ความดีงามของญี่ปุ่นนี่คงไม่ต้องให้บรรยายเยอะแยะใช่มะ, ว่าคนที่นี่เค้าถูกเลี้ยงดูมาดีแค่ไหนเรื่องมารยาท ความดีงาม ก้มแล้วก้มอีกจนเรานี่เขินไปหมด555555 พอพูดถึงญี่ปุ่นทีไรก็ต้องนึกถึงอากาศหนาวๆ ยืนกินโอเด้ง กับกาแฟร้อนๆ หรือถ่ายรูปคู่กับใบไม้เปลี่ยนสี ไม่ก็แอคติ้งเล่นใหญ่กับซากุระ แต่น้อยมากกกกกกกที่จะยอมเสียเงินไปญี่ปุ่นหน้าร้อนกัน เพราะกลัวฝน กลัวพายุ ไม่ชอบแดดแรง จะไปญีปุ่นทั้งเจอแดดแบบบ้านเรานี่ก็ขอบายกันหมดละ ..แต่หารู้ไม่ว่าฟ้าญี่ปุ่นหน้าร้อนมันสวยแบบโคตรพีค! ใส่ยูกาตะไปดูดอกไม้ไฟ จิบเบียร์เย็นๆ แอ๊วหนุ่มยุ่น หรือเดินดูนิทรรศการที่ถ้ามาหน้าหนาวก็อย่าหวังจะได้เจอ
นี่คือเสน่ห์ของโตเกียวหน้าร้อนที่ความร้อนจากตัวเราจะเปลี่ยนไปเป็นความอิจฉาตาร้อนของเพื่อนที่ไม่ยอมมาด้วยกันแทน
เราจะพาไป Event สำหรับหน้าร้อนที่โตเกียว ที่มีเฉพาะหน้าร้อนนี้..เท่านั้น!!
รอบนี้เราเดินทางกับ Scoot สายการบิน Low Cost รายใหญ่ของสิงคโปร์ ข้อดีของ Scoot คือนางลงทุนมากใช้เครื่อง 787-Dreamliner เครื่องใหญ่และใหม่ล่าสุดมาบิน ที่นั่งระหว่างเบาะก็กว้าง ทำให้ไม่เมื่อยระหว่างเดินทาง ทำให้ตลอด 6 ชั่วโมงระหว่างดอนเมืองไปโตเกียวสบายยิ่งขึ้น
ถ้าใครติดตามข่าวสารบ่อยๆ จะเคยได้ยินว่าสายการบินนี้ชอบเท 5555 คือมีการ Overbooking กันเกิดขึ้น นางเลยขอเวลาไปจัดการแก้ไขปัญหาชีวิตแล้วทำให้ปัญหา Overbooking เหล่านี้หมดไป, เดี๋ยวนี้ใครบินกับ Scoot ก็มั่นใจได้มากขึ้นว่าปัญหาพวกยิบๆ ย่อยๆ Scoot ก็กำลังแก้ให้หมดไป สบายใจถึงโตเกียวกันทุกคน
แต่ปัญหาที่ตามมาคือหิวระหว่างเดินทาง เพราฉะนั้นอย่าลืม Pre-Book meal ไปกันก่อนล่วงหน้า หรือถ้าขี้เบื่อมากๆ นอนไม่หลับ คิดถึงแฟน ติดโซเชียล ก็ซื้อ wi-fi มาเล่นซะเพราะ Scoot นางไฮโซมี Wifi ทุกลำซะด้วย ก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกใหม่ๆ ที่จะทำให้กรุงเทพกับโตเกียวใกล้กันกว่าเดิม ไปง่ายขึ้นและที่สำคัญประหยัดขึ้นด้วย
-Summer HANABI (fireworks)
Event แรกที่ Recommend มากที่คือการดูดอกไม้ไฟ คนที่นี่จริงจังและเล่นใหญ่มาก เพราะมีเกือบทุกอาทิตย์ตลอดหน้าร้อน แล้วแต่ละครั้งคนญีปุ่นก็จะใส่ยูกาตะ คีบเกี๊ยะ ถือกระเป๋าผ้า หรืออาจจะมีพร็อบเป็นดอกไม้ทัดหู เพิ่มความเก๋ สวย แซ่บมากทั้งชายทั้งหญิงออกมาปูเสื่อริมน้ำ จิบเบียร์ แทะถั่วแระ และหัวเราะคิกๆ คัก ใสใสสไตล์ฮาราจุกุกัน คือไม่รู้ว่าจะเอาเทศกาลนี้ไปเปรียบกับบ้านเรายังไงอะ มันไม่เหมือนงานลอยกระทงที่กินเหล้าริมเจ้าพระยาหรือคลองแสนแสบแล้วจุดประทัดสามเหลี่ยมโยนใส่กัน มันคนละฟีลกันเลยเพราะมันไม่มีที่บ้านเราจริงๆ
