เวลาบอกใครว่าไปเกาหลี แต่ละคนจะมีสถานที่แนะนำในหัวมาแบบเบ็ดเสร็จเหมือนออกมาจากพันทิปพร้อมกันหมด ก็นั่นแหละนะเป็นธรรมดาของชีวิตติดรีวิว แล้วเกาหลีมันก็ไม่ได้ใหม่จ๋าอะไรขนาดนั้น ถ้าเรายังเที่ยวกันแบบที่เดิมๆ แพทเทิร์นเดิมๆ รอบนี้เลยอยากจะพาไปที่ใหม่ๆ ผสมกับที่ฮิตๆ และถ้าเป็นคนไม่ชอบอากาศหนาวๆ ตอนปลายปี แต่ชอบเที่ยวเกาหลี อยากไปเดินทำสวยที่โซล เราขอแนะนำว่าช่วงนี้แหละเวิร์คสุด เหมือนคนหนีฝนไปเจอฝนปรอยๆ 555(คือมันก็ตกอยู่บ้างแหละนะ) แต่ที่แน่ๆ ลมมันเย็นกว่าบ้านเราแน่นอน
ทริปรอบนี้เลยขอจัดแบบเบาๆ บินไปลงปูซาน แวะเที่ยวโซลและซองโดก่อนบินกลับมากินส้มตำที่กรุงเทพ บอกเลยว่ารอบนี้โซลไม่ใช่พระเอก แต่เป็นปูซานต่างหาก และเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทางด้วยเวลาอันน้อยนิด เราจะแยกให้เป็นสถานทีกันเลยละกัน! เลือกเอาได้ตามใจชอบว่าอยากไปไหน ไม่อยากไปไหน แต่ถ้าให้แนะนำก็ไปมันทุกที่นั่นแหละ ดีงามเหมือนกันหมดเล๊ยยยยยย
– Spaland
ความน่ารักของสปาแลนด์ที่เราเจอคือทุกคนจะโพกผ้าที่หัวทรงซาลาเปา 55555 ที่นี่เป็นสปาขนาดใหญ่มาก ทั้งกลางแจ้งและในร่ม ห้องซาวน์น่ารวม หรือบ่อแช่เท้าอุ่นๆ ห้องอบเกลือก็มีหวะ หรือพื้นที่ให้นอนเอกเขนกก็มีหลายเบาะเลย เหมือนเอาไว้ให้ผ่อนคลายจากการทำงานหนักๆ หรือวันหยุด แช่น้ำให้สบายตัวเสร็จแล้ว ก็จะมานั่งจับกลุ่มกินไข่ต้มกับน้ำชากันสวยๆ เออน่ารักดีเหมือนกัน
แล้วถ้าใครโพกผัสแบบซาลาเปาไม่เป็นก็แกล้งทำหน้างงๆ ไปนั่งใกล้อปป้า เดี๋ยวนางก็มาช่วยเอ๊ง 555555
-K-Pop Cinema Center
เค้าบอกว่าที่นี่เวลาจัดงานจะมีศิลปินเอเชียดังๆ มาเล่นคอนเสิร์ต เปิดการแสดงเต็มพื้นที่ แต่ดีแล้วที่เราไม่ได้มาเจอ ไม่งั้นคนคงเยอะน่าดู เราชอบที่นี่เพราะมันมีทางโค้งที่ยาวที่สุดในโลกด้วยนะ มองแล้วสวยดี ดูมีสไตล์ แถมยังมีบุฟเฟต์อาหารเกาหลีระดับยิ่งใหญ่อยู่แถวนี้อีกด้วย หมูเกาหลีไม่อั้น กิมจิไม่อั้น ทุกอย่างไม่อั้นจนต้องอั้นตัวเองอะ คิดดู
-Haeundae Beach & Dongbaek Island & Nurimaru APEC House
หาดแฮอุนแดนี่จริงๆ แล้วต้องมาตอนหน้าร้อน พ่อเกาหลีกล้ามล่ำจะถอดเสื้อท้าทายแสงแดดและเกลียวคลื่นกันให้ลึ่มๆ จนอยากเป็นคนอ่อนแอเดินแถๆไปให้เค้าอุ้มกันเลยแหละ แต่นี่มาผิดฤดูอีกแล้วไง 5555 เลยได้แต่เดินดูวิวแอคติ้งเป็นนางเอกเกาหลีรอผู้ชายมาง้อ
เดินๆไปจนถึง Dongbaek Island ตรงนี้มันจะเป็นทางเดินเลียบหน้าผา ที่วิวสวยมาก เดินยาวไปจนถึงสถานที่ๆ เค้าใช้จัดเอเปคได้เลยแหละ ไม่เจอผู้ชายแก้ผ้า เจอวิวสวยๆ ก็โอเค๊ *ตรงนี้เป็น Must See ควรแวะมาถ่ายรูปเดินชิวๆ *
– Seomyun District
