‘กาตาร์’ ประเทศเล็กๆ ในคาบสมุทรอาหรับที่อลังการมากขึ้นทุกวัน นี่คือหนึ่งในประเทศที่มีทะเลทรายสวยเนียนละเอียดและอยู่ติดกับมหาสมุทรจนวิวที่สวยแบบอลังการที่มีแค่ฟ้ากับทรายและสองเรา และมิวเซียมเก๋ๆ ที่คนสร้างคนเดียวกับลูฟร์ในปารีส มีอูฐแสนเชื่องให้ขี่ล่องทะเลทรายพร้อมเหยี่ยวบินมาโฉบเกาะที่แขนแบบท่านซีคฯ แถมมีที่พักแบบลักชูรี่ในราคาที่สมเหตุสมผลให้เธอสร้างคอนเทนต์ปังๆ ในการกลับมาเที่ยวต่างประเทศได้อีกครั้ง และที่นี่… ฟรีวีซ่าให้คนไทยมาเที่ยวได้นานถึง 30 วัน!
เรามั่นใจว่าประเทศนี้ไม่ใช่ Destination ในฝัน แต่เป็นประเทศระหว่างทาง เป็น Midway เหมือนนั่งรถทัวร์กรุงเทพ – เชียงใหม่แล้วแวะกินข้าวต้มที่กำแพงเพชร เป็นคอนเซ็ปต์แบบ “บินมาตั้งไกลแวะพักกินน้ำกินท่าแปปนะคะ” 5555 รีวิวนี้อยากชวนทุกคนที่กำลังจะบินกลับไทยหรือไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะโซนยุโรปหรืออเมริกา แล้วอยากแวะพักเครื่องเปลี่ยนบรรยากาศซัก 2-3 วัน เพิ่ม Bucket List ประเทศใหม่ในพาสปอร์ต นี่คือโอกาสที่เธอจะได้เที่ยวโดฮาในราคาที่ถูกที่สุดเพราะ Qatar Airways ออกโปรโมชั่นให้ทุกคนแวะเปลี่ยนเครื่องและพักผ่อนเที่ยวในโดฮาพร้อมที่พักสุดหรูในราคาเริ่มต้นคนละไม่เกิน 500 บาท (14 USD) ย้ำอีกครั้งว่าที่นี่ฟรีวีซ่า และคนละไม่เกิน 500 บาทก็รวมที่พักแล้ว 1 คืน!
อัลบั้มนี้เลยอยากรวบรวม 6 Places to visit in Doha เพื่อให้ทุกคนมีเป็นไกด์ไลน์ว่ามันสวยควรค่าแก่การแวะจริงๆ
จองตั๋วเครื่องบินสู่ปลายทางในฝัน และเลือก Stopover ที่โดฮาได้ที่ : www.qatarairways.com/stopover
#wheredowegoTH #QatarAirways #QatarStopover #VisitQatar
Qatar Airways เป็นสายการบินระดับ 5 ดาวที่เราชอบมากๆ เวลาเดินทางไปอเมริกาด้วยความที่มีไฟลท์ออกจากกรุงเทพฯ หลากหลายเวลา ทำให้เลือกได้เยอะว่าอยากจะไปเปลี่ยนเครื่องที่โดฮากี่ชั่วโมงก่อนไฟลท์ถัดไป เผื่อใครอยากจะออกไป Stopover แบบที่เราทำประจำก็สามารถทำได้ง่ายๆ แถมที่นั่ง Business Class ของที่นี่ยังมาในคอนเซปต์ First in Business หมายความว่าเธอจะได้ฟีลลิ่งเดียวกับการนั่ง First Class ในที่นั่ง Qsuite ของ Qatar Airways ทั้งอาหารอย่างดี ไวน์ลิสต์ชั้นน้ำ และที่นั่งประตูเปิดปิดเพิ่มความเป็นส่วนตัวเหมือนมีห้องลอยฟ้าเป็นของตัวเอง ทั้งนี้เราจะบอกกันอย่างตรงไปตรงมาว่า Qsuite ไม่ได้มีทุกไฟลท์ แนะนำให้ดูรายละเอียดการจองก่อนทุกครั้ง
