Now Reading:

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

หลายๆคนรู้จักมาเก๊า แต่คงไม่รู้หรอกว่ามาเก๊าเป็นเมืองที่มีความอาร์ตเข้มข้นในสายเลือด เพราะมันมักจะถูกนำเสนอในด้านอื่นซะมากกว่า อะไรก็คาสิโน คาสิโน คาสิโน เอาจริงๆ เราว่าคาสิโนมันเป็นส่วนหนึ่งของความอาร์ตของที่นี่ ทำให้มันมีเสน่ห์มากขึ้น แต่มันยังมีอีกหลายมุมที่มาเก๊า เมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมจากจีนและโปรตุเกสเข้าด้วยกัน อย่างรอบนี้ที่เราไป เราไปในช่วงที่มี Macao Arts Festival ครั้งที่ 27 พอดี เลยมีงานศิลปะมาแสดงกันเพียบ ยังไม่เคยรู้จักด้านนี้ของมาเก๊าใช่มั้ย มา เดี๋ยวจะพาไปรู้จัก นอกจากจะพาไปดูงานอาร์ตแล้ว จะพาไปหาที่กินด้วย ป่ะ!!

แนะนำก่อน มาเก๊าเป็นเมืองเล็กๆที่แบ่งออกเป็น3ส่วนหลักๆ ก็คือเกาะมาเก๊า เกาะไทปา และเกาะโคโลอาน การเดินทางสามารถเดินทางได้ด้วยรถเมล์และเดินเอา อย่าเพิ่งกลัว คือมันไม่ลำบากหรอก เพราะเกาะมันเล็กมากๆ ถ้าอยากเดินทางแบบเป็นส่วนตัวจริงๆ จะเช่ารถขับเองก็ได้นะ แต่มันแพงนิดนึง วันนึงอาจจะตกที่ประมาณ5000+ บาทอะ อีกอย่าง ถนนหนทางในมาเก๊ามีทางวันเวย์เยอะมาก หากไม่ชำนาญเส้นทาง เลี้ยวผิดทีเดียวอาจจะเสียเวลาเยอะ ดังนั้นเราแนะนำให้เดินและใช้รถเมล์ดีที่สุด

เอ้อ เกือบลืมบอก! ,สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนไทยในการมาเที่ยวมาเก๊าที่ควรพกติดตัวเสมอ ห้องน้ำที่นี่ถึงจะไม่กาก แต่ว่าตั้งแต่ร้านอาหารเก่าๆไปจนกระทั่งโรงแรมห้าดาว มันจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือไม่มีที่ฉีดตูด บางที่ไม่มีทิชชู่ให้ด้วย เศร้า

เริ่มที่การแหกตาตื่นตีสามเพราะเครื่องออกหกโมงเช้า ถึงสนามบินมาเก๊าตามเวลาที่โน่นคือ10.30น.(เวลาเค้าเร็วกว่าเราชั่วโมงนึง) ที่สนามบินจะมีซิมการ์ดขาย ซึ่งเราไม่ซื้อและบอกเลยว่าไม่ค่อยจำเป็นเพราะในมาเก๊ามีจุด free-wifi เยอะมาก ให้เอาเวลาที่จะไปพิถีพิถันเลือกซิมเนี่ย เข้าไปที่บูธของการท่องเที่ยวมาเก๊าในสนามบินแทน ในนั้นจะมีข้อมูลที่โคตรอัพเดตไว้บริการ ไปตรงไหนดี ที่ฮิปล่าสุด คาสิโนไหนแจ๊คพอตแตกบ่อยสุดก็ว่ากันไป เข้าไปถามข้อมูล เส้นทางได้ที่นี่เลยแหละ

MACAO, Creative City.

