พูดถึงเมืองจีนหลายคนก็เบ้ปาก ส่ายหน้าบอก “มึงไปเลยยย กูไม่ไป!” ตั้งแต่ปากที่อ้ายังไม่ทันหุบ ตั้งแต่ยังไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหน เมืองอะไรหรือมีอะไรเจ๋งๆ หลังม่านแดงแดนมังกรให้ดูกันบ้าง ก็เอะอะจะไม่ไปกันซะแล้ว เอาหน่าพวกเธอ…ปีนี้ก็ 2018 ลองเปิดหูเปิดตา และเปิดใจให้เมืองจีนกันซะหน่อย บางทีอะไรไม่ดีที่เคยได้ยินมามันก็ไม่มีแล้ว และแทนที่ด้วยอะไรดีๆ ที่บางอย่างที่เราจะต้องยืนเขินว่าแบบ โอ้ยยย เจริญกว่าบ้านเราอีกนะคะเนี่ย 555
เมืองจีนรอบแรกของปี 2018 นี้ เราอยากพาทุกคนสวมวิญญาณเป็นสาวจีนไปเดินสวยฟาดๆ จนฟ่าน ปิง ปิง ก็ต้องอาย กับเมืองโบราณ 3,000 ปี เมืองที่ได้ยินชื่อจากหนังสือ สปช. ตอนเด็ก เมืองที่เคยดูในละครยามเย็นและคุ้นหูกับความเวอร์วังของ สุสานจิ๋นซี ฮ่องเต้ และคือเมืองเดียวกันนี่แหละ ที่เราอยากโหวตให้เป็นเมืองจีนที่สะอาดที่สุดตั้งแต่เที่ยวเมืองจีนมาแถมมีทั้งที่ฮิป ชิค ไม่ประวัติศาสตร์จ๋าจนน่าเบื่อ แถมเดินทางสะดวกสบาย รถไฟความเร็วสูงก็มี ข้ามไปเมืองข้างๆ ได้สบาย มา! ได้เวลาของ “ซีอาน” ให้เราได้เมาท์มอยกันซักที ?
เค้าบอกว่า ซีอานเป็นชื่อเมืองที่แปลได้ว่า เมืองที่มีความสงบสุขและความสุขชั่วนิรันดร์ เมืองโบราณกว่า 3,000 ปีนี้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำให้คนจีนมายาวนาน แถมยังเป็นปลายทางสุดท้ายของเส้นทางที่โด่งดังอย่าง เส้นทางสายไหม เลยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงมีถนน Muslim Street เหมือนหลายเมืองใหญ่ทั่วโลกที่มี China Town แถมยังมีมัสยิดที่รูปทรงเหมือนศาลเจ้าที่ดูยังไง๊ ยังไงก็แปลกตา ซีอานยังมีกำแพงเมืองโบราณที่สมบูรณ์ชนิดที่ว่าขึ้นไปวิ่งเล่น ปั่นจักรยานได้ทั้งเมือง หรือความชิคและสมัยใหม่ของที่นี่ก็เยอะ เพราะร้านแบรนด์เนม หรือฟาร์สฟู๊ดชื่อดังก็เพียบแบบไม่ต้องกลัวอดตายเลย บอกแล้วไงว่า ซีอานมันเกินเบอร์ไปมากๆ สำหรับคนที่กลัวเมืองจีน!
Fly Awesome with NokScoot
เราออกเดินทางไป ซีอาน กับเจ้านกสีเหลืองที่เชี่ยวชาญเรื่องบินจีนเพราะเอะอะๆ ก็เปิดรูทเมืองจีนกันเก่ง! ถ้านกสกู๊ตเป็นคนสวย นางก็น่าจะมีผัวเป็นคนจีน ที่ขยันคลอดลูกออกมาเป็นเส้นทางจีนใหม่ๆ ทุกปี และนี่คือเส้นทางการบินใหม่ล่าสุดของนกสกู๊ต บินตรงซีอาน สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ความดีงามของนกสกู๊ตคือไม่ว่าจะเส้นทางไหน ก็ใช้เครื่องใหญ่บินทั้งหมด นกสกู๊ตใช้เครื่องบินแบบ Boeing 777 – 200 Wide Body คนเยอะตั๋วก็ยิ่งถูกลงไปอี้ก
แถมระหว่างที่นั่งก็กว้างสบาย เหยียดแข้งเหยียดขาได้ยาวกว่าเดิมในเที่ยวบินระยะทางปานกลาง ไม่เมื่อยล้าแน่นอน หรือถ้าอยากได้กว้างขึ้นไปอีก เพื่อนๆ สามารถเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยเลือกที่นั่ง Scoot in Silence นอนแบบเงียบๆ ไร้กังวล
Good to know.
