เคยเป็นกันป่ะ! เวลาเตรียมตัวจะออกไปเที่ยว ตั้งใจจะไปปีนเขา แพ็คกระเป๋าอย่างดี ใส่ชุดเยี่ยงอยู่ในซาฟารีพร็อบเต็มกว่าอุปกรณ์เดินป่า สุดท้ายผิดแผนไม่ได้ไป หรือตั้งใจไปเดินเล่นชิคๆ ทำตัวเป็นสาวว่างจากงานประจำมาผ่อนคลายอิริยาบถนอกบ้าน เดินช็อปปิ้ง เที่ยวชมเมืองเก๋ๆ พร้อมเสื้อผ้าสีแซ่บ แต่สุดท้ายดันฝนตก รถติด พังกันทั้งหมด ไม่เป็นไปตามที่ใจต้องการ ชีวิตก็งี้แหละเนาะ มันเป็นเสน่ห์ของการเดินทางอย่างนึงถ้าตรงใจเราไปทุกอย่างคงไม่มีเรื่องสนุกๆ มาเมาท์ต่อให้กันฟัง
เราเองก็เป็นเหมือนกัน แถมเป็นบ่อยซะด้วย ทุกอย่างผิดแผนเพราะอากาศ อุทยานปิด รถติด ตื่นสาย แต่ถ้าเรามัวแต่มองข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น การเดินทางมันก็จะแห้งและไม่สนุก เพราะฉะนั้นถ้าผิดแผนเมื่อไหร่ มีอะไรไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เปิด Google Map! หาย่านชิค คาเฟ่ฮอต หยิบหนังสือดีๆ ออกมาซักเล่มแล้วนั่งละเมียดเครื่องดื่มโปรด พร้อมทอดอารมณ์เป็นสาวขี้เหงา เหม่อมองนอกหน้าต่างร้านเหมือนกำลังรอใครซักคนมารับ (ซึ่งจริงๆ แม่งไม่มี)
รีวิวนี้เลยอยากมาแนะนำคาเฟ่และร้านฮิปซัก 15 ร้านใน 3 เมืองยอดฮิตที่เราเคยไปสิงสถิตตอนผิดแผน 5555 ทั้งกรุงเทพ ฮ่องกง และไทเป เผื่อเอาไว้แหละ เผื่อพวกแกแพลนจะไปเดินสวยๆ แต่ฝนตก เหมือนที่พวกเราชอบเจอ วะฮะฮ่า สำหรับพวกขี้ลืม ออกจากบ้านก็ลืมกระเป๋าตังค์ ไปเที่ยวก็แลกเงินไปไม่พอ จะบอกว่าทุกๆ ร้านในรีวิวนี้รับบัตรเครดิตที่ครอบคลุมมากที่สุดในโลกและปลอดภัยอย่างบัตรวีซ่าทุกร้านเลยนะ ใช้สะดวกมาก
HONG KONG
นึกอะไรไม่ออกให้ไปฮ่องกง! เมืองเล็กๆ แต่มีเสน่ห์และรวบรวมวัฒนธรรมที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน เราไปฮ่องกงกันบ่อยมาก เพราะชอบความสนุกและสีสันของฮ่องกง ยิ่งช่วงปลายปีถึงต้นปีแบบนี้ ฮ่องกงอากาศเย็นสบาย เดินเล่นชิวๆ ได้ทั่วเมือง
แต่ถ้าหน้าฝนเมื่อไหร่ ร้อนตับแตกแถมพายุก็เข้าค่อนข้างบ่อย เราลิสต์คาเฟ่ในฮ่องกงไว้ให้เผื่อหนีฝนไปกินกัน และร้านช็อปปิ้งนิดหน่อยด้วยเช่นกัน
Oddies Ice cream
Location : Central Hongkong