ช่วงที่เราไปมันมีเจ้าเป็ดยักษ์สีเหลือง(Rubber Duck )มาออนทัวร์พอดี มีหรือจะพลาดอยากเห็นของจริงมานาน เราเคยไปดูที่ฮ่องกงมารอบนึง ตอนไปดูมันแฟบให้ดูด้วยนะ เพราะยางแตก 55555 มาถึงมาเก๊าเราพุ่งไปที่นี่เป็นที่แรกเลย 555 เจ้าเป็ดนี่เรียกรอยยิ้มจากคนมาเก๊าได้เยอะจริงๆ คนแห่กันไปถ่ายรูปยิ่งกว่าดารา ใครๆอาจจะบอกว่าเป็ดยางเหรอหนองประจักษ์ที่อุดรก็มี แต่เฮ้ยมันคนละฟีลกันปะว้า นั่นมันอุดร นี่มันฟีลลิ่งอินเตอเนชั่นแน้ลโว้ยยยย  อันนี้เป็นเป็ดยางฉบับออริจินัลที่ออนทัวร์ทั่วโลกมาแล้วตั้งแต่ปี 2007 แถมตัวนี้ถ้าพายุเข้าไม่บินใส่ใครแน่นอน แต่มันจะตายด้วยตัวของมันเอง ฟิ้วววววว
MACAO, Creative City.

ตอนมันมา มันตั้งอยู่หน้า Macao Science Center ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งสำคัญแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเกาะมาเก๊าครับ(เกาะที่อยู่ข้างบนสุด) ข้างในพิพิธภัณฑ์ก็จะมีงานจัดแสดงที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ อย่างตอนเป็ดยางนี่มา ก็จะมีนิทรรศการของเจ้าเป็ดยาง ข้างในก็จะมีเกมให้เด็กๆเล่น คนมาเก๊าเค้าชอบพาลูกพาหลานมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์อะไรแบบนี้แหละ น่าร้ากโนะ ดูเป็นอะไรที่คิ้วมาก เดินดูเป็ดงี้

ด้านข้างของ Macao Science Center จะมีต้นไม้ใหญ่ๆรูปหัวใจ (Heart Tree) คนมาเก๊าที่พาลูกพาหลานมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ก็มักจะมาถ่ายรูปกับสิ่งนี้ด้วย ถึงแม้เราจะมองมันเป็นแค่ต้นไม้รูปถั่ว แต่เอาเหอะ แค่การมายืนถ่ายรูปก็ทำให้ได้รับรอยยิ้มแบบง่ายๆกลับไปละ

MACAO, Creative City.

มาเก๊า(Macau Tower) หอคอยมาเก๊าเป็นสถานที่ที่ใครหน้าไหนมาเที่ยวมาเก๊าก็ต้องเจออะ เพราะมันสูงเด่นมาก เวลาขึ้นไปก็ไม่ได้มีแค่วิวให้ดูนะ มันมีทั้งกิจกรรมปีนยอดหอคอย สกายวอล์ก สกายจัมป์ และบันจี้จัมป์ที่ความสูง233เมตร mี่นี่เลยแตกต่างจากจุดชมวิวทั่วๆไป เพราะมีกิจกรรม Extreme ให้เล่นเยอะดีเหมือนกัน

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

ด้านบนของหอคอยมาเก๊าเป็นห้องอาหารที่เห็นวิว360องศาด้วยนะระหว่างกิน ที่นั่งก็จะหมุนไปเรื่อยๆ นั่งกินซัก1 ชั่วโมงก็หมุนเกือบครบ 360องศา เห็นวิวมาเก๊าจนทั่วอะมันจะค่อยๆ หมุนอาจจะไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่วิวที่เห็นเปลี่ยนแน่นอน ไม่ได้หมุนเร็วจนอยากอ้วกนะ

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

รอบนี้เราพักที่ Mandarin Oriental Macao ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหอคอยมาเก๊าซักเท่าไหร่ เห็นปะ วิวจากห้องนอนเห็นหอคอยมาเก๊าชัดเลย กิกิ ให้อารมณ์เหมือนสาวในโฆษณาครีมทาผิวที่ชอบยืนแอคติ้งเล่นใหญ่ดูริมกระจกห้องนอนของโรงแรมแล้ววิวข้างนอกเป็นมหานครใหญ่ๆ 55555555

MACAO, Creative City.

