“มันโอเคและดีจริงๆ ใช่ปะ” นี่คือคำถามของทุกคนหลังจากกลับมาจากดินแดนที่พูดจากันหนาหูว่าน่ากลัว หน้าตาบึ้งตึงและดูอันตราย เพราะไม่ว่าใครถามเราตอบเป็นคำตอบเดียวกันทั้งหมดว่า “สนุก น่าไป ไม่น่ากลัว ราคาเลิศและสวยมากกกกกกกก” นี่คือเรื่องจริงที่เราพูดถึงดินแดนหมีขาวอย่าง รัสเซีย ประเทศที่ดูยิ่งใหญ่ กินพื้นที่ไปจะครึ่งโลก เคร่งขรึมแต่รูปหล่อและน่าค้นหา และมีเสน่ห์ที่สุด!
‘REALLY? Was it REALLY a good trip?’ was everyone’s reaction after we came back from the country people often can be both dull and dangerous. However, let us tell you again that the gigantic, charming land of polar bear in Russia is actually really ‘fun, affordable, travel-worthy, and absolutely gorgeous!’
ทริปรัสเซียรอบนี้เลยตั้งใจทำตามที่ฝันไว้ว่าซักวันจะมาเหยียบรัสเซียให้ได้ จะมาดูให้เห็นกับตาว่าที่นี่ น่ากลัวจริงหรอ บอกเลยว่ารัสเซีย 5 คืน 6 วันที่เราจะเล่าต่อไปนี้ จะทำให้ใจทุกคนเต้นแรงเหมือนเจอคนที่ชอบคนแรกตอนอายุ 14 เพราะถ้ารัสเซียเป็นคนนี่คือผู้ชายที่หล่อและมีเสน่ห์ พูดน้อย ต่อยหนัก และน่าค้นหามาก มาค่ะ! ถ้าจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี รีวิวนี้จะพาทุกคนแพลนทริปพร้อมกันอ่านจบปุ๊ปจองตั๋วได้ทันที ตามรอยได้ ไปไม่ยาก งบไม่บานปลาย และคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้เห็นในรัสเซียล้านเปอร์เซนต์
We came here to fulfil the dream that to finally come to Russia and see if it’s as scary as I imagined it to be. But guess what – after 6 days 5 nights spent, we can guarantee that Russia will make your heart beat as if this was your puppy love in the early years! If Russia were a man, this is definitely a handsome and charming guy who rarely opens up, making him even more charming! If you are not sure where to start, this review will take you through the itinerary, so that you can immediately book the tickets to follow our footprint after this! This trip is not difficult, not expensive, and very worthy of very single cent spent!
Masterpieces of MOSCOW – SHOT BY Lumix G85
Good Tips to Russia!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในขณะที่หลายๆ ชาติต้องขอวีซ่าเรารัสเซียกันให้วุ่นวาย และประเทศไทยนั้น Free Visa เดินเข้ารัสเซียได้ทันทีไม่ต้องไปทำวีซ่าอะไรทั้งนั้น เพราะความสัมพันธ์ที่ดีงามของไทยและรัสเซียทำให้โอกาสดีๆ แบบนี้ตกมาอยู่ที่นักท่องเที่ยวแบบพวกเราทุกคน แถมการเดินทางจากกรุงเทพก็ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องให้ยุ่งยาก เพราะการบินไทย บินตรงจากกรุงเทพสู่มอสโกเกือบทุกวัน เชื่อมรัสเซียกับไทยไว้ด้วยกันแค่งีบเดียวก็ถึงแล้ว
Believe it or not – while many people have to get the visa for Russia. It’s actually exempted for Thais due to the good relations between Russia and Thailand. This chance allows travelers like us to easily get into the country, especially with many direct flights from Thai Airways which flies from Bangkok to Moscow almost every day, connecting Russia and Thailand together in just a short span of time.
และที่ถามกันมาทุกๆ ทริปว่าไปไง มาไง ใช้กล้องอะไรถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอบอกเลยว่าเราใช้ Panasonic Lumix G มาตั้งแต่ต้นปีแล้วจ้า เพราะ Lumix ให้ภาพที่คมชัดแบบสุดๆ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ด้วยความที่ตัวกล้องไม่ใหญ่มากเกินไป แต่คุณภาพครบครัน ทำให้เราสามารถพกพาได้สะดวกมาก เหมาะกับไลฟ์ไตล์อย่างพวกเราที่ต้องเดินทางบ่อยๆ หรือเจออะไรที่น่าสนใจก็ Snap Snap Snap เร็วๆ ได้เลย ทริปนี้เลยไม่พลาดที่จะหยิบ Lumix G85 และ GX85 มาใช้ถ่ายภาพและวิดีโอสวยๆ พร้อมบอก Feature ดีๆ ให้รู้กันด้วย
As many of you have asked on the camera model we used, we can confirm you that we use Panasonic Lumix G for both photos and videos since the beginning of this year, as Lumix provides crystal clear picture at really impressive quality. And for this trip, we chose to bring Lumix G85 and GX85 to share the moments with you guys, together with description on the cool features.
Russia Day 1 Moscow – St. Petersburg
เราออกเดินทางกับการบินไทย TG 974 จากกรุงเทพบินตรงไปยาวๆ เก้าชั่วโมงไปลงที่มอสโก – โดโมเดโดโว (DME) สนามบินที่ใหญที่สุดของมอสโก อุ่นใจทุกครั้งที่ได้บินกับการบินไทย เพราะที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนคนที่บ้านไปส่งถึงปลายทาง พี่แอร์ชุดไทยสไบเฉียงนี่เป็นเอกลักษณ์จริงๆ
We travelled with Thai Airways flight TG 974 directly from Bangkok to to Moscow – Domodedovo (DME), Moscow’s largest airport, which took us 9 hours in total. As always, we are very pleased to fly with Thai Airways, because it feels like home – wherever we go.
การบริการแบบไทยๆ ที่พูดภาษาเดียวกันรู้เรื่อง ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น แถมยังให้บริการด้วยเครื่องบินแบบ 777-200/300 ทำให้ เครื่องใหญ่ กว้างขวาง นั่งสบาย แถมเสิร์ฟอาหารและขนมไทยที่ถูกปากตั้ง 2 มื้อก่อนถึงมอสโก เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมการบินไทยถึงได้รางวัล World’s Best Economy Class ประจำปี 2017 จาก Skytrax
The quality service from Thai standard and the ability to speak the same language gave us such great comfort during the flight. The comfortable and spacious 777-200 / 300 aircraft welcomed us for the journey, while two palatable meals and desserts were served before arrival in Moscow. Because of all this, we have no doubt why TG has won the World’s Best Economy Class Award in 2017 from Skytrax at all!
จากสนามบินเราเข้าเมืองด้วยรถไฟ Aero Express ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีก็จะถึงใจกลางกรุงมอสโก บอกเลยว่ารถไฟฟ้าที่นี่สวยมากกกก แต่ละสถานีอลังการและยิ่งใหญ่ แต่สิ่งที่ต้องระวังให้มากคือระวังหลง คอยดูสถานีให้ดี และคนที่นี่จะไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษรวมถึงป้ายภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยดีด้วยเช่นกัน 5555
From the airport, we took Aero Express train to the city, which took about 50 minutes to reach the center of Moscow. You won’t believe how grand and gorgeous each train station is! But – be very careful on the directions as the people here do not speak English, and the English signage is not so clear.