ร้านไอศกรีมเจลาโต้ ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสแปลกๆ ส่วนผสมเนื้อๆ เน้นๆ เข้มข้น กินทีนับแคลลอรี่แทบไม่ทัน รสที่เรากิน เป็นรส Peanut butter ที่มีทั้งคาราเมลและ Peanut Butter รอบนี้มาคนเดียวเลยกินไหวแค่เป็นโคน แต่ถ้าใครมากับเพื่อนหลายๆ คนขอแนะนำให้ลอง แบบ Waffle ฮ่องกง ที่ทำกันสดๆ หอมอบอวลไปทั้งร้าน
Agnes B Café
Location : Central Hongkong
คาเฟ่ที่เอาใจทั้งคนรักกาแฟ และรักการถ่ายรูป เพราะว่ามีมุมนั่งชิวด้านนอกเป็นจุดขาย ตัวตึกสีเขียวที่เมื่อถ่ายมาจากฝั่งตรงข้ามรับรองว่าได้รูปโปรไฟล์ใหม่แน่นอน มาร้านนี้ร้านเดียวสามารถอยู่ได้ทั้งวันเพราะว่ามีทั้งอาหาร ขนม และกาแฟ
Inbetween the timeless
Location : Tai Ping Shan Street,Sheung Wan
ย่านชิคๆอีกย่านที่เราสามารถเดินต่อเนื่องจากแถบ Central ได้ ย่าน Sheung Wan เป็นย่านที่อุดมไปด้วย Design Studio ต่างๆ ซุกซ่อนอยู่มากมาย ร้านที่เราอยากยกตัวอย่างวันนี้คือ ร้านที่รวบรวมของวินเทจจากหลายๆ ประเทศ ที่ชื่อว่า Inbetween time กิมมิคของร้านนี้ที่เราถามจาก คุณ Desman คนขายสุดน่ารักคนนี้ (จริงๆ ก็อยากหาเรื่องคุยอะนะ 555) เค้าบอกว่าเป็นร้านที่อยู่ระหว่างสองช่วงเวลาทั้งใหม่และเก่า โดยในร้านมีทั้งงานดีไซน์ที่เป็นของเก่าจากทั่วโลก และของดีไซน์จากดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ในฮ่องกง รวบรวมไว้ด้วยกัน น่ารักทั้งคนขาย น่ารักทั้งของ ห้ามลืมแวะเด็ดขาด
PMQ
Location : Sheung Wan
จากตึกเก่าที่เคยเป็นโรงเรียนตำรวจในปี 1951 ถูกปรับเปลี่ยนเป็นอาคารที่รวบรวมร้านรวงที่สนับสนุนให้ นักออกแบบ หรือดีไซน์เนอร์สามารถมีพื้นที่ขายของเป็นของตัวเองได้ PMQ เหมาะมากสำหรับเป็นสถานที่ช้อปปิ้งหาเสื้อผ้ากระเป๋า หรือของฝากเก๋ๆ ที่สามารถหาได้เฉพาะที่ฮ่องกง แน่นอนการเดินใน PMQ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินเล่นอยู่ในตึกสมัยอยู่โรงเรียนมัธยม พักกลางวันก็จะเดินเเว๊ป ไปแซวคนนู้นคนนี้ที่ห้อง และใน PMQ แต่ละห้องจะมีของดีไซน์เก๋ๆ ไม่ซ้ำกันเลย
Bing sutt Starbucks
Location : Duddell Street, Central Hong Kong
