4 คืน 5 วันเที่ยวโอกินาว่าแบบไม่ขับรถ 29 โลเคชั่น กินเที่ยวช้อปรีวิวเดียวตามรอยได้เลย!
ใครๆ ก็หลงรักญี่ปุ่นกันแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวทั้งนั้น เพราะความน่ารักสุดปุ๊กปิ๊กนั่นเต็มเปี่ยมไปทุกอณู ไม่ว่าจะเมืองไหนๆ ก็ทำให้เราตกหลุมรักได้ง่ายๆ ถ้าเธอเป็นคนชอบเที่ยวญี่ปุ่นแบบบินตรง แถมไปเที่ยวโตเกียว โอซาก้า ฟุกุโอกะ ซัปโปโร บ่อยจนหลงใหลในความคาวาอิ้ เราขอแนะนำเส้นทางใหม่ที่สามารถบินตรงจากกรุงเทพได้แล้ววันนี้อย่าง ‘โอกินาว่า’ เกาะสวรรค์ที่ใครมาก็ต้องหลงรัก เป็นญี่ปุ่นมุมใหญ่ที่คาดไม่ถึง
ซัมเมอร์นี้อยากจนทุกคนมาเที่ยว ‘โอกินาว่า’ เกาะที่เที่ยวง่ายและใครๆ ก็ตามรอยได้ ทริปนี้ขอพาทุกคนเที่ยวโอกินาว่าแบบไม่ต้องขับรถก็เก็บไฮไลท์ต่างๆ ได้ครบ มาดูฉลามวาฬน่ารักสุดปุ๊กปิ๊กว่ายน้ำในอควาเรียมติดอันดับโลก ดูวิวจากหน้าผาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จิบเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมดู Sunset สวยๆ และดับร้อนด้วยไอศกรีมที่หาทานได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น พร้อมแหล่งช้อปปิ้งที่มีให้เลือกเยอะแยะแบบอลังการ
5 วันนี้เราขอยกให้โอกินาว่าที่อยากให้ทุกคนมาตามรอยได้ง่ายๆ เที่ยวง่ายแบบไม่ต้องขับรถก็เดินทางสะดวก แถมเก็บได้ครบทุกจุดไฮไลท์แบบไม่เหนื่อย มีเวลาชิลๆ ให้สมกับความเป็นญี่ปุ่น บินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่ โอกินาว่า ได้แล้ววันนี้กับแอร์เอเชีย 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตรงเวลา ราคาสุดคุ้ม เที่ยวได้ครบตามแผน
มาค่ะ! มาหลงรักโอกินาว่าแล้วตามรอยสู่เกาะสวรรค์นี้ไปพร้อมๆ กัน ลางานไม่ต้องเยอะ รีวิวเดียวตามรอยได้เลย!😊
#ไปโอกินาว่าไปกับแอร์เอเชีย #ไปญี่ปุ่นไปกับแอร์เอเชีย
Fly Direct from Bangkok
with Thai AirAsia to Okinawa
ก่อนหน้านี้เวลานึกถึงโอกินาว่าทุกคนอาจคิดว่านั่งเครื่องบินหลายต่อกว่าจะถึง รู้ว่าสวยแต่ด้วยวันลาที่จำกัดก็ทำให้ถอดใจกันได้ง่ายๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องกังวลเพราะโอกินาว่าเที่ยวได้ง่ายกว่าเดิม แอร์เอเชียบินตรงจากกรุงเทพฯ ดอนเมือง สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบินสู่โอกินาว่า
ขาไปออกจากกรุงเทพฯ 8 โมงครึ่งถึงโอกินาว่าช่วงบ่ายพร้อมเช็คอินเข้าโรงแรมได้ทันที ส่วนขากลับออกจากโอกินาว่าช่วงเย็นมาถึงกรุงเทพฯ หัวค่ำไม่ต้องรีบกุลีกุจอตื่นเช้ามาขึ้นเครื่อง ไฟลท์เดินทางแบบนี้ไม่ว่าจะกับเพื่อน กับแฟนก็สะดวก โดยเฉพาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ เรา Recommend เลย เพราะเวลาเดินทางแบบนี้ไม่เหนื่อยจนเกินไป แถมบินตรงประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว และใครมีเดินทางช่วงเมษายน-มิถุนายน 2024 อย่าลืมสั่งจองอาหารล่วงหน้ากับเมนูใหม่อย่างข้าวหน้าปลาซาบะย่างซีอิ้วและน้ำมะปี๊ดจี๊ดใจกินเบาๆ เป็นมื้อต้อนรับก่อนถึงญี่ปุ่น พร้อมสั่งน้ำมะปี๊ดเปรี้ยวจี๊ดแสนสดชื่นมาดื่มให้คล่องคอเป็น Brunch ก่อนตะลุยกินที่โอกินาว่า!
