มาเก๊าเป็นอีกเมืองหนึ่งที่เราไปเที่ยวบ่อยมากกกกก ไม่ว่าจะฤดูไหนๆ ก็ตาม เหตุผลส่วนตัวคือชอบบรรยากาศ ความแสงสีและสดใสของมาเก๊า มันมีชีวิตชีวาเวลามาเยือน รวมไปถึงอาหารรสชาติดี ที่ไม่ได้มีเฉพาะอาหารจีน แต่มันเต็มไปด้วยความรสชาติที่หลากหลายของวัฒนธรรมโปรตุกีส และขนมอร่อยๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในมาเก๊า ทองม้วนไส้หมูหยอง ทาร์ตไข่ คุ้กกี้อัลมอนด์ กับกาแฟร้อนๆ ยามเช้า มันถูกใจสายกินที่สุด ยังไม่รวมวัดวาที่สายมูต้องยอมใจข้ามน้ำข้ามทะเลกันมาสักการะ ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘กลับไปปังสุดๆ ทุกคน’
มาเก๊า 4วัน 3คืนรอบนี้มาเที่ยวกันแบบชิลๆ รับตรุษจีน บินสายถึงบ่ายนั่งจิบน้ำชาสไตล์พี่สาวจีน พร้อมเดินสายมูไหว้พระ 4 วัด รับพลังดีๆ สุดเฮงต้อนรับตรุษจีน และเดินเล่นในย่านเซ็นทรัลและไทปาดูแสงสีของมาเก๊ายามค่ำคืนกับงาน Light Up Macao เทศกาลแสดงไฟหลายจุดทั่วเมืองมาเก๊าในบรรยากาศหนาวๆ สุดฟินช่วงต้นปีแบบนี้
บินตรงกับแอร์เอเชียที่มีเที่ยวบินสูงสุด 3 ไฟลท์ต่อวัน พักผ่อนเอกเขนกในโรงแรมหรูราคาสุดคุ้ม พร้อมไหว้พระ กินของอร่อยเป็นรางวัลชีวิตตั้งแต่ต้นปี นี่คือทริป 4วัน 4วัด 14โลเคชั่น และ 8 ร้านอร่อยที่อยากให้ไปเยือนต้นปีนี้
Fly with AirAsia
มาเก๊าทริปนี้เราเลือกเดินทางกับสายการบินไทย แอร์เอเชียเหมือนเดิม บินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่มาเก๊า 3 เที่ยวบินต่อวัน ทั้งเช้า บ่าย และช่วงเย็น เหมาะสำหรับทุกคนจริงๆ ใครอยากบินเช้าก็ไป ตื่นสายหน่อยก็มี หรือรอเลิกงานค่อยไปก็ยังทัน ส่วนขากลับก็เลือกได้ตามสะดวกเช่นกัน มีทั้งแต่ เช้ามืดหลังเที่ยงคืน สาย หรือช่วงค่ำก็มีให้เลือกบินทั้งนั้น
สำหรับเราช่วงหลังโควิดมานี้ ราคาแต่ละสายการบินไม่ได้ถูกไปกว่ากันมาก แต่ที่เรามั่นใจและขอร้องเลย คือเรื่องตรงเวลา เพื่อให้การเดินทางมันเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เรื่องนี้เลยสำคัญที่สุดสำหรับเรา และแอร์เอเชียซึ่งได้รางวัลเรื่องการตรงเวลามาหลายรางวัล รวมถึงเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก 14 ปีซ้อน ยิ่งมั่นใจได้ว่า ตรงเวลาเที่ยวได้ตามแผนแน่นอน
Day 1 – Arrived Macao..It’s Fun!