อย่าเพิ่งด่าถ้าจะบอกว่า มาฮ่องกงทั้งทีจะให้มานั่งกินสตาร์บัคส์ แต่ว่าถ้าใครกำลังช็อปเหนื่อยๆ หาที่นั่งพักชิวๆหายใจ ดื่มน้ำสักหน่อย แวะสตาร์บัคส์ร้านนี้ไม่ผิดแน่นอน เพราะว่าสตาร์บัคส์ร้านนี้เป็นร้านเดียวในโลกที่ตกแต่งไม่เหมือนที่ไหน (สตาร์บัคส์โดยทั่วๆไปจะตกแต่งเหมือน หรือให้อารมณ์คล้ายๆ กันทั่วโลก) เพราะว่าร้านนี้ตกแต่งร้าน ในสไตล์ Bing sutt หรือคาเฟ่เอกลักษณ์เฉพาะเกาะฮ่องกง ในยุค 50’s – 60’s แถมไม่พอยังมีขนมที่เป็นเอกลักษณ์หาได้เฉพาะสาขานี้ เป็นขนมสไตล์ฮ่องกง ที่เป็นสูตตรเฉพาะของสตาร์บัคส์ ขนมที่เราเลือกกินรอบนี้คือ ทาร์ตไข่กาแฟ ที่ไม่หวานมากและหอมกาแฟสุดๆ ใครได้ผ่านมาแถวนี้อย่าลืมเข้าไปเช็คอินด้วยหละ
Duddell’s
Location : Duddell Street, Central Hong Kong
ร้านติ่มซำ ที่ให้ฟิลลิ่งตะวันตกที่สุดในย่านนี้ก็ว่าได้ Duddell’s ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของตึก Shanghai tang เป็นร้านติ่มซำที่ให้บรรยากาศชิวๆ แบบ out door เหมาะสำหรับพาเเฟนคนใหม่มาดินเนอร์หรือทานติ่มซำมื้อกลางวันแบบสวยๆ ไม่ต้องนั่งเบียดกับใคร จากที่อ่านรีวิวมาหลายคนบอกว่า คิดถึงซาลาเปาหมูแดงของที่นี่ เราก็เลยไม่พลาดลองสั่งเมนูคลาสสิคมากิน กับ ฮะเก๋าเเป้งผัก ที่อร่อยสุดยอดทั้งคู่
Cafe Hillywood
Location : Jordan Station, Tsim Sha Tsui
ร้านนี้จะหายากนิดนึงแต่ใครที่หาร้านน่ารักๆ นั่งสงบ ถ่ายรูปสวย พนักงานใจดีร้านนี้ตอบโจทย์แน่ๆ ร้านตกแต่งคิ้วท์ๆ ที่ในช่วงกลางวันจะขายกาแฟและขนม ส่วนในตอนเย็น จะเน้นอาหารฟิวชั่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง และตะวันตกไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังมีดนตรีสดในช่วงวันสุดสัปดาห์ด้วย
K 11 selected @ K 11 Mall
Location : Tsim Sha Tsui, Kowloon
แหล่งช็อปปิ้งอีกแหล่งที่ทำให้กระเป๋าแห้งได้แน่ๆ คือ K11 Select ที่รวบรวมร้านขายของออนไลน์ เก๋ๆของชาวฮ่องกงเอาไว้ สำหรับนักช็อปสาวสายแฟชั่นต้องร้องขอชีวิตเลยทีเดียว
TAIPEI
เมืองผู้แซ่บ ตี๋หมวย หน้าตาจิ้มลิ้ม อย่างไทเป ที่ค่าเงินพอๆกับไทย แถมยังไม่ต้องใช้มีฟรีวีซ่า! อากาศที่ไทเปบทจะหนาวก็หนาวมาก บทจะร้อนก็ร้อนมาก และฝนตกค่อนข้างบ่อย บางทีก็ผิดแผนเป็นธรรมดา ล่าสุดเราไปมา 6 วัน ตกทุกวัน 5555555 ตั้งใจจะไปเดินอุทยาน ดูธรรมชาติแบบเนวิเกเตอร์ก็อด แต่ถ้ามัวทำหน้ามุ่ยก็จะเสียอารมณ์เปล่า เลยเลิกคาดหวังเปลี่ยนจากฝันลมๆ แล้งๆ ว่าเมื่อไหร่จะหยุดตกเป็นมาหา Café เก๋ๆ นั่งทุกวันแทนเลยละกัน
