เพราะสำหรับบางคนเชียงใหม่เป็นมากกว่าเมืองที่เอาไว้ท่องเที่ยว หรือเอาไว้สูดอากาศดีๆ ในหน้าหนาว แต่เชียงใหม่คือเมืองที่น่ามาอยู่ มาทิ้งตัวลงเพื่อทำอะไรซักอย่าง มาอยู่กับตัวเอง มาเจอสังคมใหม่ๆ สไตล์เชียงใหม่ ยิ้มง่าย อารมณ์ดี และสวยแบบเรา!
เชียงใหม่เลยเป็นเหมือนกรุุงเทพฉบับกระทัดรัด ที่ไม่จอแจ แต่ถามว่ามีอะไรให้ทำบ้างก็ตอบได้อย่างเต็มปากและยืดอกว่า “มีทุกอย่าง!” รอบนี้เราขอพาเที่ยวเชียงใหม่แบบคนอยู่นานทำอะไรกันดี ไม่มีมาแนะนำ 3 วัน 2 คืน ออกเช้ากลับเย็นแวะกินร้านดัง นั่งชิคร้านกาแฟ แต่ขอเมาท์มอยกิจกรรมคูลๆ สำหรับ Community Hobby หรือที่เที่ยวธรรมชาติหนีเมืองไปหาภูเขา กระโดดขึ้น Vespa GTS Super 300 ABS ออกไปใช้ชีวิตให้แตกต่างจากคนอื่นๆ เริ่มตั้งแต่ในเมือง จนออกไปนอกเมืองใกล้ๆ โดดน้ำให้ชื่นใจ เป็นเชียงใหม่ที่มีสีสันอีกมุมหนึ่งที่อยากแนะนำ
สายคราฟท์
หลายๆคนคงรู้จักบ้านข้างวัด หมู่บ้านศิลปินในถนนวัดอุโมงค์หลังมช. แต่ใครจะรู้ว่าบ้านหลังในสุดของบ้านข้างวัด จะเป็นที่ซ่อนตัวของ สตูดิโอปั้นดินเล็กๆ ชื่อ ภาชนะสตูดิโอ Pachana studio
ที่เปิดทั้งสอน Workshop คอร์สเซรามิคทั้งระยะสั้นและระยะยาว สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักและมีความสนใจเกี่ยวกับศิลปะแนวเซรามิค ที่นี่ครบวงจรทั้ง ปั้น เคลือบ เผาในที่เดียว พี่เจ้าของสตูดิโอบอกกับเราว่าสามารถจัดกลุ่มมาเอง หรือจะติดตามข่าวสารในเพจแล้วมาเข้าร่วมกลุ่มก็ได้ไม่ว่ากัน เพราะว่าที่นี่มีคอร์สหลายรูปแบบ หรือว่าใครมีโปรเจคต์ส่วนตัวอยากจะฝากเผาเซรามิคเค้าก็ยินดีรับเผาให้
หรือใครที่ชอบแต่ยังไม่มีเวลามาเรียน ที่นี่ก็มี คอลเล็กชั่นเซรามิค น่ารักๆ ที่ปั้นกันเองกับมือ มาซื้อมาช็อปไปตกแต่งไปใช้ที่บ้านก็สวยไม่เบาเลย
สายสปอร์ต
เชียงใหม่เป็นอีก Destination หนึ่งที่นักปีนเขาจากทั่วโลกปักหมุดไว้ว่าสักครั้งหนึ่งต้องมาให้ได้ เพราะว่ามีหน้าผารูปม้าที่เรียกว่า Crazy Horse อยู่ที่กิิ่งอำเภอแม่ออนที่เรียกกันว่า “ยากติดอันดับ” จนต้องมาสักครั้งในชีวิต แต่ถ้าถามถึงสถานที่ฝึกมือที่นักปีนเขาทั้งหลายต้องมาซักซ้อมก่อนที่จะไปปีนเขาจริง ก็คือที่ CMRCA ที่เปิดให้ซ้อมทั้งมือสมัครเล่น และ มือโปร หลายคนมาครั้งแรกจนกลายเป็นขาประจำ หรือถ้าจะให้อธิบายบรรยากาศที่นี่แบบง่ายๆก็อาจจะเป็น “ศูนย์รวมนักปีนผาแซ่บๆจากทุกมุมโลก” 555
