ตอนเด็กๆ เวลาที่บ้านพามาเที่ยวสิงคโปร์ นอกจากเจ้าสิงโตพ่นน้ำ เราก็จำได้กว่าสิ่งที่สนุกที่สุดในวัยนั้นและกลับบ้านไปก็จำได้อยู่ชื่อเดียวคือ เกาะเซนโตซา (Sentosa) จนโตมาใกล้วัยเลขสาม เกาะนี้ก็ยังเป็นอันดับหนึ่งในใจเสมอเวลาอยากมาสนุกๆ กับเพื่อนฝูงในสิงคโปร์ รีวิวนี้ไม่ขอย้อนวัยใดๆ ทั้งสิ้นเพราะวัยเรานี่แหละกำลังสนุกที่สุดเวลามาเที่ยว นี่คือ 1 วันเต็มใน Resorts World Sentosa อาณาจักรที่ให้เธออยู่ได้ทั้งวันทั้งคืนแบบไม่มีเบื่อเลย
รอบนี้ขอบริหารเวลาเป็นตัวอย่างให้เธอตามรอยกันง่ายๆ แพลน 1 วันในเซนโตซาแบบคุ้มค่าที่สุดและเก็บได้ทุกกิจกรรมยอดฮิตทั้ง S.E.A. Aquarium, Universal Studios Singapore และเครื่องเล่นใหม่สำหรับการดูวิวที่สุดที่สุดในสิงคโปร์อย่าง SkyHelix โดยซื้อทุกกิจกรรมผ่าน Klook เว็บไซต์และแอพพลิเคชันที่จะทำให้ประสบการณ์ท่องเที่ยวเธอนั้นง่ายและประหยัดขึ้น ไม่ต้องต่อคิวยาวๆ สแกน QR Code แล้วเข้าได้เลย แถมประหยัดกว่าซื้อหน้างานแน่นอน!
เราขอเวลาทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เตรียมเสื้อผ้าสบายๆ ผูกชือกรองเท้าผ้าใบแน่นๆ แล้วเตรียมเหงื่อออกปอยผม แต่สนุกทั้งวันจริงๆ ด้วยกันที่ Resorts World Sentosa พร้อมแล้วก็ขึ้น Singapore Cable Car ข้ามจากเกาะสิงคโปร์เข้ามาเที่ยวเซนโตซากันเลยสิคะ!
เราเริ่มกันที่ Mount Faber นอกจากจะเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของสิงคโปร์ที่นี่ยังเป็นจุดสตาร์ทของการนั่ง Cable Car ข้ามไปเกาะเซนโตซาด้วย จริงๆ แล้ววิธีเดินทางเข้าเซนโตซาก็มีหลายแบบมากๆ ไม่ว่าจะนั่ง MRT ไปลงที่ Vivo City แล้วเดินสวยๆ ชมวิวเข้าไป หรือจะนั่ง Sentosa Express Monorail และเดินทางด้วยรถส่วนตัวจะเรียก Grab จากที่พักไปเลยก็ได้ แต่รอบนี้เรานั่ง Cable Car เพราะว่ายังไม่เคยเดินทางด้วยวิธีนี้มาก่อน และวันที่เราไปอากาศดีมาก ฟ้าใส เลยถือโอกาสชมวิวและความเขียวของสิงคโปร์ไปด้วยในตัว
จากสถานี Mount Faber เราลงที่สถานี Merlion แล้วเดินอีกนิดหน่อยประมาณ 5 นาทีก็ถึงเวิ้งกว้างๆ ที่ด้านซ้ายเป็น S.E.A. Aquarium ด้านขวาเป็น Universal Studios Singapore ถือว่าสะดวกมากเพราะเดินไม่ไกล วิวโอเคและราคาไม่แพงด้วย ไปกลับแค่คนละ 727 บาทแถมได้ไอศกรีมฟรีด้วยอีก 1 Scoop ไปถึงปุ๊ปโชว์ QR Code ที่ส่งมาทางเมล์ก็ขึ้น Cable Car ได้เลย การซื้อผ่าน Klook เราสามารถจ่ายเป็นอัตราเงินบาทไทยได้ ทำให้คุมบัดเจ็ทระหว่างทริปได้ ที่สำคัญถูกกว่าซื้อหน้างานแน่นอน รวมไปถึงตั๋วเครื่องเล่นและกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้ง 1 วันในเซนโตซานี้เราซื้อผ่าน Klook ทั้งหมดก่อนเดินทางเพราะราคาถูกกว่า และบอกก่อนว่าด้วยความที่ราคาถูกกว่าซื้อหน้างานค่อนข้างมาก ตั๋วจะมีจำนวนจำกัด เพราะฉะนั้นถ้ามีแพลนเดินทางล่วงหน้าแน่ๆ อยากแนะนำให้ซื้อไว้ก่อนเลย
นี่คือลิงก์ที่เราซื้อก่อนเดินทางทั้งหมดผ่านทาง Klook สะดวกกว่า ประหยัดกว่า และมีตั๋วเข้าแน่นอนไม่ต้องลุ้น
.