Okicard for Monorails and Bus
แม้ว่าหลายๆ ครั้งที่ดูรีวิวเที่ยวโอกินาว่าส่วนใหญ่จะเน้นขับรถเที่ยวกันเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วเราสามารถใช้รถประจำทาง และรถบัสเที่ยวได้เหมือนกัน ไม่ลำบากแถมสะดวกมากด้วย โดยเฉพาะในเขตเมืองอย่างนาฮะ (Naha) ซึ่งมี Monorail วิ่งตรงจากสนามบินไปยังสถานที่สำคัญๆ ของเมืองและจุดต่อรถบัสต่างๆ สะดวก ไม่ต้องกังวลเลยแม้จะไม่ได้ขับรถเที่ยว
เราแนะนำให้ซื้อ Okicard เป็น IC Card เหมือน Suica, Pasmo ที่สามารถใช้ขึ้นรถไฟฟ้า รถบัส รถสาธารณะ รวมถึงร้านสะดวกซื้อต่างๆ ที่มีสัญลักษณ์ว่ารับบัตรใบนี้ สะดวกมากๆ แถมลายยังน่ารักเก็บเป็นของที่ระลึกกลับบ้านก็ได้ โดยบัตรใบนี้มีค่ามัดจำอยู่ที่ 500 เยน จะได้คืนบางส่วนเมื่อแลกบัตรคืนที่สนามบิน หรือถ้าเธอไม่ได้มีแพลนนั่งทุกวันสามารถซื้อซื้อบัตรเดินทางแบบ 1 day pass with Monorails ได้ในราคาถูกกว่าที่ https://bit.ly/3UD7vOE
Mercure Okinawa Naha
อย่างที่บอกว่าทริปนี้เราเดินทางด้วยรถสาธารณะกันเป็นหลักเลยเลือกนอนโรงแรมเดียวเลยตลอด 4 คืนซึ่งสะดวกมาก เพราะส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบย้ายหลายๆ โรงแรม เราเลยเลือกนอนใจกลางเมืองที่ Mercure Okinawa Naha โรงแรม 4 ดาวในเครือ All Accor ราคาดีคืนละสามพันต้นๆ แถมมีอาหารเช้าที่เปลี่ยนเมนูทุกวัน นอนสี่คืนได้กินอาหารท้องถิ่นสไตล์โอกินาว่าไม่ซ้ำกัน รวมถึงอาหารเช้าสไตล์ ABF ก็มีให้ทานได้ไม่อั้น
รอบนี้เราพักกันในห้องแบบ Deluxe Room พื้นที่กว้างขวาง มีอ่างอาบน้ำ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ที่ดีที่สุดคือเรื่องของโลเคชั่นที่ตั้งอยู่ติดสถานี Mororail Tsubogawa Sta. เพียง 10 นาทีจากสนามบิน แถมไปถนนช้อปปิ้งอย่าง Kokusai Dori ก็นั่งไปอีกแค่ 2 นาทีเท่านั้น แถมเป็นจุดขึ้นบัสสำหรับ One Dar Trip นอกเมืองสะดวกสุดๆ
ดูรีวิว Mercure Okinawa Naha เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/mercureOKANAHA
Day 1
Umikaji Terrace Senagajima
หลังจากเอาของเก็บที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว วันแรกเราก็เริ่มกันที่นี่เลย Umikaji Terrace Senagajima ย่านช้อปปิ้งริมทะเลที่ควรค่าแก่การมานั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมดู Sunset สวยๆ ริมทะเล ที่นี่เป็นศูนย์การค้าริมทะเลที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เพราะฉะนั้นร้านค้าต่างๆ จะลดหลั่นเป็นลำดับขั้นและหันหน้าเข้าทะเล ฟีลเดินเล่นเมืองท่าในยุโรป เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขนมและร้านขายของปุ๊กปิ๊กต่างๆ แถมยังมีสนามหญ้าขนาดใหญ่ให้เราไปนั่งทอดอารมณ์กับเพื่อนฝูงได้ด้วย