มาเกาหลีทั้งทีนี่ก็ขอไปเดินดูย่านความสวยความงามซักหน่อย คือมีเป็นถนนเลยนะ เป็นแบบ Medical Street ไม่ได้รักษาโรคร้ายอะไรหรอก แต่รักษาหนังหน้าและหุ่นเป็นส่วนใหญ่ มีร้านหลายมาก นี่เลยเดินไปร้านนึงชื่อ Mi mong ไปดูเค้าทำเล็บ ต่อขนตากันแบบทีละเส้นๆ เออโคตรขยันและพยายาม เอ้อออออ…ไปหน้าร้อนช่วงนี้อย่าลืมกินไอศกรีมเกล็ดน้ำแข็งแช่เย็นรสนมเปรี้ยว เหมือนกินยาคูลท์เย็นฉ่ำ อร่อยมากกกกก
– Haedong Yonggungsa Temple
ไปกรุงเทพต้องไหว้วัดพระแก้ว มาปูซานก็ต้องวัดนี้แหละ คือปูซานเป็นเมืองท่า วัดนี้เลยเป็นวัดริมทะเลที่มีวิวดีที่สุดในปูซาน สำหรับเราที่นี่ก็เหมือนวัดทั่วๆ ไป มาไหว้พระขอพร ศาลของเทพมังกร พระโพธิสัตว์ อยากขอไรก็ขอ ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องตามศรัทธา แต่ความตลกและน่ารักของวัดนี้ที่เราเจอคือตุ๊กตาเด็กหลวงจีนน้อย 5555555
ตอนแรกๆ ก็นึกว่าเออ มันคงเป็นความคิวท์ของชาวเกาที่เอาตุ๊กตามาวางประดับเฉยๆ ปรากฏว่าเค้าบอกว่ามันเหมือนเป็นการเอาของมาถวายเวลาขอพร หรือขอแล้วสำเร็จ เหมือนบ้านเราถวายนางรำ ม้าลาย เสือ สิง กระทิง เต่า อะไรแบบนั้นแหละ แต่ที่ถวายตุ๊กตาเด็กน้อยจ้า 55555 น่าร้ากกกก
–Jagalchi Fish Market
ลบภาพตลาดปลาที่ไทเป หรือโตเกียวออกก่อนว่าจะมีซูชิ ซาซิมิเก๋ๆ มาปั้นให้กินกันสดๆ 55555 ตลาดปลาที่นี่เหมือนมหาชัยบ้านเรา ผสมกับร้านซีฟู๊ดแถวบางขุนเทียน คือสดๆ เป็นๆ แล้วนั่งกินจริงจังเป็นโต๊ะ เราแนะนำว่าให้มาเดินเพื่อความตื่นตาตื่นใจเฉยๆ แล้วเดินไปด้านหลังที่เป็นท่าเรือจะเห็นวิวเมืองเป็นบ้านไล่ลำดับขั้นสวยงาม
ส่วนฝั่งตรงข้ามของถนนก็เป็นย่านช๊อปปิ้งเก๋ๆ ในเมืองปูซานอีกด้วยนะฮ้า แนะนำให้ซื้อ Hotteok เหมือนแป้งทอดของเกาหลี แป้งข้างนอกกรอบๆ มีไส้ถั่วและธัญพืชหวานๆ อร่อยยยยย
– Busan City Bus Tour
ถ้ามีเวลาเหลือซักคืนไปเลยค่ะ ไปนั่ง Busan City Tour ให้ลมตีหน้าแรงๆ ซื้อโกโกร้อนซักแก้วนั่งชมวิวเมืองที่สวยงาม เพราะปูซานนางเปิดไฟระยิบระยับมีสีสันทั่วเมืองจริงๆ
แล้วมาเที่ยวทั้งทีอย่าลืมกินไก่ทอดกับเบียร์ มันไม่ได้ขึ้นชื่อหรอก แต่กินได้ไม่มีเบื่อจริงๆ เราเจอคนเกาหลีที่เคยมาเรียนที่ไทยด้วย ชื่อมิ้น หน้าตาน่ารักเลยแหละ จิ้มลิ้ม แก้มยุ้ย ฟังไทยได้บ้าง เลยนั่งกินเบียร์ด้วยกันนิดหน่อย
อย่าลืมๆ ลองชิม OPS Bakery ที่ปูซานด้วยนะ ถือเป็นร้านดังและขนมปังนางอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อินกับกระแสกันซักหน่อยนี่เลยนั่ง KTX ที่ไม่มีซอมบี้เข้าไปโซลและซองโดกันต่อ อยากให้บ้านเรามีรถไฟความเร็วสูงแบบนี้เร็วๆ จะไปกลับเชียงใหม่กรุงเทพแม่งทุกอาทิตย์เลย มันน่าจะทำให้ความแออัดในกรุงเทพลดลงไปได้เยอะมากๆ ในวันหยุด
โซลรอบนี้ไม่มีนะจ้ะ ไปเดินเล่นโซล ทาวเวอร์คล้องกุญแจ ทำหน้าตาจิ้มลิ้มๆ แต่แวะไปเดินเล่น Museum มานิดหน่อยกลับไปเที่ยวซองโดกัน นี่เป็นแผนการถ้าว่างวันนึงก่อนกลับตอนเช้าอีกวันหรือคืนวันนั้นเอาโปรแกรมของเราไปใส่ได้เลย!