ที่นี่เป็นหน้าผาจำลองแบบ Boldering หรือง่ายๆ คือการปีนหน้าผาแบบไม่ใส่อุปกรณ์เน้นกำลังล้วนๆ ลักษณะจะไม่เน้นสูง แต่เน้นชัน! ถ้าไม่ไหวก็แค่ปล่อยตัวลงเบาะนิ่มๆ หรือ…เข้าทางอี่ช้อยมันค่ะ คือไม่ไหวก็เล็งที่หล่อๆ แล้วก็ทิ้งตัวให้เค้าช่วยสิคะจะรออะไร นาทีทองกันขนาดนี้ แล้วถ้าเทิร์นเป็นมือโปรเมื่อไหร่ วันดีคืนดีเค้าก็จะนัดกันออกไปไปปีนหน้าผาจริงกัน
CMRCA จะอยู่ในคูเมืองฝั่งประตูเชียงใหม่ ซอกแซกหน่อยไม่ค่อยมีที่จอดรถใหญ่ ขี่ Vespa GTS Super 300 ABS ฉวัดเฉวียนแปปเดียวก็ถึง แถมไม่ต้องกลัวไม่มีเพื่อน โอ้ยยย แซ่บลื้ม!
สายแฟชั่น
“Local Designer is not DEAD” เดี๋ยวนี้ซื้อเสื้อผ้าเอะอะอะไรก็ต้องขึ้นห้าง ซื้ออะไรมาเพื่อนก็ทัก มีเหมือนกันเลย เหมือนเปี๊ยบบ้าง คนละสีบ้าง หนักหน่อยก็โดนทักเป็นฝาแฝด หรือหนักกว่านั้นอีคนที่หมั่นไส้ดันใส่เสื้อเหมือนกันวันที่บังเอิยเจอ 55555 เลยต้องหนีมาซื้อเสื้อผ้านอกห้าง Local designer ที่ไม่มีใครเหมือน ที่ใจกลางแยกกลางเวียงเชียงใหม่ (แยกที่เวลาเดินถนนคนเดินแล้วทุกคนต้องมาเจอกันตรงกลาง)
มีร้านเล็กๆ ชื่อร้าน General Style เป็นร้าน Local Designer ที่ดัดแปลงเสื้อผ้าแต่ละตัวให้ไม่เหมือนใคร จนบางตัวได้ไป Seoul Fashion week มาแล้วนะยะ สไตล์ของร้านจะเป็นแนวที่ Unique มาก เปรี้ยวมากแบบมะนาวเรียกพี่ มีตั้งแต่ใส่(โคตร)ยากไปถึง เก๋ๆ ใส่ได้หลายวัน แต่พี่เจ้าของร้านที่เป็นคนออกแบบจะอยู่ประจำคอย Mix and Match อันไหนชอบแต่ไม่แน่ใจ “มันใส่กับอะไรดีอะพี่?” ก็ลองถามแกดู เป็นร้านน่ารักๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ฮิตมากสำหรับนักท่องเที่ยวแต่เป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับใครที่เป็นแฟชั่นนิสต้ากำลังมองหาอะไรใหม่ๆ ระหว่างอยู่เชียงใหม่
สายกิน
ถ้าต้องเปลี่ยนคำขวัญยุค 2018 ของเชียงใหม่ได้ นอกจาก จะเป็นศูนย์กลางล้านนา แล้วยุค 2018 นี้ต้องเปลี่ยนเป็น ศูนย์กลางล้านกาแฟแล้วแหละ เพราะว่าทุกหัวมุมถนนในเชียงใหม่ก็จะหากาแฟกินกันได้ไม่ขาดสาย เพราะแทบจะมีทุกๆ 10 ก้าวในย่านนิมมาน กินกันเหมือนเป็นร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชม. ชาวเชียงใหม่กินกาแฟกันเหมือนจะไม่ยอมหลับยอมนอน แต่จะมีกี่ร้านที่เอาไว้กินจริงๆ ไปแล้วไปอีก ไม่ต้องเก๋มาก เอาพอดีๆ นั่งไม่ต้องเกร็ง เรามักจะไปที่ Larder Cafe
เพราะแทบจะมีทุกๆ 10 ก้าวในย่านนิมมาน กินกันเหมือนเป็นร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชม.
