ความทุกข์ระทมทุกครั้งของคนที่บ้านอยู่เชียงใหม่เวลาหน้าหนาวมาถึง นอกจากที่รถจะติดเป็นพิเศษ (อันนี้ยังพอเข้าใจได้เพราะเป็นเทศกาล) แต่แทบร้องไห้ทุกครั้งเวลาเพื่อนถามว่า พักที่ไหนดี กินร้านไหนดี ไปที่ไหนดี (ฮืออ ไม่อยากจะบอกเลยว่าอยู่แต่บ้าน นอนแต่บ้าน กินข้าวบ้าน และไม่ออกไปไหนเวลาพวกมึงมาเที่ยวกัน) เราเคยทำรีวิว 10 ร้านโลคอลเชียงใหม่ให้เพื่อนๆ เวลานางมาถามก็โยนรีวิวนั้นไปให้นางอ่านซะ “เอ้า เอาไปกิน!” ผ่านมา 1 ปีเริ่มใช้ไม่ได้ผลแล้วเพราะมันบอกว่า กูกินทุกร้านแล้วที่มึงแนะนำ ช่วย SMEs จน 10 ร้านนั้นรวยละมั้ง นางบอก
รอบนี้เลยเอาใหม่! แก๊งค์เพื่อนยื่นคำขาดว่าไม่นอนบ้านมึง ขอชิคๆแบบนอนนิมมานฯ ไม่ไปม่อนแจ่มขอแค่กิ่วแม่ปานแบบพอทำสวยได้ และ 5-6 ร้านเลิศๆ แค่นั้นพอใจแล้ว เรารีบรับปากว่าโอเคได้ค่ะ! ถือเป็น 6 ร้านโลคอลใหม่ๆ และรวดอัพเดตกิ่วแม่ปานเลยละกันนะ
ในเมื่อเพื่อนรีเควสว่าไม่นอนบ้าน เพื่อนก็นอนที่นี่ละกัน เราเลือกให้พวกนางพักกันที่ The Pause Hostel ที่นี่ดีงามอยู่ใจกลางนิมมานซอย 17 ราคาไม่แพงมีทั้งห้องรวมและห้องเดี่ยว พร้อมอาหารเช้าที่สำคัญมีดาดฟ้า! หน้าหนาวแบบนี้ชิวแค่ไหนถามใจดู พึ่งรู้ข้อดีของการอยู่เชียงใหม่แต่ไม่ได้นอนบ้านก็วันนี้แหละ เพราะที่บ้านไม่มีดาดฟ้าไง 55555 เราสามารถมานั่งจอยเล่นกีตาร์ตรงนี้ได้ทุกคน ถ้าโชคดีฝรั่งล่ำกับอปป้ารูปงามก็อาจจะออกมาเล่นด้วย เหมือนตามล่าแสงเหนือนั่นแหละ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเจอปะวะแก อิอิ
อีกอย่างที่นี่ไม่เหมือนโฮสเทลที่เคยพักในต่างประเทศ ด้วยนิสัยคนไทยด้วยแหละเนาะ สะอาดสะอ้านเป็นธรรมดา เชียงใหม่รอบนี้พวกเราก็พร้อมเปลี่ยนมุมมองการท่องเที่ยวให้สนุกกว่าเดิม คือใครใส่แว่นถอดให้หมดค่ะ! เปลี่ยนมาใส่ คอนแทคเลนส์ จาก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน กันให้หมด จะได้เที่ยวเชียงใหม่สนุกกว่าเดิม ไร้อุปสรรค มองภาพไม่ติดแว่น สวยใส 360 องศา ไม่เป็นยัยแว่นอีกต่อไป เดินเหินสะดวกนึกว่าบินได้ไม่ต้องกลัวแว่นตก
ยัง ยังไม่พอ ด้วยความที่เพื่อนเป็นชาวกรุงกันจะให้ปั่นจักรยานจากวิภาวดีมาสยามก็อันตรายไป แต่นางอยากมีโมเม้นท์นี้ที่เชียงใหม่เพราะมีภาพจำสมัยเอ็มวีเพลงลานนา คัมมินส์ นางก็อยากปั่นจักรยานในเชียงใหม่แบบชิคๆ รอบนิมมานเว้ย คือตอนแรกจะชวนปั่นไปถึงพืชสวนโลกนี่แทบเบรกไม่ทัน 55555 เลยคุยกันว่า ปั่นในนิมมานนี่ก็พอมึง เอาชิวๆ กินบรรยากาศสบายๆ
ในนิมมานก็ยังมีต้นไม้ใหญ่หลายๆ ต้น มีความเขียวผสมกับความเป็นเมืองอยู่เยอะแยะ ลมเย็นเบาๆ ของเชียงใหม่นี่มันดีจริงๆ เพื่อนๆ สามารถเช่าจักรยานได้ตรงนิมมานซอย 13 ใกล้ร้านแทงโก้ แมงโก้ ไม่ต้องหอบมาจากกรุงเทพเน้อลูกพี่
เส้นทางสำรวจธรรมชาติกิ่วแม่ปาน
ข้อดีของการพักในนิมมานสำหรับนักท่องเที่ยวคือหารถแดงเหมาขึ้นกิ่วแม่ปานง่าย แต่ต้องมีสกิลการต่อรองเยอะๆ หน่อย ไม่งั้นแพงแน่นอน เราออกกันตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเพื่อเตรียมตัวไปขึ้นกิ่วแม่ปาน เราเคยขึ้นแล้วครั้งนึงเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ตอนนั้นจำได้ว่าเดินๆ เมาท์กันกับเพื่อนไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ผ่านทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา และเดินต่อไปอีกซักพักก็เจอกับวิวที่เหมือนกอดเราไว้อยู่อย่างนั้น โอ้ยยย โรแมนติกไปอีก!