Andaz Macau
ทริปนี้ตลอดทั้ง 4 วันเราพักกันที่ Andaz Macau โรงแรมในเครือ Hyatt ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันและเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร Galaxy Macau ที่นี่เป็นโรงแรม 5 ดาวภายใต้แบรนด์ Andaz ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2023 นี่เอง บอกเลยว่าเป็นโรงแรมใหม่ที่แฮปปี้สุดๆ เมื่อเข้าพัก ด้วยค่าห้องที่สมเหตุสมผล ถ้าจองล่วงหน้าประมาณคืนละ 4,000 บาท หารกับเพื่อน ได้โรงแรมใหม่เอี่ยม พร้อมอาหารเช้าแบบดีงามทุกวัน แอร์เย็นฉ่ำทุกคืน พร้อมบริการแบบประทับใจ ถือว่าคุ้มค่ามาก
ที่นี่อยู่ติดกับ Galaxy Macau ซึ่งมีบริการ Shuttle Bus จาก Andaz Macau ไปยังโรงแรม Galaxy Macau เพื่อต่อรถไปยังจุดต่างๆ ทั้งสนามบิน ท่าเรือฮ่องกง-มาเก๊า จุดผ่านแดนมาเก๊า-จูไห่ รวมไปถึงข้ามฝั่งไปยังเขตเซ็นทรัล (จอดที่ Starworld Hotel)เพื่อต่อแท๊กซี่หรือรถเมล์ไปยังจุดต่างๆ ได้ทั่วเมือง
เอ้ออออ! ที่นี่ยังมีมุม Photogenic สุดๆ ภายในโรงแรมชื่อว่า Macau Step เป็นบันไดที่รายล้อมไปด้วยงานศิลปะของมาเก๊า ให้เธอมาเดินกันแบบอลังๆ พร้อม Andaz Bar ที่สามารถนั่งจิบ Mocktails แบบฟินๆ ในราคาแก้วละหลักร้อยไม่ต่างจากร้านข้างนอกเลย นี่คือทริปพักผ่อนที่ใช้เวลาอยู่ในโรงแรมเยอะมาก เพราะ Facilities ที่ดีงามนี่แหละ ติดใจจนอยากพาที่บ้านไปอีกเลย
CHA BEI
เราบินมาถึงมาเก๊าช่วงบ่าย หลังจากเก็บของเข้าโรงแรมและเอนหลังได้ซักพักก็เดินออกมาจิบชาเบาๆ กันที่ร้าน CHA BEI ใน Galaxy Macau ที่เลือกร้านนี้เพราะมันดูหวานแหววสุดๆ และดูดีมาก เลยเลือกทานควบมื้อไปเลยทั้ง Afternoon Tea และ Dinner เราสั่ง Strawberry Delight Afternoon Tea Set สตรอเบอร์นี่เน้นๆ หวานแหววสุดๆ และกิมมิคของร้านนี้คือเราสามารถเลือกภาชนะที่เข้าคู่กันด้วยนะ พนักงานจะเอามาให้เลือกเลยว่าอยากได้ภาชนะลายไหน สีอะไร เลิ้บสุดๆ
พร้อมด้วย Grilled Beef Rice Pot และ Tuna Toro Rice Pot บอกเลยว่าตอนอาหารมาเสิร์ฟนั้นตื่นตาตื่นใจกันสุดๆ เพราะใส่มาในภาชนะราคาแพง และหน้าตาดีมาก ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึง ดีเยี่ยมเลย เหมือนเป็นข้าวต้มแห้งสไตล์องค์หญิงที่ใส่มาพร้อมเนื้อย่าง ฟัวกราส์ ทูน่า และไข่ปลาแซลมอล ทานคำเล็กๆ แบบคนสวย พร้อมซดซุปตามให้ลื่นนอ เป็นการเปิดทริปมาเก๊าได้เป็นอย่างดี
และภายใน Galaxy Macau ยังมีโชว์ฟรีแบบปังๆ ให้ดูกันด้วยนะ ทั้ง Galaxy Macau Diamond Show และ Crystal Lobby Show โดยโชว์แรกจะเริ่มตั้งแต่เวลาเที่ยงวัน ทุกๆ 30 นาที
Day 2 – ไหว้พระทั่วเมืองรับตรุษจีน พร้อมกินของอร่อยแบบฟินๆ และเดินดูไฟยามค่ำคืน
Seng kei Congee
อย่างที่บอกว่าทริปนี้มาพักผ่อน และเราต้องอยู่ดูไฟจนถึงช่วงหัวค่ำเพราะฉะนั้นไม่ต้องตื่นเช้ามากก็ได้ ยังไงก็เที่ยวได้ตามแพลน เพราะมาเก๊าเป็นเมืองที่เดินเที่ยวสนุก และสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมกันในหลายๆ จุด ทริปนี้เราเริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าแบบคนมาเก๊ากับโจ๊กขวัญใจเราอีกร้านอย่าง Seng kei Congee เป็นร้านที่โจ๊กเนื้อสดอร่อยมากๆ แถมคนขายก็ Nice กับคนไทยสุดๆ น่ารัก พยายามพูดไทยตลอด บริการดี แม้เป็นร้านเล็กๆ แต่รสชาติดีเลย โจ๊กอร่อยมากจริงๆ อยากให้มาลอง ร้านอยู่ใกล้ Senado Square เดิน 3 นาทีถึง มาแวะเติมพลังยามเช้าก่อนเริ่มวันกันเดี๋ยวนี้!