แต่อย่าตกใจไปเพราะสามารถเดินไปถามที่ Information ในสถานีได้เลย เจ้าหน้าที่น่ารักทุกคน พุดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วแถมคอยช่วยบอกทางด้วยนะ
However, do not panic if you’re lost, because you can easily walk to the information counter in the station, as the friendly, English-speaking staff are waiting to assist you.
วันแรกที่ถึงเรานั่งรถไฟความเร็วสูงจากมอสโกไปเซนต์ปีเตอร์เบิร์กต่อเลยตอนหัวค่ำและไปถึงที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์กดึกๆ เพราะตื่นเช้ามาจะได้เริ่มเที่ยวได้ทันที จะนอนบนรถไฟก็กลัวตื่นมาไม่สดชื่น ราคาไม่ห่างกันมากเลยนั่งไปนอนที่เซนต์ฯ เลยดีกว่า
On the first day of arrival, we took the high-speed train from Moscow to St. Petersburg in the evening, reaching late at night, so that we could wake up the next morning to start traveling afresh, which will allow us a better sleep than to sleep on the train itself.
รถไฟความเร็วสูงที่เรียกว่า Sapsan จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงทำให้มาถึงเซนต์ฯ ค่อนข้างดึก ทริคของเราเวลาเดินทางคือถ้าถึงเมืองไหนดึก ยอมจ่ายแพงอีกนิดเลือกโรงแรมที่ได้มาตรฐานที่จะคอยช่วยเหลือเราได้และให้คำแนะนำเราได้ โชคดีที่โรงแรมดีๆ ในรัสเซียไม่แพงมาก เราพักกันที่ Novotel St.Petersburg Centre เดินไม่เกิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟหลักของเมือง
The high-speed train called Sapsan took about 4 hours to finally arrive at St. Petersburg. Our trick is to pay a little more for a high standard hotel when arriving late, so that they can help and advise us for anything we need. For this trip, we’re so lucky to stay in a reasonably-price and high quality hotel, which is Novotel St. Petersburg Centre, which takes less than 10 minutes to walk there from the main train station.
เตียงนุ่มสบาย มีอาหารเช้าในราคาคืนละประมาณ 3,000 บาทนิดๆ สำหรับสองคนเราว่าโอเคมาก แถมคอยชี้จุดให้เราได้ว่าวันนี้ควรไปตรงไหนก่อน จุดไหนคนเยอะ แถมฝากกระเป๋าได้ทั้งวันหลังจากเช็คเอาท์ ค่อยกลับมาเอาก่อนนั่รถไฟกลับไปมอสโก
With the comfy bed and yummy breakfast at the price of about 3,000 baht for two per night, we totally think this is a great deal! The hotel staff are also ready to assist us on where we should head to first, where it’s crowded, and you can deposit your stuff all day long after checking out, before heading back to Moscow.
Russia Day 2 – St.Petersburg
วันแรกหมดไปกับการเดินทางค่อนข้างเยอะ แต่สบายกว่าที่คิด เรามาเริ่มเที่ยวกันจริงๆ วันที่ 2 ตื่นเช้ามาออกเดินเที่ยว ยิ่งตกใจกับความอลังการของตกราบ้านช่องที่นี่ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สวยใหญ่โตไปหมด เซนต์ปีเตอร์เบิร์กเป็นเมืองที่สวยและโรแมนติกมากสำหรับเรา คือเหมาะจะพาแฟนมาเที่ยวหรือไม่งั้นก็ต้องมากันเป็นแก๊งค์หลายๆ คนไปเลยแบบพวกเรา
Though we spent our first day mainly on traveling, it was definitely more comfortable than we expected. But now, let’s start to really explore the city from day 2 onwards. We were so amazed by the beauty of the architecture, wherever we went to. St. Petersburg is incredibly beautiful and romantic, perfect to come with your significant other, else, would be fun too to come in a big group like us.
จริงๆ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในเซนต์ฯ สามารถเดินถึงกันได้หมดในระยะที่พอเหนื่อย 5555 เราเดินชื่นชมความงามของถนนเส้น Nevsky Avenue และ Anichkov Bridge ไปเรื่อยๆ ร้านไหนน่ารักก็แวะกินกาแฟยามเช้ากันซะหน่อย คนที่เซนต์ฯจะพูดภาษาอังกฤษได้เยอะกว่าที่มอสโกตามที่เราสังเกต และป้ายภาษาอังกฤษก็มีเยอะกว่าด้วยเช่นกัน
Actually, most tourist attractions in St. Petersburg are located in a walkable distance (although a little bit tiring to do so). We strolled through the pretty stretch of Nevsky Avenue and Anichkov Bridge, stopping at lovely coffee shops to have our daily dose. Along the way, we noticed that people in St. Petersburg actually speak more English than in Moscow, and English labels are also much more common as well.
วันแรกที่เราไปถึงมีฝนตกนิดหน่อย กล้อง G85 ที่เราเอามาเน้นถ่ายวิดีโอในรอบนี้ มี Design และ Body เหมาะกับการใช้งาน Outdoor มากๆ ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ มี splash proof และ dust proof ที่ทำให้จับถนัด ถ่ายได้แม้ถือมือเดียว
ที่แรกที่แวะไปแล้วก็ตาค้างกันตั้งแต่ที่เห็นคือ St.Isaac’s Cathedral นี่คือวิหารนี่ว่ากันว่าใช้เวลาสร้างนานถึง 40 ปี มีภาพสลักนูนต่ำมากมาก รวมถึงภาพวาดตามผนังและเพดานที่งานละเอียดมากและใช้สีเป็นหมื่นๆ สี ทำให้คุ้มค่าแก่การแหงนคอมองตลอดเวลา
The first destination we visited is St.Isaac’s Cathedral, which is said to have taken up to 40 years to build up, filled with many low relief carvings and wall/ceiling paintings that are very meticulous, making it worth looking up above throughout the time inside the cathedral.
จุดเด่นของมันคือโดมทองด้านบนที่ว่ากันว่าอีกแล้ว 5555 ฉาบด้วยทองคำกว่าร้อยกิโล ทำให้ที่นี่กลายเป็นมหาวิหารที่ตกแต่งได้เวอร์วังอลังการมากที่สุดในโลกไปโดยปริยาย
The highlight of this place is the golden dome on top, which is believed to be made with more than 100 kg worth of gold, making this place one of the most grand and gorgeous cathedrals in the world.
ใครแวะมาที่นี่ Note ไว้เลยว่าปิดทุกวันพุธนะ และจากจุดนี้ก็สามารถเดินไป The State Hermitage ได้ง่ายๆ ด้วย
For anyone planning to drop by, please note that the cathedral is closed every Wednesday! From this place, you can also easily walk to The State Hermitage too.