กว่า 140 เส้นทางของ Qatar Airways กลับมาบินเป็นปกติเกือบทุกเส้นทางเหมือนก่อนโควิดแล้ว และ Dream Destinations ของทุกคนที่ลิสต์ไว้ว่าต้องไปให้ได้สักครั้ง กลับมาเดินทางเก็บประสบการณ์กันต่อได้แล้วนะ ? แวะ Stopover/ Shopping ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องที่ Hamad International Airport ที่ทุกคนโหวตให้เป็นสนามบินที่ดีและสะดวกสบายอันดับต้นๆ ของโลก ก็ทำให้การเดินทางมันตื่นเต้นและกระปรี้กระเปร่าขึ้นเยอะ แถมประเทศกาตาร์กำลังจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก FIFA World Cup ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2022 ใครอยากมาช่วงนั้นพร้อมตั๋วดูบอล ไปดูแพ็คเกจฟุตบอลโลกได้ที่ https://www.qatarairways.com/app/fifa2022/en
จากกรุงเทพถึงโดฮา ใช้เวลาไม่สั้นไม่ยาวกำลังดีประมาณ 6 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับใครที่แพลนจะ Stopover เราแนะนำให้ออกจากกรุงเทพช่วงเช้ามืดเพื่อถึงโดฮาตอนสายๆ เพราะเวลาที่โดฮาช้ากว่าไทยประมาณ 3 ชั่วโมงทำให้มีเวลาเที่ยวมากขึ้น แถมยังสามารถเข้าเช็คอินที่พักได้ทันที ตอนจองตั๋วเครื่องบินจากแพ็คเกจ Stopover เธอสามารถเลือกได้เลยว่าอยากพักที่ไหน ราคาเท่าไหร่ และพักกี่คืนเพื่อให้เที่ยวให้ครบโดยราคารวมเริ่มต้นที่คืนละไม่เกิน 500 บาทต่อคนเท่านั้น ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีก ถึงโดฮา ผ่านตม. เรียกแท็กซี่ แล้วไปเช็คอินที่โรงแรมและพร้อมเที่ยวได้เลย! อย่างตอนที่เราไปพักนั้นเราเลือกพักที่ Grand Hyatt Doha โรงแรมสวยมาก Cozy เหมาะแก่การพักผ่อนและ Stopover ที่สุด
Museum of Islamic Art (MIA)
นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะ และวัฒนธรรมอาหรับมากที่สุดแห่งนึงของโลก ความเก๋ของตึกพวกนี้คือนางสร้างโดย I.M. PEI ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นสถาปนิกที่โด่งดังมากของโลก และเป็นคนๆ เดียวกันกับคนออกแบบ พิพิธภัณฑ์ ลูฟร์ ที่ปารีส ด้านบนสุดถูกออกแบบให้เป็นเหมือนดวงตาของผู้หญิงอาหรับที่คลุมฮิญาบอยู่ พอรู้ปุ๊ป ถึงกับร้องอ๋อให้กับความเก๋นี้ ที่นี่เหมาะแก่การมาหลบแดดตอนกลางวันมากๆ เพราะด้านในมีคาเฟ่เก๋ๆ ให้นั่งดูวิวเมืองโดฮา และวิว Sunset ที่นี่ก็สวยไม่แพ้กัน ส่วนใครที่ชอบเดินดูอารยธรรมต่างๆ ความเป็นมาของโดฮาและของสะสมชิ้นเอก ที่นี่ก็มีมิวเซียมที่เดินดูได้เลยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
Katara Cultural Village
หมู่บ้านวัฒนธรรมของโดฮา ที่รวบรวมทุกๆ กิจกรรมสร้างสรรค์ไว้ที่นี่ เหมือนเป็นแหล่งเรียนรู้ขนาดใหญ่ เป็น Creative Space ที่รวมไว้ใจจุดเดียว ทั้งชมรมถ่ายภาพ นิทรรศการ แกลลอรี่ ลานจัดแสดงขนาดใหญ่ที่สร้างจำลองแบบเหมือนโคลอมเซียม หรือแม้แต่กระทั่งบ้านนก ที่นี่ก็สร้างใหญ่ ใหญ่โต มีรูให้นกเข้าไปทำรัง ส่งเสียงร้องระงมทั้งวัน
ภายใน Katara Village ยังมีมัสยิดที่มีลวดลายสวยงามีพาสเทลมากแต่ไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพข้างในได้ แค่เห็นข้างนอกสีสันก็สวยกินใจมากพอแล้ว อีกอย่าง Katara Cultural Village ค่อนข้างกว้างมากกก เค้าเลยมีรถกอล์ฟให้บริการ ถ้าเห็นรถกอล์ฟวิ่งในนั้นโบกได้เลย