ส่วนร้านอาหารที่เราไปทานกันคือ Proost Tokyo ที่นี่เป็นร้านไส้กรอก homemade จากวัตถุดิบต่างๆ ของโอกินาว่ารสชาติดีใช้ได้กินแกล้มกับบียร์ขึ้นชื่อประจำเกาะโอกินาว่าอย่าง orion นั่งจิบเบาๆ คลายร้อนรับลมเย็นๆ ดีเลย
ส่วนใครที่อยู่จนถึงหัวค่ำอยากแนะนำให้รอดู Senaga Starry Night / Project Mapping บริเวณบันไดด้านหน้าทางขึ้น Umikaji Terrace ที่ฉายเป็นเวลาเริ่มตั้งแต่ 19.30 ทุกๆ ครึ่งชั่วโมงจนถึง 21.30 ทำได้น่ารักปุ๊กปิ๊กสไตล์ญี่ปุ่นเรื่องของท้องทะเล
DAY 2
Aguro Baizen Coffee
เริ่มต้นเช้าวันที่สองด้วยอากาศดีๆ ที่โอกินาว่า ขอเติมคาเฟอีนเข้าร่างกายซักนิดกับร้านกาแฟ Specialty ดีๆ ที่อยากแนะนำให้มา อย่าง Aguro Baizen Coffee มีเมล็ดให้เลือกเยอะ แถมบางชนิดมีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน ถ้าไปช้าอาจหมดได้ และที่นี่ใกล้กับศาลเจ้า Naminoue Shrine ด้วย
Naminoue Shrine (นามิโนะอุเอะ)
ตามสไตล์คนไทย ไปลามาไหว้ขอพรขอมูกันไว้ก่อน เราแวะมาไหว้ศาลเจ้าหลักอันศักดิ์สิทธิ์ของคนโอกินาว่าอย่าง ศาลเจ้า Naminoue Shrine (นามิโนะอุเอะ)
ที่นี่เป็นศาลเจ้านิกายชินโต ในศาลร่มรื่นมาก ต้นไม้เยอะ ทางเดินชันนิดนึง เห็นวิวเมือง คนนิยมมาไหว้ขอพรธุรกิจการงาน ให้ร่ำให้รวย และขอพรให้พ้นเคราะห์พ้นโศก และตามสไตล์ศาลเจ้าญี่ปุ่นที่นี่ก็มีเครื่องรางดีๆ ให้พึ่งพิงและช้อปปิ้งตามสะดวก
Naminoue Beach
เดินจากศาลเจ้าลงมาไม่ถึง 300 เมตรจะเจอกับ Public Beach ที่น้ำใสและเย็นฉ่ำสะใจ สามารถมานอนอาบแดด เล่นน้ำกันได้เลย มี Lifeguard ประจำอยู่ด้วย สบายใจได้หายห่วง ตอนแรกน้ำที่ใสมากๆ ตรงนี้แล้วแอบตกใจเลย เพราะมันใกล้เมืองมากๆ แถมอยู่ใกล้กับท่าเรือ แต่ยังใสแบบหมดจด จนอดใจไม่ไหวต้องถอดรองเท้า ถลกกางเกงขึ้นวิ่งลงไปแช่น้ำเย็นๆ ให้ฉ่ำใจกันซะ
เอ้อ ส่วนใครอยากได้มุมสวยๆ ไปอวดเพื่อนที่ไทยว่าน้ำที่โอกินาว่าฉ่ำขนาดไหนก็สามารถเดินขึ้นสะพานไปถ่ายรูปมุมกว้างได้
Makishi Public Market
ตลาดขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่มีร้านอาหาร ร้านของฝากและอาหารทะเลจำนวนมาก เผื่อเวลาแวะมาเดินเล่นกินของอร่อย
Makishi Fish Market ตลาดปลาใจกลางเมืองใกล้กับ Kokusai-Dori ที่อาหารทะเลสดมาก ราคาไม่แพง เช่นโฮตาเตะจานเบ้อเร่อได้ 10 กว่าชิ้นแค่ 1,000 เยนหรือประมาณ 240 บาทเท่านั้น ส่วนใครซื้ออาหารสดและอยากให้เค้า Cooking ให้ก็แจ้งร้านได้เลย เค้าจะพาไปนั่งชั้น 2 เป็นโต๊ะกินจริงจัง สามารถสั่งข้าวผัด ราเมน เทมปุระไรงี้เพิ่มเติมได้เลย สะดวก สะอาด ซีฟู๊ดฉ่ำสด แต่.. ราคาขึ้นไปนั่งและทำอาหารจะคิดต่อคน คนละ 550 เยน ซึ่งค่อนข้างสูง ถ้าไม่ได้กินเป็นมื้อหลัก กินซาซิมิดีกว่า