The State Hermitage คือจุดใกล้ๆ อีกจุดที่เดินมาต่อได้เลย ที่นี่ใช้เป็นที่เก็บสมบัติของชาติ ทั้งทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม ของเก่า ของของที่ได้รับมาจากต่างประเทศ ทั้งภาพวาดและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ตึกยาวสีฟ้าสดใสตึกนี้มีห้องรวมกันมากกว่า 1,000 ห้อง และมีสิ่งของในพิพิธภัณฑ์รวมกันมากถึง 3 – 4 ล้านชิ้น คือถ้าจะเดินดูทุกห้องวันเดียวก็ไม่น่าจะหมด
The State Hermitage is another place walkable from the cathedral, used as a place to keep national treasure, including arts, culture, antiques, gifts from foreign countries, many paintings, tools and equipment. The long, bright blue building consists of more than 1,000 rooms, with 3 to 4 million pieces of displays/treasure in total. It’s definitely unlikely anyone can finish visiting the whole collection within a day!
ด้านในก็มุมถ่ายรูปเก๋ๆ เยอะมากทั้งโถงทางเดิน แลถห้องจัดแสดงศิลปะที่แบ่งเป็นยุคและสมัยต่างๆ ได้อย่างครบครัน
Many areas inside are perfect for hippy photoshoots, both the hallways and the art exhibition rooms, which are nicely divided into different eras and periods.
ส่วนด้านนอกนั้นตัวอาคารสีฟ้าอมเขียวตัดกับท้องฟ้าในวันแดดดีๆ ที่นี่สวยมาก! แถมยังมีคนแต่งตัวแบบยุคที่ปีเตอร์มหาราชเปิดประเทศใหม่ๆ ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาเดินไปเดินมาเย้ายวนให้เราเสียเงินไปถ่ายด้วย ความอลังการของที่นี่ควรเผื่อเวลาไว้ซักครึ่งวันเต็มๆ ในการมาดู เห็นว่าบางส่วนของที่นี่ทำเป็นโรงแรมด้วยซึ่งราคาน่าจะสูงน่าดูเพราะที่นี่เคยเป็นที่ประทับของเจ้านายมาก่อนด้วยนา
The exterior of the building is in aqua blue color, with goes along with the sky on a sunny day very well. There are also people dressed in the Renaissance style walking around, tempting us to spend money to take a photo with them. With such splendor throughout the place, we recommend spending half a day to visit this place. We also heard that some of this place used to be a hotel, which we have no doubt on the high price paid.
ส่วนด้านนอกนั้นตัวอาคารสีฟ้าอมเขียวตัดกับท้องฟ้าในวันแดดดีๆ ที่นี่สวยมาก! แถมยังมีคนแต่งตัวแบบยุคเรเนซองค์เดินไปเดินมาเย้ายวนให้เราเสียเงินไปถ่ายด้วย ความอลังการของที่นี่ควรเผื่อเวลาไว้ซักครึ่งวันเต็มๆ ในการมาดู เห็นว่าบางส่วนของที่นี่ทำเป็นโรงแรมด้วยซึ่งราคาน่าจะสูงน่าดูเพราะที่นี่เคยเป็นที่ประทับของเจ้านายมาก่อนด้วยนา
The exterior of the building is in aqua blue color, with goes along with the sky on a sunny day very well. There are also people dressed in the Renaissance style walking around, tempting us to spend money to take a photo with them. With such splendor throughout the place, we recommend spending half a day to visit this place. We also heard that some of this place used to be a hotel, which we have no doubt on the high price paid.
อ้อ! และถ้าเห็นแถวคิวยาวๆ ไม่ต้องตกใจเพราะแถวนั้นสำหรับชาวรัสเซียนที่ต้องซื้อบัตรแบบใช้ส่วนลดต่างๆ นักท่องเที่ยวแบบเราๆ ที่จ่ายเต็มนั้นสามารถกดซื้อบัตรที่ตู้อัตโนมัติ แล้วเดินเข้าไปได้เลยทันที
And if you happen to see a long queue, no worries, because that’s for Russians who queue up to buy discount cards. Tourists like us who need to make full payment can just buy the card at the automatic machine and get in right away.
ด้านหน้าของ The State Hermitage คือ Dvortsovaya Square หรือ Palace Square จุดถ่ายรุปอีกจุดที่คนชิคๆ อย่างพวกเราแวะถ่ายรูปกันนานซะหน่อย ลานกว้างๆ วันที่แดดดีๆ โอ้ยย ใครจะอดใจไหว ตรงนี้ยังมีเสาหินพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่สร้างขึ้นสมัยที่รบชนะ ทำให้บริเวณนี้ทุกๆ วัน Victory Day ของรัสเซีย ทหารทั้งหลายก็จะออกมาเดินขบวนเฉลิมฉลองรำสึกถึงชัยชนะในอดีต
The front of The State Hermitage is Dvortsovaya Square or Palace Square, which is perfect for taking photos on nice sunny days! There is also a stone pillar built by King Alexander after winning the battle, making this area become the celebratory area for Russia’s Victory Day, where soldiers march to celebrate and remember about the victory in the past.
ส่วนเรานั้นขอนั่งกินไอสกรีมซักถ้วยมองผู้คนเดินไปมา พร้อมกับแดดอุ่นๆ อากาศดีๆ แถวนี้ก็ฟินแล้ว
For us, we would like to enjoy a cup of ice cream in the warm sunshine and nice weather, looking at people walking along this majestic place.
แต่ละจุดเราใช้เวลาค่อนข้างนานทั้งเรื่องถ่ายรูปและวิดีโอ เพราะมันสวยทุกจุดจริงๆ ไฮไลท์ของเราสำหรับวันแรกนี่ก็ทำน้ำตาแทบไหลกับ Church of Savior on Blood โบสถ์หยดเลือด สีสันของมันดูอึมครึมเคร่งขรึมไปซักหน่อย แต่ถ้าได้แดดดีๆ แล้ว ถ่ายรูปออกมาจะสวยและคมชัดที่สุด เพราะ กล้อง GX85 ที่เรานำมาถ่ายภาพนิ่งโดยเฉพาะสามารถบันทึกภาพสวยๆ ของรัสเซียได้แบบ 4K Photo คือการบันทึกภาพ 30 ภาพต่อวินาที ด้วยการกด mode pre-burst กด 1 ครั้งกล้องจะบันทึกภาพ 1 วินาทีก่อนกด และ 1 วินาทีหลังกด ฉะนั้นจะไม่พลาดช็อตเด็ดที่สวยและประทับใจที่สุดแน่ๆ แถมหน้าจอ Tiltable monitor ยังเป็นจอ LCD พับขึ้นลงได้สะดวกสำหรับการถ่ายภาพในมุมต่างๆ จะกระโดด จะนอนถ่ายยังไงก็สะดวก
We spent quite some time at each spot, shooting both photos and videos, simply because this country is so magnificent! Our highlight for the day was the Church of Savior on Blood, whose color might look dull and gloomy, but the best object to shoot under bright sunshine!
เรื่องราวของที่นี่ก็น่าเศร้าเพราะเค้าสร้างทับจุดที่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ถูกลอบปลงพระชนม์จากผู้ก่อการร้าย ด้านในของที่นี่ก็คล้ายๆ กับวิหารอื่นๆ คือมีสถาปัตยกรรมที่อลังการ และมีหลุมศพของเชื้อพระวงศ์อีกหลายพระองค์อยู่ด้านในด้วย แต่ที่น่าสนใจคือเงยหน้ามองผนังเพดานเถอะ นั่นแหละค่ะ สวยที่สุดแล้ว
The story of this church is quite sad, because it was built over the place where Tsar Alexander II was assassinated by the terrorists. For the interior of the church, it is similar to other churches where there is luxurious architecture and many other royal graves inside. But – the interesting, captivating part is surely the ceiling!
