ฮ่องกง สิงคโปร์ โตเกียว อาจจะดูเป็นเมืองที่ขาช๊อปปิ้งเน้นอัพเดตเทรนด์ไปได้บ่อยแทบจะซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่างจากมัลดีฟส์ที่หลายๆ คนอาจจะงงว่ามันมีอะไรให้เที่ยวบ้างหรอ? อะ! เอาอย่างงี้ อยากให้จินตนาการเท้าที่ย่ำลงไปบนทรายละเอียดแล้วเอาซอกนิ้วบี้ๆ เหมือนกำลังสครับผิว ซักพักก็มีน้ำทะเลจากมหาสมุทรอินเดียใสแจ๋วเข้ามาชำระล้าง แล้วก็ลมเย็นๆ โชยมาจนเธออาจจะเผลอหลับตาแล้วหงายท้องลงบนทรายนุ่มๆ ..
ที่นี่ไม่มีแหล่งช๊อปปิ้งแบบหวือหวา ไม่มีเทรนด์ใหม่ๆ ให้ตามมาอัพเดต แต่ที่นี่ ‘มัลดีฟส์’ สวรรค์ของคนที่รักความชิลเป็นชีวิตจิตใจ และอยากมาพักผ่อนร่างกาย เติมวิตามินซีจากพระอาทิตย์ยามเช้า และเติมแอลกอฮอล์ให้แก้มแดงระรื่นจากไวน์แดงและพระอาทิตย์ยามเย็น รอบนี้เรากลับมามัลดีฟส์อีกครั้งกับรีสอร์ทและเกาะใหม่ล่าสุดที่อยากแนะนำให้ทุกคนกลับมานอนพักผ่อน ป่ะ! จะสิ้นปีแล้วอย่าคิดอะไรมาก วันลาเหลือก็ใช้ให้หมด เพราะเราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานแล้วตายจากไปนะคะ มา Enjoy you life in Crossroad Maldives! กัน
Fly Boutique to Unique Destination.
เราออกเดินทางกับ บางกอก แอร์เวย์ส สายการบินพรีเมี่ยมแบบ Full Service เพียงสายการบินเดียวที่บินตรงจากสุวรรณภูมิสู่สนามบินมาเล่ (Male) ใครๆ ที่มาเที่ยวมัลดีฟส์ต้องบินลงที่สนามบินนี้ก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะต่อเครื่องบินน้ำ หรือสปีดโบ๊ทไปต่อยังเกาะต่างๆ ฉะนั้นบินแบบสะดวกสบายที่สุดจากสุวรรณภูมิก็มีเพียงสายการบินเดียวนี่แหละ แถมยังสามารถเข้าเลาจน์ได้ฟรีๆ สำหรับผู้โดยสารทุกคนด้วยนะ และที่สำคัญสำหรับใครที่ถือบัตรเครดิตซิตี้ เพรสทีจ ซึ่งจะมาพร้อมกับบัตร Priority Pass สามารถใช้เข้าเลาจน์ Blue Ribbon Class ของ Bangkok Airways ได้ฟรีๆ อัพเกรดชีวิตให้หรูหราขึ้นไปอีกขั้น มีทั้งอาหารจานร้อน เก้าอี้นวดและโซฟานุ่มๆ ให้นั่งก่อนออกเดินทาง
และใครที่ถือบัตรเครดิตซิตี้ทุกประเภทไม่ว่าจะบัตรไหนก็ตาม สามารถแลกรับเครื่องดื่มร้อน Size S จาก Dean & Deluca ก่อนเดินทางได้ทันที ฟรีๆ กันไปเลย มีกาแฟหอมกรุ่นให้กินยามเช้าก่อนเดินทางก็จะฟินนิดนึงอะเนอะ ?