Fukusuke Tamago มาถึงโอกินาว่าทั้งทีอย่าพลาดลองชิม Spam Musubi หรือว่า Pork Tamago Onigiri ข้าวปั้นใส่แฮม Spam และไข่หวาน เราลองมาชิมที่ร้าน Fukusuke Tamago อีกหนึ่งร้านดังใน Makishi Market รสชาติดีเลย ชิ้นเดียวอิ่มท้อง แถมข้าวปั้นแบบนี้เค้าจะอุ่นร้อนให้ด้วย เราลองสั่งพร้อมกับเครื่องดื่มไข่ ไม่รู้ชื่อแต่เป็นไอศกรีมวนิลาและน้ำไข่ เหมือนไอศกรีมไข่แข็งละลายแล้ว 555 รสชาติแปลกดีแต่ทานได้
Kokusai- dori Shopping Street
ยืนหนึ่งกับย่านช้อปปิ้งแห่งโอกินาว่า Kokusai- dori Shopping Street ดีงามมากๆ แนะนำให้มาเดินเล่นช่วงบ่ายๆ แสงกำลังสวยไม่ร้อนเกินไป ถ่ายรูปสนุกสุดๆ ข้อดีของการนอนในเมืองสำหรับเราคือมีเวลาแวะช้อปปิ้งทั้งวันทั้งคืน ที่นี่เลยเป็นถนนที่เราแวะมาทุกเลยหลังจากจบแพลนแต่ละวัน
บริเวณหัวถนนจะมีรูปปั้นเทพ Shisa (ซีซ่า) เทพผู้พิทักษ์เกาะโอกินาว่าที่เราจะเห็นได้จากของน่ารักปุ๊กปิ๊กทั้งเมือง เทพทั้ง 2 ตัวจะคอยไล่สิ่งชั่วร้ายและรับสิ่งดีๆ เข้ามา โดยตัวผู้จะอ้าปากและตัวเมียจะปิดปาก
Minatogawa Stateside Town
หมู่บ้านทหารชาวอเมริกันเดิมที่เคยประจำในโอกินาว่า ที่เดี๋ยวนี้ปรับปรุงได้น่ารักปุ๊กปิ๊กสุดๆ กลายเป็นร้านเบเกอรี่ร้านขนม ร้านน้ำหอมและเสื้อผ้าแบบเท่ๆ เราแวะไปเดินช่วงคล้อยบ่าย แวะจิบกาแฟกับทาร์ตอร่อยๆ เดินดูน้ำหอม และเสื้อผ้าน่ารักๆ
oHacorté ร้านขายทาร์ตผลไม้น่ารักแถมรสชาติดี เราลองสั่งทั้งทาร์ตส้ม และทาร์ตช็อคโกแลต ดีงามเลย ไม่หวานจนแสบคอ ได้ความฉ่ำของผลไม้ที่ใครได้ลองก็ต้องติดใจแน่นอน แนะนำให้สั่งคู่กับ Hirami Lemon Soda เป็น Lemon แท้ๆ จากโอกินาว่า อร่อยแบบสดชื่นที่สุด คลายร้อนได้ดีเลย (เผื่อใครอยากซื้อกลับไปฝากที่บ้าน ร้านนี้มีขายที่สนามบินด้วยนะ)
Houki Boshi ร้านขนมน่ารักปุ๊กปิ๊กอีกร้านที่อยากให้มาลองคือที่ Houki Boshi ร้านขาย canelé ชื่อดังของโอกินาว่าที่น่ารักสุดๆ ด้วยขนาดชิ้นพอดีคำและมีไส้ให้เลือกมากมายกว่า 10 ไส้ ทั้ง Plain, Strawberry, Dragon Fruit, Okinawa Milk และที่สาขา Minatogawa Stateside Town มีรสชาติพิเศษอย่าง Salted Milk ด้วย เราลองชิมกันแล้ว อร่อยมากกกกก ร้านนี้เค้าจะขายเป็น Set Box 4, 6, 10 ชิ้น กล่องน่ารักสุด (เผื่อใครอยากซื้อกลับไปฝากที่บ้าน ร้านนี้มีขายที่สนามบินด้วยนะ)
THE FLAVOR DESIGN®︎ STORE “OKINAWA” ใครที่เป็นแฟนน้ำหอมสุดยูนีคอย่าง THE FLAVOR DESIGN®︎ STORE แบรนด์เก๋จากโอซาก้า ที่มีสาขาที่นี่ด้วย น้ำหอมของเค้าสามารถมิกซ์สี กลิ่น ได้ตามใจชอบ รวมถึงความเข้ม อ่อนด้วยเช่นกัน แต่ความพิเศษของสาขานี้คือน้ำหอมกลิ่นดอก Gettou หรือบ้านเราเรียกว่า ‘ข่าคม’ เป็นสมุนไพรอย่างหนึ่งที่คนโอกินาว่าใช้ ร้านนี้ก็เอามาทำเป็นน้ำหอม กลิ่นโอเคเลย ครีเอทสุดๆ
藤井衣料店 Clothing Store ร้านนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Houki Boshi ไม่ได้ตั้งใจเข้าแต่โดนเจ้าเบรุ หมาน้อยเจ้าของร้านตกเข้าให้ เลยเดินเข้าไปดูกันซะหน่อยที่นี่ขาย Selected Item ต่างๆ หลายแบรนด์รวมกัน แถมมีงานเซรามิกให้เลือกชมด้วย เราได้แปรงสีฟันงูเขียวมาอันนึง น่ารักดี 555