อาหารในรัสเซียพูดกันตามตรงว่าอาจจะไม่ค่อยถูกปากคนไทยเท่าไหร่ แต่ฟาส์ตฟู๊ดหัวนอก ทั้ง KFC PIZZA HUT BURGER KING บางแบรนด์มีขายเบียร์สดกับไก่ทอดด้วยนะ 555 แต่ถ้าร้านแบบรัสเซียนจ๋าเลย ก็คงไม่พ้น TEPEMOK ร้านนี้มีหลายอย่างให้เลือกและรสชาติไม่เลวเลยแหละ
Frankly speaking, Russian food may not be on top of the list for Thai people, but no worries, as many fast food chains like KFC, PIZZA HUT and BURGER KING are available! Some brands also offer fresh beer with fried chicken, which is not to miss out too! But if you’re keen on authentic Russian cuisine then, TEPEMOK would be the best choice, given there are many dishes to choose, and the food is really not bad.
Russia Day 3 – St. Petersburg
วันที่สามในแดนหมีขาวเรามีเวลาในเซนต์ฯ อีกทั้งวันสำหรับการเที่ยวเมืองแสนโรแมนติกเมืองนี้ เราข้ามฝั่งแม่น้ำไป วิหาร Peter and Paul Fortress ในวิหารด้านในแปลกมากกก เพราะถ่ายรูปออกมาจะติดสีเขียวๆ ตลอด ดูหลอดนิดนึง แต่คนเยอะจนไม่วังเวง
On the third day, we had the whole day to roam around this romantic city. We crossed the river to Peter and Paul Fortress which is quite exotic, as the interior will look greenish when you take pictures inside. This might give you some chill in the spine, but not to worry as there are many people around.
นอกจากที่นี่จะใช้เป็นสถานที่ขังนักโทษทางการเมืองแล้ว มันยังเป็นหลุมศพสำหรับกษัตริย์ในหลายๆ พระองค์ รวมถึงราชวงศ์สุดท้ายของรัสเซียอย่างราชวงศ์โรมานอฟที่โด่งดังและเป็นตำนานด้วยเช่นกัน
In addition to being used as the jail for political prisoner, It is also used as the grave for many kings, including the last Russian royal family, the legendary Romanov Dynasty.
Checkpoint สุดท้ายก่อนกลับไปสวยกันต่อที่มอสโก มาถึงเซนต์ฯแล้วไม่ไปไม่ได้และคนมหาศาลเหมือนมาเดินมากาชาดแถวๆ สวนอัมพร นั่นก็คือ Peterhof นั่นเองค่า ที่นี่ออกจากนอกเมืองไปนิดนึงต้องนั่งรถรวมๆ แล้วเป็น ชม. แต่สามารถประหยัดเวลาได้ด้วยการนั่งเรือ Hydrofolid ประมาณ 40 นาที แต่ราคาก็เอาเรื่องเหมือนกัน เพราะตกครั้งละประมาณ 400 บาทไทย แต่ก้ประหยัดเวลาไปได้เยอะ เราเลยเลือกวิธีนี้ เรือจะมาจอดด้านหน้า Peterhof เลยแถวๆ Lower Park แล้วค่อยเดินขึ้นไปยังปราสาทด้านบน
Our last checkpoint before returning to the Moscow was undoubtedly Peterhof, which takes quite a long car ride, or you can also go by Hydrofolid boat ride for about 40 minutes, with the fare of about 400 baht for one-way ride. As such, we chose this pricey but convenient method of transportation, which stops directly in front of Peterhof in the area around Lower Park, from which we can walk up to the palace above.
ระหว่างทางเดินไป ได้อารมณ์คล้ายๆ ทัชมาฮาลนิดนึงแค่เปลี่ยนจากพี่แขกเป็นรัสเซียน และคนเยอะมากๆ ต้องระวังกระเป๋าใหดีนะ เวลามาที่นี่
On the way there, we felt that the vibe was similar to The Taj Mahal in the Russian version. It can be really crowded, so be careful of your valueables!
Peterhof เป็นพระราชวังฤดูร้อน ที่ห่างอกจากตัวเมืองมาพอสมควร ความกว้างของสวน ของพระราชวังสมกับเป็นรัสเซีย ที่นี่เคยเป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 5 ของเรา สมัยที่เสด็จประพาสยุโรปด้วยนะ นี่อาจะเป็นเหตุผลนึงที่คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าเข้ารัสเซียเพราะความสัมพันธ์อันดีงามมานมนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์โรมานอฟเลย
Peterhof is a summer palace which is quite far from the heart of the city, with the size of the garden suitable the size of the country (yes, so large!). And guess what, this used to be the place where Thailand’s King Rama V stayed when he was in the country. The good relationship since the Romanov Dynasty might be one reason why Thais don’t have to apply for Russian visa.
จาก Peterhof เรากลับมาเอาของที่โรงแรมแล้วรีบบึ่งตรงไปสถานีรถไฟเพื่อขึ้น Sapsan กลับมอสโกโดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง แต่.. ปรากฏว่าเราดูเวลารถไฟกันผิด ทำให้พลาดรถไฟด่วนขบวนสุดท้ายของวัน อยากเตือนนิดนึงว่ารถไฟรัสเซียตรงเวลามากๆ ควรเช็คให้ดีและเผื่อเวลาไว้ให้เยอะที่สุด อย่างน้อยก็มาเดินเล่นกินข้าวแถวๆ สถานีก็ได้ สมมติถ้าตกรถไฟที่จองไปแล้วเราแนะนำว่าให้ซื้อใหม่ไปเลย เพราะทำเรื่องของ Refund ก็ได้นิดเดียวไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป เพราะเราใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการขอ Refund ที่ได้มาน้อยนิด กับซื้อตั๋วรถไฟใหม่ ค่อนข้างเสียเวลา แนะนำค่ะว่าเทไปเลย เพราะได้คืนมาน้อยมากไม่คุ้มค่าเวลาที่เสียไปจริงๆ แต่ถ้าแพลนจะนอนบนรถไฟซักคืนก่อนกลับมามอสโกก็ไม่แย่เลยนะ
From Peterhof, we rushed back to the hotel and then straight to the train station to board Sapsan train back to Moscow in about 4 hours. However, due to misunderstanding, we missed the last express train for the day L. Please be aware that Russian trains run punctually, so spare some time to arrive early at the station. If you already miss the train, we recommend you to buy a new one directly as the process to get the refund is not worth the time spent, which takes about 4 hours to process. With this amount of time consumed, we recommend you to just move on and buy new tickets immediately.
Russia Day 4 – Moscow
ตัดภาพกลับมาที่มอสโกแบบรวดเร็ว กับเมืองหลวงของพี่หมีขาวที่ทั้งใหญ่ อลังการและแฝงไปด้วยความวุ่นวายทุกๆ ที่ 5555 ความยิ่งใหญ่ของมอสโกทำให้เราจินตนาการว่าทุกอย่างที่นี่ต้องแพงแน่ๆ! แต่บอกเลยว่าผิด เพราะมอสโกเป็นเมืองที่ค่าครองชีพถูกพอสมควร ทำให้จะกินจะใช้อะไรก็จ่ายได้สบายแบบเหลือๆ
Let’s get back to Moscow, the capital city, full of delight as well as hustles and bustles. With the magnificent vibe of Moscow, we thought everything would be expensive, but we were wrong. The cost of living here is actually very reasonable, so you don’t have to worry about splurging while coming here.
