เพราะความชอบในการเดินทางของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันจริงๆ! ทุกวันนี้เลยเห็นเวลาคนออกไปเที่ยวที่เดียวกัน แต่มีหลายสไตล์ บ้างสายลุย บุกป่าฝ่าดงจนบางทีก็เอามือทาบอกแปลกใจกับนางว่า “พี่ไปเที่ยวหรือพี่ไปรบคะ?” หรือบางคนก็เที่ยวหรูดูแพ๊ง แพง แต่ทุกอย่างนั้นซื้อล่วงหน้านานๆ พร้อมโปรโมชั่นแบบถูกเหมือนแจกฟรี 55555 เราเองก็เป็นอีกคนนึงที่เที่ยวได้ทุกสไตล์ขึ้นอยู่กับว่า เราอยากไปดูอะไรในประเทศนั้น หรือตั้งใจไปเพื่อทำกิจกรรมอะไรซักครั้งในชีวิต
ทริปที่เราแนะนำอีกทริปนึงที่ใครถามก็ต้องบอกว่า ‘เหมือนฝัน!’ เหมือนชั้นเป็นเจ้าหญิงในเทพนิยายที่หลุดไปอยู่อีกมิตินึง อยู่บนพระราชวังลอยน้ำที่สามารถพาเธอเดินทางไปได้ทั่วโลก ใช่แล้วจ้ะ.. ทริปนี้เราอยากแนะนำการไปล่องเรือสำราญ บางคนอาจจะเบะปากแล้วบอกว่ากิจกรรมแก่จัง อยากบอกว่าใจเย็นๆ ก่อนนะคะ พักดื่มน้ำทำใจให้สบาย เปิดใจแล้วฟังเราเมาท์ก่อนดีกว่า ไม่แน่นะ! มันอาจจะกลายเป็นอีกหนึ่ง Bucket List ที่คุ้มค่าของเธอก็ได้
Genting Dream คือเรือลำล่าสุดที่เราพึ่งล่องมาเมื่อกลางเดือนมกราคม 19 นี่เอง เราเองเคยล่องเรือมาหลายลำแล้ว แต่บอกเลยว่า Genting Dream คือลำที่เราชอบมากที่สุด เพราะทันสมัยที่สุดในเรือบรรดาเรือที่วิ่งน่านน้ำเอเชีย Genting Dream ลำนี้จะประจำอยู่ที่สิงคโปร์ และมีอีกลำนึงฝาแฝดกันคือว่า World Dream โดยเรือทั้ง 2 ลำวิ่งเส้นทางรอบเอเชีย ทั้งสิงคโปร์ ปีนัง กัวลาลัมเปอร์ สุราบายา บาหลี เวียดนามตอนใต้ ภูเก็ต สมุย ฮ่องกง โอกินาว่า เซี่ยงไฮ้ กวางโจ ฯลฯ โดยจะสลับเส้นทางไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะกินเวลาประมาณ 2 คืน 3 วัน จนนานที่สุด 5 คืน 6 วัน!