รอบนี้ก็ไม่ต่างระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรของกิ่วแม่ปานไม่ได้ไกลเกินเอื้อม ด้วยเส้นทางที่ทำไว้แล้วอย่างดีทำให้ง่ายมากๆ ต่อการเข้าถึง และไม่ลำบากมากนัก แต่ต้องใช้เวลาหน่อยแค่นั้น ยิ่งช่วงนี้นักท่องเที่ยวเยอะ ต้องเผื่อแผ่กันในหลายๆ อย่าง
ช่วงที่ดีที่สุดของการเดินกิ่วแม่ปานคือเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์นี่แหละ เพราะจะสวยที่สุด และอากาศหนาวกำลังดี
โมเมนท์ที่ชอบที่สุดของกิ่วแม่ปานคือเวลาเห็นหมอกมันเคลื่อนตัวช้าๆ ผ่านหน้าและมีลมเย็นๆ ฟีลแบบสาวเกาหลียืมริมน้ำให้ลมตีหน้าดีที่สุด สำหรับคอนแทคเลนส์รายวันจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นั้นใช้ง่าย ยิ่งมาเที่ยวต้องเตรียมการเป็นอย่างดี ใส่คอนแทคเลนส์เดินทางยังไงก็สะดวก ไม่ต้องกลัวแว่นขึ้นฝ้า
ข้อดีของคอนแทคเลนส์รายวันจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน คือเวลาไปเที่ยว เรื่องตลับน้ำยาหายจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ใช้เสร็จแล้วก็ทิ้งเอาอันใหม่มาใช้ ง่ายๆ จบแบบเร็วๆ จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นต่อ 5555 และไม่ต้องกลัวตาแห้งกันเลยนะเพราะตัวเลนส์รุ่นนี้มีความพิเศษตรงที่ทำจากวัสดุซิลิโคนไฮโดรเจลทำให้ส่งผ่านออกซิเจนเข้าสู่ดวงตาได้ดียิ่งขึ้น มีความชุ่มชื่นสูง ตอบโจทย์นักเดินทาง
เส้นทางกิ่วแม่ปานจะเริ่มเปิดให้เดินตั้งแต่ประมาณ 6โมงเช้าโดยจะต้องลงชื่อตรงทางเข้าพร้อมกับมีพี่ไกด์ท้องถิ่น 1 คนราคา 200 บาทต่อกรุ๊ป สำคัญที่สุดคือห้ามปีนตรงที่ดูวิว เชื่อฟังคำสั่งขอเจ้าหน้าที่อย่าห้าว อย่าคิดว่าไม่เป็นไรเพราะมันอันตราย
มาถึงดอยอินทนนท์แล้วเราอยากให้ทุกคนเผื่อเวลาแวะขึ้นไปกราบสักการะพระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล – นภพลภูมิสิริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีนาถกันด้วย พระธาตุทั้ง 2 พสกนิกรตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อถวายพระพรทั้ง 2พระองค์ ด้านบนนั้นบรรยากาศดี ผู้ใหญ่ก็เดินขึ้น-ลงสะดวก แนะนำให้ไปรอบๆ มีดอกไม้เมืองหนาวสวยงามเยอะแยะ เราจะซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์และซาบซึ้งกับธรรมชาติสวยๆ ที่เรามี หรือแวะโครงการหลวงกินอาหารสดๆ ผักสดๆ และปลาเทราต์แสนอร่อยก็ได้ น่าเสียดายที่เราไม่พอและคนเยอะมากๆ เลยอด
อะ! มาถึงพาร์ทของกินกันบ้าง มีคนถามกันเยอะว่ากินร้านไหนดีในเชียงใหม่ ไม่เอาร้านแบบนักท่องเที่ยวจ๋า แต่อยากได้แบบโลคอลกินกัน รอบนี้ขอแนะนำเพิ่ม 6 ร้านโคตรอร่อยและกินบ่อยๆ ได้ไม่มีเบื่อ เอาไว้เป็นไกด์ไลน์เวลามาเชียงใหม่รอบหน้า หรือกำลังจะมาก็กินได้ทันที
6 ร้านโลคอล eat with your eyes กับ Johnson and Johnson Yummy Guide part ll !