อย่างที่บอกตอนแรกว่าจะไปเที่ยวดูอะไรอาร์ตๆ แพลนถัดไปของเรานั้นมีชื่อว่า Micro-Shakespeare จัดอยู่ที่ Jorge Alvares Square เป็นงานแสดงศิลปะจากสเปนที่เจ๋งมากกกกก แต่ว่ามันไม่มีคนมาแสดงให้เราดูนะ เราต้องเล่นเองดูเอง คืองี้ มันเป็นบูธหลายๆบูธที่มีอุปกรณ์ง่ายๆตั้งอยู่อย่างเช่นขวดน้ำหอม แปรง ลิปสติก ช้อนส้อม ขวดแชมพู และอื่นๆ เวลาเล่นจะต้องใช้คนสองคน คนนึงเป็นคนเล่นละคร อีกคนเป็นคนดู
เราก็ไปจับคู่ต่อแถวกับเพื่อน ตกลงกันก่อนว่าเราจะเป็นคนเล่น ส่วนเพื่อนจะเป็นคนดู เมื่อมาที่บูธเราต้องสวมหูฟัง จากนั้นผู้ดูแลงานก็จะกดปุ่มเล่นเทป แล้วการแสดงก็จะเริ่มขึ้นทันที ในมุมมองของคนเล่น เราไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น จะมีแค่เสียงบอกให้เราหยิบสิ่งโน้นสิ่งนี้บนโต๊ะ จับมันวางตรงนั้น จับมันเดิน จับมันจูบกัน เก็บมันลงไป หยิบสิ่งใหม่ขึ้นมา จับมันนอน หรือจับมันตีกันเหมือนมันกำลังโกรธกันเอง แต่ในมุมมองคนดู จะมีเสียงเล่าบทประพันธ์ของ Shakespeare เรื่องที่เราได้เล่นคือเรื่อง Romeo & Juliet เพื่อนเรารู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่เราไม่รู้อะไรเลยนอกจากการจับแปรงและลิปสติกมาเต้นรำข้างๆกัน จูบกัน และวางมันเหมือนนอนตายข้างๆกันในตอนจบ เออออออ…ยากดี บางทีก็งงเหมือนกันว่าคนเรานี่ต้องอาร์ตมากขนาดนี้เลยหรอ แต่แนะนำให้ไปลองนะของดีๆ

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

ร้านแรกที่อยากจะแนะนำคือ Solmar ซึ่งเป็นร้านอาหารมาคานีส (Macanese) พูดง่ายๆก็คือแบบจีนผสมโปรตุเกสนั่นแหละ อาหารของเค้าจะไม่จืดๆ จางๆ แบบอาหารจีนทั่วๆไป แต่จะมีการใช้เครื่องเทศ อาหารจะมีรสชาติเผ็ด แต่ว่าไม่ใช่เผ็ดแบบที่คนไทยเคยชินกันหรอก เผ็ดมันๆ เค้าเอาปูมาให้ดูด้วยนะ น่ารักแมะ ผูกโบด้วยเกือบกินไม่ลง แต่พอนึกถึงเนื้อมันที่หวานหอมแล้วนี่อยากจะวิ่งไปแกะโบออกเลย

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

ปูผงกะหรี่ของร้านนี้เสิร์ฟพร้อมกับถุงมือพลาสติกครับ ได้ฟีลลิ่งไก่เกาหลีเคียวโชนมากๆ กลิ่นเครื่องเทศนี่นำมาเลย แต่ละเมนู Macanese ของร้านนี้ทานไม่ยาก อร่อยด้วย เป็นร้านแนะนำหากใครมาเที่ยวเล่นแถวๆโซน Senado

MACAO, Creative City.

