ชีวิตคนเรามันก็ดีอย่างเนอะ! มีอะไรให้ฝันถึงมากมายเหลือเกินในแต่ละช่วงเวลา ทั้งฝันถึงงานที่ทำแล้วมีความสุข ฝันถึงชีวิตดีๆ ในยามบั้นปลาย ฝันถึงสิ่งแวดล้อมดีๆ รอบตัวทั้งครอบครัวและเพื่อน และฝันถึงสถานที่อยากจะไปเยือนซักครั้ง! ทริปนี้เราพาทุกคนมาเที่ยวปารีส, ฝรั่งเศส เมืองที่ใครต่อใครก็อยากมานั่งดูวิวหอไอเฟลยามค่ำคืนและเดินเล่นเมืองสวยๆ ปารีสรอบนี้ของพวกเราจะเที่ยวแบบละมุนกว่าเดิม ไม่ได้แค่เน้นสถานที่ยอดฮิตหรือย่านฮิปของปารีส แต่เราจะเที่ยวแบบให้รู้จักปารีสมากขึ้น คุยกับคนท้องถิ่น ลองทานอาหารอร่อยๆ แบบที่ Local ชอบทาน อยากให้ปารีสรอบนี้เป็นการเดิน ทางที่ Real มากขึ้น ให้เป็นเหมือนของขวัญต้อนรับปีใหม่ที่ทุกคนสามารถตามรอยได้ง่ายๆ ตามเช็คลิสต์ที่เราเดินทางไป เป็น Paris lists for first timer และ Off the plan in Paris รีวิวนี้จะสั้นๆ เพราะอยากให้ทุกคนอ่านจนจบ และปารีสเป็นเหมือนของขวัญที่พร้อมลุยสำหรับทุกอย่างในชีวิตปีนี้
Musée du Louvre
เราเริ่มกันที่พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดที่สุดของโลก ส่วนตัวพวกเราเคยเข้าไปดูข้างในมาแล้วครั้งนึง ด้านในรวบรวมงานศิลปะและวัตถุโบราณจากทั่วโลก รวมถึงภาพยอดฮิตอย่างโมนาลิซ่าที่ทุกคนใฝ่ฝันจะมาเห็นด้วยตาตัวเองซักครั้ง แต่รอบนี้เราเปลี่ยนใจไม่เข้าไปด้านในเพราะคนเยอะมากจริงๆ ทุกคนควรแพลนเวลาล่วงหน้ามา และให้เวลาที่นี่อย่างน้อยวันนึงเต็มๆ เพื่อให้อิ่มเอมกับงานศิลปะทเดินดูเท่าไหร่ก็ไม่หมด ส่วนคนที่ชอบถ่ายรูปที่นี่ก็มีมุมสวยๆ ด้านนอกให้ถ่ายเยอะ
แต่คนก็เยอะมากเช่นกันเพราะทุกทัวร์จะต้องมาที่นี่ เพราะฉะนั้น.. หามุมให้ดีและถ่ายให้ไว!