Imam Muhammad ibn Abd al-Wahhab Mosque
เมืองต่างๆ ในตะวันออกกลางจะมี Grand Mosque หรือมัสยิดแห่งชาติ เหมือนวัดหลวงบ้านเรานั่นแหละ แต่ที่นี่เค้าจะจัดเต็มเรื่องของความใหญ่ และอลังการ ของโดฮานี่มาแนวเรียบง่าย แบบ Traditional Arab แต่ครบ เราชอบวัฒนธรรมมุสลิมที่เค้ารักความสะอาดมากๆ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็สะอาดหู สบายตา มันดูแบบได้รับการบำรุงรักษามาอย่างดี ระหว่างทางเดินเข้ามาในมัสยิดพอหันหลังมองกลับไปจะพบกับความใหญ่โตของเมืองโดฮาที่กำลังโตขึ้นทุกวัน
Souq Waqif
ไฮไลท์ของโดฮา ถ้ากรุงเทพมีสวนจตุจักรหรือตลาดรถไฟเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์และช็อปปิ้ง โดฮาก็มี Souq Waqif นี่แหละ ในภาษาอาหรับ Souq (ซูค) แปลว่าตลาด แหล่งเพลิดเพลินยามราตรีที่คึกคักที่สุดในโดฮา ถามว่ามันเหมือนถนนข้าวสารมั้ย ? โอ้ยย บอกเลยว่าไม่ 5555555555 เพราะคนที่นี่เชื่อว่าตัวเองและนักท่องเที่ยวสามารถเมาดิบได้โดยไม่ต้องมีแอลกอฮอล์ ไม่ว่าอากาศจะชิว จะร้อน จะหนาว เน้นดูดบารากุแบบชิวๆ รับลมเย็นสนุกที่สุด!
เราแนะนำว่าควรมาช่วงเย็นๆ ประมาณ 5 โมงเป็นต้นไป เดินดูของช่วงฟ้าใกล้มืด ดูการแสดงแบบพื้นบ้านของชาวเบดูอินแล้วนั่งจิบชาดูดบารากุยามเย็น กับหาของอร่อยๆ แบบ Traditional ที่นี่มีทุกอย่าง ตลาดขายเหยี่ยวก็มี! ส่วนใครอยากซื้ออินทผาลัมกลับไปฝากครอบครัว ก็แนะนำให้ซื้อที่นี่เลย ต่อราคาได้และขอชิมได้ด้วย แนะนำว่าถั่วต่างๆ และอินทผาลัมอร่อย ส่วนเครื่องเทศนั้นนำเข้ามาจากอินเดียอีกที
Inland Sea Safari
สำหรับโดฮา เราว่าอยู่ซัก 2-3 คืนกำลังโอเค! คืนแรกออกไปนอนทะเลทรายและอีหนึ่งถึงสองคืนกลับมาเที่ยวในเมืองพักผ่อนชิวๆ ถ้าตามรอยเรา เราแนะนำว่าให้จองทัวร์มานอนทะเลทรายก่อน แล้วค่อยกลับมาเที่ยวในเมืองจะสะดวกกว่า สำหรับเราเที่ยวมาแล้วประมาณ 5 ทะเลทรายบอกเลยว่าชอบทะเลทรายที่โดฮาที่สุด เพราะทรายขาวเนียนละเอียด อยู่ติดทะเลและบรรยากาศดีมาก สามารถจองพร้อมแพ็คเกจ Stopover ตอนจองตั๋วเครื่องบินได้เลย หรือถ้าจองต่างหากให้เข้า Google แล้วเสิร์ชหาคำว่า “Inland Sea Safari Tour Doha/ Inland Sea Safari Overnight” จะมีชื่อบริษัทขึ้นมาเป็นตับๆ ให้เราเลือกจองได้ตามสะดวก เมล์ไปถามได้เลยว่า ต้องการพักที่นี่ วันที่เท่านี้ จำนวนกี่คน ราคาเท่าไหร่ เกือบทุกเมล์จะมีคนตอบกลับมา แจ้งราคาให้เสร็จสรรพ พอนางบอกมาก็ต่อราคาซะ ถ้าตกลงเรียบร้อยแล้วก็ส่งรายละเอียดไฟลท์ที่ถึงโดฮาไปให้ เค้าเตรียมรถมารับขากลับถ้ากลับเข้าไปเที่ยวในเมืองต่อ ก็บอกให้เค้าไปส่งที่โรงแรมได้เลย ง่ายมาก