กินเสร็จก็มืดพอดี นั่งรถไปดูงานศิลปะชิ้นต่อไปครับ นั่นก็คือการแสดง Tao Dance ที่ Macao Cultural Centre Grand Auditorium นี่ก็จินตนาการไปก่อนละว่าแม่ง ต้องเหมือนเล่นงิ้วแน่นอน หน้าผมจัดเต็ม เล่นใหญ่เป็นฮงเฮากับนางสนมสายแบ๊ว แต่ผิดคาดเพราะลักษณะการเต้นคือจะมีคนมายืนเรียงๆกัน จากนั้นทุกคนก็จะทำท่าเหมือนตุ๊กตาเป่าลมเต้นๆ หน้าโชว์รูมรถยนต์และบ้านจัดสรรอย่างพร้อมเพรียงกัน ขอย้ำว่าพร้อมกันมาก ไม่มีใครหลุดเลย เต้นอยู่แบบนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงแบบไม่มีเพลงให้จังหวะอะไรเลยนะ จากนั้นก็พัก10นาที พักเสร็จกลับมานั่งดู มันก็ยังเต้นแบบเดิมอีกครึ่งชั่วโมง โอ้โห งงไปเลย คืออาร์ตจริง เกิดมาเพิ่งเคยดูอะไรอาร์ตเบอร์นี้ อึ้งไปเลยค่ะคุณผู้ชม!

MACAO, Creative City.

ในนั้นเค้าไม่ให้ถ่ายรูป แต่ลักษณะการเต้นก็แบบในรูปนี้แหละ เราถ่ายโบชัวร์มาให้ คือมันเหวี่ยงหัวกันจนครบ2องค์ องค์ละครึ่งชั่วโมงอะ ยอมใจ เป็นศิลปะที่เข้าใจยากจริง กลับไปนอนที่ยังกลัวใจตัวเองลุกขึ้นมาเต้นบนเตียงกลางดึกอยู่เลย ฝังใจและติดตามาก 55555
MACAO, Creative City.


เช้าวันใหม่หลังจากแวะไหว้พระไหว้เจ้าที่วัดกวนอิม ได้กลิ่นธูปติดตัวทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนผู้มีบุญมากๆ อิ่มเอมเหลือเกินนนนน เรานั่งรถไปสูดอากาศสดชื่นกันที่ ประภาคารเกีย (Guia Lighthouse) ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาเกีย ประภาคารมันอยู่สูงและต้องเดินกันพอสมควร ถ้าจะมาเราแนะนำให้ขึ้น Cable Car ไปดีกว่า ราคาค่าบริการของ Cable Car อยู่ที่$3ต่อ1เที่ยว(หรือเกือบๆ15บาท) และ$5หากซื้อตั๋วแบบไปกลับ(หรือเกือบๆ25บาท) ซื้อเหอะ จริงๆ สบายกว่าเยอะ 555 MACAO, Creative City.

ด้านบนนอกจากมันจะมีประภาคารเกีย เป็นประภาคารแบบตะวันตก รอบๆมีปืนใหญ่โบราณไว้ป้องกันเมือง และดูวิวสวยๆ รอบเมืองกันแล้ว มันก็จะเหมือนมีสวนสาธาณะให้คนมาเก๊าออกมาเริงปอยกันสนุกสนาน สนามเด็กเล่นที่จัดไว้เป็นอย่างดี ถนนดีๆ สำหรับวิ่งเล่นออกกำลังกายแบบที่บ้านเราไม่ค่อยมีนั่นแหละ 5555 ส่วนตัวเราชอบมาเดินดูอะไรแบบนี้เพลินๆ นะ มันเห็นวิถีชีวิตที่มีชีวิตชีวาของคนที่นี่ดีออก

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

แพลนถัดไปก็ยังดูเป็นสายชิวก็คือการไป Tap Seac ที่นี่จะเป็นลานกว้างๆ สำหรับจัดกิจกรรม(แต่ก่อนมันเคยเป็นสนามฟุตบอล) เออที่นี่แปลกอย่างนึง ตอนเราไปมันช่วงเที่ยงๆพอดี แล้วโรงเรียนแถวนี้เค้าปล่อยเด็กออกมาหาไรกินกันข้างนอกโรงเรียน เด็กเดินกันว่อนเลยอะ บางคนก็ไปซื้ออะไรกินเอาตามข้างทางกับเพื่อน บางคนก็กลับบ้านไปกินกับครอบครัว ที่โรงเรียนเค้าไม่ทำอาหารเที่ยงเหมือนบ้านเรา
MACAO, Creative City.