ไฟลท์ขาไปจากดอนเมืองเครื่องบินจะถึงซีอานค่อนข้างดึกมาก แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะได้นอนสนามบินหรือเข้าเมืองไม่ได้ เพราะที่นี่คือเมืองจีน มีทุกอย่างที่เราต้องการ ฮะฮะฮ่า! เพื่อนๆ สามารถปรินท์ใบจองโรงแรมจากเว็บที่จองแล้วยื่นให้แท็กซี่ได้ทันที เพราะมีแท็กซี่ทั้งคืน บอกให้เค้ากดมิเตอร์ได้ แต่ถ้าไม่ยอมกดค่ารถไม่ควรเกิน 100-120 หยวนต่อ 1 คัน/ 4 คน เอาจริงๆ ว่ามันดึกแล้ว ไม่ใช่แค่เราที่ทางเลือกน้อย แท็กซี่มันก็ทางเลือกน้อยเหมือนกัน ต่อรองง่าย รถไม่ติด สบายๆ เลย
Day 1 เจดีย์ห่านป่าใหญ่ / ถนนวัฒนธรรม Shuyuanmen / Bell Tower และ Muslim Street
ความดีงามของซีอานอย่างนึงคือสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองแต่ละที่มันไม่ไกลกันมาก สามารถนั่งไปถึงได้แค่ในเวลาประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น เมื่อคืนเครื่องลงดึก ก็ไม่ต้องรีบตาลีตาเหลือกตื่นมาเที่ยวต่อให้เหนื่อยเกินไป นอนค่ะนอน นอนให้หน้าฉ่ำๆ บริ๊งค์ๆ แล้วแต่งตัวสวยออกมาท้าลมหนาวแข่งกับสาวจีนทีนี่ช่วงสายๆ ก็ยังทันและเที่ยวครบ!
เที่ยวจีนเดี๋ยวนี้ง่ายทำวีซ่าวันเดียวได้ก็มี แพทเทิร์นก็ชิวๆ เหมือนไปอยุธยา เชียงใหม่ คือไปถึงปุ๊ป อะ! ไหว้พระไหว้เจ้าซะ ที่ซีอานเราเริ่มเที่ยวกันที่ เจดีย์ห่านป่าใหญ่ (Big wild goose pagoda) คนจีนเรียกที่นี่ว่าวัดฉือเอิน วัดนี้เป็นวัดที่พระถังซัมจั๋งกับซุนหงอคงมาจำวัดและแปลพระไตรปิฏกหลังจากกลับจากชมพูทวีป ด้านหน้าเลยมีรูปปั้นของพระถังซัมจั๋งยืนเด่นอยู่ คนซีอานนิยมมากราบไหว้ขอพรกันที่นี่เป็นประจำ คนเลยแน่นกันทั้งวัน
นางก็มีตำนานเล่ากันอีกถือที่มาที่ไปของชื่อเจดีย์ห่านป่าใหญ่ว่า “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระภิกษุไปบิณฑบาตรไม่ได้อาหารมาเลย กลับมาเลยนั่งเขี่ยดินเขี่ยทรายเล่นกันแล้วตัดพ้อถึงพระโพธิสัตว์ว่าท่านคงลืมพวกเราแล้วแน่ๆ ทันใดนั้นห่านป่าตัวใหญ่เลยบินโฉบมาแถววัดนี้ซะหน่อยแล้วก็หล่นตุ๊บ! มาเป็นอาหารให้พระในวัด พระในวัดก็ตกตะลึง โอ้วว ห่านป่าตัวใหญ่ พระโพธิสัตว์ได้ประทานมาให้เราแน่ๆ หลังจากนั้นพระทั้งหมดก็สร้างเจดีย์ครอบตรงที่ห่านป่าตกลงมา และถือศีลกินเจกันทั้งวัดเลยจ้า” นี่คือเรื่องย่อขอเจดีย์ห่านป่าใหญ่ แบบไม่ได้โม้ 555