ที่นี่ดอกไม้ไฟไม่ได้จุดกันแบบเบี้ยน้อยหอยน้อยทีละสิบยี่สิบลูกนะ แต่แม่งจุดกันเป็นหมื่นเป็นแสนลูก 55555555 กินเวลาประมาณ 45 นาทีถึง 1ชั่วโมง ก็นั่งดูไปสิ เพลินๆ นึกภาพจินตนาการไปเองว่าถ้ามีผู้ชายให้ซบระหว่างดูพลุคงจะดีนะคะ คุณอุเอฮาระคุง เพราะดอกไม้ไฟของเค้าสีสันสดใส เปิดเพลงให้เข้ากับบรรยากาศ ตอนที่เราไปนั้นมีพลุที่ริมแม่น้ำ Arakawa พอดี เป็นงานที่ปีก่อนมีคนมาดูพลุมากกว่า 5 แสนคน
เราชอบ Moment การรอคอยอะไรซักอย่างร่วมกันนะ อย่างเช่นพลุจะจุดตอน 1 ทุ่ม ประมาณ 4-5โมงทุกคนจะออกมาปาร์ตี้กันริมแม่น้ำ ใครมาเป็นครอบครัวก็กินข้าว คุยกันสนุกสนาน ใครมากับเพื่อนก็ปาร์ตี้เฮฮากันไป มากับแฟนก็จะมีโมเมนท์น่ารักๆ ให้เราต้องอิจฉา หรือแก๊งค์นักถ่ายภาพลุงๆ ป้าๆ ก็จะนั่งเรียงแถวกันเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกคนดูสนุกอยู่ในอารมณ์ร่วมกันจริงๆ เราชอบ เราฟังญีปุ่นไม่ออกยังแฮปปี้เลย แม้ว่ามันจะดูเหงาๆ บ้างบางทีก็เถอะ
เราชอบ Moment การรอคอยอะไรซักอย่างร่วมกันนะ อย่างเช่นพลุจะจุดตอน 1 ทุ่ม ประมาณ 4-5โมงทุกคนจะออกมาปาร์ตี้กันริมแม่น้ำ ใครมาเป็นครอบครัวก็กินข้าว คุยกันสนุกสนาน ใครมากับเพื่อนก็ปาร์ตี้เฮฮากันไป มากับแฟนก็จะมีโมเมนท์น่ารักๆ ให้เราต้องอิจฉา หรือแก๊งค์นักถ่ายภาพลุงๆ ป้าๆ ก็จะนั่งเรียงแถวกันเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกคนดูสนุกอยู่ในอารมณ์ร่วมกันจริงๆ เราชอบ เราฟังญีปุ่นไม่ออกยังแฮปปี้เลย แม้ว่ามันจะดูเหงาๆ บ้างบางทีก็เถอะ
สถานที่ : ถ้าใครจะมาดูพลุหน้าร้อนนี้สามารถเช็คในเว็บ : http://www.tiewyeepoon.com/hot-topics/news/tokyo-hanabi/ หรือออกนอกโตเกียวบ้าง http://www.tiewyeepoon.com/hot-topics/jreast-tohoku-hanabi/ หรือทั้งญีปุ่น http://hanabi.walkerplus.com/ ว่าวันไหนจัดที่ไหนบ้าง เพราะแต่ละครั้งจะเวียนไปไม่เหมือนกัน แนะนำไปให้ตรงวันหยุดสุดสัปดาห์นะ ได้ดูแน่นอน
-The Studio Ghibli Exhibition at Roppongi Hills
ก่อนไปโตเกียวก็กังวลนั่นแหละว่า “เอ๊..ถ้าฝนตกกูจะไปมุดที่ไหนดีน้า” 5555 นี่เลยพยายามหากิจกรรมในร่มทำเยอะหน่อย เลยไปเจอ Exhibition ที่ทำเอาสาวกโตโตโร่อย่างเราน้ำตาเกือบไหล เพราะเค้าเอานิทรรศการชั่วคราวมาจัดไว้บนชั้น 52 ที่ Roppongi Hills ภายในก็จะบรรยายเรื่องราวที่มาที่ไปของ Ghibil ,มีการจำลองห้องทำงาน มีโปสเตอร์ยักษ์ของอนิเมชั่นดังๆ ของ Ghibil ทั้งหมด ข้อเสียคือเป็นภาษาญีปุ่นและห้ามถ่ายรูป แต่สาวกอย่างเรากลัวที่ไหน แค่ได้เห็นก็ฟินจะตายอยู่ละ
จุดพีคมันอยู่ตรงนี้ ซึ่งเป็นจุดเดียวที่ถ่ายรูปได้ ถึงเป็นจุดเดียวก็บอกเลยว่าโคตรคุ้มแล้วจริงๆ เพราะเค้าจำลองเรือบินยักษ์ จากเรื่อง Castle in the Sky มาไว้ แล้วไม่ได้แขวนไว้เฉยๆ นะเว้ย มันสามารถขยับขึ้น ขยับลง เหมือนบินได้จริงๆ อีกด้วย!