เส้นทางที่เราเดินทางล่าสุดคือ Treasure Indonesia ใช้เวลาทั้งหมด 6 วันเต็มๆ ให้เราได้พักผ่อนอย่างสบายใจ ออกเดินทางจากสิงคโปร์ช่วงบ่ายของวันแรกใช้เวลา 1 วันในการล่องในน่านน้ำสากลก่อนจะเข้าสู่สุราบายาเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของอินโอนีเซียที่เธอสามารถแวะลงไปเที่ยวได้ และเดินทางต่อสู่บาหลีตอนเหนือ ก่อนจะใช้เวลาอีก 2 วันกลับเข้าสิงคโปร์
โดยเรือส่วนใหญ่จะเริ่มจากท่าเรือในต่างประเทศนั่นแปลว่าเธอต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เพื่อมาล่องเรือด้วยตัวเอง แต่แหมมมม.. ค่าตั๋วกรุงเทพ-สิงคโปร์หรือกรุงเทพ-ฮ่องกง หลักร้อยหรือพันต้นๆ ก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ อย่าไปคิดมาก เชื่อสิว่าของถูกและดีมีอยู่จริง
เกริ่นมาซะยืดยาวขอเริ่มเมาท์เลยละกัน! เรือลำนี้ถ้าขึ้นจากสิงคโปร์จะขึ้นที่ท่าเรือ Marina Bay Port ห่างจากสนามบินประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น นั่งแท็กซี่จากสนามบินแค่ประมาณ 20SGD เสร็จแล้วแค่เช็คอินและขึ้นมาบนเรือก็ฟินแล้วฟินแล้ว แนะนำให้เลือกห้องฝั่งขวาของหัวเรือ ก่อนที่เรือออกจะเห็นวิวเมืองสิงคโปร์อยู่ลิบๆ เป็นวิว Marina Bay Sand ด้วยนะ ฟีลลิ่ง Crazy Rich Asean แบบขั้นสุดจริงๆ
Genting Dream สูงทั้งหมด 18 ชั้นใหญ่มาก และมันมีทุกอย่างที่เรียกว่าเรือสำราญโดยแท้เลยหละ เอาเป็นว่านึกอะไรออกเกี่ยวกับสิ่งที่การพักผ่อนควรมี บอกเลยว่าบนเรือมีให้จริงๆ เริ่มตั้งแต่สวนน้ำขนาดย่อม WaterSlide Park พร้อมสไลด์เดอร์ 3 รางที่คดเคี้ยวอยู่ในเรือให้ได้สนุกกันอย่างเต็มที่ แถมมาพร้อมด้วยหน้าผาจำลอง Rock Climbing Wall สำหรับคนที่ไม่กลัวความสูงให้ขึ้นไปดูวิวสวยๆ ด้านบน หรือถ้าใครอยากรับลม ท้าแดดและเพิ่มความเสียวให้ชีวิตที่นี่ก็ยังมี Zipline and Ropes Course ที่สูงกว่า 35 เมตรและสนาม Mini Golf ให้เราลอยเคว้งในมหาสมุทร
สำหรับเรื่องห้องพักที่หลายคนอาจจะกังวลมากรวมทั้งเราด้วย เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือตั้งหลายคืน เราอยากแนะนำห้องพักแบบมีระเบียง BALCONY STATEROOM ในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง แถมขนาดห้องก็ใหญ่กว่าเรืออื่นๆ นิดหน่อย เตียงขนาด Queen Size Bed โซฟา ห้องน้ำที่อุปกรณ์ครบครัน และโซฟาพร้อมทีวีที่มีภาพยนตร์เรื่องใหญ่ๆ ให้ดูตลอดทั้งวันทั้งคืนฟรีๆ พักห้องละ 2 คนสบายๆ เลยหละ
หรือถ้าชอบความพรีเมี่ยมขั้นสุดแบบที่เราได้ไปลองสัมผัสมาแนะนำเลยค่ะ The Palace ห้องพักแบบหรูหรากว่าโรงแรม 5 ดาวนึกไม่ถึงว่านี่อยู่บนเรือจริงๆ หรอ ห้องแบบ Palace นั้นมี Butler คอยบริการตลอด 24 ชั่วโมง แถมมีห้องส่วนตัวแยกส่วนกัน อ่างจากุชชี่ก็มี โต๊ะทานอาหาร ห้องดูทีวี ระเบียงดูวิวส่วนตัวพร้อมที่ให้นอนอาบแดด คือมีหมดครบทุกอย่างจริงๆ สำหรับมาฮันนีมูนหรือต้องการหรูหราไฮโซเป็นพิเศษ เชิญค่ะ The Palace เหมาะสำหรับเธอ