Arc de triomphe
จาก Louvre เราสามารถเดินมาอีกนิดก็จะถึง Arc de triomphe หรือว่าประตูชัยของปารีสนั่นเอง ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อสดุดีเหล่าทหารกล้าที่ออกรบในสมัยสงครามนโปเลียนเลยนะ และยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองเพราะอยู่ตรงจัตุรัสแกนกลางอันเก่าแก่ของเมืองพอดี แนะนำว่าเดินผ่านแล้วและไปดูพร้อมช้อปปิ้งถนนรอบๆ ย่าน Champs-Élysées ก็พอไม่ต้องขึ้นไปหรอก ประหยัดเงินไว้ดูวิวที่สวยพีคกว่านี้! ที่สำคัญที่สุดคือประตูชัยนี้อยู่ตรงวงเวียนพอดีเพราะฉะนั้นจะถ่ายรูปยังไงก็อย่าลืมระวังรถกันด้วยหละ
เราแวะไปโฉบด้านหน้า Cathédrale Notre-Dame de Paris กันต่อ เอาจริงๆ ว่าไม่ค่อยอินกับสถานที่ๆ คนเยอะๆ รู้แหละว่าสวย แต่จิตใจไม่แข็งแกร่งพอที่จะไปยืนต่อคิวกันนานๆ เลยขอชื่นชมสถาปัตยกรรมแบบโกธิคของโบสถ์ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในสไตล์โกธิคในฝรั่งเศส ส่วนกระจกตัดสีด้านในนั้นเดี๋ยวเราพาไปดูอีกที่นึงดีกว่า! อ้อออ แล้วคำว่า Notre-Dame แปลว่าแม่พระ หรือพระมารดา โบสถ์นี้จึงเป็นโบสถ์ของนิกายโรมันคาทอลิก
ใกล้ๆ กับ Cathédrale Notre-Dame de Paris มีอีกที่นึงที่ถือเป็น Must See! ของปารีสเลยก็ว่าได้นั่นคือ Sainte-Chapelle หรือที่เรียกกันว่าโบสถ์น้อย หรือโบสถ์กระจกม่วง ทีนี่เล็กกว่าที่เราคิดไว้เยอะ ในภาพมันดูใหญ่โตโอ่อ่ามาก แต่ของจริงนั้นกะทัดรัดจริงๆ โบสถ์นี้มี 2 ชั้น แนะนำให้ขึ้นไปดูชั้น 2 เลยเราจะเห็นกระจกสีๆ 15 บานที่เราเรื่องเล่าของพระเยซูตั้งแต่ทรงกำเนิด โบสถ์นี้ได้ฟีลลิ่งเดียวกันกับมัสยิดที่อิหร่าน คือหวือหวาแปปนึงแล้วก็.. เออสวยดีนะ จบ 5555
Seine River Cruise
ปารีสเป็นเมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่านในเมืองและผ่านสถานที่สำคัญของเมืองค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าเราจะเห็นคนนั่งกันแน่นเรือเพราะแต่ละจุดที่จอดคือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สามารถลงไปเที่ยวได้ทั้งหมด การล่องเรือชมวิวเป็นอะไรที่ A Must เพราะราคาไม่ได้แพงจนโอเวอร์ และวิวสองข้างทางริมแม่น้ำนั้นเรียกได้ว่าเพอร์เฟคและโรแมนติกที่สุดแล้วสำหรับช่วงเย็นๆ แนะนำว่าถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือหน้าร้อนควรมาประมาณ 5 โมงเย็นเพราะแสงจะสวยที่สุดสำหรับวิว Sunset ส่วนหน้าหนาวก็แน่นอนว่าต้องเร็วกว่าเดิม.. เธอจะฟินกับวิวสองข้างทางไปอีกนาน ไม่เชื่อดูสิ!
Picnic at Eiffel Tower