เราเคยพักที่ Regency Sealine Camp Resort เค้าว่ากันว่าเป็นที่ที่ดีสุดสำหรับการนอนทะเลทรายในโดฮา แนะนำว่าการนอนในทะเลทรายนั้นมีหลายแบบ แต่ควรจองแบบที่มีแอร์และห้องน้ำในตัว เพราะอากาศตอนกลางคืนค่อนข้างหนาว ลมแรง จะทำให้ป่วยเอาได้ง่ายๆ และถ้าให้ดีควรมาเป็นคู่ หรือ 4 คนให้พอดีกับรถ 4WD 1 คัน จะถูกลงมากๆ เพราะที่นี่เค้านับเป็นหัว และรวมอาหารเช้า กลางวัน เย็นไว้หมดเรียบร้อยแล้ว
Inland Sea เป็นทะเลทรายไม่กี่ที่ในโลก ที่มีน้ำทะเลยื่นเข้ามาในทะเลทราย ที่นี่เป็นจุดนี้เป็นจุดที่ใกล้กับชายแดนประเทศซาอุดิอาระเบียมากที่สุด จุดที่ใกล้ที่สุดแค่ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น เรียกว่า Khor Al Adaid ที่นี่ทรายค่อนข้างละเอียดออกสีขาวโพลน สวยมาก ยิ่งตัดกับน้ำทะเลใสๆ นี่ยิ่งสวย และเนินทรายแต่ละเนินก็สูงมากกว่าตึก 4 ชั้นทำให้เล่น Sand Boarding หรือ Dune Bashing ได้สนุก แถมขับรถตะลุยทะเลทรายขึ้นๆ ลงๆ ก็มันส์ไม่แพ้กัน
Catch the sunset in Doha Corniche
กิจกรรมอีกอย่างนึงที่อยากแนะนำให้ทำคือการล่องเรือดูพระอาทิตย์ตกดินในอ่าวเปอร์เซียพร้อมกับวิว Doha Corniche หลายคนคงคิดว่าแบบโหว หลายหมื่นแน่ๆ แต่รู้มั้ยคะว่ามันราคาแค่ลำละ 2,500 บาท ต่อ 1 ชั่วโมงเท่านั้น (ราคาเมื่อปี 2019) และนั่งได้มากถึง 8 คนต่อ 1 ลำ
บอกแท็กซี่ว่าไป Doha Corniche หรือ Museum of Islamic Art ก็ได้มันใกล้ๆ กันเดินถึงกันหมด เราจะเห็นเรือสไตล์อาหรับที่เรียกกันว่า Dhow จอดเรียงรายกันเป็นตับ ในอดีตเป็นเรือออกหาปลา แต่ตอนนี้ดัดแปลงบางส่วนมาเป็นเรือนำเที่ยวด้วย ให้เราเดินเข้าไปแถวนั้น จะเจอลูกเรือหรือเจ้าของเรือ เค้าเรียกเองว่าอยากล่องเรือมั้ย ช่วงปลายปีจนถึงประมาณเดือนมีนาคมเป็นฤดูหนาวอากาศเย็นสบาย และพระอาทิตย์ตกเร็วมากๆ ไม่เกินหกโมงก็มืดแล้ว ควรไปล่องช่วงประมาณ 5 โมงเย็น มั่นใจเลยว่าจะหลงรักและฟินกับอากาศ vibes ยามเย็นในอ่าวเปอร์เซียพร้อมแสงสีของเมืองโดฮา
อย่างที่บอกในตอนแรกว่าที่นี่อาจจะไม่ใช่ Dream Destination ของใครๆ แต่ไหนๆ ก็เดินทางข้ามโลกมาถึงตะวันออกกลาง การออกไปเห็นประเทศอาหรับที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด แถมในราคาเริ่มต้นเพียงคืนละไม่เกิน 500 บาทต่อคนก็ไม่ใช่เรื่องแย่เลย นี่เป็นการ Stopover ก่อนเดินทางต่อไปอเมริกาหรือยุโรป หรือก่อนกลับไทยที่คุ้มค่าที่สุด เป็น The World’s Best Value Stopover ที่ Qatar Airways อยากให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ แบบที่เราเคยได้รับมาก่อนในราคาที่คุ้มค่าที่สุด ถ้ามีเวลาและโอกาสสำหรับทริปใหม่หลังโควิดนี้ อย่าลืม! เพิ่มประเทศกาตาร์ลงไปในแพลน แล้วจะไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ?