เราแนะนำว่าควรมีเวลาซัก 3 วันสำหรับการเที่ยวมอสโกแบบไม่ต้องรีบมากนัก ชิวๆ แวะถ่ายรูป เดินดูผู้คน มีเวลานั่งทอดอารมณ์ในสวนสาธารณะ กับบรรยากาศยุโรปที่มาคนเดียวก็ทำให้อยากมีแฟน หรือถ้ามีอยู่แล้วก็ทำให้คนข้างๆ นี่อิจฉากันได้เลย
We recommend taking a 3-day stay in Moscow so that you don’t have to rush, and able to just chill in the city throughout the stay. Take your time to stroll around, take pictures of people and places, or just enjoy a lovely time in a park. The European ambience in this city makes me wish someone’s here by my side!
ที่มอสโกเราพักกันที่ Novotel Moscow Centre ในเครือ Accor Hotels เช่นเดิม แม้มันจะไม่ได้ Centre มากนักเหมือนชื่อ แต่ความสะดวกสบายนั้นให้เต็มสิบ เพราะมีสถานีรถไฟอยู่หน้าโรงแรมแบบเดินไม่เกิน 20 ก้าวก็ไปได้ทั่วมอสโก แถมราคาถูกมาก มาตรฐาน Accor ราคาช่วงโปรโมชั่นไม่เกิน 3,000 ก็ได้โรงแรมที่ปลอดภัยไว้นอนให้อุ่นใจแล้ว
At Moscow, we stayed at the Novotel Moscow Centre under the Accor Hotels. Though the location is not as ‘Centre’ as the name, it was still very convenient for us to travel around, as is a train station right in front of the hotel! The price of the stay is very affordable with excellent Accor standard, which sometimes can be less than 3,000 baht per night – what a great deal!
จุดแรกในมอสโกที่ไม่มาก็เหมือนไปไม่ถึงรัสเซียคือ Red Square หรือจตุรัสแดง ถนนทุกสายหลักของมอสโกมีจุดตรงนี้ร่วมกันเหมือนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิที่กรุงเทพนั่นแหละ บางคนอาจจะนึกไม่ออกว่ามันกว้างขนาดไหน
The first spot we visited in Moscow is a must – the Red Square of Moscow. Apart from this, all of Moscow’s main streets are actually connected at one single place, which is just like Bangkok’s Victory Monument. You won’t believe how wide this place is!
เอาเป็นว่าสถานที่ไฮไลท์ของมอสโกแทบจะครบทั้งหมดภายในบริเวณ Red Square เลยแหละ เพราะมันกว้างมาก ทั้งอาคารที่สีแดงเลือดหมูที่ดูขลังและหล่อเป็นพิเศษอย่าง State Historical Museum ซึ่งติดกับ Red Square เลย
Most top attractions of Moscow are within the Red Square area, and it is very, very large. The maroon charming building of the State Historical Museum next to the square also builds up the grand vibe around the area.
หรือฝั่งตรงข้ามที่โดดเด่นเป็นสีสันสดใสอย่าง St.Basil พระเอกของมอสโกที่ไม่ว่าใครไปใครมาก็ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง เราเห็น St. Basil มาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งจากหนังสือเรียนหรือตามโปสเตอร์ หรือในนิตยสารต่างๆ ที่โปรโมตรัสเซีย และบอกตัวเองว่าอยากไปเห็นซักครั้ง และวันนี้ก็ไม่ผิดหวังเพราะมันสวยกว่าในรูปที่เคยเห็นซะอีก
St.basil เป็นสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียนเอง ซึ่งเรียกว่ามัสโควี ยอดโดมที่มีหลายๆ อันนี่มีความหมายนะจ้ะ เพราะมันหลายถึงการรบชนะมองโกลจำนวน 9 ครั้ง แต่ละครั้งที่รบชนะก็จะมาสร้างไว้หนึ่งอัน จนถึงทุกวันนี้มีเก้ายอดสวยเด่นเป็นสง่านี่แหละ
St. Basil has Russian-style architecture from Muscovite period. Guess what — the multiple domes on top shows Russia’s nine times of victory on battles against the Mongol, and each dome was built every time Russia won the battle, leading to nine beautiful domes today.
เยื้องๆ กันเราจะเห็นเหมือนอนุสาวรีย์หินแกรนิตเป็นเหลื่ยมๆไม่สูงมากเท่าไหร่ นั่นคือสุสานของเลนิน นักปฏิวัติที่เป็นผู้โค่นล้มระบอบกษัตริย์ของรัสเซียเลยนะ
Nearby stands a medium-height granite monument, which is Lenin’s Mausoleum, which serves as the resting place of Soviet leader Vladimir Lenin, who was a Russian communist revolutionary, politician, and political theorist who overthrew the Russian monarchy.
ส่วนอีกฝั่งนึงคือห้างที่เข้าไปเดินแล้วหลง เพราะมันใหญ่ และสวยมากกกกกกก นั่นคือห้าง GUM (อ่านว่า กุม) แต่ข้างในนั้นไม่มีอะไรถูกเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่เป็นของแบรนด์เนม และนี่คือห้างที่หรูที่สุดของรัสเซีย
The other side of the place stands a shopping mall that’s so big you can get lost in! This place is called GUM – one of the most luxurious malls in Russia that offers mainly luxury brands.
เราเข้าไปกินอาหารเที่ยงด้านในมาหนึ่งมื้อออกมาก็ตัวเบาเลย หันหน้ามาถามเพื่อนกันว่านี่ทำอะไรกันลงไป 55555 แต่ในห้าง GUM ช่วงซัมเมอร์จะมีไอสกรีมโคนขาย อยากให้ลองกินอร่อยมากๆ ราคาไม่แพงเลยประมาณ 50 บาทเท่านั้น
After having lunch in the mall, we realized how light our wallets became afterwards lol! Despite the regret of overspending money, there is an affordable and delicious ice cream here at GUM during the summer, which costs around 50 baht only.
ด้านหลังของห้าง GUM ยังมี Kasan Catheral อยู่ใกล้ๆ บริเวณ Red Square นั่นแหละถ้ายังไม่เหนื่อยกันซะก่อนไหนๆ มาทั้งทีก็แว๊บไปดูซักนิดก็ได้นี่เนอะ
On the back of the GUM stands Kasan Catheral near the Red Square, which is worth a visit too!
เนี่ยบอกแล้วว่าเที่ยว Red Square ที่เดียวก็แถบจะหมดทั้งมอสโกแล้วจริงๆ 5555 เราใช้เวลาบริเวณนี้ค่อนข้างเยอะ เพราะถ่ายมุมไหนก็สวย ยิ่งมีคนเดินไปเดินมาก็ทำให้ได้มุมเก๋ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยากให้เผื่อเวลากันเยอะๆ เลยตรงนี้ อย่าลืมว่าเราเดินทางมาเพื่อเก็บความรู้สึกดีๆ ใช้เวลาตรงนี้ให้เต็มที่ที่สุด ?