ยามเช้าของปารีสนั้นโคตรละมุน ถ้าอยากมีโมเมนท์ดีๆ แนะนำว่ายอมตื่นเช้าขึ้นซักวันซื้อขนมปัง และผลไม้มานั่งปิกนิกอ่านหนังสือดีๆ ซักบท หรือศึกษาเส้นทางก่อนเที่ยวต่อทั้งวันก็ยิ่งดี Eiffel Tower เป็นแลนด์มาร์คเหมือนวัดพระแก้วที่มาถึงปารีสแล้วไม่ได้ขึ้นก็ขอให้ได้มาเห็นและถ่ายรูปด้วยก็ยังดี แต่ถ้าอยากมีความพิเศษและน่าจดจำกว่าเดิมก็ลองเผื่อเวลาแล้วมานั่ง Enjoy Moment กับ Eiffel ยามเช้ากันดูได้นะ เพราะมันตั้งอยู่กลางเมืองเลยมองไปทางไหนก็เห็น เราว่าตอนเย็นสวยกว่าตอนเช้า แต่ตอนเช้านั้นสงบและมีเวลาถ่ายรูปมากกว่า
จุดชมวิวที่มาง่ายและนักท่องเที่ยวนิยมคือ Trocadero เพราะนั่ง Metro สาย 6 หรือ สาย 9 มาลงที่สถานี Trocadero เดินตามป้าย Eiffel Tower มาเรื่อยๆ ก็เจอแล้ว ทางราบเดินสะดวกมาก แต่ระวัง! มิจฉาชีพกันด้วยนะ
เคยเป็นกันบ้างมั้ยเวลามาเที่ยวไกลๆ บ้าน แล้วก็ฉุกคิดเรื่องความปลอดภัย เป็นความกังวลอยู่ลึกๆ ว่าเราจะเจออะไรที่น่ากลัวหรือมีชีวิตรอดกลับไปมั้ย 555 เราว่ามันต้องเคยมีกันทุกคนแหละ ถามว่าเรากลัวมั้ย? ก็ตอบได้อย่างสบายใจเลยว่า เราเลือกทำประกันชีวิต Simple ของเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต เลือกทำตั้งแต่อายุน้อยๆ จ่ายเบี้ยชิลๆ เป็นประกันชีวิตที่รู้สึกว่าไม่จ่ายทิ้งเพราะว่ามีชดเชยรายได้เมื่อป่วยเข้าโรงพยาบาลด้วย ทีนี้ต่อให้เราจะเที่ยวไกลแค่ไหน จะลุยกันยังไงก็สบายใจได้ ไม่ต้องกังวลอะไรเพราะชีวิตดีๆ มีอยู่จริง
นี่คือประกันชีวิตที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างพวกเรา ที่มีไลฟ์สไตล์ของตัวเองชอบใช้ชีวิตและกำลังมองหาความคุ้มครองสุดคุ้มเป็นของตัวเองซักเล่ม ตั้งแต่อายุน้อยๆ บอกแล้วว่า FWD ไม่ใช่แค่การขายประกันแต่คือเพื่อนที่พร้อมดูแลเราให้ Get Ready to Live ตลอดเวลา
สามารถศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ดีๆ เพิ่มเติมแบบแบบละเอียดๆ ให้พร้อมสมัครทันทีที่ลิงก์นี้เลย : Link
RUE CLER – THE MOST FAMOUS MARKET STREET IN PARIS!
เรามั่นใจว่าหลายคนต้องสงสัยว่าเช้าขนาดนั้นจะไปซื้อข้าว ซื้อขนมมาปิกนิกที่หอไอเฟลได้ยังไง? เราแนะนำให้มาเดินตลาดเช้าตรง St. Rue Cler เลยที่นี่เป็นตลาดเช้าที่โด่งดังที่สุดในปารีส เดินไม่ไกลจากหอไอเฟลแนะนำให้มาซื้อครัวซองค์หอมๆ ยามเช้ากับกาแฟดำซักแก้วและผลไม้แถวนี้แหละ เป็นตอนเช้าที่มีชีวิตชีวามากๆ โดยเฉพาะเวลาเดินผ่านร้านดอกไม้อยากจะพุ่งตัวเข้าไปนอนในพุ่ม ที่นี่เธอจะได้เห็นชีวิตของคนปารีสจริงๆ ยามเช้าที่มาซื้อของกันเต็มตะกร้ากลับบ้านคนปารีสถึงกับเคลมว่าถ้ามาที่นี่.. it’s the perfect area for experiencing the Parisian way of life!