แต่มีไม่กี่ร้านจริงๆ ที่ไปแล้วไปอีก ไม่ต้องเก๋มาก แต่เอาพอดีๆ นั่งได้แบบไม่เกร็ง แต่งตัวธรรมดาก็ไปกินได้ ไม่ต้องแต่งเต็มเป็นสาวฮิปก็นั่งกินร้านนี้ได้แบบไม่เคอะเขิน เพราะ Larder Cafe เป็นร้านอาหารเช้าและกาแฟเข้มข้นสไตล์ Australian Cafe ที่ไม่ประดิษฐ์มาก ร้านตั้งอยู่นิมมาน ซอย 2 (ชาวเชียงใหม่เรียกซอยล้อเกวียน) หน้าร้านเล็กๆที่จอดค่อนข้างจำกัด ขี่ Vespa GTS Super 300 ABS ไปจอดหน้าร้านก็เดินเข้าร้านก็แสนสะดวกสบาย ไม่ต้องหาที่จอดนานเมนูหนึ่งที่เราชอบมากคือ แซนวิชหน้าเปิด ลูกฟิก และ มาสคาโพนชีส อาหารเช้าแบบหวานๆ เบาๆ เฟรชๆ และสิ่งหนึ่งที่ดีของที่นี่คือ อาหารมาไว ไม่ต้องรอนาน กินเสร็จปุ๊ปไปทำอย่างอื่นต่อได้
สายทำงาน
มาอยู่ต่างที่นานๆ ไม่ทำงานแล้วจะเอาอะไรกิน! หรือบางคนไปเที่ยวแปปเดียวแต่ก็ขอเถอะ ขอเอาโน๊ตบุ๊คติดมาด้วย มีไว้ก็อุ่นใจจะได้ทำงานได้ทันที นี่แหละค่ะกระแสการใช้ชีวิตสมัยใหม่ของหลายๆ คนเน้นการทำงานแบบ Online มากขึ้น ทำงานได้อิสระ ขอแค่มี wifi และปลั๊กไฟ
ที่เชียงใหม่มีที่ๆ นึงที่แนะนำเป็น Co-Working Space ที่เราสามารถยกเพื่อน ยกทีม ไปทำงานกันได้แบบไม่ต้องเคอะเขิน เพราะที่นี้เค้าออกแบบให้เรามานั่งทำงาน ทั้งวันทั้งคืนโดยเฉพาะ Heartwork Sharing Space ความดีงามของที่นี่นอกจาก พื้นที่เพดานสูงโปร่งไม่อึดอัด นั่งได้นาน คือเค้ามี Facility ในการปรินท์งานบริการ สำหรับใครที่ทำงานสายถ่ายภาพ ตัดต่อแต่งสี เสร็จก็สามารถ ทดลอง Print ออกมาดูแบบ Quality Grade จึงเหมาะสำหรับใครที่ทำงานและมองหาที่ปรินท์งานไป Present ต่อได้ เป็น One stop service ที่ดีทีเดียว
Let’s Get out and about!
สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ข้อหลักที่หลายๆคนตัดสินใจ ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่นี่หรือมาพักใช้ชีวิตช่วงสั้นๆ ก็เพราะว่าเราสามารถหนีเชียงใหม่ออกไปหาเขาเขียวๆ ด้วยบิดมือเดียวไม่เกินครึ่งชั่วโมง เราก็ได้ออกไปหายใจแบบสะอาดๆ สักพัก แล้วกลับมานอนสบายๆ ที่บ้านแบบไม่เหนื่อยเกินไป ยิ่งมี Vespa GTS Super 300 ABSที่เป็นมากกว่าสกู๊ตเตอร์ธรรมดา แต่ยังเป็น Materials ชั้นดีที่ทำให้เราแตกต่างกว่าใคร ขี่ในเมืองไปกินกาแฟ ทำงานคราฟต์ หรือบิดออกไปหาเขาเขียวๆ ระยะไกลก็สะดวกสบาย ขี่ได้สนุกในทุกเส้นทางที่ท้าทายตัวเอง เราจะมาแนะนำเส้นทางหนีเมือง แบบใกล้ๆ พาแฟนซ้อนท้ายไปสวีทให้ป้าร้านขายน้ำเงี้ยวแถวนั้นมองตาม
เส้นหลังมช. วัดอุโมงค์ – บ้านข้างวัด – วัดร่ำเปิง – สถานีเกษตร มช.