มาอยู่บนเรือไม่ต้องกลัวจะเหงาเลยเพราะบริเวณ Main Pool Deck สระว่ายน้ำของเรือจะมีกิจกรรมสนุกๆ มาให้ทุกคนได้รู้จักกัน เต้นด้วยกัน ตลอดทั้งวัน เราจะเห็นภาพที่น่ารัก เห็นเด็กฝรั่ง จับมือกับป้าอินเดีย เห็นสาวจีน เต้นแข่งกับสาวฟิลิปปินส์ สำหรับเราเป็นภาพที่น่ารักมากๆ เพราะทุกคนมาเพื่อพักผ่อนและสนุกด้วยกันจริงๆ บอกเลยว่าบริเวณสระว่ายน้ำกลางเรือบนชั้น 16 นี่แหละคือสิ่งที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างนึง แนะนำให้เดินมาช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน มีดีเจเปิดเพลงให้เคลิ้ม นอนดูพระอาทิตย์ตก และจิบค็อกเทลหรือไวน์แดงซักแก้ว ที่ราคาเหมือนกินในห้างเริ่มต้นแค่ 250 บาทก็เอ็นจอยได้แล้วเธ๊อ
ทุกๆ วันจะมีสิ่งที่เรียกว่า Dream Daily แจกให้กับทุกๆ คน เป็นเหมือนหนังสือพิมพ์ประจำเรือแจ้งทุกคนว่าวันนี้มีอะไรบ้าง กิจกรรมไฮไลท์ของวันนี้เป็นอะไร ดูโชว์ที่ไหนกี่โมง Happy Hour 1 ฟรี 1 ที่ชั้นไหน ที่นี่มีกิจกรรมตลอด 24 ชั่วโมงเลย ส่วนการจ่ายเงินก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะก่อนขึ้นเรือจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยเราเก็บพาสปอร์ตไว้เพื่อความปลอดภัย โดยเราจะได้คีย์การ์ดสำหรับห้องพักที่ระบุชื่อมาคนละใบ พร้อมกับใช้บัตรใบนี้จ่ายแทนเงินสดได้กับทุกๆ อย่างบนเรือ แล้วค่อยเคลียร์ค่าใช้จ่ายตอนวันสุดท้ายแค่นั้น บอกเลยว่าใช้เงินกันเพลินมากค่ะพี่ขา เอะอะ แตะบัตร เอะอะ แตะบัตร! เอ้า สนุกไปอีกกก
เอ้อ! แล้วสาย Social นี่ไม่ต้องกังวลนะคะ อินเตอร์เนตบนเรือเร็วกว่าอยู่ไทยอีกจ้ะบางที มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนิดหน่อย แต่ถ้าใครติดต่อธุรกิจและต้องเช็คอีเมล์เราก็ถือว่าคุ้ม เพราะ Wifi เร็วจนสามารถต่อ Wi-fi Calling โทรฟรีกลับประเทศหรือรับสายได้เหมือนปกติ โดยจ่ายเท่ากับแพ็คเกจค่าโทรศัพท์ที่เราจ่ายที่ไทย ถือว่าเรือใจปล้ำมากๆ ที่ให้เน็ตเร็วขนาดนี้!
บนเรือจะมีห้องอาหารฟรีที่รวมมาแล้วในแพ็คเกจด้วยกันอยู่ 3 ห้อง โดยสามห้องนี้จะมีอาหารหลายสไตล์ ทั้ง จีน ฝรั่ง อินเดีย และอาหาร Set Menu แบบ Chinese และ Western เพราะฉะนั้นเลือกได้เลยค่ะ เดินเลือกกินได้เลยว่ามื้อไหนอยากจะกินอะไร ทั้งห้องอาหารที่ชื่อ The Lido และ Dream Dining Upper and Lower เป็นห้องที่มีการจัดการที่ดีมากๆ รอคิวไม่นาน รสชาติก็กลางๆ นะ เพราะบนเรือมีหลายเชื้อชาติเค้าต้องทำให้ทุกคนทานได้จริงๆ
แต่ถ้าอยู่หลายวันและเริ่มเบื่อ ก็อีกห้องอาหารอีกเป็น 10 ร้านให้เธอเลือกทานได้ตามใจชอบเลย อย่างเราไปทานที่ห้องอาหาร Silk Road Restaurant เป็นอาหารจีนแบบ Fine Dining ทุกคอร์สเมนูนั้นหรูหรามาก เหมือนไม่ได้กินอาหารจีน แถมอร่อยอีกต่างหาก แนะนำของหวานคือรังนกกับพุทราจีน โอ้โห.. อร่อยจนนึกว่ากินข้าวในราชสำนักของวังต้องห้าม หรืออาหารญี่ปุ่นประเภท Tepanyaki ก็มีนะ ชื่อห้องอาหาร Umi Uma เป็นเทปันยากิที่กินไปแบบไม่คาดหวังเพราะบนเรือมันจะอร่อยได้แค่ไหนกันเชียว แต่เอ้า.. เนื้อดีไปอี้ก กุ้งก็แสนแน่น ผักผัดเนยก็หอม เลิศมากจริงๆ สมแล้วที่ต้องเสียเงินเพิ่ม!