เราอยากแนะนำร้านนึงชื่อว่า Davoli เป็นร้านขายอาหารอิตาเลียนที่เปิดมาเกือบร้อยปีแล้ว! บรรยากาศของร้านก็อบอุ่นและละมุนมากๆ แฮมก็เด็ด พาสต้าและลาซานญ่ายามเช้าก็ดูสดและน่ากินไปหมด ผสมกับความใจดีและอัธยาศัยดีของเจ้าของร้านและพนักงานทำให้เรารู้สึกว่าร้านนี้น่ากินขึ้นมาอีกเยอะ! ส่วนราคานั้นก็สูงนิดหน่อยเพราะวัตถุดิบอย่างดีและอาหารที่สดใหม่ยามเช้า เราว่าเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล แนะนำให้มาลองกินหรือซื้อไปปิกนิกที่ไอเฟลก็ได้
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอแนะนำร้านเบเกอรี่และคาเฟ่น่ารักๆ อีกซัก 3 ร้านในปารีสเลยละกัน! เผื่อเพื่อนๆ จะไปกินกันอย่างร้านแรกชื่อ Café de la poste ร้านอาหารที่เหมาะแก่การมาทาน Brunch อร่อยๆ เพราะร้านนี้ใช้วัตถุดิบที่สดและอร่อยดีมาก ที่สำคัญมีบาร์ไวน์และแชมเปญสำหรับคนที่อยากแก้มแดงระเรื่อตั้งแต่หัววัน สลัดเนื้ออร่อยๆ ซักจานกับไวน์แดงซักแก้วในอากาศเย็นๆ และใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีก็มีความสุขไม่น้อยเลยนะ
ส่วนอีกร้านนึงใกล้ๆ กันในระยะเดินถึงชื่อร้าน Autour du Pain – Boulangerie ชื่อก็บอกอยู่แล้วร้านนี้เน้นขายขนมปัง เพราะที่นี่คือร้านที่เคยได้รับรางวัล Best Baguette และ Best Croissant อร่อยที่สุดในปารีสด้วยนะ เราชอบชิมแล้วก็อร่อยจริงๆ นั่นแหละ ไม่เถียงเลย
ทั้งสองร้านได้มู้ดแอนด์โทนของปารีสดีมากๆ จัดจานสวย เรียงขนมน่าทาน เหมาะแก่การแวะพักและซื้อกินจริงๆ จ้า อีกร้านนึงคือร้าน Richart มาการองที่อาจจะไม่ได้ดังมากในไทยแต่อร่อยมาก และเจ้าของเชื่อว่าช็อคโกแลตคือความสุขที่ต้องส่งต่อไป ทำให้ชื่อของเขาเป็นหนึ่งในนักทำช็อคโกแลตและขนมที่ยอดเยี่ยมติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกเทียบเคียงกับ Godiva เลยแหละ เราซื้อมาการองมาลองชิมแล้วทำให้รู้ว่า โอ้โห.. รสชาติของระดับโลกมันละมุนและดีแบบนี้นี่เอง อยากให้ทุกคนควรมาลองซักครั้ง
Tour Montparnasse
ถ้าจะบอกว่าที่นี่คือตึกชมวิวที่ดีที่สุงและสูงที่สุดในปารีสก็ไม่แปลกเลย เพราะมันดีสมคำร่ำลือและควรค่าแก่การเสียเงินขึ้นมาดูจริงๆ Tour Montparnasse หรือตึกมงปานาสเสียค่าขึ้นคนละประมาณ 18 ยูโรสำหรับผู้ใหญ่ และสามารถขึ้นไปดูได้ทั้งชั้น 56 แบบมีกระจกล้อมรอบและชั้น 59 แบบเปิดโล่งเย็นสบาย ควรมาประมาณ 4.30 น. เป็นต้นไปสำหรับหน้าร้อนเพราะจะได้เห็นวิวสองบรรยากาศทั้งก่อนพระอาทิตย์ตกดินและหลังจากตกไปแล้ว ปารีสก็โรแมนติกเหมือนเค้าว่าไว้จริงๆ *มีจุดถ่ายรูปดีๆ ค่อนข้างน้อยเพราะฉะนั้นต้องมาเร็วๆ ไม่งั้นคนจะเยอะมาก*
Pont de Bir-Hakeim