Sam Kai Vui Kun
เดินจากร้านโจ๊กมาประมาณ 3 นาที ไหว้พระรับเฮงกันที่วัดแรกที่ Sam Kai Vui Kun หรือวัดกวนไท ที่นี่คนมาเก๊านิยมมาไหว้เทพเจ้ากวนอู เป็นวัดที่เด่นเรื่องการขอพรด้านหน้าที่การงาน นิยมมากราบไหว้เพราะเชื่อว่า สามารถปกป้องสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และช่วยเสริมอำนาจบารมีในการปกครองและคุ้มครองบริวาร ได้รับการเคารพในฐานะเทพอุปถัมภ์และเทพผู้ปกป้อง
เจ้าหน้าที่ที่นี่บอกว่า เทพกวนอูที่นี่เป็นแบบปางดั้งเดิม ไม่ได้ถือดาบและขี่ม้า เป็นเอกลักษณ์เลย ส่วนใครอยากไหว้ขอพรเทพองค์อื่นเพิ่มอีก สามารถไหว้เทพไฉ่ชิงเอี้ย เทพที่ให้โชคให้ลาภอยู่ทางด้านซ้ายมือ ส่วนด้านขวามือคือเทพไท่ส่วนเอี้ย เทพคุ้มครองดวงชะตาหรือที่คนไทยชอบมาแก้ปีชงกับท่านนั่นเอง
Senado Square
อย่างที่บอกว่าวัด Sam Kai Vui Kun อยู่ติดกับ Senado Square เลย จากวัดไม่กี่ก้าวก็ถึง ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่นี่ประดับไฟและมีสีสันมากๆ อยากให้แวะมาเดินถ่ายรูปเล่นกัน เพราะอากาศดีมาก แฮปปี้สุด อย่าลืมมาเช็กอินถ่ายรูปกับไฟประดับและของตกแต่งก็คุ้มค่าแล้ว
เพื่อต้อนรับปีมังกรเขียวธาตุไม้ที่กำลังจะมาถึง ทริปนี้เลยแต่งตัวกันเสริมเฮงสุดๆ ด้วยการใส่เสื้อสีมงคลตามปีนักษัตร วันนี้เลยจัดเต็มทั้งสีเขียวมรกต ที่ช่วยเรื่องความเจริญรุ่งเรืองและสุขภาพดีสำหรับทุกปีนักษัตร/ สีแดงนำโชคสำหรับคนเปิดปีจอ และสีแดง เขียวอ่อน สำหรับคนเกิดปีชวด ชุดพร้อมมูรับเฮงกันสุดๆ
Ruins of St.Paul & Love Lane
แม้ว่าเราจะมาหลายรอบแล้ว แต่เพื่อนๆ ในทริปบางคนก็มาครั้งแรก เลยไม่พลาดที่จะพาเดินมาอีกนิดชมความงดงามของ Ruins of St.Paul ประตูโบสถ์ที่รอดจากการโดนไฟไหม้มาเหลืออยู่บานเดียวอันเป็นเอกลักษณ์ของมาเก๊าสุดๆ และอย่าลืมว่าใกล้กันยังมี Love Lane มุมถ่ายรูปเก๋ๆ ให้มาโพสต์ท่ากันโดยมี Ruins of St.Paul เป็น Background
Na Tcha Temple
ด้านหลังและเยื้องๆ Ruins of St.Paul มีศาลเจ้าที่เล็กๆ อยู่ที่ผ่านไปผ่านมาอาจจะไม่ทันได้สังเกตแต่ที่นี่นิยมมาขอลูกกันสำหรับคนที่อยากมีเจ้าตัวน้อย และให้เด็กโตขึ้นเป็นคนเก่ง เค้าว่ากันว่าสมัยก่อนที่มีโรคระบาดรุนแรง เทพนาจามาเข้าฝันให้ชาวบ้านนำน้ำจากเทือกเขามาผสมกับสมุนไพรจีน ดื่มกันจนหายป่วย ชาวบ้านเลยรวมตัวกันสร้างศาลนี้ให้ด้วย เพราะฉะนั้นที่นี่เลยสามารถขอพรเรื่องขอให้มีสุขภาพแข็งแรงได้ด้วยนะ