เราเดินไปจบวันที่ 4 ในรัสเซียกันที่ Catheral of Christ The Savior ที่นี่เป็นคริสตจักรนิกายออโธดอกซ์ที่สูงที่สุดในโลก จริงๆ ด้านในเข้าไปชมได้ฟรี แต่ห้ามถ่ายรูปเราเลยเลือกเดินดูเฉพาะรอบนอก และรอเวลาพระอาทิตย์ตก พร้อมกับแสงไฟของมอสโก และด้านในเครมลินที่ได้สีท้องฟ้าอ่อนๆ กับแสงไฟตามท้องถนนทำให้ที่นี่ดูสวยและน่าประทับใจขึ้นไปอีก
We finished our 4th day in Russia at the Cathedral of Christ The Savior, which is the tallest Orthodox cathedral in the world. Visits are free, but photography is not allowed. We chose to walk around just the outside of the cathedral, waiting for the sunset along with the lights of Moscow city and the inside of Kremlin, which had the lights and skyline to make it look even more beautiful and impressive.
ด้านหน้า Catheral of Christ The Savior จะมีสะพานยาวๆ สามารถเดินชิว นั่งคุย หรือหามุมชิคของตัวเองถ่ายรูปแถวนี้ได้เลย แต่ถ้าหิวเมื่อไหร่ อีกฝั่งของสะพานคือร้านอาหารชิคๆ เป็น 10 ร้านรอทุกคนอยู่ใน Red October ถ้าเห็นอาคารสีแดงฝั่งตรงข้ามนั่นแหละ เดินไปได้เลยมีข้าวเย็นให้กินแน่นอนจ้า
ภาพนี้เราถ่ายจาก G85 ที่มีระบบกันสั่น 5 แกน (กล้อง 3 แกน / เลนส์ 2 แกน) สามารถชดเชยแสงได้ถึง 5 stop เลยทำให้ G85 เป็นกล้องที่ถ่ายภาพได้นิ่ง สวย ในภาวะแสงน้อย
Russia Day 5 –Moscow
เช้าวันที่ 5 ในมอสโก เราเริ่มเที่ยวกันแบบที่เมืองไหนในโลกนี้ก็ให้ไม่ได้ถ้าไม่ใช่มอสโก นั่นก็คือการทัวร์สถานีรถไฟ 55555 ที่นี่ไม่ใช่แค่จุดขึ้นลงรถไฟเท่านั้น เพราะการตกแต่งภายในสถานีนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละที่ และมีเรื่องราวพร้อมกับสถาปัตยกรรมที่แบบ “โอ้โหหหห ขอหยุดถ่ายรูปหน่อยเถอะ หนึ่งนาทีก็ยังดี!” และกล้อง Lumix GX85 ที่เราพกมาด้วยขนาดกระทัดรัดทำให้เวลายกมาถ่ายตอนคนเยอะๆ ก็ไม่มีใครตกใจหรือแตกตื่นด้วยนะ 555
On the 5th morning in Moscow, we started exploring the only tour that can only happen in Moscow, that is.. the train station tour lol! Train stations in Moscow are not just simply for commuting, because the interior of the station varies from place to place, with stories behind the architecture that will make your jaw drop!
สถานีรถไฟในกรุงมอสโกนั้นมีเกือบ 200 สถานี แต่สถานีที่เป็นไฮไลท์และสวยงามส่วนใหญ่จะอยู่ในสายสีน้ำตาลที่รถไฟจะวิ่งเป็นวงกลม บอกเลยว่าการขึ้นลงรถไฟที่นี่ในวันแรกต้องเผื่อเวลาเยอะหน่อย เพราะไม่มีภาษาอังกฤษอาจจะหลงกันได้ง่ายๆ
Moscow railway station has nearly 200 stations, but the most beautiful, outstanding stations are mostly in the brown line, where the trains run in a circle loop. When arriving in Moscow, we recommend you spare some time to travel, as there is no English at the stations, so you might get lost.
การสร้างรถไฟแบบอลังการพวกนี้เริ่มในสมัยสตาลิน ที่เค้าต้องการให้คนที่ผ่านไปผ่านมาแม้จะรีบไปทำงานหรือกลับบ้านไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเต้าแค่ไหนก้นั่นแหละ ขอหยุดถ่ายรูปหน่อยเถอะ ซักนาทีก็ยังดี 55555 ดังนั้นมันเลยกลายเป็นสถานีที่ประทับจิตประทับใจกับความสวยงามตามคำสั่งของสตาลิน
The construction of these magnificent trains began in the period of Stalin, which wanted people who pass by, regardless of how rush they are, stop by to appreciate the beauty and take some photos. Thus we can say that the beauty of these stations came from the order of Stalin.
GX85 สามารถถ่ายแบบ L.monochrome mode ได้ มันคือการถ่ายภาพขาว-ดำ ที่ให้เฉดสีดำ ดำสนิท ดำสวยหรูและแสนเก่เหมือนพกกล้องฟิลม์มาถ่ายด้วยตัวเองยังไงอย่างงั้น
บางสถาทีเป็นกระจกสีแบบโกธิค บางสถานีมาเป็นรูปปั้นและการแกะสลัก รวมถึงงานโมเสคยิบๆ ย่อยๆ ยังมี โอ้ยย อะไรจะขนาดนั้น 555555 สถานีที่เราแนะนำให้ไปคือ Novoslobodskaya Station, Komsomolskaya Station , Prospekt Mira Station และ Ploshchad Revolyutsii Station แน่นอนว่าชื่อสถานีพวกนี้แปลจาก Google มาเป็นภาษาอังกฤษเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพอไปถึงสถานีจริงๆ อาจต้องงมหาภาษาอังกฤษกันซักหน่อยเด้อออ แต่คุ้มค่าแกการ Hopping Metro
Some of the stations have Gothic style stained glass, while some come with statues, carvings, or even mosaic art! The stations we recommend are Novoslobodskaya Station, Komsomolskaya Station , Prospekt Mira Station and Ploshchad Revolyutsii Station. Of course, these name have been translated from Google into English, but when you reach the station, make sure you can locate them again as English signs might not be commonly available. Trust us, this metro hopping is definitely worth it!
ออกจากใต้ดินมาสู่ฟ้าใสๆ กันบ้าง เราไปกันที่ Moscow Kremlin ที่นี่เหมือนเป็นเมืองที่ซ้อนอยู่ในเมืองอีกที ใหญ่แบบใหญ่มาก เป็นศูนย์กลางหลายๆ อย่างของรัสเซียในอดีต ปัจจุบันมันถูกทำให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์และจุดถ่ายรูปหลายจุด ถ้าให้เดินจนครบคงหมดเป็นวันๆ ซึ่งเราบอกตรงๆ ว่าไม่อินมากนักกับที่นี่ อาจจะเป็นเพราะเราเห็นที่อื่นมาเยอะแล้ว และอยู่มาเข้าวันที่ 5 แล้ว ถ้าต้องเสียเงินเข้าไปดูข้างในอีกก็คงไม่ทำ เพราะข้างนอกก็สวยแล้วจ้า
Let’s move on from the underground up to the clear sky at Moscow Kremlin, which is like a city nestled in the city again. This gigantic city was the center of many of Russia’s past history, but nowadays, it has become a museum and a huge photography spot for tourists like us. If you would like to explore this place, you might have to spend the whole day walking around, which we honestly felt that it was not that interesting, maybe because we have seen a lot in other place in the past 4 days. Moreover, the exterior is already very pretty, so we didn’t feel the need to actually go inside.