แถวนี้จะมี Lai Kei ice-cream เจ้านี้เป็นเจ้าที่ดังมาก ใครอยากกินลองเสิชแผนที่ดู อธิบายไม่ถูกเพราะแถวนี้มันมีตรอกเยอะไปหมด กลับมาที่เรื่องไอติม เมนูขึ้นชื่อของเค้าคือไอติมที่ห่อด้วยเวเฟอร์ ซื้อมาก็จะมาในแพคเกจเก่าแก่แบบนี้ พอกัดไอติมเข้าไปคำแรกงงนี่งงอะ คือว่าแม่งมีไอติม3รส ทรีอินวัน แล้วเป็นรสที่ไม่เข้ากันด้วยนะ อันนี้รสวานิลลา กาแฟ และมะม่วง วานิลลากับกาแฟยังพอเข้าใจ แต่มะม่วงนี่มายังไงวะ เหมือนกินซีเรียลตอนเช้ากับเบียร์ลีโอ
MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

แล้วในโรงแรม Mandarin Oriental Macao จะมีภัตตาคารชื่อ Viva Rica Restaurant เป็นร้านอาหารแนวตะวันตก อันนี้เปิดด้วยอาหารทะเล เป็น Appetizer อร่อยฉิบหาย เป็นรสชาติที่ตักเข้าปากปุ๊ปนี่นั่งเรียบร้อยเป็นผู้ดีตีนแดงเลย ไม่กระโตกกระตากอีกเลย 55555  แล้วมันจะมี Stone Soup คือมันมาเป็นซุปปกติแหละ แต่เค้าจะใส่มัน(ที่หน้าตาเหมือนก้อนหิน)ลงไปทีหลัง พอใส่ปุ๊บซุปก็กลายเป็นสีดำ เมนูนี้เป็นกิมมิคจากนิทานที่คนรุ่นก่อนๆเล่ากันมา อยากรู้เรื่องราวลองเสิช Stone Soup ดู อืมขนาดซุปยังมีนิทานอะคิดดูละกัน

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

เราไปเดินย่อยที่ บ้านขุนนางจีน (Mandarin House) บ้านนี้จะเป็นบ้านเก่าๆขนาดโคตรใหญ่ เอาจริงๆเรียกคฤหาสน์ดีกว่าถ้าจะใหญ่ขนาดนี้ ศิลปะเค้าเป็นแบบผสมผสาน เห็นปะ จะจีนมันก็ไม่จีนสักทีเดียว พวกประตูหน้าต่างมันก็ไม่จีน ดูงงๆผสมๆ กัน แต่ได้อารมณ์เหมือนเดินในเมืองไคฟงของเปา บุ้น จิ้นอยู่นะ ถามว่าเคยไปหรอ ก็ไม่ แต่มโนเอา

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

มามาเก๊าก็คงพลาดทาร์ตไข่ไม่ได้เนอะ มันเป็นขนมขึ้นชื่อของที่นี่ เจ้าออริจินัลชื่อว่า Lord Stow’s Bakery ตั้งอยู่ในโซนเกาะโคโลอาน หรือเกาะที่อยู่ทางใต้สุดของมาเก๊า ถึงจะชื่อว่า Lord Stow’s แต่เจ้าของไม่ใช่ท่านลอร์ดอะไรนะ เค้าเอาคำว่า Lord มาใส่ให้คูลๆเฉยๆ ร้านนี้จะเป็นร้านเล็กๆ คนแน่นตลอด แต่รอไม่นานหรอก เดินเข้าไปในร้านจะได้กลิ่นหอมมากๆ ทาร์ตไข่อร่อยดีนุ่มนิ่ม ไม่หวานเกินไป เหมาะซื้อไปฝากที่บ้าน เอาเข้าเตาแป๊บๆก็กินได้ เราเคยซื้อกลับไปฝากที่บ้านเวลาเอาขึ้นเครื่องต้องถืออย่างระมัดระวังหน่อย ถึงเอาไว้บน head cabin มันก็แหลกได้นะจ้ะ แนะนำว่าให้เอาไว้ใต้ที่นั่งจะดีกว่า

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.