ก่อนอื่นอย่าลืมไหว้เทพฟ้าดินหรือทีกง โดยการหันหน้าออกนอกวัดแจ้งฟ้าดินบอกชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด ก่อนหันหน้าเข้าวัดขอพรเทพนาจาอีกที
Lou Kau Mansion
บริเวณ Senado Square ยังมีอีกที่นึงที่คนนิยมไปถ่ายรูปกันและแนะนำมากๆ คือ Lou Kau Mansion บ้านโบราณสไตล์ซีกวาน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ของเศรษฐีเก่าผู้ใจบุญของมาเก๊าชื่อ Lou Kau เค้ายกที่นี่ให้เป็นสมบัติสาธารณะ แถมเปิดให้เข้าชมฟรี ไปถ่ายรูปชิคๆ ในบ้านทรงจีนได้เลย
ทีนี่สวยจริง บรรยากาศเปิดโล่ง มีแสงธรรมชาติสอดเข้ามาเป็นระยะ ร่มรื่น แถมยังคลาสสิคด้วย และจาก Lou Kau Mansion เดินผ่าน Cathedral of the Nativity of Our Lady อีกจุดที่ถ่ายรูปกันได้แบบแสนเก๋หน้าโบสถ์ก่อนเดินไปทานมื้อกลางวันกัน เพราะมาถึงมาเก๊าทั้งที เป็ด ไก่ ห่าน หมูแดง หมูกรอบต้องห้ามพลาด!
Chan Kwong Kei BBQ Shop
เดินมาอีกเพียง 5 นาทีก็ถึงร้านอร่อยของเราอีกร้าน ที่แวะทุกครั้งเมื่อมามาเก๊ากับ Chan Kwong Kei BBQ Shop ที่หมูแดง หมูกรอบอร่อยมาก และอร่อยขั้นสุดกับ เป็ดย่างพริกไทยดำของร้าน Chan Kong Kei ถ้าไม่อยากรอคิวนานๆ เราแนะนำให้ไปทานไม่ตรงมื้อ แปลว่ามื้อเที่ยงอาจจะไปบ่ายสอง มื้อเย็นอาจไปหลังสองทุ่ม แบบนี้จะรอคิวไม่นาน
เป็นร้านที่สั่งได้ทุกอย่างเลยจริงๆ เพราะอร่อยหมด โดยเฉพาะเป็ดย่างพริกไทยดำที่รสชาติไม่เหมือนที่ใคร กับบะหมี่เกี๊ยวกุ้งหมูแดง ซุปร้อนๆ หลังจากเดินเหนื่อยมาทั้งวันมันชุบใจจริงๆ หรือใครชอบทานเป็นข้าว ก็มีข้าวหมูกรอบ หมูแดง ราดน้ำเป็ดพริกไทยดำฉ่ำๆ เลิศ แถมพี่สาวชาวจีนในร้านนี้พูดไทยได้นิดหน่อย สั่งเป็นภาษาไทยได้เลย 5555
A-Ma Temple
ท้องอิ่มแล้วก็ข้ามมามูต่อกันตอนบ่ายที่วัดดังแห่งมาเก๊าอย่าง A-Ma Temple ที่นี่ถือเป็นวัดที่เก่าแก่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของมาเก๊า สร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเมืองมาเก๊าแถมยังเป็นมรดกโลกอีกด้วย คนไทยรู้จักอาม่าเป็นอย่างดีเพราะเรียกอีกชื่อนึงว่า ‘เจ้าแม่ทับทิม’ ที่นี่สามารถไหว้ขอพรได้หลากหลายเรื่องมาก เพราะอาม่าใจดีสุดๆ ทั้ง ความรัก โชคลาภ การเงิน ขอได้ทุกอย่างเลย
ไฮไลท์ของวัดนี้อีกอย่างคือหินแกะสลักรูปเรือใบ ที่คนไทยชอบเอาแบงค์มาลูบหินขอพรให้รวยๆ เป็นเงินถุงเงินถัง แต่ตอนที่เราไปฝนตกหนักมาก เลยไม่มีโอกาสได้ลูบหินรวยแบบคนอื่นเค้า อาจจะเป็นเพราะว่าอาม่าให้พวกเรารวมความสวยแทนแล้วค่ะ