Singapore Cable Car Skypass
https://bit.ly/3bheav1
S.E.A. Aquarium
https://bit.ly/3y5RJBS
Universal Studios Singapore
https://bit.ly/3ObDh0L
SkyHelix Sentosa Singapore
https://bit.ly/3OpAxNH
เราขอแนะนำให้ออกจากที่พักประมาณ 9 โมงเช้าเพื่อให้มาถึงที่นี่ตอน 10 โมง เราเริ่มกันที่ S.E.A. Aquarium เพราะเปิดเช้าที่สุด และใช้เวลาในอควาเรียมประมาณ 2 ชั่วโมง ต้องบอกก่อนว่าทุกอย่างในสิงคโปร์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทุกคนเดินทางท่องเที่ยวกันได้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นคนจะเยอะมากๆ โดยเฉพาะ S.E.A. Aquarium ศูนย์รวมทั้งเด็กเล้ก เด็กโตอย่างพวกเราทำให้คนแน่นทุกจุดจริงๆ
เค้าบอกว่าในอควาเรียมนี้มีสัตว์น้ำมากกว่า 100,000 ตัว ประมาณ 1,000 สายพันธุ์และแตกกันกันประมาณ 45 ชนิดของสัตว์ใต้ท้องทะเล ที่นี่มีทั้งหมด 8 โซนด้วยกัน เราชอบที่สุดก็ Open Ocean Habitat นี่แหละมันกว้างมากๆ และมีสัตว์น้ำหลายชนิดอยู่รวมกันไม่ว่าจะเป็นนักล่าหรือผู้ถูกล่า เห็นถึงวิถีชีวิตโดยรวมของสัตว์ แถมในตู้กว้างๆ นี้มีปลาทะเลรวมกันมากถึง 40,000 ตัวเลยนะ
จาก S.E.A. Aquarium ในช่วงเช้า เราใช้เวลาช่วงบ่ายกันที่ Universal Studios Singapore ตามที่แพลนไว้คืออยู่กันจนปิด! ช่วงนี้ที่นี่จะปิดทุกวันจันทร์และอังคาร และเปิดให้เข้าตั้งแต่ 12.00-19.00 น. นะ เพราฉะนั้นตั๋วจะมีอยู่อย่างจำกัดแนะนำให้ซื้อล่วงหน้าผ่าน Klook จริงๆ (สำหรับข้อมูลเปิดปิดอัพเดตเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565)
Universal Studios Singapore แบ่งเป็นทั้งหมด 7 โซนรอบ Lake ตรงกลางเป็นวงกลมได้แก่ Hollywood, New York, Sci-Fi City, Ancient Egypt, The Lost World, Far Far Away และ Minion Land ซึ่งจะเปิดแบบเป็นทางการในปี 2024 ส่วนโซนอื่นๆ เปิดครบทั้งหมดให้เล่น ให้ Experience กันได้ตามปกติ
เริ่มกันที่โซน Hollywood & New York สองโซนที่เชื่อมกันมาตั้งแต่ทางเข้าที่สองข้างทางรายล้อมด้วยร้านของฝากต่างๆ ที่ตกแต่งให้เหมือนเราเดินเล่นใน Hollywood และ New York ในโซนนี้จะเป็นการ Meet & Greet กับ Character ตัวการ์ตูนต่างๆ อย่าง Minion, Sesame Street และ Madagascar รวมถึงมีร้านอาหารสไตล์ American Diner’s ให้เราถ่ายรูปกันเก่ๆ อย่างร้าน Mel’s Drive-In ทั้งสองโซนนี้ตกแต่งได้น่ารักและน่าถูกใจสาย Instagramer ให้มาถ่ายรูปกันชิคๆ ได้ตลอดทั้งวัน แถมยังมี Pops! Popcorn Delight ให้ชิมกันด้วยนะ
โซนถัดมาคือ Sci-Fi City ที่มีเครื่องเล่นยอดฮิตอย่าง TRANSFORMERS The Ride : The Ultimate 3D Battle สนุกและสมจริงมาก ยิ่งซีนตกจากที่สูงคือเสียวท้องน้อยจริงๆ หรือรถไฟเหาะที่หวาดเสียวไม่แพ้กันกัน Battlestar Galactica: HUMAN vs. CYLON เป็นรถไฟเหาะสองรางไขว้กัน ฟีลแบบต่อสู้ระหว่างฝ่ายดีกับฝ่ายเลวในอวกาศเรียอะดรีนาลีนได้ดี เอ้อ! แล้วยังมีให้ถ่ายรูปกับ Megatron และ Optimus Prime กันด้วยนะ