ข้ามไปฝั่งโคโลอานกันบ้าง โซนเกาะโคโลอานเป็นโซนที่เดินเล่นได้เพลินๆ อยู่ติดทะเล มีร้านกาแฟชิวๆ จะเดินเล่นชมบ้านช่องเลียบทะเลไปก็ได้ จริงๆ เราชอบมาเที่ยวฮ่องกง-มาเก๊าในช่วงปลายปีนะ เพราะอากาศมันจะเย็นสบาย เดินเล่นได้ทั้งวันเลยแหละ
MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

บนเกาะมีอยู่ร้านนึง ชื่อว่า Café Nga Tim ซึ่งเป็นร้านอาหารโคตร Local ในโซนของเกาะโคโลอานรสชาติแปลกประหลาดมาก ไม่เคยกินอะไรรสชาติแบบนี้มาก่อน รสชาติคือเหมือนทำเครื่องเทศหกอะ รสจัดมาก รสชาติเข้าใจยากกว่าร้าน Solmar เมื่อวานนี้เยอะครับ ใครอยากลองทานอาหารแบบLocalจริงๆ ลองมาที่นี่ดู Café Nga Tim เปิดหูเปิดตาดี แนะนำว่าให้มาลองเลย

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

มามาเก๊าก็ต้องมาดูน้ำพุฟรี เราแนะนำให้มาที่โรงแรม Wynn หน้าโรงแรมจะมีโชว์น้ำพุทุก 15 นาที สวยและอลังการเว่อ มาเก๊าเป็นเมืองที่ไม่หลับไม่นอนไฟสว่างยันเช้า เราเดินไปเรื่อยๆจนถึง Senardo Square บรรยากาศกลางคืนบ้าง คนก็ยังเยอะอยู่

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

เวลากลางคืนยังมีของกินขายบ้างประปราย ของทานเล่นใน Senardo Square ก็จะเป็นพวกลูกชิ้นโอเด้งพวกนี้แหละ เราก็เลือกๆแล้วเอาให้เค้าลวกให้ อร่อยดี บางไม้มีไส้ข้างในด้วย

MACAO, Creative City.

อีกสิ่งนึงที่พบเจอได้บ่อยๆคือร้านขายน้ำสมุนไพร ซึ่งก็จะมาเป็นรถเข็นเล็กๆ เวลาคนมาซื้อก็คือยืนดื่มและคืนแก้วตรงนั้นเลย เราไม่ได้ลองชิมหรอก ภาษาอังกฤษสักตัวก็ไม่มี เลยไม่กล้าเสี่ยงจิ้ม

MACAO, Creative City.

เดินมั่วมากกว่าจะมาเจอ ร้านนี้เป็นร้าน Local สุดๆ ไม่มีแม้กระทั่งเมนูภาษาอังกฤษ คือจีนทั้งร้าน แถมคนขายพูดอังกฤษไม่ได้ เราเลยต้องให้ลูกค้าท่านหนึ่งในร้านช่วยสั่งอันที่คิดว่าน่าจะรอดให้ สั่งมา3อย่าง ถ้วยแรกเป็นบัวลอยงาดำน้ำขิง อีกถ้วยเป็นมะม่วงที่โปะอยู่บนไอติม อีกชามเป็นแห้วในน้ำอะไรสักอย่าง(คือไม่รู้จริงๆเพราะอ่านไม่ออก กินเข้าไปก็ยังไม่เข้าใจรสชาติ 555) จะบอกว่าอร่อยก็ไม่ใช่อะ ไม่อร่อยก็ไม่ใช่อีกอยู่ดี
MACAO, Creative City.


อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่เราไปเดินดูคือ  Old Court Building งานศิลป์ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นรูปภาพ มีรูปปั้นบ้างประปราย ดูง่ายๆ เพลินๆ นี่ตั้งแต่เจอการเต้นแบบตุ๊กตาเป่าลม1ชั่วโมงเต็มไปเมื่อวันแรกก็ไม่รู้สึกว่ามีศิลปะแบบไหนที่ย่อยยากอีกแล้ว
MACAO, Creative City.
จากนั้นก็ไปแลนด์มาร์กสำคัญอีกแห่ง ใครมามาเก๊าไม่แวะไม่ได้ นั่นก็คือซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul) คนเยอะโคตรรรรร ถ่ายไปนี่ติดแต่อาม่าอาซิ้ม ที่มันเหลือแต่ซากเพราะว่ามันโดนไฟไหม้ จริงๆมันได้รับการบูรณะมาแล้ว แต่ไฟก็ไหม้อีก เค้าเลยปล่อยทิ้งไว้แบบนี้แหละ
MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.
ถนนในแถบนี้มีทางลาดขึ้นลงเยอะมาก และบ้านช่องแต่ละหลังก็จะมีสีสันแบบไม่แคร์เพื่อนบ้านอะ พอมาอยู่ด้วยกันก็เลยดูไม่ค่อยปรึกษากันเท่าไหร่ ลักษณะของสีสันบ้านเหล่านี้ก็มาจากโปรตุเกสนี่แหละ เค้าจะชอบให้บ้านมีสีสันสดใส โดยเฉพาะพวกสีพาสเทลทั้งหลาย
MACAO, Creative City.
บริเวณใกล้ๆกันจะมีถนนคู่รัก หรือ Travessa da Paixao ซึ่งเป็นถนนสีมุ้งมิ้ง กำแพงสีชมพู-เหลือง
MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.
เดินไปอีกนิดหน่อยก็หลงเข้ามาในโซนๆนึงครับ เป็นโซนครีเอทีฟ ด้านในก็จะมีร้านหลายๆร้านที่เน้นขายความคิดสร้างสรรค์
MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.
ทั้งหมดนี้คืออยู่รอบซากโบสถ์เซนต์ปอลหมดเลยนะ มันเดินทะลุกันได้หมดเลย รอบๆซากโบสถ์มีของกินเยอะโคตร ทั้งปลาหมึกย่าง ทาร์ตไข่ โอเด้ง และหมูแผ่น
MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.

ร้านหมูแผ่นเป็นอะไรที่พบเจอได้บ่อยมาก อยู่ทุกถนนอะ เราสามารถไปขอชิมได้ จะมีพนักงานคอยตัดให้ชิม แล้วคือตัดชิ้นใหญ่ๆให้ชิมกันแบบไม่เสียดายเลย เดินชิมหมดทุกร้านคงอิ่มพอดี อร่อยนะ มีหลายรสชาติ แต่เรื่องราคา ก่อนควักตังซื้อต้องคิดนิดนึง เพราะมันแอบแพง แผ่นนึงก็ประมาณ 70 เหรียญ หรือประมาณ 300+ บาท


เราไปลองทานอารหารจีนกวางตุ้ง แบบโมเดิร์นที่โรงแรม MGM มาด้วยแหละ คือไม่เหมือนอาหารจีนที่เคยกินมาทั้งหมดทั้งมวล จัดจานมาเหมือนอาหารฝรั่งชัดๆ นี่ก็ตื่นเต้นจะกินยังไงให้ดูคูลที่สุดที่วะ ไม่มีฮะเก๋า หนมจีบแบบซ้อนเป็นคอนโดมาให้เลยหรอ มีพอจิ้มลิ้มน่ารัก แต่อร่อยนะต้องไปลองกินเลยแหละ แนะนำ