Two Moons
ไหว้พระเสร็จแล้วก็หาที่นั่งชิลๆ เย็นๆ พักน่องกันซักหน่อย เราแวะมาที่ร้าน Two Moons ที่หมุดไว้ใน Google Maps ตั้งแต่ครั้งก่อนแต่ไม่มีเวลา ร้านนี้กลางวันเป็นคาเฟ่ กลางคืนเป็นบาร์ค็อกเทลอย่างดี กาแฟรสชาติดีมาก แต่ราคาแรงนิดนึง มานั่งชิลๆ เอามู้ดได้ หรือจะต่อค็อกเทลเย็นๆ ให้หน้าแดงระเรื่อยก่อนไปกินข้าวเย็นก็เจริญอาหารขึ้นแน่นอน
Loja Sopa da Fita Cheong Kei
มื้อเย็นของเราหมุดหมายไว้สำหรับร้านนี้เท่านั้น เป็นครั้งแรกที่มามาเก๊าแล้วแวะร้านนี้ อร่อยมากจริงๆ กับ Loja Sopa da Fita Cheong Kei ร้านที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ยุค 70 แถมยังได้รางวัลมิชลินไกด์หลายปีซ้อน ด้วยเอกลักษณ์ที่เอาไม้ไผ้นวดบะหมี่จนนุ่มนวล อร่อยสุดๆ โดยเฉพาะบะหมี่เส้นแบบ และบะหมี่คลุกไข่กุ้ง ทานพร้อมซดซุปเกี๊ยวกุ้งร้อนๆ ในวันที่ฝนตก เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
Light Up Macao Central District
และช่วงนี้อากาศดีๆ ของมาเก๊า เหมาะกับกับการมาเดินดูงานไฟประจำปีของที่นี่อย่าง ‘Light Up Macao 2023’ ที่จัดกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2024 นี้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวชุมชนและสนับสนุนการค้าตอนกลางคืน งานนี้เลยจัดในย่านชุมชนต่างๆ ทั่วมาเก๊า อย่างวันนี้เราอยู่กันในโซน Central District ก็มาในธีม Blooming Splendor จัดหลายๆ จุดกระจายทั่วโซน Central District ในระยะเดินถึง สามารถดูรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่ https://lum.macaotourism.gov.mo/
Day 3 – เดินย่ำทั่ว Taipa
Kun Lam Temple
เช้าวันที่ 3 เราตั้งใจมาหนึ่งในสามวัดที่เก่าแก่ของมาเก๊าอย่างวัน Kun Lam Temple หรือวัดเจ้าแม่กวนอิม ปกติวัดหรือศาลเจ้าในมาเก๊าจะมีแต่เจ้าหน้าที่ประจำ แต่ที่นี่มีพระสงฆ์จีนประจำวัดด้วยนะ ด้านหน้าวัดที่ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 คอยปกปักรักษาวัดข้างละ 2 ตน ซึ่งเค้าเชื่อกันว่าถ้าเอาเงินและกระเป๋าสตางค์มาลูบเท้าท้าวจตุโลกบาล จะทำให้ร่ำรวยเงินทองสุดๆ
ส่วนด้านในก็มีโถงหลักอยู่ 3 แห่ง โถงแรกสำหรับไหว้พระศากยมุนี พระสมณโคดม พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ และพระมัญชุรีโพธิสัตว์ ส่วนโถงถัดมาคือโถงที่ประดิษฐานองค์พระศรีอริยเมตไตรยซึ่งคนนิยมมาขอพรเรื่องสุขภาพ