ด้านหน้าเจดีย์ห่านป่าใหญ่ มีโรงแรมห้าดาวอย่าง Eastin ตั้งอยู่ แนะนำว่าให้เดินเข้าไปในโรงแล้วแล้วเลี้ยวขวาจะเจอของดี มีร้านไอศกรีมแบบจีนๆ โฮมเมดตั้งอยู่ ราคาไม่เบา แต่คุ้มค่าและอร่อยมาก ทั้งรสวาซาบิ รสชาจีน ทุกอย่างกลมกล่อม อยากให้มาลองกิน ถ้าอยากเติมอะไรหวานๆ ให้ชีวิตในซีอานนั้นฉ่ำกว่าเดิม
เสร็จจากไหว้พระไหว้เจ้าพอหอมปากหอมคอ เราแนะนำให้โบกแท๊กซี่สวยๆ ไปส่งไป Xi’an City Wall (South Gate) จากจุดนี้เดินไปไหนก็ใกล้และง่ายมากสำหรับการเที่ยวในเมืองซีอาน เรามาแวะเดินดูถนนสายวัฒนธรรมที่ดูมีความเป็นจีนสูง แต่เป็นจีนแบบมีอารยธรรม ถนนสายนี้เป็นศูนย์รวมของการขายของโบราณต่างๆ ทั้งจริงและปลอมสำหรับตั้งโชว์
รวมไปถึงพวกพู่กันจีนโบราณ ใครอยากให้เค้าเขียนชื่อเป็นภาษาจีนให้ก็ได้ หรือเขียนพวกคำอวยพรเอาไปฝากอาม่าอากงที่บ้านก็ได้ ถ้านึกไม่ออกหรือไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดี ก็ให้เค้าเป็นคนเลือกให้ได้เลย นี่ก้ไปลองวาดกันมาแผ่นสองแผ่น เปิดราคามาที่ใบละ 500 บาท ยังไงคะทีนี้ หน้าหงายกันไปหมด ต่อไปต่อมา เอ้า! ใบละ 80 นางก็ขายแล้วเด้อ 55555
บอกตรงๆ ว่าเราชอบย่านนี้นะ มันดูจีนสวยๆ ไม่ค่อยโช้งเช้งดี ดูแบบกินข้าวอิ่ม มาเดินเล่นเงียบๆ แอบตด แอบเรอคนแถวนี้ก็ไม่สนใจเพราะใครๆ ก็ทำ 555 ดูบ้านดูเรือนแบบโบราณ และการใช้ชีวิตกับศิลปะการเขียนพู่กัน สนุกกกกกก!
ออกจาก Shuyuanmen เดินตรงมาเรื่อยๆ ตัดเข้าจตุรัสใจกลางเมือง เราจะเจอ Bell Tower เด่นอยู่ตรงวงเวียนถนน จะบอกว่าตอนกลางวันว่าสวยแล้ว ตอนกลางคืนสวยกว่านี้ 10 เท่า เค้าว่ากันว่าที่นี่คือหอระฆังที่ดีที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดในเมืองจีนนับตั้งแต่สร้างมาเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว
เราสามารถซื้อบัตรขึ้นหอระฆัง(Bell Tower) ได้ ขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกด้านบนก็สวยใช่เล่นเลยแหละ หอระฆังหน้าที่ของมันคือเอาไว้ตีบอกเวลา ทุกๆ เช้าพอพระอาทิตย์ขึ้นปุ๊ป สมัยก่อนก็จะตีหอระฆังดัง เต้งๆ คอยบอกเวลาว่า เช้าแล้วจ้าได้เวลาทำมาหากินแล้วน้าเจ้าพวกขี้เซาทั้งหลาย เยื้องๆ กันใกล้ Muslim Street จะมี หอกลอง(Drum Tower) เอาไว้ตีบอกเวลายามเย็น เต้งๆ เย็นแล้วจ้า เลิกทำงานหมดวันแล้ว กลับไปหาลูกหาเมียได้แล้วเร๊วว!