- ลาบบังเกอร์
ร้านขวัญใจขี้เหล้าหลวงของเชียงใหม่ ไม่ว่าจะแต่งตัวสวย เต้นแบบชิคๆ ผับบาร์ปิดปุ๊ป ถ้ายังหิวๆ ไม่อยากกลับบ้านก็มากันที่นี่แหละ มีคนบอกว่าลาบบังเกอร์จะอร่อยมากกว่าเดิมคือตอนเมา แต่เราไปกินตอนไม่เมาก็อร่อยดีนะ
ที่สำคัญถูกมาก สั่งไปเป็น 10 อย่างหมดไปร้อยกว่าบาท เพราะราคาต่อจานนี่เหมือนแจกฟรี 10บาทงี้ 20 บาทงี้ โอ้ยยยยย ร้านดังร้านเด็ดชาวกรุงในนิมมานนี่น่าจะได้แค่แกงถ้วยเดียวเองมั้ง พูดกันตามตรงว่าร้านค่อนข้างสกปรกแต่อร่อยมาก55 แนะนำให้กินอาหารปรุงสุกเด้อ
พิกัด : ร้านนี้เป็นเพิงเล็กๆ เปิดตั้งแต่ เที่ยงคืน-8โมงเช้า อยู่ใกล้ๆ กับสามแยกสโมสรเชียงใหม่ยิมคาน่า
- Street pizza & the wine house
ไม่รู้ร้านนี้จริงๆ โลคอลแค่ไหนแต่เอาเป็นว่าชอบส่วนตัวละกัน ร้านนี้บอกว่าพิซซ่าคืออาหารคนข้างถนนนี่แหละโว้ย ใครๆก็กินได้ทั้งนั้น ร้านนี้มีความเป็นฝรั่งค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังดูเป็นฝรั่งบ้านๆ เข้าถึงได้อยู่ดีสำหรับเรา พิซซ่าที่นี่จัดว่าเด็ด เพราะเค้าพยายามเอารสชาติแบบไทยๆ มาผสมให้จัดจ้านมากขึ้นและถูกปาก เราแนะนำให้ไปร้านนี้ช่วงเย็นอากาศโพล้เพล้ของถนนท่าแพที่เอาสายไฟฟ้าลงดินหมดแล้วนี่ถือว่าดีงามมาก
สำหรับพิซซ่าที่แนะนำให้สั่งคือ “หน้าวัด” เป็น Signature ของร้าน แป้งบางกรอบอบในเตาถ่าน เติมหน้าด้วยไส้กรอกเนื้อกวาง เบค่อน และหมูป่า รสชาติจัดจ้านผสมกันแบบกลมกล่อม นึกในใจเออแม่งหน้าวัดจริงๆ 5555555
พิกัด : ลงจากสะพานนวรัตน์ให้ชิดซ้ายไว้เลยปากทางเข้าไนท์บาซาร์มานิดนึงจะเจอตึกริมถนนสองชั้น ไปเร็วนิดนึงนั่งริมระเบียงดูวิว กินพิซซ่าหน้าวัดและจิบไวน์ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้วคร่า!