จากกรุงเทพไปมัลดีฟส์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงนิดๆ Bangkok Airways ก็จัดเต็มเสิร์ฟเครื่องดื่มร้อน เย็นพร้อมอาหารร้อน และของว่างตลอดทั้งไฟลท์ทำให้การเดินทางไม่มีเบื่อ กินอิ่มนอนอุ่น เบาะที่นั่งกว้าง หลับสบายทั้งไฟลท์
บางคนอาจจะงงว่าอะไรคือ Crossroads Maldives คือโรงแรมหรอคะ? คือห้างรึเปล่า? จะบอกว่าไม่ใช่เลย เพราะมันครบวงจรกว่านั้น Crossroads Maldives คืออาณาจักรขนาดใหญ่ คือศูนย์รวมความครบวงจรที่เค้าตั้งใจให้เป็นศูนย์กลางความพักผ่อนและไลฟ์สไตล์แห่งแรกของ Maldives เพราะฉะนั้นภายใน Crossroads Maldives จะมีทั้ง The Marina ศูนย์รวมร้านอาหารและแบรนด์ต่างๆ ให้ทุกคนเข้ามาช๊อปปิ้งแม้ว่าจะไม่ได้พักที่นี่ก็ตาม และยังมีโรงแรมขนาดใหญ่อีก 2 แห่งคือ Hard Rock Hotel Maldives โรงแรมแห่งแรกในเครือ Hard Rock ที่เกาะแห่งนี้ และ SAii Lagoon Maldives ที่จะทำให้การพักผ่อนของเธอนั้นเป็นกันเองมากขึ้นและชิลกว่าเดิม วันแรกมาถึงก็เดินช๊อปปิ้งและเดินเล่นใน The Marina ถ้าใครอยากซื้อเสื้อผ้า กินอาหารนานาชาติ หรืออยากหาขนมรองท้องก็มีมินิมาร์ทและศูนย์ให้ความรู้เกี่ยวกับท้องทะเลมัลดีฟส์อีกด้วย ความเก๋คือมี Café Del Mar ที่กำลังจะเปิดเร็วๆ นี้ด้วยนะ (ตอนนี้คิดว่าน่าจะเปิดแล้วหลังจากเรากลับมา)
เราพักที่ Hard Rock Hotel Maldives 1 คืนเพราะอยาก Experience ห้อง Overwater Villa ของที่นี่ว่าจะเก๋และดีงามขนาดไหน เราเลือกพักแบบ Platinum Overwater Villa ห้องพักกลางทะเลที่ตื่นมาก็เห็นวิวงามงดทั้งวันทั้งคืนกัน โทนสีของที่นี่จะออกตุ่นๆ นิดนึง แต่เป็นสีฟ้าน้ำทะเลสลับกับสีเหลืองบางจุด ดูแล้วก็สบายตา ถ้าวันไหนแดดออกดีๆ ก็คงเป็นอีกที่พักนึงที่จัดจ้านมากๆ กลางมหาสมุทรอินเดียเลยหล่ะ!
ความน่ารักของที่นี่คือการใส่ใจในรายละเอียดในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในสตอรี่ของตัวเอง เช่น มีการปักหมอนลายกีต้าร์น่ารักๆ มีปิ๊กกีต้าร์วางไว้ให้ในห้อง มี Quote เล็กๆ เขียนด้วยปากกาเมจิกบนกระจก แถมบางห้องยังมีกีต้าร์วางไว้ให้เล่นด้วยนะ เราชอบโรงแรมแบบนี้ เพราะรู้สึกว่าคุ้มค่ากับที่จ่ายไปโดยแลกกับบริการที่มีมาตรฐานและไม่มองข้ามเรื่องเล็กน้อยแบบนี้
ส่วนห้องน้ำก็ใหญ่ลื๊มม! กระจกสองบานสำหรับคุณท่าน และคุณหญิง พร้อมจากุซซี่และแปรงสีฟันแบบรีไซเคิลรักษ์โลก
มามัลดีฟส์ทั้งทีอะเนอะแก ชั้นก็ใช้เวลาพักผ่อนส่วนใหญ่แบบ Private เปิดแชมเปญจิบเบาๆ ในห้อง นอนอ่านหนังสือเล่มโปรด ดูหนังฟังเพลง อยากเข้าสังคมนิดหน่อยก็จะออกไปเล่นสไลเดอร์สีม่วงไฮไลท์ของที่นี่มีช่วงกลางวันจะเปิดน้ำให้ไหลตลอดเพิ่มเข้ามันส์เข้าไปอีก หรืออาจจะไปเดินเหงาๆ อยู่กับตัวเองริมหาดก็เพลินๆ หรือออกแรงมากหน่อยก็คอยดูกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดขึ้นให้ตลอดทั้งวันก็ได้เหมือนกัน เพราะ Package ที่เราเลือกมานั้นเป็นแบบ All Inclusive เรียบร้อยแล้ว
เอ้อออ! และสำหรับแขกที่เข้าพักที่ Hard Rock ทุกคนสามารถแวะไปที่ Rock Shop เพื่อรับรองเท้าแตะที่รีไซเคิลจากชานอ้อยได้คนละ 1 คู่ฟรีๆ ด้วยนะ แถมยังมีของที่ระลึกน่ารัก คูลๆ ขายเยอะเลยหล่ะ!