เราขึ้นแค่หอระฆังหอเดียวเพราะเวลาไม่พอ และได้ยินมาว่าด้านในก็คล้ายๆ กัน ถ้าเพื่อนๆ อยากประหยัดก็ขึ้นเฉพาะหอระฆังก็ได้เพราะอยู่ในกลางเมืองพอดี มองออกไปก็เห็นหอกลองอยู่เยื้องๆ กันนั่นแหละ
พอพระอาทิตย์เริ่มตกเราก็เริ่มหิวกันถูกมะ ข้อดีในหลายๆ ข้อของซีอานนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้กันแล้ว ของกินพวก Street Food ก็เยอะมาก ทั้งของทอด ของคาว ของหวานมีให้เลือกเยอะไปหมด ใช้ชีวิตกันง่าย ราคาประหยัดและแฮปปี้สุด เพราะอยากกินอะไรก็มีให้กินทั้งนั้น ที่ Muslim Street เป็นย่านชุมชนของชาวมุสลิมที่เปิดร้านอาหารข้างทางประเภทปิ้งย่างก็มี ถั่วตัดกระยาสารท และอีกมากมายให้เลือกเต็มไปหมด
ไปเที่ยวที่ไหนมาทั้งวัน ตกเย็นมาก็ฝากท้องที่นี่ได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวอดเลย แนะนำให้กินพวกปลาหมึกทอดหรือย่างกับซอสหม่าล่า หอมฉุย เผ็ดชาปากนิดๆ กำลังสวยแล้วเวลาเผยอปากถ่ายรูป หรือพวก เนื้อวัว เนื้อแพะปิ้งย่างก็แซ่บเด้อออ กินกับชาร้อนอุ่นๆ เข้ากันดี๊ดีย์!
Day 2 Luoyang
เช้าวันที่ 2 เรานั่งรถไฟออกไปเมืองลั่วหยาง เมืองที่มีพระใหญ่สลักอยู่บนหน้าผา ใครที่กลัวและหวาดผวาการเดินทางระหว่างเมืองในเมืองจีนนั้น อยากให้ลบภาพการแย่งไปซื้อตั๋วรถทัวร์ วิ่งกรูกันขึ้นรถไฟออกไป เพราะเดี๋ยวนี้ชาวจีนเค้านำหน้าเราไปเยอะ เพราะเดินทางกันด้วยรถไฟความเร็วสูงเป็นหลักจ้า
จากซีอานไปลั่วหยางใช้เวลาประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น บนรถไฟนั้นระบุที่นั่งอย่างชัดเจนโดยค่ารถไฟไปกลับตกที่คนละประมาณ 1,800 บาทเท่านั้น นอนชิวๆ บนรถไฟได้สบายๆ เลย
Good To know.
ตั๋วรถไฟสามารถซื้อได้ที่สถานีรถไฟของแต่ละเมืองเลย แต่ถ้าไม่อยากวุ่นวาย แนะนำให้ซื้อผ่านเว็บ ctrip.com มีภาษาไทยด้วยนะ โดยเลือกขึ้นจาก Xi’an North ไป Luoyang Longmen พอซื้อตั๋วตัดบัตรเครดิตเรียบร้อยให้ปรินท์ใบคอนเฟิร์มที่นั่งออกมาไปขึ้นตั๋วที่สถานีก่อนอย่างช้าที่สุดประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเดินทางได้ทันที ออกจากสถานีรถไฟมาจะเจออาเจ็ก อาแปะ เรียกร้องให้เราขึ้นแท๊กซี่ แปลได้ง่ายๆ คือไปถ้าผาหลงเหมินมั้ยจ้ะ ? จะบอกว่าต่อรองราคาให้มากที่สุด นับมิเตอร์ได้ให้นับ แต่ถ้ามันไม่นับก็คำนวณคร่าวๆ เราคิดว่าไม่ควรเกิน 60 หยวนต่อ 4 คน เพราะเรามาลง Luoyang Longmen แล้ว ใกล้กับถ้ำผาหลงเหมินมาก แค่ประมาณ 20 นาทีเท่านั้น
ถ้ำผาหลงเหมิน (Longmen Grottoes) นี่คืออีกหนึ่งมรดกโลกนี่ UNESCO มาเห็นปุ๊ปก็รีบแย่งขึ้นทะเบียนมรดกโลก เพราะมันแสดงให้เห็นถึงการใช้สอยงานและประดิษฐ์งานอย่างชาญฉลาดของมนุษย์
ผาหลงเหมินตรงนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอี้ ฝั่งที่หันหน้าออกถูกแกะสลักเป็นพระพุทธรูปน้อยใหญ่เป็นพันๆ องค์อยู่ริมหน้าผาแลริมน้ำ โดยมีเป็นพันๆ องค์ยาวกว่า 1 กิโล ใครๆ ก็มาบอกว่าให้เดินแล้วจะสงบจิตสงบใจแต่เอาจริงๆ เดินเป็นกิโลนี่ก็วงบไม่ไหวหนาคะ 5555 เป็นอีกทีนึงที่ควรจะแวะมาถ่ายรูปสวยๆ แบบ Panorama เพราะมันยิ่งใหญ่มากจริงๆ หาดูที่ไหนไม่ได้
เราอาจจะไม่ใช่คนที่อินกับโบราณสถานมากนัก แต่ถ้ำผาหลงเมินคืออีกจุดนึงที่เรายืนตาค้างมองดูรายละเอียดความใหญ่โตของสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากน้ำมือมนุษย์และทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังดูอย่างสวยงาม แถมช่วงที่เราไปคือหน้าหนาว อากาศเย็นสบายๆ เดินได้เรื่อยๆ แถมคนไม่พลุกพล่าน มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเกิ๊นนนนนนน!
Good to know.
เราแนะนำว่าให้ใช้เวลาอยู่ในถ้ำผาหลงเหมินประมาณ 3 – 4 ชั่วโมงกำลังดี ไม่เร่งเกินไป และไม่ช้าเกินไป เดินวนให้ครบรอบนึงกำลังโอเคเลยแหละ แล้วก็มานั่งจิบชา กาแฟเพลินๆ ดูวิวแม่น้ำก็อิ่มอกอิ่มใจกับวิวบุญหนุนนำเนอะ 5555 อ้ออออ! ใครๆ ก็บอกว่ามาถึงแล้วให้มาวัดเส้าหลิน บอกตรงๆ ว่าไม่อินเท่าไหร่เลยไม่ได้ออกไปเพราะไกลกันพอสมควร และอาจจะต้องนอนค้างคืนด้วย เลยเลือดตัดวัดเส้าหลินออกแบบไม่ลังเล เพราะทุกคนนี้ก็น่ากลัวจนผู้ชายไม่เข้าใกล้แล้วถ้าต้องมีวิทยายุทธและกำลังภายในมากกว่านี้ กลัวแม่จะนอนร้องไห้เพราะชาตินี้คงไม่มีหลานอะค่ะ อิอิ
เราเลยไปแวะที่วัดกวนอู (Guanlin Temple) กันแทน บอกก่อนว่าวัดนี้เสียค่าเข้านะยะ ไม่ใช่ไก่กาอยากเข้าไปได้นะ ต้องจ่ายเงินค่าเข้าสวน เข้าวัดไปอีก กวนอู เป็นเทพแห่งความซื่อสัตย์และกล้าหาญใครไปใครมาก็ต้องแวะมาไหว้ท่านที่นี่ ส่วนเรานั้นก็มี Hidden Agenda เบาๆ คือการไปถ่ายรูป เพราะศาลเจ้าที่นี่เค้าใช้ธูปใหญ่ตามที่เห็นในรูป 55555 เลยขอมาแอ๊บแอ้ถ่ายรูปกับควันเทียนและเปลวไฟซักหน่อย
ขากลับเข้าซีอานเราก็นั่งรถไฟความเร็วสูงเหมือนเดิม เวลาเลือกให้เพื่อนๆ เลือกขบวนที่ขึ้นต้นด้วยตัว G เพราะนั่นคือขบวนรถไฟความเร็วสูง แนะนำให้กลับมากินข้าวที่ซีอานจะหลากหลายมากมาย ออกจากลั่วหยางประมาณ 5 โมง มาถึงซีอานไม่เกิน 2 ทุ่มกำลังดี ยังกลับไปเดินเล่นแถว Muslim Street ได้ด้วย หรือถ้าอยากกินอะไรร้อนๆ เราแนะนำว่าให้ถามหา Hot Pot จากโรงแรม จะไม่แนะนำเจ้าไหนเป็นพิเศษเพราะมันคล้ายๆ กันหมด Hot Pot คล้ายๆ Haidilao เจ้าดัง รสชาติชาปากเผ็ดแซ่บนิดๆ กำลังดีเลย วิธีการกินสำหรับคนไปครั้งแรกมันก็จะงงๆ หน่อย พวกผักพวกไม้เค้านับกันเป็นถาด ส่วนพวกหมูพวกเนื้อเค้าจะนับกันเป็นไม้ เช่น ไม้ละ 3 เหมา (10 เหมาเท่ากับ 1 หยวนประมาณ 5 บาท) หยิบได้ตามใจชอบแล้วเค้าจะนับไม้ตอนเช็คบิลเอง
Day 3 สุสานจิ๋นซีฮ่องกงเต้ / มัสยิดทรงประหลาดและกำแพงเมืองซีอานที่สมบูรณ์ที่สุด!
