนลงมาขายกันเต็มกาดหลวงไปหมด ที่นี่สามารถต่อราคาได้อีกนิดหน่อย เพราะป้าเค้าจะขายส่งกันอยู่แล้ว อย่าต่อเยอะเลยเนอะ
และกาดหลวงยังมีศาลเจ้าเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ พร้อมกับเซียมซีมากมาย 55555 ถ้ามาเที่ยวเชียงใหม่แล้วยังว้าวุ่นใจก็แวะมาไหว้ที่นี่ก็ได้ แถมของหวานอย่างขนมใต้บันไดในกาดหลวง ตะโก้มัน ตะโก้เผือก ลูกชุบ ขนมชั้น นี่คือเจ้าดังราคาถูกที่ควรมาลองกิน
หรือชอบชีวิตที่มีสีสันก็เดินเลียบแม่น้ำปิงไปดูตลาดดอกไม้ก็ดีงามอยู่ เหมือนปากคลองที่กรุงเทพแต่สะอาดกว่า เสร็จแล้วก็ข้าม ขัวแขก (สะพาน) ไปอีกฝั่งของแม่น้ำปิง จะเจอร้านเวียงจุมออนชื่อดัง ที่นี่ดังเรื่องชาที่หลากหลาย อากาศร้อนๆ เพื่อนๆ อาจสั่งชาผลไม้ ชาเก็กฮวยเก๋ มากินพร้อมมาการองเบาๆ ถ่ายรูปลงโซเชียลพร้อมแคปชั่น “ชีวิตดีจังวันธรรมดาที่ไม่ได้ทำงาน”
กิ่วแม่ปานมันซ้ำ ผาดอกทุ่งเสี้ยวดีกว่า!
“เบื่อจังเลยค่ะพี่ ไปเชียงใหม่หน้าหนาวเมื่อไหร่เพื่อนก็ชวนไปแต่กิ่วแม่ปาน” อะ พี่ก็เบื่อเหมือนกันค่ะน้อง 55555 นี่เลยคิดว่ามันต้องมีที่อื่นบ้างสิ ที่ๆ เพื่อนที่อยากไปเที่ยวดอยอินทนนท์แล้วแวะเที่ยวที่ดีได้ด้วย เราไปเจอผาดอกทุ่งเสี้ยว ที่นี่อยู่ในบ้านแม่กลางหลวง ก่อนทางขึ้นอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ คนไทยสายเดินเที่ยวชิคและฮิป อาจจะยังไม่ฮิตเท่าไหร่ แต่ถ้าถามฝรั่ง โอ้โหคุณพระ! ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม อังกฤษ จองมาอยู่โฮมสเตย์ที่นี่กันเป็นเดือน
ผาดอกทุ่งเสี้ยวเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติตามแนวน้ำตกต้นน้ำขนาดใหญ่ เราชอบที่นี่เพราะมันมีความดิบ ความป่า ที่ต้องค่อยๆเดินและดูธรรมชาติไปเรื่อยๆ ที่นี่สามารถเดินได้ 2 ทาง คือเดินขึ้นเขา หรือเดินลงเขา แน่นอนว่าพวกแข็งแรงอย่างเราเลือกเดินลงเขา เพราะง่ายกว่าเยอะแต่วิวที่เห็นเหมือนกัน แต่ก่อนหรือหลังเท่านั้นเอง วะฮะฮ่า
ผาดอกทุ่งเสี้ยวไฮไลท์ของมันคือน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีสะพานไม้ไผ่อยู่ตรงหน้าให้เราเดินทาง พร้อมถ่ายรูปเป็นมุมที่หายากเพราะยังไม่ค่อยมีใครมา เราชอบที่นี่อย่างนึงคือคนไม่พลุกพล่านและดูเป็นอะไรที่ ดิบ ไม่ได้สร้างทางเดินจากเหล็กหรืออะไรที่ดูเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมากเกินไป
แถมยังมีไกด์ชุมชนคอยนำทางเราด้วยนะ เพราะเดินเข้าไปเองอาจหลงได้ง่ายๆ ค่าไกด์ชุมชนก็ตกอยู่ที่คนละ 200-400 บาทต่อ 1 กรุ๊ปแต่ถ้าอยากให้ทิปเพิ่มก็ตามสะดวก เพราพี่ๆ ป้าๆ ที่นำทางก็น่ารักมาก ถือเป็นการสร้างรายได้สู่ชุมชน
และถ้ามาหน้าหนาวอยากเก็บสตรอเบอร์รี่ก็ไม่แปลก แต่ร้อนๆ แบบนี้สตรอเบอร์รี่ในไร่อาจเหลือแต่รากกันแล้ว ไปค่ะเปลี่ยนจากไร่สตรอเบอร์รี่เป็นนั่งชิวริมน้ำที่แม่วางกันดีกว่า
ลงจากดอยอินทนนท์ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเข้าเมืองขอแนะนำให้ไปแม่วาง ที่นี่เป็นจุดล่องแพอีกจุดนึงใกล้เมืองที่สนุกไม่แพ้กัน แต่ถ้าอยากนั่งชิวเบาๆ อาจเช่าซุ้มซักซุ้ม จกข้าวเหนียวส้มตำที่ไม่ได้อร่อยมาก แต่เน้นกินบรรยากาศก็ชิวไปอีกแบบนะ เพราะน้ำเย็นเจี๊ยบจะไหลเอื่อยๆ เราสามารถนั่งแช่เท้าหรือกระโดดลงไปทั้งตัวและขึ้นมากินอีกก็ได้ ยิ่งไปวันธรรมดาอะไรก็ชิวกว่าเดิม ถ้ามาเสาร์อาทิตย์ หัวคนโผล่เหนือน้ำนึกว่าฮิปโปนี่เต็มไปหมด แต่วันธรรมดาหนะ อะไรก็ค่อยเป็นค่อยไป จะแอคติ้งถ่ายรูปยังไง ก็ดูเก๋ ผู้คนเบาบาง!
ผาช่อ สีส้มขี้ดินแดง และมิวเซียมสุดคูลนอกเมือง
ผาช่อเป็นอีกหนึ่งอุทยานที่คนมักจะลืมคิดถึงเวลาไปเที่ยวเชียงใหม่ หรือเอามีไว้ในแพลนในหมวดที่ว่า ทันก็ไป ไม่ทันก็ไม่ไป อารมณ์ลูกเมียน้อยยังไงอย่างงั้น แต่ถ้าลองไปดู (แนะนำให้ไปตอนเย็นๆ เพราะร้อนมาก) ที่นี่เป็น Unseen Thailand อีกที่นึงที่ไม่ควรพลาดเหมือนกัน
ผาช่อเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอย่างนึง สมัยก่อนเค้าเชื่อกันว่าที่นี่เป็นทางน้ำ ของแม่น้ำปิง พอน้ำปิงเปลี่ยนทิศทางผาช่อก็เลยถูกยกตัวสูงขึ้นเป็นเนินตะกอนสูงที่ทับถมกันมาหลายชั้นทำให้มีรูปร่างแปลกตาและมีสีดินแดงทำให้ดู ว้าวมากขึ้น
มิวเซียมเปิดใหม่ที่มีดีไซน์โคตรเท่อย่าง Maiiam Museum พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย แค่รูปร่างและการดีไซน์ด้านหน้าที่ทำจากกระจกแผ่นเล็กให้ระยิบระยับก็แปลกตามากๆ แล้ว ด้านในก็สร้างจากโกดังเก่ามาดัดแปลงให้ดูทันสมัยมากขึ้น
ด้านในก็เป็นนิทรรศการของศิลปิน และของสะสมจากศิลปินทั้งไทยและเทศ รวมถึงมีร้านอาหารและช็อปเล็กๆ ไว้ให้ช๊อปปิ้งงานดีมีดีไซน์ติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ด้วยนะ
จะเค้กก็ดี อาหารเมืองหรือฟิวชั่นก็เลิศ!