ออกจากนอกตัวเมืองไทเปไปนิดหน่อย ย่านชุมชน Minsheng จะเจอกับถนนเส้นนึงถ้าเปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ คือนิมมานฯ ของเชียงใหม่นั่นเอง เมื่อก่อนแถวนี้ก็เป็นย่านที่อยู่อาศัยธรรมดา แต่ก็เริ่มปรับเปลี่ยนเป็นคาเฟ่ ร้านขายของเท่ๆ จนเกือบเต็มสองข้างทาง ถนนสายนี้ค่อนข้างร่มรื่น ต้นไม้เยอะ แถมร้านคาเฟ่ดีๆ ก็เยอะ เราเลยนั่งกันแทบทั้งวัน ความสนุกคือก่อนเข้าร้านก็จะดูกันละว่า บาริสต้าร้านไหนหล่อสุดก็เลือกร้านนั้น 555555
Fujin Tree 353 Café
ร้านนี้เป็นร้านที่แนะนำให้ไป เพราะตกแต่งแบบง่ายๆ สไตล์เป็นกันเอง และพนักงานหล่อมาก 55555 เครื่องดื่มที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายและรสชาติดี แต่อยากบอกว่าร้านคาเฟ่ต่างๆ ในไต้หวันส่วนใหญ่จะบังคับให้สั่ง 1 คน ต่อ 1 แก้ว ตามจำนวนคนที่มาในร้าน และไม่นับขนมด้วยนะ เพราฉะนั้นถ้าชอบเดินกินหลายๆ ร้านแบบเรา อาจตาตั้งนอนไม่หลับได้เหมือนกัน
ขนมร้านนี้เป็นโฮมเมดเกือบทั้งหมด เราแนะนำให้สั่ง Honey Cake เพราะเนื้อเค้กฉ่ำ หอม มันกำลังดี ได้กลิ่นน้ำผึ้งนิดๆ กินกับเครื่องดื่มอะไรก็อร่อย
และข้างๆ ยังมีช็อปของร้านนี้ด้วย แต่ราคาค่อนข้างสูงมากและมีสไตล์มากๆ ซึ่งบางทีเราก็เข้าไม่ถึงเหมือนกันหวะ
BEAMS
ส่วนพวกร้านของจุ๊กๆ จิ๊กๆ ที่เรียกเงินในกระเป๋าได้ตลอดเวลาก็เยอะไม่แพ้กัน อย่างร้าน BEAMS จากญี่ปุ่นที่บ้านเราก็มีสาขาอยู่ที่ Emquatier ก็มาเปิดแถวนี้เหมือนกัน ฝนตกแฉะๆ เดินเข้าไปในร้านบรรยากาศค่อนข้างอบอุ่น ไฟส้มๆ กับหน้าพนักงานเวลายิ้มมาให้ แอร๊ยยยย ซื้อค่ะ รูดบัตรวีซ่ารัวๆ เปย์เธอเลยละกัน
Perfit
ร้านนี้มีคอนเซ็ปต์ที่ดีมาก คือเป็นร้านขายรองเท้าเท่ๆ ของทุกแบรนด์ทุกยี่ห้อมารวมกัน และสามารถลองได้ว่าชอบหรือไม่ชอบ พร้อมกันนั้นด้านหลังร้านยังเป็นสตูดิโอออกกำลังกาย มี Class สอนกีฬาในร่มหลายๆ อย่าง เช่น TRX Boxing Zumba คือซื้อเสร็จปุ๊ป เชิญหลังร้านเล่นต่อได้ทันที!