รอบห้องเป็นห้องกระจกใสๆ ข้างนอกก็เป็นวิวโตเกียวทั้งหมด แถมยังมีเครื่องบินอีกหลายสิบลำบินอยู่ด้วยนะ ถ้าแดดยามเย็นออกจ้าๆ จะได้ภาพ Silhouette ที่สวยและดีงามมากกกกก ไม่รู้จะอธิบายยังไงแค่ควรไปดูด้วยตาตัวเองจริงๆ
แถมยังไม่พออออออ..ด้านล่างของตึกยังมีนิทรรศการโดราเอมอนกว่าร้อยตัวให้ถ่ายรูปเล่นกันอีกด้วยนะ แต่เราว่าแค่ยืนมองเด็กๆ ถ่ายรูปเล่นกันก็มีความสุขแล้วหละ อิอิ
สถานที่ : Tokyo City View ,Roppongi Hills
ซื้อบัตรได้ที่ชั้น 3 ตึก Mori Tower ราคา 1,800 เยน แล้วขึ้นไปหา TOTORO ที่ชั้น 52โลด!
งานนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-22.00 น. (เข้ารอบสุดท้าย 21.30 ) และจัดถึงแค่ 11 กันยายน เท่านั้น
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.roppongihills.com/tcv/jp/ghibli-expo/
– DMM.PLANETS Art by teamLab
หน้าร้อนแบบนี้ไป Odaiba ถ่ายรูปกับหุ่นกันดั้มหรือเทพีเสรีภาพจิ๋วนี่เชยละนะบอกเลย! ไปดูนี่ดีกว่าเว้ย เก๋กู๊ดและเท่กว่าเยอะ DMM.PLANETS Art by teamLab เพื่อนๆ อาจจะคุ้นหู teamlab เพราะเค้ามาจัดแสดงที่เซ็นทรัลเวิล์ดบ้านเราเหมือนกัน ถ้าที่ไทยว่าดีงามแล้ว ที่นี่บวกเข้าไปอีกร้อยเท่า!!! นี่เป็นดิจิตอลอาร์ตขนาดใหญ่ที่จัดวางคล้ายเขาวงกตให้ทุกคนได้เดินชมกันไปเรื่อยๆ มันน่าตื่นตาตื่นใจมาก เค้าจัดแสดงไว้ทั้งหมด 4 ห้อง และเคลมว่านี่คือดิจิตอลอาร์ตที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
หน้าร้อนแบบนี้ไป Odaiba ถ่ายรูปกับหุ่นกันดั้มหรือเทพีเสรีภาพจิ๋วนี่เชยละนะบอกเลย! ไปดูนี่ดีกว่าเว้ย เก๋กู๊ดและเท่กว่าเยอะ DMM.PLANETS Art by teamLab เพื่อนๆ อาจจะคุ้นหู teamlab เพราะเค้ามาจัดแสดงที่เซ็นทรัลเวิล์ดบ้านเราเหมือนกัน ถ้าที่ไทยว่าดีงามแล้ว ที่นี่บวกเข้าไปอีกร้อยเท่า!!! นี่เป็นดิจิตอลอาร์ตขนาดใหญ่ที่จัดวางคล้ายเขาวงกตให้ทุกคนได้เดินชมกันไปเรื่อยๆ มันน่าตื่นตาตื่นใจมาก เค้าจัดแสดงไว้ทั้งหมด 4 ห้อง และเคลมว่านี่คือดิจิตอลอาร์ตที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Wander through the Crystal Universe เขาวงกตคริสตัลขนาดใหญ่มาก ที่ให้เดินถ่ายรูปกันได้อย่างเก๋ เราชอบห้องนี้มากทั้งไฟ แสงสีและการจัดวางทำได้ลงตัวมาก นั่งดูเพลินจนลืมเวลาไปเลย
แถมยังมีอีกตั้ง 3ห้องที่เผลอๆ อาจทำให้น้ำตาไหลได้ไม่รู้ตัวเพราะไม่เคยเห็นอะไรที่สวยและอลังการขนาดนี้มาก่อน ทั้งห้องโถงขนาดใหญ่ที่มี