ปลายทางสถานีเกษตร มช. เป็นป่าเขียวใกล้เมืองเล็กๆ ที่ช่วงหน้าหนาวจะมีการปลูกพืชผักผลไม้ หรือดอกไม้หมุนเวียน เราสามารถแวะเวียนมาถ่ายรูปเล่น ช่วงเสาร์อาทิตย์ก็ออกมาหาอาหารออร์แกนิค อร่อยๆที่กาดหมั้ว หรือตลาดสดตามภาษาคนเมือง ซื้อผัก ผลไม้สดๆ ไปกินที่บ้าน แถมได้สูดอากาศดีๆตามทาง
เส้นแกรนด์แคนยอน – ผาช่อ
เส้นทางนี้ไกลหน่อย แต่กำลังดีสำหรับคนที่ชอบขี่รถไกลๆ บิดไม่เกิน 40 นาทีเราก็จะถึงอุทยานแห่งชาติแม่วางหรือที่หลายๆ คนเรียกติดปากว่า ผาช่อ นั่นแหละ หน้าผาที่ถูกกัดเซาะจนเกิดรูปร่างประหลาด สูงตระหง่าน แปลกตา สำหรับเส้นทางกลับก็อย่าลืมแวะ แกรนด์แคนยอนเชียงใหม่ กระโดดน้ำคลายร้อนกันซักหน่อย ที่นี่ยังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวไม่เสื่อมคลาย แต่เราแนะนำให้ไปช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก ด้วยเหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้หลายประการ ทั้ง 1. ไม่ร้อนมาก
2. แสงสวยละมุน ถ่ายรูปกำลังดี
3. คนไม่เยอะ จะโดดกี่รอบก็ได้เพราะทั้งบ่อเป็นของเราคนเดียว
เส้นทางนี้เราว่าสนุกกำลังพอดี มีกิจกรรมให้ทำเยอะ ถ้าใครจะพาเพื่อนมาเที่ยวแบบไม่ไกลเมืองมาก การเที่ยวแบบที่คนชอบถามไปเชียงใหม่วันนึงทำอะไรดี ไม่เอาในเมือง เราว่าเส้นทางนี้เหมาะสมสุด แล้วยิ่งถ้าออกเดินทางพร้อม Vespa GTS Super 300 ABSรถสกู๊ตเตอร์ที่ไม่เหมือนใครแต่เป็นทั้งแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้เราและเพื่อนร่วมทางที่แสนดี เพราะเจ้ารถคันนี้มีสมถรรนะสามารถขี่ระยะไกลได้สบายๆ บิดได้เร็วแม้จะมีเพื่อนตัวใหญ่ซ้อนท้าย เพิ่มความสนุกให้การเดินทางนั้นราบรื่นและแฮปปี้มากขึ้นด้วยนะ
เชียงใหม่ยังเป็น Destination ยอดฮิตตลอดการสำหรับการเดินทางในประเทศ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถครีเอททริปเจ๋งๆ หรือหากิจกรรมดีๆ แบบนี้ได้ ลองเปลี่ยนมองเชียงใหม่และเที่ยวในมุมที่แตกต่างออกไป ให้มีสไตล์มากขึ้น ไม่ซ้ำใคร แถมยังได้กลิ่นเชียงใหม่หน่อยๆ ตลอดการเดินทาง จะได้ไม่เบื่อที่นี่กันไปก่อน ออกมาเที่ยวเชียงใหม่กับ Vespa และไปไง มาไง นี่คือทริปที่ครีเอทขึ้นมาให้คุณ คุณนั่นแหละที่อ่านมาถึงตรงนี้ ;)