ทริปนี้เราเก็บไฮไลท์ไว้วันท้ายๆ เพราะอยากมั่นใจว่าดูมาทุกที่แล้ว และไม่ต้องเร่งรีบสำหรับสุสานจิ๋นซี ฮ่องเต้ (The Terracotta Army) ไฮไลท์ของทริป เหมือนวัดพระแก้วของกรุงเทพ เหมือนพารากอนของสยาม ที่ไม่ไปก็เหมือน ไม่ถึงนั่นแหละค่ะ สุสานจิ๋นซี ฮ่องเต้นี่ก็ฮิตไม่แพ้ที่อื่นๆ เลย
การเดินทางก็ง่ายๆ ให้ไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถไฟหลักของเมือง ย้ำว่าไม่ใช่สถานีรถไฟ Xi’an North นะ แต่ไปที่สถานีหลักในเมืองแทน ไม่ใช่สถานีสำหรับรถไฟความเร็วสูง ด้านหน้าสถานีจะเห็นป้ายเยอะแยะมากบอกทางไปสุสานจิ๋นซี ให้ดูรถบัสเบอร์ 603 ให้ดี นั่นแหละค่ะ วิ่งไปต่อแถวซะ คนจะเยอะหน่อย นั่งประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าคิวยาวมากๆ ให้ลองดูป้ายรถเบอร์ 914 / 915 รถเบอร์นี้จะจอดหลายป้ายหน่อยเพราะเป็นแบบชาวบ้าน ไม่ใช่แบบ 603 ที่ขับตรง ถ้าไม่อยากรอขึ้นคันนี้ได้เลย ถึงเหมือนกัน!
สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ห่างจากตัวเมืองซีอานประมาณ 1 ชั่วโมง นี่คือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ที่ควรไปดูซักครั้งนึง เค้าบอกว่ามันเกิดจากความบังเอิญของชาวจีนที่ดันไปขุดเจอหัวดินเผาของทหารขึ้นมา เลยกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ทำให้นักโบราณคดีค่อยๆ มาขุดเจอทั้งแม่ทัพนางกอง ทหารม้า ต่างๆ นาๆ เต็มไปหมด รูปปั้นดินเผาของทหารเหล่านี้ปั้นจากทหารจริงๆ ทำให้หน้าตาไม่เหมือนกันซักคน และถูกจัดเรียงเป็นอย่างดีเหมือนกองทัพพร้อมรบ เหมือนเหล่าทหารจิ๋นซีฮ่องเต้ที่รอวันฟื้นคืนชีพ
ด้านในจะมีทั้งหมด 3 โดม เป็นหลุมๆ ใหญ่ที่เค้าขุดขึ้นมา ให้ดูหลุมที่ 1 ก่อนเพราะสมบูรณ์ที่สุดแล้ว และค่อนเข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์กันต่อ เค้าบอกว่าส่วนที่ใหญ่ที่สุดที่เป็นที่ฝังศพของจักรพรรดิจิ๋นฮีนั้น เค้ายังไม่ได้เริ่มขุด เพราะเชื่อว่าต้องมีอะไรลึกลับอยู่ในนั้น เช่นพวกเงื่อนต่างๆ หลุมพราง หรืออันตรายจากปรอทที่เอามาสร้างเป็นคลองรอบหลุมศพอีกทีเลยยังไม่ได้เริ่มขุดกันอย่างจริงจัง แค่นี้ก็สวยจนขนลุกแล้วนะ!