All Day Coffee Company
ร้านนี้ตกแต่งเหมือนโกดังทำกาแฟขนาดใหญ่ และที่สำคัญต้องสั่ง 1 คนต่อ 1 แก้วเท่านั้นและขนมไม่นับนะจ๊ะ แต่ทีเด็ดของร้านนี้คือมีกาแฟหลากหลายสัญญาติให้เลือก นางจะทำกันสดๆ ชงกันสดๆให้หอมกรุ่นไปทั่วทั้งร้าน พร้อมแผนที่โลกที่ระบุพิกัดว่ากาแฟตัวนี้มาจากไหนกันบ้าง หนุ่มสาวชาวไทเปก็มานั่งออกันเต็มร้านไปหมดในช่วงวันหยุดที่ฝนตก แต่ส่วนใหญ่จะน่ารักไม่เมาท์กันเสียงดัง คุยกันเงียบๆ หรืออ่านหนังสือมุมใครมุมมัน น่ารักจัง
Petite Provence
สาวหวานต้องชอบร้านนี้! เพราะรวบรวมของตกแต่งบ้านน่ารักๆ จากฝรั่งเศส เตียงผ้าห่ม กระเป๋า หมอน ตุ๊กตา เต็มไปหมด ในร้านยังมีกลิ่นหอมๆ โชยออกมาเหมือนหลุดออกมาจากเมืองตุ๊กตายังไงอย่างงั้นแหละ
KONCENT
ร้านขายของน่ารักจากญี่ปุ่น ที่มาเปิดสาขาแรกในไต้หวันคือย่าน Fujin Street นี่แหละ บางอย่างต้องยอมรับว่าเกินจินตนาการเรามากไปนิดนึง เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่คุณน้าประจำร้านนางพูดภาษาอังกฤษเก่งมาก แนะนำได้ทุกอย่างพร้อมอธิบายว่าคอนเซ็ปต์ร้านนี้เป็นยังไง มีกี่สาขาทั่วโลก และชอบตัวไหนเป็นพิเศษมั้ย และที่สำคัญร้านนี้สินค้าค่อนข้างมีราคาถ้าอยากได้มากๆ แต่เตรียมเงินสดกันมาไม่พอก็สามารถใช้บัตรวีซ่า รูดได้ทันทีเหมือนกันนะ
Good Studio Café
เพื่อนเราแนะนำว่าต้องมาร้านนี้ให้ได้ เพราะมันเป็นทั้งคาเฟ่และแกลลอรี่ แถมยังต้องรอคิวด้วยเพราะโต๊ะค่อนข้างมีจำกัด ภายในร้านมีแกลลอรี่ที่จำลองเหมือนห้องทดลองของนักวิทยาศาสตร์มีขายของที่ระลึกพวกพวงกุญแจสัตว์ และแมลงที่สตาฟไว้ ส่วนอีกฝั่งนึงก็เป็นคาเฟ่ ที่เน้นสีเขียวๆ ของต้นไม้และธรรมชาติพร้อมด้วยหน้าต่างขนาดใหญ่ ถ้ามาวันแดดดีๆ เราว่าร้านนี้น่าจะสวยมากๆ
Scene Homeware
ร้านนี้เป็นร้านที่เจอเข้าตอนหาที่หลบฝน เป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่ขายพวกอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านแบบเท่ๆ ไปด้วยในตัว ตอนที่เราไป พนักงานร้านมี 3 คน ส่วนเราเป็นลูกค้าแค่ 2 คนของร้าน เจ้าของร้านก็น่ารักคอยแนะนำตลอดเวลาว่ากาแฟตัวไหนดี ตัวไหนอร่อย ชอบรสแบบไหน ลองตัวนี้มั้ย ประทับจิตประทับใจ แถมหล่ออีกต่างหาก อิอิ