ถ้าเคยดูหนังเรื่อง Inception จะต้องจำฉากนี้ได้แน่ๆ บนสะพาน Pont de Bir-Hakeim ที่เหมือนมีโลกเสมือนกลับด้านอยู่ด้านบน สะพานนี้เป็นสะพานสองชั้น ชั้นบนสำหรับรถไฟวิ่ง ส่วนชั้นล่างให้คนเดินและรถวิ่ง ที่นี่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายหนังหลายเรื่องมากๆ เพราะเป็นอีกจุดนึงที่เห็นวิวแม่น้ำแซนด์และปารีสพร้อมๆ กันได้อย่างใกล้ชิดและสวยงาม ที่สำคัญวิว Eiffel Tower ตรงนี้ในวันธรรมดา สงบและสวยมากๆ เลยด้วย เพราะคนไม่เยอะจนเกินไป
Les Puces de Saint-Ouen Flea Market
เค้าบอกกันว่ามา Flea Market ที่นี่คือดีที่สุดในปารีส เป็นแหล่งรวบรวมของเก่าที่เก็บรักษากันเอาไว้อย่างดีมากๆ และมีคนเดินสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนคน! ที่นี่เปิดทุกวัน เสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ ตั้งแต่ช่วงเก้าโมงเช้าจนถึงห้าโมงเย็น อยู่ทางตอนเหนือของกรุงปารีสขึ้นมาหน่อย เราแนะนำให้มาตอนเช้าๆ แสงอ่อนๆ เดินดูข้าวดูของไปเรื่อยๆ เพราะช่วงหลังเที่ยงคนจะเยอะ ถ้าไม่ได้เป็นสายช็อปขนาดนั้นที่นี่ก็เหมือนการเบิกเนตรโลกของวินเทจชั้นดีเลยหละ! ถ้าไม่ติดว่ากรุงเทพอยู่ห่างจากปารีสเกินครึ่งโลกเราคงจะขนกลับมาหลายอย่างแน่ๆ ที่นี่แนะนำให้มาวันเสาร์ อาทิตย์ เพราะส่วนใหญ่ร้านจะหยุดกันวันจันทร์
อีกย่านนึงที่นักท่องเที่ยวชอบมากันเหลือเกินคือย่าน Montmartre ย่านนี้ก็มีร้านเก๋ๆ และคาเฟ่เยอะ จริงๆ สำหรับคนที่มาย่านนี้จะต้องเข้าโบสถ์แต่เราไม่เอาแล้ว 555 พักก่อน ขอแค่เอ็นจอยกับบรรยากาศดีๆ รอบๆ เลียนแบบชาวปาริเซียงเดินเล่นกินลมชมวิวและดูวีถีชีวิตก็สบายใจแล้ว เอ้อออ.. สำคัญที่สุดสำหรับย่านนี้คือดูแลทรัพย์สินของตัวเองให้ดีเพราะคนเยอะมากๆ ทำให้มีมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ด้วยตลอดเวลา ระมัดระวังและไม่ประมาทนะ
Basketball Pigalle
สนามบาสสีเจ็บเป็นอีกไฮไลท์นึงของทริปนี้ที่เราตั้งใจว่าต้องมาให้ได้! เป็นอะไรที่ดูป๊อปและทันสมัยที่สุด นี่คือสนามบาสที่ Nike ร่วมกับแบรนด์ Pigalle ออกแบบสนามบาสในพื้นที่ระหว่างช่วงตึกในย่าน Duperré ที่นี่ไล่สีโทนน้ำเงิน เหลือง ชมพูไปเรื่อยๆ ทั่วทั้งสนามบาสเลยแหละ แล้วไม่ได้ให้ดูเฉยๆ นะ ทุกคนสามารถเข้าถ่ายรูปและเล่นบาสได้จริงๆ ด้วย ถ้าอยากได้รูปเท่ๆ แปลกใหม่และมีสีสันเราแนะนำว่าห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาด
ปารีสทริปนี้ของพวกเราเป็นอีกทริปง่ายๆ ที่ออกจากกรอบเดิมๆ และได้เที่ยวทั้งในสถานที่ฮิต รวมทั้งได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวปาริเซียงอย่างใกล้ชิด ทำให้รู้ว่านอกจากสถานที่สวยๆ แล้ว รอยยิ้มและอัธยาศัยดีของเจ้าบ้านมันทำให้เมืองๆ นั้นน่าอยู่ขึ้นมากแค่ไหน ยิ่งเราออกเดินทางแบบอุ่นใจและไร้กังวลด้วยแล้ว ทำให้พร้อมเอ็นจอยและเต็มที่กับชีวิตได้ทุกๆ เมื่อ! เราอยากให้ทุกคนใช้ชีวิตกันเต็มที่ ค่อยๆ เรียนรู้เหมือนหนังสือเล่มใหญ่ที่ต้องทยอยอ่านทีละหน้าและพบกับเซอร์ไพรส์ทีละเรื่อง และให้การเดินทางเป็นเหมือนของขวัญสำหรับการใช้ชีวิต :)