A&W Makiminato
ถ้าคนไปเที่ยวโอซาก้าต้องถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะ คนมาเที่ยวโอกินาว่าก็ต้องถ่ายรูปกับป้าย A&W Makiminato นี่แหละ ป้ายสุด Retro ที่อยากชวนให้มากิน A&W ให้หายคิดถึงอย่าง Onion ring / Root Beer Float พร้อมแชะภาพเท่ๆ แบบนี้ แนะนำให้มาช่วงเย็นในวันที่ฟ้าสวยๆ จะได้ถ่ายทั้งแบบโพล้เพล้ และป้ายเปิดไฟ สวยสุดๆ
Kokusai Street Food Village
ถนนสายอาหารที่อยากแนะนำให้มาทานอาหารสไตล์ Okinawa แบบหรอยๆ พร้อมเบียร์เย็นฉ่ำซักแก้ว ขอแนะนำให้ลองสั่ง Seaweed Noodle บะหมี่ที่ทำมาจากสาหร่าย, Bitter Melon Stir-Fry มะระแม้วผัดไข่ใส่เต้าหู้, Okinawan Fish Cake ลูกชิ้นปลาทอด, Fired Tacos Ball ทาโก้ทอดจิ้มน้ำจิ้ม Salsa อร่อยสุดๆ ราคาไม่แพงด้วย มานั่งเอาฟีลสไตล์ชาว Okinawan กันได้เลย, Peanut Tofu เต้าหู้เย็นราดซอสถั่ว หอมหวาน สดชื่น กินเป็นของหวานได้เลย
DAY 3
Day Trip with Klook
วันที่ 3 ของทริปเราซื้อทัวร์หนึ่งวันจากตัวเมืองนาฮะออกไปเที่ยวตั้งแต่เช้าตรู่ โดยซื้อผ่าน Klook ราคาทัวร์หนึ่งวัน 4 Location พร้อมค่าเข้าสถานที่ราคา 1,980 บาท ถือว่าคุ้มมากเพราะเก็บไฮไลท์ได้ทุกจุด รถออกตามเวลา เดินทางสะดวก เป็นบัสใหญ่แอร์เย็นฉ่ำ โดยหลังจากซื้อผ่าน Klook เกือบทุกบริษัทที่ดำเนินการในโอกินาว่าจะต้องมาขึ้นรถบริเวณหน้าร้าน Blue Seal สาขา Palette Kumoji ติดกับ Monorail สถานี Prefectural Office Station. สะดวกมากไม่ต้องกลัวหลงเลย
เราแนะนำให้ซื้อก่อนล่วงหน้าเพราะได้ราคาประหยัดกว่า คอนเฟิร์มที่นั่งแน่นอน และมั่นใจได้ว่าออกเดินทางแน่ๆ เมื่อซื้อผ่าน Klook จอง One Day Tour (with Okinawa Churaumi Aquarium Ticket) เลยทันทีในราคาพิเศษที่ https://bit.ly/4bdeC7z (ทัวร์นี้เราเลือกมาแล้วว่าไม่มีแวะร้านขายของฝาก ทำให้มีเวลาแต่ละสถานที่เยอะขึ้น)
Cape Manzamo จุดแรกจากตัวเมืองนาฮะประมาณหนึ่งชั่วโมงเราก็มาถึงจุดแรกที่ Cape Manzamo หรือผางวงช้างอันโด่งดังที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะโอกินาว่า วันที่เราไปช่วงเช้าฟ้าใสพอดีแต่ลมแรงมาก น้ำทะเลและปะการังด้านล่างก็สวยสุดๆ สามารถเดินชมวิวกันได้ทั่วเลย ใครที่ขับรถแวะเที่ยวแบบ Road Trip แนะนำให้มาดูพระอาทิตย์ตกเย็นน่าจะสวยมากกกก
Kouri Island ถัดมาที่ Kouri Island เกาะเล็กๆ ที่มีพื้นที่รอบวงประมาณ 8 กิโลเมตรเท่านั้นโดยมีสะพาน Kouri Big Bridge เชื่อมเกาะ ซึ่งวิวบนสะพานสวยประมาณนึงเลย จริงๆ บนเกาะที่สถานที่ยอดฮิตอยู่อีกฝั่งของเกาะคือ Heart Rock หรือหินรูปหัวใจน่ารักสุดปุ๊กปิ๊ก แต่ตอนเราไปถึงฝนตกพอดี เลยถอดใจและมุ่งมั่นว่าจะกลับมาอีกรอบให้ได้ รอบนี้เลยได้แค่เดินกึ่งวิ่งถ่ายรูปกับวิวสะพาน Kouri Big Bridge แทน สวยไม่แพ้กัน