ร้านที่เราแนะนำในไทเปนี้รับบัตรวีซ่าทั้งหมด ไม่ว่าจะธนาคารใดก็ตาม ข้อดีของบัตรวีซ่า คือสะดวกและสามารถใช้รูดได้ในหลากหลายร้านค้าชั้นนำทั่วโลก ไทเปรอบนี้แลกเงินมาน้อยมาก เพราะตั้งใจจะไปเดินดูธรรมชาติเข้าป่าปีนเขา แต่ก็นั่นแหละ ผิดแผนบ่อยในชีวิตเลยได้คาเฟ่เก๋ๆ มาแทน
ฺBANGKOK
มาถึงบ้านพวกเรากันบ้าง 555555 เคยเป็นกันมั้ย ถ้าทำงานอยู่บ้านแล้วจะไม่เสร็จ นอนหลับ งานไม่เดิน หรือไม่ก็เดินไปเดินมาเป็นไฮเปอร์ต้องหาอะไรทำซักอย่าง หรือออกไปคาเฟ่นั่งทอดอารมณ์และหาอะไรอร่อยๆ กิน เราเป็นประจำ นี่เลยอยากแนะนำร้านในกรุงเทพซัก 5ร้านที่รับบัตรวีซ่า จะได้ออกบ้านแบบปุ๊ปปั๊ปไม่ต้องกังวลใดๆ บัตรวีซ่า 1 ใบ กับมือถือซักเครื่องแล้วก็ไปแบบไม่คิดอะไร
ARTiS Coffee
ร้านนี้อยู่ปากซอยสุขุมวิท 18 ตรงอโศกนี่เอง นี่เป็นคาเฟ่อิมพอร์ตมาจากซานฟรานซิสโกเชียวนะจ้ะ และเป็นสาขาแรกของประเทศไทยซะด้วย ร้านนี้จะนั่งนอกนั่งในก็ได้ แต่ดูสภาพอากาศบ้านเราซะก่อน ร้อนจนจะควักไส้มาแช่น้ำแข็งขนาดนี้ เรานั่งในแน่นอน 55555
กาแฟร้านนี้พิถีพิถันมาก นำเข้าวัตถุดิบอย่างดีจากอเมริกา หอมฟุ้งไปทั่วทั้งร้าน แถมยังมีเมล็ดกาแฟคั่ว และเครื่องชงกาแฟไว้สำหรับคอกาแฟซื้อกลับไปทำเองที่บ้านด้วยนะฮ้า
Peace Oriental Teahouse
ร้านนี้ต้องทิ้งความบ้าบอของตัวเองไว้นอกร้านซักพัก เพราะเรากำลังเข้ามาสัมผัสกับความนุ่มลึก และสุขุมของรสชาติชาที่อาจจะเรียกได้ว่าดีที่สุดในกรุงเทพตอนนี้ เราชอบตรงที่มุ่งมั่นและตั้งใจขายชาอย่างเดียว ทำให้เค้าสามารถพิถีพิถันกับทุกๆ อย่างที่ผลิตจากชามาให้เราได้ลิ้มรส
เราไปกับเพื่อนอีก 2 – 3 เลยได้ลองสั่งแทบจะทุกอย่าง ทั้งขนมและชาที่ขมแต่ฉ่ำคอมาก เราแนะนำให้สั่ง Matcha Pastel และ Usucha Traditional พร้อมกับโมจิซากุระและไอศกรีม Signature ของที่นี่ รู้สึกเป็นคนชีวิตดีขึ้นมาทันที!