- บัวลอยกำแพงดิน
กินพิซซ่าเสร็จแล้วให้มาร้านนี้ต่อได้เลยนะมันไม่ไกลกัน มาล้างปากปิดท้ายด้วยขนมหวานแบบไทยๆ มันๆ หวานหอมกับบัวลอย ร้านนี้ขายมานานตั้งแต่ร้านเป็นเพิงจนขึ้นตึกแถวแล้ว บัวลอยที่นี่เริ่มต้นที่ 20 บาทเท่านั้นแหละ ถ้าอยากเพิ่มไข่หวาน ไข่เจียว ไข่ต้มอะไรก็ว่าไป 55555 ( 2 ไข่หลังนี่พูดเล่น) แต่ที่เด็ดมากและขอคอนเฟิร์มคือบัวลอยไข่เค็มถ้วยละ 30 บาท ฮืออ ดีมาก พูดแล้วน้ำตาจะไหลอยากกินอีกแล้ว
พิกัด : ถนนกำแพงดิน ถ้ามาจากสุริวงศ์บุ๊คเซ็นเตอร์ให้เลี้ยวขวา มาทางเดียวกับร้านไก่ทอดเที่ยงคืน ร้านเปิดหกโมงเย็น-เที่ยงคืน หยุดทุกวันศุกร์
- Kinlum Kindee (กิ๋นลำ กิ๋นดี)
กิ๋นลำ กิ๋นดี เป็นภาษาเหนือแปลง่ายก็กินอย่างเอร็ดอร่อยนั่นแหละ ร้านนี้เป็นร้านอาหารเหนือในนิมมานร้านเดียวที่เราอยากแนะนำ เพราะชอบคอนเซ็ปของร้าน จริงๆ ร้านนี้เปิดมานานกว่า 20ปีละ แต่ขายในตลาดสันทราย เพิ่มเริ่มทำแบรนด์ใหม่ เอาของโลคอลๆ แบบอาหารเหนือนี่แหละทำให้มันดูคูลขึ้นและมีชีวิตชีวา อาหารที่นี่รสชาติน่าจะถูกปากหลายๆ คน แถมยังสามรถซื้อกลับบ้านไปเป็นของฝากได้ด้วยนะ
ข้อดีของร้านนี้คือเป็นรสชาติอาหารเหนือแท้ๆเหมือนซื้อจากตลาดมากิน แต่จัดโต๊ะ จัดจานได้คิ้วท์น่าถ่ายรูปมากๆ เป็นร้านที่กินอร่อยและได้ภาพไปด้วยในตัว แนะนำให้สั่งไส้อั่วตับย่างของแปลกอร่อยที่ต้องลอง
พิกัด : นิมมานฯ ซอย 11 ร้านเปิด 11.00-20.00 น.
- ก๋วยจั๊บช้างม่อยตัดใหม่
นี่เป็นร้านผู้ใหญ่ อย่าแปลกใจถ้าจะเห็นคุณหญิงตีกระบังทรงฟาร่า ขับเบนซ์ลงมาซื้อก๋วยจั๊บ เพราะร้านนี้มีตำนานเปิดมานานถึง 40 ปี ที่เด็ดของมันคือหมูกรอบทอดเตาถ่าน เป็นสูตรที่สืบทอดกันมานมนานเหลือเกิน สำหรับเราก๋วยจั๊บรสชาติเฉยๆ แต่หมูกรอกนี่แหละทีเด็ดของจริง
พิกัด : ถนนช้างม่อยตัดใหม่ เปิดตั้งแต่ 08.30-15.00 แต่ของหมดเร็วมากแนะนำให้รีบไป
- Mai Bakery (ไหม เบเกอรี่)
ร้านนี้เราเคยแนะนำไปแล้วครั้งนึง แต่ก็เป็นร้านเค้กร้านเดียวที่เรากินกันจริงๆ นั่นแหละ ไม่พูดมาก เค้กร้านนี้เนื้อแป้งนุ่มมาก และรสชาติไม่หวานเกินไป แนะนำเค้กส้มกับเค้กใบเตยนะ นั่งเย็นๆ เพลินๆ กินเค้กอร่อยๆ โคตรฟิน เป็นเชียงใหม่แบบดัดจริตนิดนึงที่ทำให้ลืมชีวิตปัจจุบันไปเลย
พิกัด : ช้างเผือก ซอย 2 (ซอยอนุบาล 2 ข้างโชว์รูม Volvo)
เชียงใหม่นี่เหมือนขุมทรัพย์อะไรซักอย่างนึงที่รีวิวเมื่อไหร่ก็มีอะไรใหม่ๆ ทุกครั้งให้รอค้นพบ เราคิดว่าที่นี่ยังมีอีกหลายๆ ที่ให้กิน ให้เที่ยว ไว้รอบหน้าจะมาแนะนำเพิ่มแบบคนเชียงใหม่เองอย่างเรานี่แหละ สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบเดินทางไม่อยากให้แว่นเป็นปัญหา อยากลองเปลี่ยนมาเห็นโลกมุมที่กว้างขึ้นแบบ 360 แนะนำให้เข้าไป รับคำแนะนำและทดลองคอนแทคเลนส์ จาก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้ตามร้านแว่นตาชั้นนำทั่วไป หรือติดตามรายละเอียดที่ https://www.facebook.com/JJVisionCareThailand/ เปลี่ยนโลกด้วยมุมมองใหม่ๆ ที่สวยงามกว่าเดิม เห็นวิวที่กว้างขึ้น เห็นผู้ที่แซ่บขึ้น แถมใส่แล้วสบายตาแล้วยังดูแลสุขภาพตาเราไปพร้อมกัน เมื่อไม่มีอุปสรรคมารบกวนก็ทำให้เราลุยเที่ยวได้ทุกที่ ถ้ามีอะไรสงสัยเรื่องเชียงใหม่ ถามเราได้ตลอดเลยนะ