Okinawa Churaumi Aquarium ไฮไลท์ของโอกินาว่าที่ไม่ควรพลาดอีกที่นึงจะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากการมาดูน้องลายจุดสุดอลัง Okinawa Churaumi Aquarium เป็นที่สุดระดับโลกในหลายๆ เรื่องที่ไม่ควรพลาดมาดู ทั้งมีฉลามวาฬที่ขนาดยาวที่สุดในโลกเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมของฉลามวาฬ เจ้าจินตะที่อยู่ในอควาเรียมนี้มีอายุมากถึง 29 ปีแล้วนะ! เค้าเลี้ยงและศึกษามาตั้งแต่ตัวเล็กๆ เลย แถมที่นี่ยังมีปลากระเบนหลายสายพันธุ์มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะพระเอกอย่าง Manta rays ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่นี่ก็มีให้ชม
อควาเรียมนี้ดูด้วยตาเปล่าอาจจะไม่ทันสังเกตว่ามันลึกถึง 10 เมตรและกว้างถึง 35 เมตรเลย ที่นี่ยังมีกิจกรรมเช่นโชว์ปลาโลมา ให้อาหารเต่า เดินดูเพลินๆ ก็ปาไปแล้วครึ่งวัน และใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะหรือ day trip อย่างเรา แนะนำให้เตรียมอาหารว่างติดกระเป๋าไว้ด้วย เพราะด้านในอควาเรียมราคาค่อนข้างสูง และต่อคิวนานจะได้มีเวลาเดิน Explore เยอะๆ
American Village อีกสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของโอกินาว่าที่แนะนำมาควรมาช่วงเย็นๆ นั่งดู Sunset เหมือนกับ Umikaji Terrace Senagajima แต่คนละฟีล ที่นี่ครึกครื้นมากเหมือน Community Mall ขนาดใหญ่ที่มีทั้งร้านอาหาร บาร์ โรงแรม เรียกว่าอยู่แถวนี้ก็มีอะไรให้ทำทั้งวัน แถมแต่ละโซนก็มีธีมด้วย อย่างโซนที่เราใช้เวลามากที่สุดรอบนี้คือตรงจุดที่เป็นธีมคริสต์ มาสเพราะใกล้กับคาเฟ่ที่เล็งไว้และร้านไอศกรีม เราไปถึงที่นี่ช่วงบ่ายแก่ๆ จะกินมื้อเย็นก็เร็วไป เลยเลือกคาเฟ่เก๋ๆ ที่กาแฟดีมากกับร้านไอศกรีมมาฝาก
ZHYVAGO Coffee Roastery ร้านกาแฟ Specialty ดีๆ อีกร้านบริเวณ American Village อย่าง ZHYVAGO Coffee Roastery ที่มีทั้งชา กาแฟ และขนมอบสดขายขตลอดทั้งวัน รสชาติโอเคเลย เริ่มต้นแค่แก้วละ 420 เยนเท่านั้นถือว่าราคาดีพอๆ กับกาแฟในคาเฟ่ดีๆ บ้านเรา ส่วนใครที่ไม่ทานกาแฟอยากให้ลองสั่ง Chocolate / Caramel MAD SHAKES อย่อยจนหลับตาพริ้มฟินสุดๆ ไปเลยย
Blue Seal ร้านไอศกรีมเจ้าดังของที่นี่ ที่เค้าเคลมว่าเริ่มที่อเมริกา เติบโตในโอกินาว่า ร้านนี้มีกลิ่นอายความเป็นฮาวายสุดๆ แถมรสชาติไอศรีมอร่อยมาก ใครเป็นแฟน Soft Serve มันใจว่าจะกินทุกวันจนน้ำตาลขึ้นแน่นอนถ้าอยู่โอกินาว่า อร่อยมากๆ โดยเฉพาะรสเกลือและมันม่วงมันกลมกล่อมที่สุด โคนละ 380 เยนเท่านั้น แถมใครไปหน้าร้อนนี้อย่าลืมสั่ง Blue Seal Float นะ อร่อยสดชื่นดี กินไอศกรีม เคล้า sunset สวยๆ ชีวิตรื่นรมย์เหลือเกิน ปิดท้ายวันได้ดีสุดๆ
DAY 3
Explore Naha with Okinawa Fun Pass