KINLUM KINDEE – กิ๋นลำ กิ๋นดี แปลว่ากินอย่างเอร็ดอร่อย ร้านอาหารเหนือที่ถูกปากเราอีกร้านนึงเพราะรสชาติแบบล้านนาขนาดเจ้า จริงๆ ร้านนี้เป็นร้านที่ขายในตลาดสันทรายมานานเป็นสิบๆ ปี แต่พึ่งมา Rebrand ใหม่พร้อมขายออนไลน์ และมีหน้าร้านเป็นของตัวเองที่นิมมานซอย 11 ทีเด็ดคือหมูสามชั้นทอดกับข้าวเหนียวร้อนๆ พร้อมด้วยไส้อั่วตับที่หากินที่ไหนไม่ได้ กินเป็นมื้อหนักก่อนนอนที่หลับสบายเลย หรือจะซื้อไปเป็นของฝากก็เลิศ
Mai Bakery – ไหม เบเกอรี่ ร้านคาเฟ่และเบเกอรี่ในเชียงใหม่นี่เยอะเหมือนซองมาม่าในเซเว่นที่คนจะซื้อกันเยอะแค่ไหนก็ไม่มีวันหมด บางร้านก็จะงัดเมนูเด็ดๆ ที่พิสดารและฟิวชั่นมากเกินไปมานำเสนอ แต่ร้านนี้ไม่ว่าจะกินเมื่อ 10 ปีที่แล้วหรือตอนนี้ รสชาติก็ยังอร่อยดั้งเดิมไม่เปลี่ยน เราชอบเค้กใบเตย เค้กส้มและบราวนี่มากที่สุดเพราะหวานกำลังดี ไม่เลี่ยน ต้องลอง!
และอาหารเหนืออีกอย่างนึงที่อยากแนะนำเพราะเรากินมาตั้งแต่เด็กๆ คิดอะไรไม่ออกก็ข้าวเงี้ยวนี่แหละ อร่อยและกินง่าย ข้าวเงี้ยวหรือข้าวกั้นจิ้นเป็นข้าวผสมกับเลือดหมู เนื้อหมูสับและเครื่องปรุงต่างๆ คลุกเคล้าเข้าด้วยกันพร้อมกับห่อใบตองเป็นทรง 3 เหลี่ยมและเอาไปนึง กลิ่นมันจะหอมอวลมากทั้งข้าวและใบตอง ข้าวเงี้ยวที่เรากินประจำเดี๋ยวนี้มีส่งด้วย 5555 ห่อละ 10 บาทเท่านั้นแหละ ชื่อว่า ข้าวเงี้ยวแก้วบัวหลง เฮือนชื่นจิตต์
“TIME” Riverfront Cuisine & Bar นี่เป็นร้านอาหารในโรงแรมที่เราพัก ตอนแรกๆ ที่เลือกกินเพราะว่ามันง่ายและสะดวก แต่กินไปกินมาอร่อยซะงั้น และเราชอบความครีเอทของเมนูที่ทุกจานดูมีเรื่องราวและเชฟพร้อมจะออกมาอธิบายให้เราฟัง ที่นี่มีทั้งอาหารไทย อาหารเหนือแนวฟิวชั่น แนะนำให้สั่งหมูกรอบราดซอสฮังเล ที่กว่าจะได้หมูกรอบ กรอบนอกนุ่มในเชฟนางเมาท์ว่าใช้เวลาปรุงนานกว่า 2 วันเชียวนะแก๊!
กินอิ่ม นอนอุ่นใจกลางเมืองกับ ณ นิรันดร์
และด้วยความที่เชียงใหม่เป็นบ้านของพวกเรา กลับมาเที่ยวทีไรก็จะนอนบ้านกันตลอด หรือถ้าเพื่อนมาเยอะ ก็ยกโขยงไปนอนโฮสเทลให้ได้บรรยากาศซักหน่อย แต่รอบนี้เราอยากลอง! เชียงใหม่ขึ้นชื่อว่ามีโรงแรมและรีสอร์ทดีๆ เยอะมาก ที่สะดวกสบาย เดินเข้าไปนี่เยี่ยงผู้ดีราชนิกุล เลือกกันอยู่นานสองนาน สุดท้ายก็มาจบที่โรงแรมเปิดใหม่ได้เพียง 5 เดือนกว่า“ณ นิรันดร์” ที่นี่เป็นโรแมนติก บูทีค รีสอร์ท โรแมนติกชนิดที่ว่าเดินเข้าไปนี่นึกว่ามากับแฟน แต่หันไปข้างๆ “เอ๊ะ! กูไม่มี”