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.
โถงใหญ่ในโรงแรม MGM (หรือ Grande Praça) ตกแต่งสวยมากเลยนะ เราว่าควรแวะมาถ่ายรูปอะ เป็นโถงกว้างๆ ดูแล้วนึกว่าปราสาทดิสนีย์ ตรงกลางของโถงจะมีอะควอเรียมอยู่ มีปลาเต็มตู้ไแหวกว่ายเป็นดอรี่ขี้ลืมกันได้นะฮ้า
MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.
เราข้ามไปที่เกาะไทปากันก่อนกลับ มีสถานที่สำคัญอีกอย่างคือ Taipa Food Street ที่นี่มีของกินและของฝากเยอะมาก ถ้าคุยกับคนมาเก๊า ให้เรียกถนนนี้ว่า Rua do Cunha นะ เพราะถ้าพูดว่า Taipa Food Street เค้าอาจจะไม่รู้เรื่อง อาหารการกินเยอะมาก อิ่มอร่อยกันเลยทีเดียว ที่นี่เหมือนตลาดกลางคืนของไต้หวันอะเราว่า ของกินมันเยอะดี
MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

เออมีร้าน Antica Trattoria ร้านนี้เป็นร้านอาหารอิตาเลียน ต้องไปลองกันเลย ห้ามพลาดเด็ดขาด ตำแหน่งจะอยู่ใกล้ๆกับโรงแรม MGM มาเก๊าครับ ห่างไปแค่บล็อกสองบล็อก เรื่องรสชาตินี่อร่อยทุกอย่างนะ แนะนำเลย จานแรกเป็นทูน่ารมควัน ส่วนพิซซ่าก็ตามแต่จะชอบเลยจ้ะ บอกเลยว่าเด็ดมากกก

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.

ก่อนกลับเราแวะไปอีก 2 พิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆ คือ Grand Prix Museum กับ Wine Museum ด้วยความที่มาเก๊าเป็นเมืองที่มีจัดแข่งรถทุกปี แล้วเวลาแข่งก็แข่งกันในเมืองนี่แหละ พิพิธภัณฑ์นี้ก็จะมีรถแข่งโชว์อยู่ ตั้งแต่แบบโบราณจนถึงสมัยปัจจุบัน ส่วน Wine Museum หนะหรอ 5555 ไม่อยากจะพูด ดูผ่านๆ สนใจตอนสุดท้ายที่เค้าให้ชิมไวน์อย่างเดียวนั่นแหละ อู้หูววววว เริงเมืองมาก รสชาติสดชื่นจนอยากว่ายน้ำข้ามไปฮ่องกง ไม่ต้องพึ่ง Cotai Jet เลยแหละ 555555

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.
MACAO, Creative City.
นี่ก็เป็นมาเก๊าในมุมอาร์ตๆ อีกมุมนึงที่ส่วนใหญ่ไปแล้วอาจจะไม่ค่อยนึกถึง ว่าเมืองนี้มันมีที่ชิวเยอะขนาดนี้ คิดดูละกันว่านี่ยังไม่ได้ไปสำรวจ Street Food ให้ละเอียด Venetian ก็ยังไม่ได้เข้า เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ก็ยังไม่ได้ไหว้ ป๊อดเด๊งก็ยังไม่ได้เล่น หมดซะแล้ว 4 วัน 5555555
มาเก๊ายังมีอีกหลายๆ มุมที่รอให้ทุกคนมาสัมผัส ความมีเสน่ห์เป็นตัวของตัวเอง วัฒนธรรมโปรตุเกสที่ยังหลงเหลือในแผ่นดินจีน ถ้าเป็นคนก็คงจะสวยน่าดู อิอิ (ขอไลน์ได้มั้ยจ้ะ)
เอาหละ มาเก๊ารอบนี้พอแค่นี้ ยังมีอีกหลายๆ ที่ในมาเก๊าที่เรายังไม่ได้พาไป แล้วจะพาไปใหม่แน่นอน อดใจรอนะ เจอกัน :)

MACAO, Creative City.

MACAO, Creative City.

Booking.com
Input your search keywords and press Enter.