เมื่อก่อนเราเคยคิดว่ามันคงเป็นโดมใหญ่ๆ ที่โดนลมโดนดินกดทับแล้วมีหลังคา พอขุดเจอก็ค่อยๆ เปิดหลังคาก็จะ จ๊ะเอ๋กับเหล่าทหารยืนเรียงกันเป็นร้อยๆ คน แต่จริงๆ ไม่ใช่! ดูจากรูปขวามือมันถูกฝังลงไปในดินทีละคนๆ เพราะฉะนั้นนักโบราณคดีที่มาทำงานที่นี่โคตรเจ๋งจริงๆ ในการขุดแต่ละคนขึ้นมาให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ น่านับถือมากกกกกกกกกกกก!
เราคิดว่าให้ออกจากซีอานเช้าๆ ไปเที่ยวสุสานกันซักครึ่งวันก็พอ เพราะมันตื่นเต้นแค่ตอนเห็นครั้งแรกนั่นแหละ จากนั้นก็จะเข้าสู่โหมดเฉยๆ ต้องรอให้ทหารลุกมาเดินกันได้อีกรอบอะถึงจะน่าตื่นเต้น 555 พอฟังบรรยายและดูซักพักก็น่าจะพอ กลับเข้ามาเที่ยวในซีอานกันต่อวันสุดท้าย อยากแนะนำร้านอาหารเฉฉวนร้านนึง ไม่รู้จะอธิบายถนนยังไงดี เพราะถามคนซีอานก็ตอบกันไม่ถูกเหมือนกัน
เอาเป็นว่าให้เริ่มจากกำแพงเมืองฝั่ง South Gate ด้านใน แล้วเลี้ยวไปทางขวา สุดทางขวาของกำแพงเมืองจะเป็นย่านร้านอาหารเกาลี ญี่ปุ่น และอาหารจีนแบบไฮโซๆ หน่อยวางเรียงกันหลายร้านให้ชิมได้ตั้งแต่บ่ายถึงดึกกันเลยทีเดียว เราแนะนำร้านอาหารเฉฉวนชื่อ Sichuan Folk Food Restaurant. เป็นร้านอาหารเฉฉวนที่น่าจะถูกปากคนไทยมากที่สุด ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด อร่อยทุกอย่างเลยจริงๆ!
ถนนแถวๆ ร้านอาหารก็เงียบสงบพร้อมกับใบไม้ที่ร่วงโรยนี่ไม่ใช่ซีอานนะคะ แต่เป็น โซลอาน 5555555555555555555
อย่างที่บอกว่าเมืองนี้คือปลายทางของเส้นทางสายไหมที่เดินทางผ่านยุโรป เอเชียกลาง ตะวันออกกลางมามากมายก่อนถึงแดนมังกรในเมืองจีน เพราะฉะนั้นหลายสิ่งหลายอย่างเลยไม่จีนจ๋า หรือเป็นแบบผสมผสานกันค่อนข้างมาก เห็นได้ชัดๆคือ มัสยิด Grand Mosque Xi’an ที่ใครเดินเข้ามาก็ต้องงงว่า เอ๊ะ นี่มัสยิดจริงๆ หรอ?
เพราะรูปทรงมันเหมือนศาลเจ้าจีนมากกว่า เก๋งจีน ลวดลายต่างๆ ไม่เหมือนมัสยิดซักนิด แต่ทุกคนก็ยืนยันว่านี่คือมัสยิดที่ยังใช้งานตั้งแต่อดีตจนมาถึงทุกวันนี้ ทำให้คิดได้เลยว่ารูปลักษณ์เป็นของภายนอกที่แปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลาจริงๆ แต่กายและใจข้างในต่างหากที่บ่งบอกว่าเราคือใครและเป็นใคร เอ้า! พูดจาสวยสายบุญไปอี้กกก
มาถึงไฮไลท์สุดท้ายของซีอานที่เราชอบมากที่สุด คือ กำแพงเมืองซีอาน (Xi’an City Wall) ลองหลับตานึกถึงกำแพงเมืองเชียงใหม่ แต่เป็นกำแพงที่สมบูรณ์และสามารถขึ้นไปเดินเล่น ปั่นจักรยาน เดินแอ๊วกับผู้ชาย หรือจะนั่งกินก็ขนม ก็สามารถทำได้ตลอดทางเดินนี่แหละค่ะ คือกำแพงเมืองซีอาน
เรานำเสนอให้มาช่วงบ่ายแก่ๆ ก่อนพระอาทิตย์ตกดินแล้วเช่าจักรยานซักคันนึงปั่นเล่นไป ถ่ายรูปไปกำลังเพลินเลยจ้า ยิ่งช่วงพระอาทิตย์กำลังใกล้ตกดิน
แสงอ่อนๆ กระทบหน้า วิ่งหาหลืบหาซอกกำแพงแล้วไปแอ็คติ้งถ่ายรูป อู้ยยยยยยย จะฟ่าน ปิง ปิง หลิวอี้เฟย ใครก็แพ้หมดแหละ เพราะแสงสวยช่วยชีวิต!