ส่วนด้านในสุดคือเจ้าแม่กวนอิมที่สวมชุดเจ้าสาวโบราณ ซึ่งแนะนำให้มาขอพรเพื่อความเป็นศิริมงคล และเรื่องโชคลาภการเงินที่ดี ที่นี่ยังมีประเพณีเปิดคลังเจ้าแม่กวนอิมที่ฮิตกันสุดๆ ด้วยนะ
Blooom Coffee House
ร้านกาแฟ Specialty ชื่อดังในมาเก๊าที่ครั้งก่อนเห็นที่สนามบินก่อนกลับ แล้วติดใจ เลยไปค้นเพิ่มเติมปรากฏว่ามีร้านในเมืองด้วยเดินจาก Tap Seac Square ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ร้านนี้เป็นร้านที่เหมือนเป็นคลังกระจายสินค้าของทางแบรนด์ด้วย ไม่มีที่นั่ง เฉพาะ Take Away เท่านั้น และมีพวกเมล็ดต่างๆ สำหรับซื้อกลับบ้านด้วย แพ็คเกจจิ้งน่ารักเชียว ส่วนกาแฟเราลองสั่ง Dirty Egg Tart กาแฟทาร์ตไข่รสชาติโอเลย อยากให้มาลอง น่าจะมีไม่กี่ที่ในโลกก 555
La Famiglia
หลังจากไหว้พระและเดินเล่นฝั่งมาเก๊ารับพลังดีๆ จนพอใจแล้ว เราก็ข้ามมาเที่ยวฝั่ง Taipa กันต่อในครึ่งวันบ่าย เริ่มจากร้านอาหาร Macanese รสชาติดีอีกร้านที่อยากแนะนำให้ลองคือ La Famiglia ร้านตกแต่งน่ารักมาก เหมือนนั่งทานอยู่ในยุโรปช่วงหน้าร้อน แถมรสชาติก็อร่อยมากๆ เลย เราสั่งมาทั้ง Sortidos de Fritos Macaenses, Minchi de Carne de Porco เมนูนี้เราชอบที่สุดเป็นเหมือนหมูสับผัดกับมันฝรั่งหั่นเต๋าและท้อปด้วยไข่ดาวทานกับข้าวสวย อร่อยเลิศสุดๆ และ Amêijoas à Bulhão Pato กับ Arroz Chau-Chau À Portuguesa อร่อยทุกเมนูเลย ร้านอยู่ห่างจาก Taipa Food Street แค่ประมาณ 3 นาทีเดินเท่านั้น
Taipa Food Street
Taipa Food Street หรือ Cunha Street ศูนย์รวมความอร่อยฝั่ง Taipa ที่หลายๆ คนชอบมาทานเครื่องในวัวกันซึ่งไม่ใช่เราแน่นอน 5555 หลังกินคาวเต็มมื้อสไตล์ Macanese เราก็มาเดินหาของทานเล่นกันที่นี่ เอาจริงๆ สำหรับคนที่นอนฝั่ง Taipa เราว่ามาตรงนี้ครบถ้วนสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น Koi Kei Bakery เจ้าทองม้วนไส้หมูหยองห่อสาหร่าย ที่คนไทยชอบซื้อกลับไปเป็นลังๆ หรือ Pastelaria Fong Kei คุ้กกี้อัลมอนด์รสชาติดีเจ้าของรางวัลมิชลินไกด์หลายปีซ้อน และทาร์ตไข่เจ้าดังที่รสชาติดีเลย สำหรับเรา หิ้วกลับไปฝากครอบครัวที่ไทยก็คุ้มค่ากับ Lord Stow’s Bakery ทั้ง 3 ร้านดังที่ว่ามาอยู่ในโซนนี้หมดเลย รวมมไปถึงปลาซาดีนกระเป๋าที่ใครอยากซื้อไปลองหรือเป็นของที่ระลึกก็อยู่หัวมุมถนนเลยเช่นกันค่ะ
Taipa Houses & Ecological Pond of Wetland
