พอเข้าปลายปีวันหยุดก็เยอะ แต่วันลาก็น้อย คือมันไม่สามารถลายาวๆ แล้วไปเที่ยวไหนไกลๆ ได้อีกต่อไปเพราะใช้ไปหมดกันตั้งแต่ต้นปีแล้ว .. นี่คือสิ่งที่เพื่อนรอบตัวกับงานประจำของนางบ่นให้ฟังทุกครั้งเวลาที่เจอกัน รอบนี้เราขอแนะนำระยองค่ะ เลยพัทยาไปซักนิด เปลี่ยนบรรยากาสกันบ้าง จากกรุงเทพแค่ 3 ชั่วโมง ออกเช้าหน่อยแปดโมงค่อยๆ ไป แวะนู่นแวะนี่กรุบกริบจะถึงกันช่วงเที่ยวพอดิบพอดี
เราแนะนำให้ไปเดินเล่นถ่ายรูปหาของกินยามบ่ายที่ ถนนยมจินดา ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่โบราณสายแรกของเมืองระยอง ทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำระยอง ปัจจุบันชาวชุมชนได้ทำการฟื้นฟูย่านชุมชนเก่าแห่งนี้ให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ แต่ยังคงด้วยมนต์เสน่ห์ความเก่าแก่ของเมืองระยองอยู่ โดยทุกเสาร์-อาทิตย์ จะมีถนนคนเดินมาช่วยสร้างความคึกคักให้ย่านนี้
ผ่านไปแถวนั้นแล้วกอย่าไปผ่านไปเฉยๆ แวะไปพิพิธภัณฑ์เมืองระยอง จะตั้งอยู่ช่วงกลางๆ ถนนยมจินดา เป็นจุดที่เปิดให้ทุกคนได้เข้ามาศึกษาประวัติเมืองระยองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และถ้าเดินต่อมาอีกหน่อย เราก็จะได้แวะไหว้เสริมสิริมงคลกันที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม อันเป็นที่กราบไหว้ของชาวระยอง โดยมีชื่อทางการว่า ตุ้ยบ้วยเนี่ย สร้างขึ้นมาตั้งแต่พ.ศ. 2421 เชียวนะ
ร้านราย็อง ร้านคาเฟ่สุดคลาสสิค ตกแต่งสไตล์ย้อนยุค ที่มีทั้งอาหาร กาแฟ ขนมหวาน รวมอยู่ภายในอาคารไม้แบบบ้านของชาวตลาดเก่า โดยมี เมี่ยงคำร้อยปี เป็นเมนูเด็ดประจำร้าน ที่ใครมาก็ต้องไม่พลาด
เสร็จก็เข้าไปเช็คอินพักผ่อนกันที่ เซ็นทารา คิว รีสอร์ทระยอง ซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดแหลมแม่พิมพ์ ตัวรีสอร์ทถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เขียว ให้ความสงบไม่วุ่นวาย เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว แต่ก็ไม่ยากต่อการเดินทางไปเที่ยวเกาะต่างๆ ห้องพักทุกห้องจะมีระเบียงเปิดโล่งหันหาวิวทะเล ซึ่งเป็นด้านที่พระอาทิตย์ตกดินด้วยนะ โรแมนติกเว่อร์วังมากๆ
ที่รีสอร์ทจะมีห้องอาหาร 2 ห้องคือ ควิกแซนด์ จะเป็นบาร์ริมหาด มีทั้งเดย์เบด เตียงอาบแดด สามารถมานั่งชิลเพลินๆได้ตั้งแต่บ่ายแก่ๆ พอหิวหน่อยก็สั่งอาหารมานั่งทานพร้อมกับวิวทะเลอ่าวไทยอยู่ตรงหน้า โอ้ย ฟิน
และอีกห้องชื่อคิวซีน มีทั้งอาหารนานาชาติ ซีฟู้ด และอาหารไทย ที่เค้างัดทีเด็ดของท้องถิ่นต่างๆ มาเสิร์ฟถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นผัดไทยกุ้งแม่น้ำ เฟตตูชินี่ผัดกระเพรา แกงหมูชะมวง นี่ถ้าได้ดื่มอะไรเย็นๆนิดหน่อย พร้อมแกะปูป้อนคนรู้ใจ จะมีอะไรดีไปกว่านี้ล่ะคะคุณผู้ชม ผลัดกันกินไปกินมา เอ้าถึงเตียงพอดี
วันสอง
เช้าวันที่ 2 ของการมา Tropical Escape เราไปดำน้ำดูปะการังและหมู่ปลาคิ้วท์ๆกันที่ เกาะทะลุ สามารถจองเรือกับที่รีสอร์ทได้เลย โดยเรือจะมารอรับพวกเราที่หาดตอน 9 โมงนิดๆ เตรียมชุดไปดำน้ำให้พร้อม แล้วไปลุยกัน!
นั่งเรือจาก เซ็นทารา คิว รีสอร์ทระยอง ไปประมาณ 45 นาที ก็จะถึงเกาะที่มีน้ำใสจนเห็นถึงใต้พื้นท้องทะเลอย่าง เกาะทะลุ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง
เกาะทะลุ ถือว่าเป็นเกาะที่ไม่วุ่นวายมากนัก เพราะยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากัน ทำให้เราสามารถดำน้ำดูสิ่งมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเลได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่เอาหัวไปชนเท้าใคร! 5555
หลังจากดำน้ำจนหนำใจ บอกตรงๆว่า เกาะใหญ่มาก ดำเพลินๆนี่พอขึ้นมาจากน้ำทีเล่นเอาปวดเมื่อยขาเปลี้ยกันถ้วนหน้าเลยนะคะ เราก็เลยรีบนั่งเรือบึ่งกลับรีสอร์ท เพื่อไปทำสปากันข่ะ ที่ เซนส์ บาย สปาเซ็นวารี เป็นอีกหนึ่งการอำนวยความสะดวกของ เซ็นทารา คิว รีสอร์ทระยอง
เหนื่อยกันมาทั้งวัน แถมตากแดดแรงๆของประเทศไทย ต่อไปก็จะเดินทางเข้าสู่โลกแห่งความผ่อนคลายบ้างค่ะ ที่สปาจะมีให้เลือกทั้งทรีตเม้นท์ดูแลผิวพรรณ นวดน้ำมัน นวดไทย ก็เลือกได้เลยตามใจชอบ
ตกเย็นไปรับประทานอาหารและขนมขบเคี้ยว กับจิบเครื่องดื่มเบาๆส่งท้ายก่อนเข้านอนที่ห้องอาหารคิวบ์ บาร์ ก็เพียงพอสำหรับจบวันนี้ได้แล้วค่ะ หลับสบายยยย ตื่นมาสายๆ ก็เตรียมเช็คเอาท์กลับกรุงเทพ นี่แหละวันสบายๆ ไม่ต้องแพลนอะไรให้ยุ่งยาก ว่างปุ๊ป เบื่อปัีกก็ขับรถกันมา หาโรงแรมดีๆ นอนกันซักคืน สองคืน ยิ่งอากาศปลายปีแบบนี้ไม่ร้อนจนเกินไป มากับเพื่อนก็เลิศ หรือเธอจะมากับใครก็เชิญ!