– D Museum
มิวเซียมนี้ร่วมกับ British Council เอาผลงานของ Heatherwick มานำเสนอมีคนบอกว่าเขาคือ ดาวินซีของยุคใหม่ ผลงานของเค้าเดินดูได้ไม่เบื่อเลยเพราะมีดีไซน์ที่เก๋มากกกกกกก เช่น UK Pavilion ในงาน Expoที่ประเทศจีน และเก้าอี้ที่นั่งยังไงก็ไม่ล้มแม้จะหมุนได้ 360 องศา เมาเหล้ายังไงหัวก็ไม่ทิ่มพื้นแน่นอน 55555
ในมิวเซียมมีคาเฟ่ขายกาแฟเล็กๆ รสชาติกาแฟก็ธรรมดาแหละ แต่ผสมกับหน้าตาบาริสต้าแล้วหละก็.. อร่อยชิบหายเลยค่ะ!
-Leeum Museum
ที่นี่เป็นมิวเซียมศิลปะร่วมสมัยของคนเกาหลี ข้างในสวยมาก แต่น่าเสียดายที่ถ่ายรูปออกมาไม่ได้ ถ่ายได้แค่ข้างนอกซึ่งก็สวยไม่แพ้กัน แนะนำให้มาเดินดูแถวนี้ไปจนสุดถนนย่านอิแทวอน จะมีร้านคลับ บาร์ คาเฟ่ น่ารักๆ อยู่หลายร้านเลยแหละ
ถ้าใครมา Seoul ครั้งแรกหรืออยากเที่ยวทุกที่แบบครบๆ ตาม Tourist Attraction แนะนำให้ซื้อบัตร Discover Seoul Pass
สามารถเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้มากถึง 16 แห่ง และมีส่วนลดต่างๆ อีกมากมาย ที่แน่ๆ ถ้าไปครับทั้ง 16 ที่ การใช้บัตรนี้จะประหยัดไปเกือบ 40000 วอนเลยทีเดียว บัตรนี้จะมีอายุ 24 ชั่วโมงหลังจากใช้ครั้งแรก แต่พอหมดแล้วก็ไม่ศูนย์เปล่าเพรามันเติมเงินกลายเป็น T-money ได้ปกติอีกด้วยนะฮ้า ข้อมูลเพิ่มเติมคลิกที่นี่
คือเกาหลีใครๆ ก็เคยมาก็ไม่อยากจะแนะนำอะไรให้มากมาย มันเป็นอีกเมืองที่มาได้เรื่อยๆ และมีอะไรใหม่ๆ ให้เราดูเสมอ ขออุบโซลไว้แค่นี้ แล้วจะแวะมาแนะนำใหม่ดีกว่า เราก็ไปเดินเล่นฮงแดซักแปป ดูของ ดูเค้าเต้นโคฟเวอร์กัน ก่อนจะย้ายไปซองโดเมืองใหม่
เมืองต่อมาที่อยากจะแนะนำคือ Songdo (ซองโด) เมืองนี้เป็นเมืองใหม่ที่ได้รับการเคลมว่าไฮเทคที่สุดในโลก เอื้อต่อการใช้ชีวิตอยู่ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเหลือเกิน การขยายตัวในหลายๆ อย่าง เกาหลีใต้เลยถมทะเลสร้างซองโดเมืองใหม่นี้ขึ้นมา แต่คนไทยเราจะรู้จักเมืองนี้กันในฐานะเมืองของ 3 แฝดอย่าง Daehan Minguk Manse พร้อมร้านเกี๊ยวที่ 3 แฝดชอบกิน นี่ก็เป็นหนึ่งในติ่งของเจ้า 3 คนนี่เหมือนกัน เลยแวะมาเดินเล่นซองโดกันซักหน่อย