วันที่สี่ของทริปเรากลับมาเที่ยวในนาฮาโดยใช้ Okinawa Fun Pass นี่คือ Pass ของโอกินาว่าที่ช่วยให้เราประหยัดเงินไปได้เยอะเลย โดยสามารถเลือกแพ็คเกจจำนวนสถานที่ท่องเที่ยวได้ เช่น Pass 6 in 1 ที่เราเลือกมารอบนี้จะรวม Aquarium ให้เลือก 1 ที่ / สถานที่ท่องเที่ยวทั่วเกาะโอกินาว่าอีก 3 ที่ / อาหาร 1 มื้อ และไอศกรีมอีก 1 ร้าน รวมถึงคูปองส่วนลดและ Top up เพิ่มเติมอีกมากมาย เช่นร้าน Don Quijote ถ้ามี Okinawa Fun Pass ก็จะสามารถลดเพิ่มได้อีก 5% Top up จากสินค้า Tax Free เพิ่มไปเลย วันนี้ทั้งวันเราเลยเลือกเดินทางด้วย Okinawa Fun Pass กันทั้งวันผสมกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากไปเพิ่มเติมและร้านอร่อยที่อยากแนะนำ ตามแพลนได้เลย
ซื้อ Okinawa Fun Pass ในราคาที่ถูกกว่าผ่าน Klook พร้อมรับโค้ดใช้งานผ่าน App ได้ทันที พร้อมส่วนลดพิเศษอีกมากมาย เราแนะนำให้ซื้อตั้งแต่วันแรก เพราะใช้ได้ประมาณ 7 วัน หากยังไม่ได้เข้าสถานที่ท่องเที่ยวก็สามารถใช้คูปองส่วนลดได้ทันที จองเลยที่ https://bit.ly/4bxfsM2
teamLab Future Park Okinawa
teamLab ที่นี่เล็กๆ ไม่ใหญ่มาก แต่ก็อยากแนะนำให้มาอยู่ดี เพราะเค้าทำถึงเหมือนกัน ที่นี่พึ่งเปิดเมื่อปลายปี 2023 ที่ผ่านมานี่เอง มาในธีมสวนสนุกที่ทุกคนสามารถมาเอ็นจอยและใช้เวลาร่วมกันได้ ที่เราชอบก็จะเป็นโซน Animals of Flower ดอกไม้มาเป็นรูปสัตว์ต่างๆ /Graffiti Nature in Beating Vallay มีน้องวาฬตัวใหญ่ว่ายไปว่ายมาให้เราแชะรูปด้วย สมเป็นโอกินาว่าสุดๆ
จองบัตรเข้า teamLab Future Park Okinawa ในราคาถูกกว่าและไม่ต้องต่อคิวนานได้ที่ https://bit.ly/4bxfsM2
Shurijo Castle Park
จากนั้นทั้งทริปนี้ก็เดินทางเที่ยวด้วย Okinawa Fun Pass เกือบทั้งหมด นี่คือพาสที่การท่องเที่ยวโอกินาว่าแนะนำเช่นกัน เริ่มจากปราสาท Shurijo ที่เป็นที่พำนักสำหรับราชวงศ์ริวกิวสมัยก่อน ตัวปราสาทของจริงมีสีแดงสด และสวยมาก แต่ตอนนี้ยังซ่อมแซมจนถึงปี 2026 แต่ใดๆ ก็ตาม ญี่ปุ่นก็คือญี่ปุ่น เค้าสร้างโดมขนาดใหญ่ครอบปราสาทที่กำลังก่อสร้างทำให้เราสามารถเห็นขั้นตอนการซ่อมแซมต่างๆ ได้อย่างละเอียดยิบ ไม่เสียดายเงินแน่นอนเมื่อเข้าไปดู
Zooton’s Burger
จากปราสาทเราเดินทางกันต่อประมาณ 10 นาทีมาทานมื้อเที่ยงนี่เป็นอีกร้านเด็ดสำหรับคอเบอร์เกอร์ในโอกินาว่า กับ Zooton’s Burger เป็นร้านที่ติดอันดับต้นๆ เบอร์เกอร์ที่ดีจากการจัดอันดับของ Tabelog เลยนะคะว่าไม่ได้ เราสั่ง Chesse Beef Burger บอกเลยว่าชิ้นใหญ่มากแต่อร่อยจริง ซอสและเนื้อบดทานคู่กับขนมปังโฮมเมดของร้านดีมากๆ เซตนี้ฟรีเพราะรวมอยู่ใน Okinawa Fun Pass ด้วยแล้วเช่นกัน
และตามต่อด้วยของหวานอย่าง Caramel Pancake บอกเลยว่าต้องสั่งเพิ่มจานเดียวไม่พอแน่นอน เพราะอร่อยมากๆ แป้งแพนเค้กนุ่มแบบไม่เคยกินมาก่อนในไทย ราดด้วยซอสคาราเมลและครีม เพอร์เฟค!