เราแนะนำให้ไปโซนที่มี Assumption Cathedral โดมสีทอง 3 อัน ตรงนั้นจะเข้าได้ฟรี และละแวกรอบๆ แค่นี้ก้คุ้มค่าแหละ เพราะด้านในของวิหารหลังนี้สวยมากๆ อีกเช่นกัน
We recommend going in the zone of Assumption Cathedral which has 3 golden domes, as you can access the area for free, and the inside of the cathedral is very pretty too.
เดินเยื้องไปอีกนิดจะเจอกับ Tsar Bell ระฆังใบใหญ่ที่สุดในโลกที่ไม่เคยถูกยกแขวนจริงๆ เลยซักครั้งเพราะมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นก่อนตลอด จนในที่สุดก็เกิดรอยแตกร้าวเป็นแผลเท่ๆ วางบนพื้นแบบที่เห็นนี่แหละ เด็กน้อยที่มาดูก็ชอบปีนขึ้นไปบนระฆังกัน น่ารักเชียวหละ
After a short walk, you will find Tsar Bell, which is the largest bell in the world that never has been hung as strange events always happened before doing so, leading to the crack on the bell itself. As it is now put on the floor, it has become the place where little kids enjoy climbing onto. How cute!
เราออกจากเรื่องประวัติศาสตร์ ไปย่านชิวและช็อปปิ้งกันบ้าง! Arbat Street ถนนคนเดินของชาวรัสเซียนเค้าแหละ นอกจากร้านขายของที่ระลึกที่เรียงรายเต็มสองข้างทางแล้ว ยังมีดนตรีสด และศิลปะมากมายออกมาบรรเลงศิลปะบนท้องถนนให้คึกคักมากที่สุด เราแนะนำให้มาช่วงบ่ายๆ เป็นต้นไป หรือถ้าอยากจิบเบียร์เย็นๆ ซักแก้วกับบารากุรสโปรดที่นี่ก็มีให้เหมือนกัน
We left the historical area and headed to a chill shopping district, which is Arbat Street, Russia’s pedestrian street filled with souvenir shops, live music, and several types of art works, making it a notably lively street. We recommend coming here from afternoon onwards, and don’t forget to enjoy some sips of cold beer and some Baraku (oops!).
อย่างที่บอกนั่นแหละว่าหน้าร้อนแบบนี้เราสามารถเดินเที่ยวกันได้ตั้งแต่ตีสี่ยันสี่ทุ่มฟ้าก้ยังใสแจ๋ว เราจบคืนสุดท้ายของมอสโกกันที่ Gorky Park ที่ตอนแรกตั้งใจวว่าจะแวะมาแปปเดียวแล้วกลับไปหาข้าวเย็นกินกันต่อ ที่ไหนได้! ดีจนไม่อยากกลับ
During the summer, you can enjoy walking through the city from 4AM-10PM with the sky still being bright blue. We spent our last night of Moscow at Gorky Park, where we intended too only stop by for a short while, but we ended up staying so long here!
เพราะ Gorky Park ไม่ใช่สวนสาธารณะเฉยๆ แต่มันคือจุดรวมให้คนรัสเซียนออกมาใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าจะเป้นอีเวนท์พิเศษช่วงหน้าร้อน ดนตรีสดมากมาย บูธขายอาหาร กีฬากลางแจ้งทั้งบาส บอล วอลเลย์บอล ปิงปอง หรืออยากขี่ Skootar Long Board ที่นี่ก็มีให้ยืมครบถ้วน
This is because Gorky Park is not just a park, but this is where Russians come together to enjoy life, whether for a special summer event, live music, food and beverage booths, and also outdoor sports such as basketball, volleyball, table tennis, or even Skootar Long Board rental.
แค่เดินดูเฉยๆ ยังเพลินเพราะอากาศที่เย็นลงเรื่อยๆ และฟ้าที่เริ่มจะกลายเป็นฟ้าส้มสวยๆ เราใช้เวลาที่นั่นจนถึงมืด ไม่เสียใจเลยที่ใช้เวลาคืนสุดท้ายชิวๆ ใน Gorky Park
We really enjoyed walking around the park till it’s dark as the weather got colder in the evening, and the sky that started to turn to the orange shade made us enjoy the ambience so much. Really no regret of spending our last night in Gorky Park!
Russia Day 6 –Moscow
วันสุดท้ายก่อนบินกลับกรุงเทพกับการบินไทย เรามีเวลาเที่ยวอีกเกือบเต็มวัน เพราะเครื่องการบินไทยออกจากมอสโกช่วงเย็นๆ เช้าก่อนกลับเราไปเดินตลาด Izmaylov Market ตลาดนี้คือตลาดขายของฝากที่ใหญ่ที่สุดในมอสโก ถ้าช่วงหลายวันที่ผ่านมาเจออะไรแล้วลืมซื้อ มาดูที่นี่ส่วนใหญ่จะมีหมด และราคาถูก ต่อราคาได้เยอะ ที่สำคัญบางร้าน.. แม่ค้าพูดไทยได้ บวกลบคูณหารเป็นเงินไทยให้เสร็จ 55555
Before flying back to Bangkok with Thai Airways, we had almost one full day traveling in Moscow, as the TG flight departs from Moscow only in the evening. In the morning, we visited the Izmaylov Market, which is the largest souvenir market in Moscow. If you see something during the trip but forget to buy them, you’ll most likely be able to come across it again here. Most stuff are cheap, and some shops can even speak Thai – and can also calculate everything for us in Thai baht!
ของฮิตอย่างตุ๊กตามาโตร้ชกา หรือที่เรียกกันว่าตุ๊กตาแม่ลูกดกก็มีให้เลือกหลายไซส์ ตั้งแต่เป็นพวงกุญแจอันละ 10 บาท ไปจนถึงตัวละหลายพัน
Matryoshka Nesting Dolls, probably the most famous Russian souvenir, is commonly available here in forms of dolls and keychains, with the price ranging from 10 Baht to thousands Baht too!
ใน GX85 มี Feature ที่เรียกว่า Focus Stacking การทำงานเหมือน post focus คือถ่ายก่อนเลือก focus ทีหลัง แต่ post focus เลือกได้เป็นจุดๆ แต่ focus stacking เลือกได้เป็น area ทำให้เหมาะกับภาพถ่าย macro แบบพวกตุ๊กตาแม่ลูกดกเหล่านี้
วิธีมาอาจจะไกลซักหน่อยคือนั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Partizanskaya สายสีน้ำเงินเข้มเดินออกมามองด้านซ้ายไว้จะเห็นเหมือนสวนสนุกเก่า แต่จริงๆ นั่นแหละค่ะคือตลาดของฝากที่เตรียมมาละลายเงินกันก่อนกลับได้เลย!
The ride might be slightly far — take a metro ride to Partizanskaya station on dark blue line, and when you exit, look for the place that resembles an old amusement park on the left side, which is actually the market that’s ready to burn your savings out!