ซองโดด้วยความที่เป็นเมืองใหม่มากๆ บางทีรถประจำทางอาจจะวิ่งไม่ค่อยถี่ แต่เค้าก็มีรถไฟฟ้าใต้ดินนะ ถ้าจะเปลี่ยนเข้าโซลอาจต้องนั่งนานและหลายต่อหน่อย แต่ชอบที่เมืองมันรถไม่ติดดี ถนนโล่ง ชีวิตแฮปปี้เหลือเกินเวลาเดินไปไหนในซองโด ถ้ามีเวลาเหลือซักวันหรือครึ่งวันก่อนกลับไทยแล้วไม่รู้จะไปไหน เราว่าที่นี่ก็โอเคเลย
เริ่มต้นด้วยการไปกินเกี๊ยวของสามแฝดในตำนานที่ร้าน 바르다 김선생 (พารือดา คิมซองเซง) ไม่รู้เขียนถูกป่าวนะ 5555 แต่เกี๊ยวอร่อยจริง บูโกลกิก็อร่อย ไม่แปลกใจเลยทำไมสามแฝดชอบกิน กลายเป็นติ่งมาตามร้อยเด็กน้อยไปซะงั้น
ในเมืองซองโด มันจะมีเหมือน Outlet ที่ชื่อ Canal Walk ตรงนี้ทำเป็นห้างแบบมี 4 ตึก สี่ฤดูแล้วมีคลองกั้นตรงกลาง จะบอกว่าของค่อนข้างถูก
มากๆ พวกแบรนด์เกาหลี ถ้าได้แวะมาควรดู ได้ของติดไม้ติดมือก่อนกลับแน่นอน
และอย่าพลาดกาแฟร้านดังอย่าง Dal.komm Coffee เป็นร้านที่มาถ่ายซีรีส์ดังที่เป็นทหารก้มผูกเชือกรองเท้าอะ เราไม่เคยดูเหมือนกัน แต่ความเก๋คือแก้กาแฟแบบ Take Home ร้านนี้อัดกระเป๋าอัลลูมีเนียมมาให้นะจ้ะ โคตรเท่เลยแหละ
เดินออกจาก Dal.komm Coffee มาทางขวามือประมาณ 15 ก้าวมีร้านเบเกอรี่ชื่อ AN’s Bakery อร่อยมาก ไม่รู้จะอธิบายยังไงแต่อร่อยมากจริงๆ แล้วร้านขนมปังในเกาหลี นางจะให้ชิมแบบไม่งก นี่ก็เผลอหยิบเข้าปากไปหลายชิ้น เกรงใจจนต้องซื้อเลยแหละ แวะมาซื้อกาแฟที่ Dal.komm แล้วเดินมาซื้อหนมปังที่ร้านนี้ด้วย เลิศ!
ถ้าชอบดูวิวเมืองใหม่ๆ แบบนี้ก็ไปที่ตึก G tower ที่นี่เป็น Hub ของสหประชาชาติด้วยนะ แถมด้านบนยังมีวิวสวยๆ ให้ดูฟรีด้วยที่ขั้น 33 สายดูวิวน่าจะชอบเพราด้านบนเราจะเห็นเมืองใหม่ๆ แบบนี้ที่มีตึกสูงๆ สลับกับทุ่งหญ้ากว้างๆ ที่รอการพัฒนาอีกเยอะเลย
แต่ถ้าไม่ชอบตึกสูงอากาศตอนเย็นที่ไม่ร้อนมากเกินไป ก็ไปนั่ง Water Taxi เล่นดูวิวรอบๆ ซองโด หรือจะไปปั่นเป็ดก็ตามสบาย ที่นี่คนไม่เยอะมาก และไม่ค่อยวุ่นวาย เราว่าโอเคมากๆ ที่จะมาทิ้งทวนเกาหลีก่อนไปสนามบินแล้วกลับกรุงเทพ
เกาหลีใต้รอบนี้ขอแนะนำสั้นๆ แค่นี้แหละ อยากแวะมากระตุ้นกันเฉยๆ ว่ามีเวลาน้อยก็เที่ยวได้นะ หาเวลาออกไปตามหาสถานที่ใหม่ๆ ให้ใจได้พักผ่อนและผ่อนคลายจากการทำงานกันบ้างเด้ออออ ลองจัดทริปดูเบาๆ ปูซาน โซล ซองโด แบบเราก็ได้ และถ้าอยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมสามารถถามได้ที่เพจ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี ไว้จะพาไปใหม่นะ ;)