Asian Cafe Yukihana no Sato Naha
มาถึงโอกินาว่าแล้วก็ต้องเอาซะหน่อย ซัมเมอร์แบบนี้ต้องกิน Shaved Ice ขนมฮิตหน้าร้อนสำหรับชาวญี่ปุ่น ร้านนี้เราเจอโดยบังเอิญใน Google Maps เห็นรีวิวดีเลยแวะตามมา มีหน้าผลไม้ให้เลือกหลากหลายมาก แต่ถ้าใครอยากทานแบบ Traditional แนะนำให้สั่งรส Shikuwasa หรือส้มชิคุวาซา เป็นผลไม้ขึ้นชื่อประจำโอกินาว่าที่หาทานได้ยาก เมืองนี้เลยมีอะไรหลายๆ อย่างที่ Sold only in Okinawa และเป็นรสชาติของผลส้ม Shikuwasa ด้วยนะ
DMM Kariyushi Aquarium
นอกจาก Okinawa Churaumi Aquarium อันโด่งดังแล้วที่โอกินาว่าในตัวเมืองนาฮะยังมีอควาเรียมอีกที่นึงที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ DMM Kariyushi Aquarium ที่นี่มี 2 ชั้น อยู่ในห้าง Iias Okinawa ที่มีหลายร้านอร่อยและควรมาช้อปปิ้งเที่ยวเสร็จก็สามารถหามื้อเย็นทานกันต่อได้เลย
ที่นี่มีจุดแสดงหลายจุดทั้งสัตว์ Exotic / สัตว์เลื้อยคลาน / ปลาทะเล / ปลาน้ำจืดและเจ้าเพนกวิน ที่มีเป็น Interactive Aquarium ที่ใกล้ชิดกับสัตว์ได้มากกว่าที่ Okinawa Churaumi Aquarium ความรู้สึกก่อนมาคิดไว้ในใจว่ามันต้องเล็กๆ แบบเอาไว้เดินฆ่าเวลาแต่จริงๆ มันดีมากกก สนุก มีหลายๆ กิจกรรมให้เล่นและใกล้ชิดกันสัตว์มาก ไหนๆ ก็มาทั้งทีควรมาเที่ยวทั้ง 2 อควาเรียมเลย และที่นี่ก็รวมอยู่ใน Okinawa Fun Pass สามารถเลือกได้ 1 ที่ระหว่าง Okinawa Churaumi Aquarium หรือ DMM Kariyushi Aquarium
Yanburu Ice Cream
นอกจาก Blue Seal Ice Cream อันโด่งดังของเกาะโอกินาว่าแล้วเค้ายังมีอีกแบรนด์นึงที่ดังไม่แพ้กันที่เอาวัตถุดิบท้องถิ่นมาทำไอศกรีมอย่าง Yanburu Ice Cream เราว่า Blue Seal จะเด่นเรื่องไอศกรีมนม แต่ร้านนี้ทำพวก Sorbet อร่อยกว่า แถมที่นี่มีรสพิเศษอย่างผลส้ม Shikwasa ด้วยนะ เปรี้ยวๆ หวานๆ หอมมันกำลังดีเลย
Manga Souko Naha
ปิดท้ายคืนวันสุดท้ายด้วยการเอาใจมิตรรักนักคุ้ยมาถึงญี่ปุ่นทั้งนี้ ต้องไม่พลาดไปร้านของขายมือสองคุณภาพดี จริงๆ ที่โอกินาว่ามีหลายร้านและหลายสาขามากๆ แต่เราเลือกมาที่สาขานาฮะ เพราะใกล้เมืองที่สุด ใกล้ Monorail และมีอีกร้านที่ชื่อ 2nd street สาขา Akamine อยู่ใกล้ๆ
ที่นี่มีของมือสองหลากหลายมาก ทั้งแบรนด์เนม เสื้อผ้ามือสองคุณภาพดี และแบรนด์แบบยูนีค แต่ต้องใช้เวลาเลือกสรรและค้นดูกันให้ดีนิดนึง แนะนำให้มาเป็นที่สุดท้ายของวันหลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จและเที่ยวตามแพลนเสร็จแล้วเพราะร้านเปิดถึงเที่ยงคืน เดินใกล้สถานี Monorail เพียง 4 นาทีจาก Akamine St.
DAY 5
Before back HOME!
วันสุดท้ายเป็นวันฟรีเดย์ของพวกเราให้เวลาตัวเองเอ็นจอยโอกินาว่าก่อนกลับกรุงเทพฯ ใครอยากไปซื้อของฝากไปเดินที่ Kokusai-dori Shopping Street ได้เลยมีของฝากให้เลือกซื้อก่อนกลับบ้านเยอะแยะ ใครอยากซื้อขนมอร่อยๆ ที่เป็นของขึ้นชื่ออย่าง Benlimo Tart ที่ใช้มันม่วงที่ปลูกในโอกินาว่าก็มีให้เลือกเยอะ หรืออยากซื้อ Monchichi มอนจิจิ ตุ๊กตายอดฮิตตอนนี้ที่โอกินาว่าก็มี Official Store อยู่ด้วยนะ หรือใครอยากไปเดิน Don Quijote ก็ตามสะดวก
ไฟลท์ของแอร์เอเชียจะออกจากโอกินาว่าช่วงบ่ายประมาณสี่โมงเย็น และเคาท์เตอร์สนามบินจะเปิดให้เช็คอินก่อนประมาณ 2 ชั่วโมงเพราะฉะนั้นไม่ต้องรีบร้อนจนเกินไปมีเวลาเอ็นจอยอีกเยอะในวันสุดท้าย
ขากลับใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง จากโอกินาว่าก็กลับมาถึงกรุงเทพแล้ว ใช้เวลาไม่นาน บินตรงเวลากับแอร์เอเชีย ไปสัมผัสญี่ปุ่นมุมมองใหม่ ที่สามารถประหยัดเวลาบินตรงไปโอกินาว่ากับแอร์เอเชีย เราว่าเป็นตัวเลือกที่ดีในการ Explore ญี่ปุ่นซัมเมอร์นี้ 😊