อีกย่านที่แนะนำให้ไปเดินเล่นก่อนกลับคือบริเวณถนนที่คนรัสเซียนบอกกันว่า “ย่านนี้ร้านทุกร้านแพงที่สุดในรัสเซีย” คือถนน Tverskaya เราแว๊บไปดูห้างที่เค้าบอกว่าสวยที่สุดในย่านนี้ งดงามอย่างกับวัง คือ Eliseevskiy ที่นี่ขายของแบบซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปเลย หมูเห็ดเป็ดห่าน ผงซักฟอก ยันช็อคโกแกลตก็มีให้เลือก ซื้อกันได้เต็มที่ เพราะแพ็คเกจน่ารักมากกกกก
Another area we recommend visiting is where Russians say is the ‘most expensive neighborhood in Russia’ which is Tverskaya street. We visited the mall that is said to be the most beautiful in this district, which is the palace-like Eliseevskiy mall. Despite the look, this places serves as a tylical supermarket, where you can look for stuff from meats, toiletries, tidbits, and everything you can imagine! The packaging is also very cute, tempting us to spend even more and more before leaving.
เราเดินทางไปสนามบินด้วย Aero Express แนะนำว่าควรไปถึงสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมงเพราะ ตม. และ Security ทั้งชั้นนอก ชั้นใน ที่สนามบินนั้นตรวจละเอียดมากๆ ส่องแล้วส่องอีก แม้จะออกนอกประเทศแล้วก็ตาม ต้องใช้เวลาพอสมควร
We traveled to the airport with Aero Express again, and we would like to recommend that you arrive at the airport at least 3 hours in advance, because the airport security check is very strict and takes a long time to finish, even for the departing passengers.
เราเดินทางไปสนามบินด้วย Aero Express แนะนำว่าควรไปถึงสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมงเพราะ ตม.ที่สนามบินนั้นตรวจละเอียดมากๆ ส่องแล้วส่องอีก แม้จะออกนอกประเทศแล้วก็ตาม ต้องใช้เวลาพอสมควร
We traveled to the airport with Aero Express again, and we would like to recommend that you arrive at the airport at least 3 hours in advance, because the airport security check is very strict and takes a long time to finish, even for the departing passengers.
เครื่องของการบินไทยขากลับก็เหมือนกับขามาคือ Boeing 777-200/300 ที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย แถมมีทีวีส่วนตัวพร้อมภาษาไทยทุกที่นั่ง และเสิร์ฟอาหารไทยให้เราทานกันด้วย อาจจะไม่ได้รสจัดจ้านมาก แต่ก็อร่อยและทำให้หายคิดถึงบ้านได้เลยแหละ
Our returning journey with Thai Airways was with the same Boeing 777-200 / 300, which offers spacious, comfortable seats, plus a personal TV in Thai and other languages for every seat. The Thai food served is also delicious, made us feel as if we were already back in Thailand.
บางคนอาจจะบอกว่าการบินไทยราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับการหากต้องการการเดินทางที่สะดวกสบาย บินตรงถึงจุดหมายแล้วเที่ยวได้ทันที หรือเดินทางกับครอบครัวและไม่อยากให้ท่านเหนื่อย การบินไทยคือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการบินตรงไปยังจุดหมายปลายทาง แถมเดี๋ยวนี้เพื่อนๆ สามารถจองตั๋วได้ง่ายขึ้นผ่าน thaiairways.com ที่มีการปรับปรุงให้ทุกคน บินสบาย จองง่าย และจ่ายสะดวกกับการบินไทย ทำให้พร้อมเดินทางได้ทันที
Some may say that Thai Airways is quite expensive, but for the comfortable and convenient journey which gets you directly to the destination, we definitely think Thai Airways is the best choice for direct flights. Also, you can easily book tickets through thaiairways.com which has been improved to make flying easy and convenient for everyone at anytime.
อ้ออออ! แล้วอย่าลืมถ้ากลัวตื่นสายไปเช็คอินไม่ทัน หรือช็อปเพลินจนไปถึงสนามบินช้า เพื่อนๆ สามารถโหลด App การบินไทยแล้วเช็คอินผ่านโทรศัพท์ได้ทันทีด้วยนะ!
If you are afraid of waking up late or shop too much prior to the check in, you can simply download the Thai Airways app and check in on the phone right away!
และคำถามที่หลายๆ คนชอบถามแทบทุกทริปคือเราใช้กล้องอะไรถ่ายภาพและวิดีโอ วันนี้คงจะได้คำตอบกันแล้วว่า Lumix นี่แหละที่ตอบโจทย์การเดินทางของพวกเราในทุกๆ ทริปทั้งไฟล์ภาพที่คมชัดทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง ที่ให้ความคมชัดระดับ 4K Photo Lumix เลยกลายมาเป็นเพื่อนร่วมทางของเราทุกๆ ทริปทั้งปีนี้เลย และทริปรัสเซียนี้เราใช้เลนส์กันเยอะเป็นพิเศษทั้ง 7-14 / 14-140 / 25 1.4 / 20 1.7 / 15 1.7 และ 13 1.2 หลายๆ เล็กจิ๋วแต่คุณภาพแน่นมากกกก พกพาง่าย สะดวก ไม่หนักเกินไป แถมบางตัวเป็นเลนส์ Leica ด้วยนะ
And as many of you have asked about our cameras used for most trips, today we have the answer for you that Lumix cameras are the choice which fulfill our journeys very well, both for photos and videos, with the quality of 4K Photo. As such, Lumix has become our travel buddy throughout this year.
รัสเซียสำหรับเราไม่ใช่เสือยิ้มยาก แต่ที่นี่เลือกยิ้มต่างหาก บางครั้งกำแพงวัฒนธรรมด้านภาษาอาจทำให้คนที่นี่ดูมีบุคลิกที่แข็งกร้าว ไม่ชอบพุดคุยและหน้าบึ้งตึง แต่ถ้าลองค่อยๆ คุยและเรียนรู้ เราจะเห็นอีกมุมหนึ่งที่น่ารักและพร้อมช่วยเหลือของคนที่นี่ บางคนบอกว่าโจรขโมยเยอะไม่น่าเที่ยว เราอยากให้มองว่าประเทศไหนก็มีเหรียญสองด้านทั้งนั้น ในฐานะนักท่องเที่ยวเรามีหน้าที่มาเก็บด้านดีๆ ไว้ให้คิดถึงเมื่อนึกถึง และระมัดระวังตัวดูแลของตัวเองให้ดีที่สุด
After 6 days here, Russia for us is no longer cold and dull, but a friendly country that is ready to open up and smile for those who choose to embrace it. Sometimes the language barrier may make people here look cold, but if you slowly try to make conversations and learn about them, you will get to see the friendly and helpful side of the locals here. Some might think that there are many thieves around, but to be fair, every country has both ups and downs, and it’s our responsibility to take care of ourselves to be able to enjoy the country as much as possible.
ที่นี่ยังคงเป็นอีกที่ ที่เราแนะนำให้เก็บเงินก้อนมาเที่ยว แล้วจะไม่เสียใจกับประเทศที่ใหญ่โตและพร้อมต้อนรับทุกคนอย่างรัสเซียเลยจริงๆ
This is another place we really recommend saving up to visit, and you will not regret coming to the big land of Russia, a country ready to welcome you into its arms.