Harrods
ส่วนร้านขนมจากเมืองผู้ดีที่ ที่บ้านชอบให้ซื้อกลับไปฝากเป็นประจำคงไม่ต้องแนะนำอะไรกันมาก เพราะรู้กันดีอยู่แล้วว่าอร่อย (สำหรับเรา เราชอบนะ อิอิ) โดยเฉพาะชาและมาการองยามบ่ายเป็นอะไรที่วิเศษมากๆ
ที่สำคัญการจ่ายเงินเดี๋ยวนี้ก็สะดวกขึ้นไปอีก แค่มือถือเครื่องเดียวก็ซื้อทุกอย่างในร้านได้แล้วเพราะรองรับ Mobile Pay เป็นช่องทางใช้จ่ายที่สะดวกยิ่งขึ้น แค่แตะสมาร์ทโฟนที่เครื่องรับบัตรแล้วสแกนลายนิ้วมือหรือกดรหัสก็จ่ายได้เลย วิธีใช้งานไม่ซับซ้อนวุ่นวาย เพียงผูกบัตรวีซ่าเข้ากับสมาร์ทโฟนเท่านั้น
Casa Lapin X Pleonchit
เราเป็นขาประจำ Casa Lapin คนนึงเหมือนกันเพราะมีที่นั่งให้ตลอด ไม่ต้องรอลุ้นว่าจะได้นั่งชิวมั้ย แม้ร้านจะมืดไปหน่อยก็ในบางมุม แต่ถ้าวันไหนแฮงค์เหล้ามาก็ถือว่าดี 5555 สั่งทาร์ตช็อคโกแลตอร่อยๆ กับเครื่องดื่มเปรี้ยวจี๊ดมาซักแก้วก็ถือว่าโคตรรีเฟรชชีวิตตัวเองได้ดี
Broccoli Revolution
ร้านนี้สำหรับคนรักผัก เพราะทุกอย่างทำจากผักและผลไม้ปลอดดสารพิษทั้งหมด สารภาพตามตรงว่าเราไม่ใช่พวกชอบกินผักจ๋าขนาดนั้น รสชาติเขียวๆ เหมือนเอาเขาใหญ่ไปไว้ในปาก ไม่ใช่สิ่งที่เราคุ้นเคยกันเท่าไหร่ 5555 รอบนี้เลยสั่ง Berry Smoothie Bowl และ Broccoli Quinoa Charcoal Burger Signature ของร้านมากิน ถ้าคนชอบก็น่าจะอร่อยแหละ แต่สำหรับเราก็ธรรมดา แต่ถ่ายรูปสวยมากเลย ส่วน Smoothie Bowl บอกได้คำเดียวว่าควรมาลองเพราะรสชาติดีมากๆ ดีจนอยากแอบถามสูตรกลับไปทำที่บ้านกันเลย
ร้านทุกร้านใน 3 เมืองทั้งกรุงเทพ ฮ่องกงและไต้หวันนี้รับบัตรวีซ่าทั้งหมด เราเองเป็นคนนึงที่ใช้บัตรเครดิตเยอะมากๆ ในชีวิตประจำวันเพราะสะดวก ไว และใช้จ่ายได้ทั่วโลกแบบปลอดภัย แถมยังได้แต้มจากการใช้จ่ายมาแลกเป็นไมล์เพื่อตั๋วเครื่องบินหรือที่พักหรูๆ อีกมากมาย ข้อสำคัญสำหรับคนใช้บัตรเครดิตคือต้องรู้จักบริหารเงินตัวเองให้เป็น ใช้เพื่อให้ชีวิตเราสะดวกขึ้น ไม่ใช่ใช้เพื่อให้ตัวเองเป็นหนี้ สำหรับเรานั้นมีบัตรวีซ่า เป็นเพื่อนร่วมทางในทุกๆ ทริป ทำให้ทำอะไรก็สะดวกโดยไม่กลัวที่จะเจอปัญหาหรือสิ่งที่ไม่คาดคิดระหว่างการเดินทางทำให้ใช้ชีวิตและเวลาในการท่องเที่ยวให้เต็มที่ที่สุด
ส่วนใครที่กำลังแพลนจะไปเที่ยวในวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้ แนะนำให้เข้าไปดูที่ www.facebook.com/VisaThailandTH เพราะเค้ารวบรวมโปรโมชั่นต่างๆ ที่ร่วมกับร้านค้าทั้งในและต่างประเทศเหมาะสำหรับสายเที่ยว สายชิลแบบพวกเราแน่นอน