สำหรับเรื่องอาหารนั้นพักที่นี่ไม่ต้องกังวลเลย! หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินมาว่ามัลดีฟส์อาหารไม่อร่อย หรือไม่หลากหลายบ้าง แต่ไม่ใช่กับที่นี่แน่นอน เพราะต้องบอกว่าที่นี่เจ้าของคือ Singha Estate คือคนไทยนั่นเอง เพราะฉะนั้นบางมื้อก็มีอาหารไทยให้ทาน มีซอสพริกเผ็ดๆ หรือน้ำปลาคอยบริการ แถมเรื่องชีส ขนมปังต่างๆ ก็ไม่มีพร่อง อร่อยไม่มีเบื่อ สำหรับคนที่ซื้อ Package มาแบบ Full Board ก็ไม่ต้องกังวลเพราะคุ้มแน่ๆ กับอาหารอร่อยๆ สำหรับห้องอาหารที่จะต้องทานกันบ่อยๆ ทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น ชื่อ Session อยู่ริมหาด บรรยากาศดีมีทั้งโซนข้างนอกและข้างใน สวยงาม
หลังทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็โบกมือลา Hard Rock Hotel Maldives แต่ยังไม่ได้กลับบ้านนะคะ อะไรกันจะให้มาคืนเดียวเองหรอ เรานั่งรถกอล์ฟข้ามฝั่งไม่เกิน 5 นาทีไปอีกโรงแรมนึงที่เราจะพักผ่อนกันต่ออีก 2 คืนคือ SAii Lagoon Maldives, Curio Collection by Hilton
SAii Lagoon คือโรงแรมฮิปๆ 5 ดาว ใหม่ล่าสุดในเครือ Hilton ที่มาเปิดบน Crossroad Maldives นี้ ห้องพักที่นี่มีหลายประเภท แต่เธอไม่ต้องกลัวนะว่า เอ๊ะ ชั้นนอนห้องเริ่มต้นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมันจะไม่ครบรึเปล่า? บอกเลยว่าไม่จริง เพราะทุกห้องเหมือนกันหมด แตกต่างตรงที่ขนาดห้อง และพื้นที่ของห้องเท่านั้น เพราะฉะนั้นก็มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะนอนห้องแบบไหน เธอก็จะได้สัมผัสความ 5 ดาวของที่นี่แน่นอน
อย่างรอบนี้เราพักห้องแบบ Beach Villa ห้องพักใหญ่โตอยู่ริมหาดติดชายทะเล เดินไปดูวิวยามเช้าได้แบบฟินๆ หรือจะนอนแช่อ่างจากุชชี่มองดูดาวแล้วเท้าตีฟองในน้ำก็มีความสุขไปอีก
อันนี้ขอแนะนำเพิ่มเติมสำหรับเราที่มามัลดีฟส์รอบนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว เรามองว่าหากอยากประหยัดค่าใช้จ่าย อาจจะนอนแบบ Overwater Villa ซักคืนนึงเอาประสบการณ์ และนอนริมหาดสวยๆ แบบนี้ก็ไม่แย่เลยนะ แถมประหยัดไปได้เยอะ เพราะเราเชื่อว่าหลายๆ คนคงไม่ได้กะจะเล่นน้ำเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น 555 การนอนริมหาดสวยๆ ที่มองไปก็เห็นวิวทะเลใสๆ อยู่ตรงหน้าก็ได้ฟีลอีกแบบ บางคนอาจจะมองว่า เฮ้ย! มามัลดีฟส์ทั้งที .. แต่ก็อย่าลืมว่าราคาก็พอสมควร อยากให้ลองหลายๆ แบบเราว่าคุ้มค่าไม่แพ้กันเลย
จริงๆ เพื่อนเราที่ไปด้วยกันก็พักแบบ 2 Bedroom Overwater Pool Villa นางก็ชมเปราะกันใหญ่ว่าห้องใหญ่โต สวย มีอาหารเช้ามาให้ทานถึงที่ห้อง มี Pool ให้แช่สำหรับใครที่ไม่อยากจะลงทะเลก็นอนดู Sunset สวยๆ ด้านบนได้ด้วย เราว่าที่นี่ไม่ได้เหมาะแค่เฉพาะสำหรับคู่รัก แต่มาเป็นครอบครัวก็ยังสนุกได้อยู่