ที่นี่ยังมีโชว์ที่เค้าเคลมว่าโด่งดังระดับบอร์ดเวย์ให้ดูฟรีๆ ทุกคืนที่ Zodiac Theatre จะสลับกันโชว์คืนละโชว์ เราชอบดู SONIO – A Tale of two dreams มากที่สุดเพราะยิ่งใหญ่ อลังการและตื่นตาตื่นใจ รวมทุกๆ อย่างที่ทำให้เราตาค้างได้ไว้ด้วยกัน แถมผู้ที่แสดงในโชว์ก็โอ้โห.. น้ำลายไหล แซ่บจนอยากแกล้งเป็นลมในโรงละครให้พี่เค้ามาช่วยเลยค่ะ
โมเมนท์ที่เราชอบที่สุดบนเรือคือการพักผ่อนจริงๆ ปกติเราเวลาเราไปเที่ยวจะต้องตามเก็บสถานที่สำคัญๆ แม้ว่าปากจะบอกว่าพักผ่อน แต่ก็ต้องออกไปข้างนอกบ้าง เดินทาง ไปดูนู่นดูนี่ แต่ที่นี่ทุกอย่างมันรวมอยู่ในเรือลำเดียว จะไปเล่นน้ำกดลิฟท์ขึ้นชั้น 16 อยากกินอาหารญี่ปุ่นลงไปชั้น 8 อยากกินอินเดียขึ้นไปชั้น 17 กินเยอะแล้วอยากเล่นบาสกับปีนผาไปชั้น 18 ละกัน โหย.. อากาศร้อนไปดูหนังดีกว่างั้นกดลิฟท์ลงไปชั้น7 เหมือนเป็นเมืองขนาดเล็กเมืองนึงที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพ และไม่ต้องกังวลอะไรเลยเพราะเรื่องความปลอดภัยยังเป็นอันดับหนึ่งเสมอ ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว!
สายปาร์ตี้ก็ห้ามพลาดเพราะมีบาร์มากกว่า 10 แห่ง มีเปิดทั้งคืนและเปลี่ยนแนวดนตรีไปเรื่อยๆ แถมยังยกผับชื่อดังของสิงคโปร์อย่าง ZOUK ขึ้นมาไว้บนเรือด้วยนะ! เต้นกันให้มันส์ทั้งวันทั้งคืนไปเลยจ้ะ แถมมีลานโบว์ลิ่งเรืองแสงให้เล่นไปอีก และมีทั้ง ZOUK ที่เป็นโซนแดนซ์มันส์ๆ กับ ZOUK Beach Club ที่จำลองบรรยากาศชายหาดไว้ท้ายเรือมีโซฟานุ่มๆ ให้นอนดูหนังเพลินๆ รับลมเย็นๆ และดูพระอาทิตย์ตกดินก็เก๋!
ยังมี JOHNIE WALKER HOUSE ให้ลองทำวิสกี้กันแล้วหมักเก็บไว้บนเรือ หรือบาร์ซิกการ์ที่ห้ามเข้ามาสูบบุหรี่เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสูบได้แต่เฉพาะซิกการ์เท่านั้น เป็นความพรีเมี่ยมแบบมีสไตล์ที่อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัสเองซักครั้ง และมี BAR360 บาร์ที่ไม่ว่าจะอยู่ชั้น 6 7 หรือ 8 ก็สามารถดูโชว์กันได้แบบ 360 องศา ทั้งดนตรีสด กายกรรมจากเมืองจีน หรือนั่งเสี่ยงโชคกับตู้สล็อตอยู่ห่างๆ ก็หยอดกันเพลินอยู่ค่า!