ณ นิรันดร์ อยู่เส้นถนนเจริญประเทศ ซ่อนตัวอยู่ในซอยข้างวัดชัยมงคล เราผ่านเส้นนี้ตั้งแต่เด็กๆ ก็พึ่งรู้นี่แหละว่าพื้นที่ตรงนี้จะกว้างใหญ่พอที่จะสร้างโรงแรมได้
แถมพื้นที่ของโรงแรมยังมีต้นฉำฉายักษ์อายุราว 100 ปีคอยบังแดด บังฝน เป็นแลนด์มาร์คและมุมถ่ายรูปสุดชิคอีกมุมหนึ่งของที่นี่ ถ้าได้มานอน อยากบอกว่า ไม่ว่าจะเมาแอ๋จากการเต้นจนง่ามขาเปียกจากที่ไหนมา แต่ควรตื่นมากินอาหารเช้าที่นี่ เพราะวิวดีมากกกกกกกกกกกกกก บรรยากาศยามเช้าของโรงแรมริมแม่น้ำปิง กับแสงแดดทออ่อนๆ กระทบกับต้นฉำฉา และสาดลงมาเปื้อนหน้าเราที่นั่งจิบน้ำส้มสวยๆ อยู่นั้น บอกเลยว่าดีที่สุด! อยากจะกรี๊ดให้กับโมเมนท์นี้จริงๆ
รอบนี้เราพักห้องแบบ Romantic Lanna Royal Deluxe จะสไตล์ที่ดีไซน์แบบอบอุ่น เรียบง่าย สวยงาม คือให้ความรู้สึกสะดวกสบายมากที่สุด เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็เป็นงานไม้ให้อารมณ์ธรรมชาติ
และความพีคมันอยู่ตรง House Of Colonial อาคารที่พักแบบครึ่งตึกครึ่งไม้ ในสไตล์ล้านนาโคโลเนียลริมแม่น้ำปิง ที่โคตรเป็นส่วนตัวและควรมาเพื่อพักผ่อนอย่างแท้จริง เพราะนี่คือห้องแบบ Riverfront Colonial Suite สุดหรูพร้อม Private Pool สำหรับ 4 ห้องนี้เท่านั้น เราพักห้องแบบ Enchanted Chinese ตกแต่งสไตล์จีน เน้นสีแดงตัดกับเขียวแมนดารินของห้องก็สวยแปลกตาไปอีกแบบเหมือนกัน ได้อารมณ์เจ้าหญิงกำมะลอมาแวะเที่ยวเชียงใหม่ 5555 เพื่อนๆ สามารถติดตามเรื่องราวและโปรโมชั่นพิเศษของ ณ นิรันดร์ ได้ที่นี่เลย
เสน่ห์ของเชียงใหม่คือความเรื่อยๆ ของบ้านเมือง แม้ว่าจะรีบหรือรถติดแค่ไหน คนเชียงใหม่ก็จะใช้ชีวิตแบบ ต๊ะต่อนยอน ค่อยเป็น ค่อย ไป แถมยังมีอะไรหลายๆ อย่างที่รอให้เรามาเจอและทำกิจกรรมสนุกไปด้วยกัน บางทีการเป็นคนเชียงใหม่ของเราก็พลาด พลาดที่ไม่ค่อยอินกับการเที่ยวเชียงใหม่ เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นบ้านมากกว่า แต่พอได้มาลองใช้ชีวิตในเชียงใหม่แบบคนมาเที่ยว เปลี่ยนจากนอนบ้านไปนอนโรงแรมดีเพื่อพักผ่อน แพลนสถานที่เที่ยวพาเพื่อนที่ยังไม่เคยไป ไปด้วยกัน ทำให้รู้ว่าเออเชียงใหม่บ้านกูนี่มันเจ๋งจริงๆ
ใครที่กำลังเบื่องาน อยากชวนเพื่อนมหาลัยหรือเพื่อนโรงเรียนลางานพร้อมกันซัก 2 – 3 วันเราว่าเชียงใหม่นี่ก็เวิร์คดีเหมือนกัน ซึมซับความต๊ะต่อนยอนของที่นี่กลับไปให้ใจร่มๆ เวลาทำงาน อย่าลืม! ว่าวันหยุดเป็นสิทธิ์ของเรา ลางานมาเที่ยวกันวันธรรมดา ตั๋วก็ถูก ที่พักก็ถูก คนไม่เยอะ แม่ค้าอารมณ์ดี นักท่องเที่ยวแบบเราๆ ก็แฮปปี้ไปด้วย