ดอกไม้ผลิสวยงามลอยผ่านไปผ่านมาตลอดเวลาอย่างไม่มีสิ้นสุดกับห้อง Floating in the Falling Universe of Flowers หรือพื้นน้ำสีรุ้งขนาดใหญ่ที่มีปลาคาร์ฟว่ายวนไปวนมา เราจะไม่ได้ยืนดูเฉยๆ ให้เสียเวลา แต่สามารถลงไปถ่ายรูปในน้ำได้อีกด้วยนะเหวยยยยย
ข้อแนะนำคือใส่ขาสั้นไปหรือควรมีขาสั้นไปเปลี่ยน เพราะมันเป็นน้ำที่สูงเกือบถึงเข่าห้องนึง และสามารถเอามือถือและ wifi เข้าไปถ่ายรูปเล่นได้เต็มที่อีกด้วยนะ
สถานที่ : Odaiba Minna no YUME-TAIRIKU 2016
**ต้องทำความเข้าใจก่อนว่างานนี้มันเป็นงานที่อยู่ในงานอีกทีนึง เหมือนอยากดูรถไถ่ตังกับสาวน้อยตกน้ำต้องจ่ายเงินค่าเข้างานกาชาดก่อนถึงจะเข้าไปดูได้ทำนองนั้นแหละ**
ภายในงานมีอีกหลายกิจกรรมมาก ห้องหิมะ คอนเสิร์ต มิวเซียมวันพีซแบบย่อ และ DMM.PLANETS Art by teamLab
ค่าเข้างานแค่ 2,000 เยนเท่านั้นสามารถเข้าเล่นได้ทุก เราแนะนำว่าควรมีเวลาซักครึ่งวันมาขลุกตัวอยู่ที่นี่รับรองว่าคุ้ม!
งานนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-22.00 และมีถึงวันที่ 31 สิงหาคม นี้เท่านั้น
โตเกียวของเราเป็นหน้าร้อนที่สนุกมากเพราะเราวางแผนไว้หมดแล้วว่าอยากไปไหน ไปทำอะไร แถมรอบนี้ได้เล่น Pokemon Go ก่อนใครเพื่อนด้วยนะฮ้า ที่โตเกียวก็จริงจังกันเหมือนที่กรุงเทพนั่นแหละ Gotcha! กันทั้งวันทั้งคืน มีเนตเร็วๆหน่อยก็เล่นได้ไหลลื่นสบายๆ รอบนี้เราใช้ Wifi ของ WiFiBank เป็นโมเด็มและเราเตอร์ขนาดเล็กที่รวบยอดไว้ในเครื่องเดียวพกไปด้วยได้ทุกที่ เล่นเน็ตได้ทุกครั้งที่ต้องการ ที่สำคัญแบตอึดมาก ชาร์ตไว้ตอนกลางคืนอยู่ได้ทั้งกลางวัน เป็นอีกตัวเลือกนึงให้เพื่อนๆ เลือกใช้เวลาเดินทางไปต่างประเทศ เพราะมันครอบคลุมหลายประเทศ แถมต่อทีเดียวพร้อมกันได้มากถึง 10เครื่อง ด้วยราคาเริ่มต้นเบาๆ แค่วันละ 180 บาท ก็ถือว่าโอเคอยู่
ขากลับเราลองนั่ง Scootbiz ถามว่าแตกต่างกันยังไง คือมีอาหารร้อนเสิร์ฟและเบาะใหญ่กว่าพร้อมปลั๊กไฟสำหรับชาร์ตแบตเท่านั้น มันอาจจะไม่ได้หรูหราตามสไตล์ Bisiness Class แต่ก็สะดวกสบายกว่าที่นั่งธรรมดาแน่นอน ถ้าใครกังวลว่าขากลับออกเดินทางเช้า อยากนอนบนเครื่องแบบสบายๆ Scootbiz ก็ถือว่าตอบโจทย์
โตเกียวยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะ Event ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ก็มีมาตลอด เราว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ไปกับครอบครัวก็สนุกอีกแบบ ไปกับเพื่อนก็จะมันส์อีกแบบ มันเป็นประเทศที่ใครๆ ก็เที่ยวได้ อย่ากลัวว่าหน้าร้อนจะไม่สนุก ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง เผลอๆ จะรักญีปุ่นหน้าร้อนมากกว่าหน้าหนาวซะอีก.