จาก Taipa Food Street เดินลัดเลาะซอยต่างๆ ไป ‘Taipa House’ บ้านโคโลเนียลโบราณสีเขียว ที่ตั้งเรียงกัน 5 หลัง ในสมัยนั้นสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักสำหรับข้าราชการพลเรือนอาวุโส ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์บ้านไทปาให้คนทั่วไปได้เข้าไปชมสถาปัตยกรรมและความเป็นอยู่ของข้าราชการมาเก๊าสมัยก่อน บริเวณนี้จะมีที่นั่งชมวิวสวนสวยๆ ผ่อนคลายอิริยาบถยามเย็นเยอะมากๆ และอากาศดีสุดๆ แต่.. ตรงนี้เป็นพื้นที่สาธารณะห้ามจิบเบียร์นะคะ 555
ช่วงนี้บริเวณสวน Ecological Pond of Wetland ก็มีจัดแสดงไฟและดอกไม้ด้วย สวยงามมาทำคอนเทนต์กันได้ เราชอบนั่งตรงมีปล่อยใจฝันไปเลย 1 ชั่วโมง อากาศดี ดูคนมาเก๊าออกมาทำกิจกรรมกัน เสมือนเราเป็นส่วนหนึ่ง 5555
Light Up Macao Taipa
พอพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า ‘Light Up Macao 2023’ ก็กลับมาอีกครั้ง อย่างที่บอกว่างานจัดแสดงไฟนี้จัดเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวชุมชนและสนับสนุนการค้าตอนกลางคืน งานนี้เลยจัดในย่านชุมชนต่างๆ ทั่วมาเก๊า สำหรับโซน Taipa Village นั้นมาในธีม Fantasy Fairyland เราสามารถนั่งปล่อยจอยบริเวณ Taipa House จนถึงประมาณทุ่มนึงแล้วเดินย้อนกลับทางเดิมได้ตลอดสายเพื่อชมไฟสวยๆ ในยามค่ำคืน
ฝั่ง Taipa จะมี Installation ค่อนข้างเยอะให้ถ่ายรูปทำคอนเทนต์ได้ตลอดทาง แถมมี Projection Mapping ให้ดูด้วยทุกๆ ครึ่งชั่วโมงบริเวณปากทางเข้า Taipa Food Street โซนนี้จัดดีเลย เดินไม่เหนื่อย ของกินอร่อยเยอะ และงานไฟมีชีวิตชีวามากๆ เดินถึงกันหมด อยากแนะนำให้ทุกคนมาเที่ยวกันสามารถดูรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่ https://lum.macaotourism.gov.mo/
มาเก๊ารอบนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ ปีเลยที่ได้มาเที่ยวหน้าหนาวบรรยากาศและมู้ดดีมากๆ สามารถเดินเล่นได้ทั่วเมือง กินของอร่อย และมูรับพลังดีๆ กันตั้งแต่ต้นปี ถ้ายังไม่มีแพลนไปไหน ลอกตามทริปเราได้เลย 4 วันหลวมๆ ที่มาเก๊า สามารถปรับเหลือ 3 วัน 2 คืนได้เช่นกัน บินเช้าตรู่กว่านี้ กลับไฟลท์ดึกสุดๆ พร้อมทำงานวันต่อมาก็สามารถทำได้ เพราะแอร์เอเชียบินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่ มาเก๊า มากถึง 3 เที่ยวบินต่อวัน ราคาเบาๆ ไปรับพลังดีๆ ต้นปีกันที่มาเก๊า จองเลยที่ https://air.asia/JUMec