เด็กน้อยทั้งหลายก็ไม่ต้องกลัวเหงาเพราะมีกิจกรรมให้ทำทั้งวันจนเหนื่อย ทั้งห้องตู้เกมส์ที่เริ่มต้นเกมส์ละ 50 บาท บวกกับเล่นสวนน้ำกลางทะเลก็ฟินๆ กันไป พ่อแม่เห็นลูกหัวเราะคิกคักก็ยิ้มปลื้มใจกันใหญ่ ส่วนวัยรุ่นอย่างพวกเราถามว่าตอนกลางวันทำอะไรอะหรอ? ก็นอนดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ มี Lounge นึงที่เราชอบมากๆ ชื่อว่า Palm Court เป็นเหมือนห้องรับแขกอยู่บริเวณหัวเรือชั้นบน เบาะนุ่ม โซฟานิ่ม ยิ่งวันไหนอากาศดีๆ มองทะเลออกไปสุดลูกหูลูกตาคือสัมผัสได้ถึงความชีวิตจริงๆ อะ!
บนเรือยังมีโรงภาพยนตร์ และจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ให้ทุกคนได้ล้อมวงนั่งดูหนังด้วยกันอย่างสนุกสนานหรือใครอยากทำสวยก็มีสปาและซาลอนให้ทำ ส่วนใครที่อยู่บนเรือหลายวันแล้วกลัวไม่ฟิตแอนด์เฟิร์ม ที่นี่ก็ยังมีฟิตเนสเปิดตลอด 24 ชั่วโมงเลยด้วย!
เราได้มีโอกาสเข้าไปชมห้องบัญชาการของกัปตันเรือ มันน่าตื่นเต้นมากๆ และขนลุกที่สุดเพราะแต่ละคนจะมีจอของใครของมันคอยดูความปลอดภัยและเส้นทางการเดินเรือตลอด 24 ชั่วโมง แถม Officer บนเรือหล่อมากกกกกกกกกเลยค่ะคุณ
นี่คือสวรรค์ลอยน้ำที่ใครๆ ก็มาสัมผัสได้ด้วยตัวเองซักครั้ง อยากให้เก็บมันไว้เป็นอีกหนึ่ง Budket list ที่ควรทำ การมาล่องเรือไม่ใช่กิจกรรมของคนแก่ ไม่ใช่การล่องเรือแบบในแม่น้ำเจ้าพระยา หรือล่องแบบน่าเบื่อๆ แต่ที่นี่มันมีเรื่องให้เราตื่นเต้นทุกวัน สนุกสุดเหวี่ยงตลอด 24 ชั่วโมงไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน อยากให้ลองมาซักครั้ง มันไม่ได้แพงอย่างที่คิดจริงๆ แถมยังสามารถเลือกจุดเริ่มต้นการขึ้นเรือได้ทั้งที่สิงคโปร์ และฮ่องกง ในราคาเริ่มต้น 3 วัน 2 คืนแค่หลักพันเท่านั้นเอง
เอ้ออ! แล้วพิเศษที่สุดสำหรับเรือลำนี้คือมีพลุให้ดูด้วย เป็น Experience ดีๆ สำหรับคนที่ล่องเรือเกิน 3 คืนขึ้นไปจะเป็น Firework experience at sea ครั้งแรกของเธอกันเลย
ไว้มีโอกาสเราจะพาไปล่องเรือเส้นทางสวยๆ พร้อมแนะนำให้ลงไปเที่ยวต่อที่จุดไหนดีบ้างดีกว่า! ทั้งสิงคโปร์ ปีนัง สมุย มะละกา ฮ่องกง ฟิลิปินส์ บรูไน โคตาตินาบาลู เวียดนาม โอกินาว่า และอีกหลายเส้นทางพิเศษ แต่รอบนี้เชิญสนุกแบบสบายๆ เยี่ยงราชนิกูลบนเรือที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชียอย่าง Dream Cruise ไปก่อนละกันนะ
ถ้าเพื่อนๆ สนใจทัวร์เรือสำราญราคาพิเศษแบบเราสามารถติดต่อและเลือกโปรแกรมทัวร์ได้ที่…