โซนต่อมาคือ Ancient Egypt มีเครื่องเล่นที่ A Must ที่สุด เราชอบโซนนี้มากที่สุดนะต้องบอกก่อนว่าทำถึงพอสมควร จากที่เคยไปอียิปต์มา ด้วยไซส์เอย บรรยากาศเอย แสงแดดเอย 555 ถือว่าทำได้ดีเลย ในนี้มีเครื่องเล่นที่ชื่อว่า Revenge of the Mummy เหมือนนั่งรถไฟเหาะทั้งหนีทั้งต่อสู้กับมัมมี่ เครื่องเล่นจะมืดๆ หน่อยมีทั้งจังหวะตุ้งแช่ และจังหวะรถไฟเหาะถอยหลังสนุกที่สุดแล้วสำหรับเรา เล่นกันไปคนละ 3 รอบ 55555 โซนนี้ยังมี Meet & Greet กับ Sesame Street ด้วยนะ นางจะแต่งตัวเป็นธีมอินเดียออกมาเต้นเป็นคังคุไบกับเรา เอาใจนักท่องเที่ยวชาติหลักช่วงนี้สุดๆ
โซนต่อมาคือ The Lost World หรือเป็น Theme Park จากเรื่องจูราสสิกปาร์ค (Jurassic Park) นั่นเองเครื่องเล่นหลักๆ ในโซนนี้ก็คือ Jurassic Park Rapids Adventure กับ Canopy Flyer สารภาพว่าไม่ได้เล่นทั้งคู่เพราะคิวค่อนข้างยาวและเครื่องเล่นนี้จะเปียกด้วยนิดหน่อย ซึ่งพวกเราไม่ได้เตรียมชุดมาเปลี่ยนกันก็กลัวจะเฉอะแฉะไปทั้งวัน เลยเลือกไปดู baby Velociraptor ฟักไข่กับ Dr. Rodney แทน คิ้วท์ซะไม่มี 5555
และโซนสุดท้ายที่เราเดินไปดูความอลังการของปราสาทคือ Far Far Away ที่เค้าจำลองปราสาทสูงถึง 40 เมตร จากอนิเมชั่นเรื่อง Shrek ซึ่งในปราสาทนี้คือเป็นที่หลบแดดได้ดีมากๆ เพราะด้านในมี Shrek 4-D Adventure การ์ตูนสี่มิติที่เก้าอี้ขยับได้และพ่นน้ำจริงๆ แนะนำให้เช็ครอบให้ดีแล้วเข้าไปหลบร้อนฉ่ำๆ ดูการ์ตูนกันซัก 30 นาทีเด้อ
การมาเที่ยว Universal Studios Singapore ช่วงนี้คือดีมากๆ เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ ทำให้ต่อคิวเครื่องเล่นไม่นาน บอกตามตรงว่าเราเล่นเครื่องเล่นยอดฮิตได้อย่างละ 2-3 รอบเลยนะ และพวกของเล่นเด็กน้อยก็เล่นได้หลายอย่างเลย เพราะต่อคิวไม่นาน เราใช้เวลาที่นี่ตั้งแต่เที่ยงจนค่ำๆ แล้ววนกลับไปถ่ายรูปแถวโซน Hollywood & New York อีกครั้ง บรรยากาศมัน Happening มากๆ ดีใจที่สุดที่ได้มา
ก่อนเราเราแวะร้านของฝากในโซน Hollywood ซื้อ Pin Logo ของ Universal Studios Singapore และโปสการ์ดใบนึงเป็นของที่ระลึก ราคาไม่แพงเลยใบละ SGD 1 เท่านั้น
พอเริ่มเย็นเรานั่ง Cable Car กลับไปที่สถานี Imbiah Lookout เพื่อรอเวลาเล่นเครื่องเล่นใหม่สำหรับชมวิวบนเกาะเซนโตซาอย่าง SkyHelix Sentosa ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่เป็นเบาะให้เรานั่งเป็นวงกลมแล้วพาขึ้นไปชมวิวในจุดที่สูงที่สุดบนเกาะ Sentosa เราจะเห็นวิวแบบ 360 องศารอบๆ เกาะ ยาวไปจนถึง Marina Bay เลยทีเดียว
จริงๆ ใน Resorts World Sentosa ยังมีอีกหลายกิจกรรมมากๆ ให้ทำและไปสัมผัสเป็น Experience รอบหน้าเราจะกลับมาอีก และจะพักที่นี่ซัก 2-3 คืนกันไปเลยอยากเล่นกับน้องโลมา อยากไปดู Wings of Time ทำสปาและอีกหลายๆ กิจกรรมที่จะทำให้ประสบการณ์ในสิงคโปร์นั้นพิเศษยิ่งขึ้น นี่คือหนึ่งวันของเราที่ครบรสมากๆ และเป็นสิ่งที่โหยหามาตลอด 2-3 ปีที่เดินทางไม่ได้ การขึ้นรถไฟเหาะและกรี๊ดออกมาให้สุดเสียงเป็นการปลดปล่อยที่ดีที่สุดจริงๆ รวมถึงแสงสียามค่ำคืนใน Universal Studios Singapore และ วิวเกาะเซนโตซากับเมืองสิงคโปร์ผ่าน SkyHelix และอย่าลืมจองทุกอย่างผ่าน Klook ก่อนออกเดินทางเพื่อราคาที่ประหยัดกว่าและสามารถจ่ายเป็นเงินไทยโดยที่งบไม่บานปลาย ทุกที่ที่เราทุกคนสามารถมาตามรอยได้ มาสัมผัสประสบการณ์ Your world of joy แบบพวกเราในราคาที่สมเหตุสมผลกับ Klook และ Resorts World Sentosa กัน