สำหรับห้องอาหารที่เราฝากท้องไว้ทั้งเช้าและเที่ยงตลอด 3 วัน SAii Lagoon คือ Miss Olive Oyl เป็นห้องอาหารวิวแบบพาโนรามามากก กินข้าวเช้าหรือเที่ยงก็จะเห็นวิวทะเลกับลมโชยตลอดเวลาให้จิตใจชุ่มฉ่ำ ที่นี่เค้าตกแต่งด้วยสีดำให้ความรู้สึกแบบเรียบเท่โก้หรู ไม่หวือหวาแต่นิ่งนุ่ม ส่วนอาหารต้องบอกว่าฝั่ง Hard Rock อร่อยกว่า แต่โซนนี้รสชาติจะถูกปากฝรั่งมากกว่า แต่ความเก๋คือมี Bean/ Co ใกล้ๆ เธอสามารถเดินเข้าไปสั่งไอศกรีมเจลาโต้อร่อยๆ ได้ตลอดเวลาเลย
ใกล้ๆ กันก็ยังมีสระว่ายน้ำริมทะเลเก๋ๆ ให้เธอสั่งเบียร์ จิบไวน์ยามเย็นและมองมองไปไกลๆ ปล่อยจิตปล่อยใจไปตามเสียงคลื่น คือมามัลดีฟส์เนี่ย ควรแจ้งที่ทำงานไว้เลยว่าห้ามรบกวน ปิดอีเมล์ ปิดแชทงานต่างๆ แล้วให้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดนะ
ส่วน Dinner นั้น บอกเลยว่าที่นี่ถูกใจเรามากที่สุด แถมน่าจะถูกใจหลายๆ คนที่ไม่ว่าจะไปเที่ยวห่างบ้านห่างเมืองแค่ไหนก็ขอให้ได้กินอาหารไทยซักมื้อก็ยังดี 555 แต่ที่นี่เป็นอาหารไทยฟิวชั่นผสมผสานกับอาหารอิตาเลี่ยนที่เธอสามารถสั่งพาสต้าผัดกระเพราได้ หรือผัดไทยเส้นมักกะโรนี ยำเนื้อ สลัดปูนิ่ม อะไรแบบนี้ เราจำชื่อเมนูที่แน่นอนไม่ได้ แต่คร่าวๆ คือเอาแกง เอาผัดทั้งหลายในบ้านเรานี่แหละ มาทำกับเส้นพาสต้าสไตล์ต่างๆ แบบอิตาเลี่ยน บอกเลยว่าไม่โป๊ะ เพราะอร่อยจริง โดยเฉพาะผัดไท รสชาติต่างๆ นี่น้ำตาไหลเลยอะ ภาพวัดพระแก้วและหญิงชุดไทยยืนสวัสดีนี่โผล่มาในหัวเลย 555 ร้านนี้ชื่อว่า MR. TOMYAM แถมถ้าใช้บัตรเครดิตซิตี้ก็รับส่วนลดไปเลย 15% เด้อ
สำหรับเราที่ SAii Lagoon ถือว่าโอเคเลยหละ เพราะบรรยากาศดี เงียบสงบ แถมนั่งเรือออกจากสนามบินมาไม่นานก็ถึงแล้ว แถมมีอาหารไทยแบบฟิวชั่นให้ทานด้วยทุกคืน 55 รักมากก็ตรงนี้!
สำหรับใครที่กำลังอยากจะมามัลดีฟส์ หรือกำลังหาที่พักผ่อนแบบชิลๆ อยู่ ที่ Crossroad Maldives น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับทุกคน เพราะอยู่ห่างจากสนามบินแค่ประมาณ 15 นาทีเท่านั้น ทำให้ใช้เวลาอยู่ในโรงแรมได้เต็มที่ไม่ต้องรีบร้อนออกจากโรงแรมเพื่อไปสนามบิน แถมทั้ง Hard Rock Hotel Maldives และ SAii Lagoon Maldives ยังสามารถเดินไป The Marina เพื่อ Enjoy กับ Facilities ต่างๆ ร้านอาหารและช๊อปปิ้งมากมายให้เธอเดินได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ นี่ยังไม่รวมโซนกิจกรรมทางน้ำต่างๆ ที่คอยต้อนรับพวกเธอให้ใช้วันหยุดได้สมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วยนะ
และพิเศษที่สุดสำหรับใครที่ใช้บัตรเครดิตซิตี้จะได้รับส่วนลด 15% Best Available rate รวมไปถึงค่าอาหารและเครื่องดื่ม และ Spa ทั้งที่ SAii Lagoon Maldives & Hard Rock Hotel Maldives กันไปเลย ถือว่าคุ้มค่ามากกกกกก
ก่อนกลับกรุงเทพเราถึงสนามบินเร็วไปนิดนึง เลยมีโอกาสไปใช้บริการ Wellness Lounge นี่คือ Lounge ที่บัตร Priority Pass ที่ได้รับมาจากบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจสามารถเข้าใช้บริการได้ฟรีๆ มานั่งกินน้ำผลไม้สดๆ ซักแก้วกับของว่างอร่อยๆ หรือถ้าอยากอาบน้ำที่นี่ก็มีบริการ! ที่สำคัญ Lounge นี้อยู่ฝั่ง Landside ใกล้ๆ กับทางเข้า Departure Hall ผู้โดยสารที่พึ่งมาถึง หรือกำลังจะกลับก็สามารถเข้าใช้บริการได้ทุกคนจ้ะ