ขากลับจากซีอานเข้ากรุงเทพ ไฟลท์บินของนกสกู๊ตเครื่องบินออกดึกมากประมาณ ตีสาม บอกตรงๆ แบบไม่โกหกเลย แต่ที่นี่คือเมืองจีน มีเงินไม่ต้องเยอะก็สามารถจัดการนู่นนี่เพิ่มความชิวและสะดวกสบายให้ตัวเองได้ เราขอแนะนำอย่างนี้!
1. แจ้งโรงแรมไว้ว่าขอเลทเช็คเอาท์ หรือ ขอจ่ายเพิ่ม Extra ได้หรือไม่ ถ้าจะขอเช็คเอาท์ตอนประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง
2. เช่ารถโรงแรมให้ไปส่งที่สนามบิน ตกลงราคากันให้เรียบร้อยด้วยนะ
3. หรือจะรีบไปสนามบินเลยก็ได้ เพราะที่สนามบินร้านค้าส่วนใหญ่ก็เปิดดึก มีที่ให้กินข้าว นั่งชิว เมาท์มอยกับเพื่อนเยอะ
แล้วรีบเช็คอิน ผ่าน Immigration เข้าไป ไฟลท์ของนกสกู๊ตจะออกเป็นไฟลท์แรกๆ ของวันใหม่ คนน้อยไม่พลุกผล่าน แต่ที่นั่งรอขึ้นเครื่องนั้นดีมาก กว้างใหญ่เบาะนิ่มสามารถนอนได้เลย
ส่วนใครที่อดอยากปากแห้งกับอาหารไทยหรืออยากกินข้าวอร่อยๆ บนเครื่องอย่าลืมสั่งจองอาหารล่วงหน้าจาก Scoot Café บอกเลยนะคะ ว่านอกจากแอร์นกสกู๊ตจะบินเมืองจีนกันเก่งแล้ว นางยังอุ่นอาหารบนเครื่องเก่งด้วยค่ะ ข้าวสวยเม็ดเรียงตัว ไม่แฉะ อร่อยหอม ให้เต็มสิบจ้า 555
ย้ำกันอีกรอบว่า NokScoot ไม่ใช่ Scoot และเป็นคนละสายการบินกัน เพื่อนๆ สามารถดูตั๋วมาซีอานราคาดีได้ที่ www.nokscoot.com เวลาบินของไฟลท์ซีอานนั้นทำให้เราไม่เสียวันลาในการทำงานเพราะออกดึกและกลับถึงไทยเช้าคือ ขาไป ออก 21.40 ถึง 02.25 / ขากลับออก 03.35 ถึง 06.25 สบาย!
บางคนบอกว่าซีอานเป็นเมืองคนแก่ รอแก่ก่อนค่อยมาก็ทัน! เมื่อก่อนอาจจะใช่ ในสมัยที่คนเราเที่ยวกันปีละครั้งหรือสองปีครั้งนึง แต่ไม่ใช่เดี๋ยวนี้ที่เที่ยวกันถี่ทุกเดือน ซีอานก็ปรับตัวให้มันทันสมัยมากขึ้น เหมาะสำหรับคนชอบประวัติศาสตร์เป็นสาวเนิร์ด หรือพวกที่ชอบ Explore อะไรใหม่ๆ ซีอานก็ตอบโจทย์ อย่าลืมว่าเที่ยวครั้งเดียวได้ทั้งมรดกโลกและสิ่งหัศจรรย์ของโลก ในราคาเบาๆ และบินไม่ไกลจากกรุงเทพ