72 ชั่วโมงในโฮจิมินท์ เมืองที่มองข้ามไป แต่ดีงามและฟีลกู๊ดเหลือเชื่อ!
เชื่อแล้วว่าโฮจิมินท์จะทำให้คนที่มองเวียดนามว่าวุ่นวาย หลงรักที่นี่ได้ง่ายๆ ด้วยความเป็นเมืองที่ไม่สิ้นที่เที่ยวเพราะกำลังเติบโต โฮจิมินท์เลยคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน? เป็นเมืองที่มี Hidden Places เกิดขึ้นใหม่ให้ตามเราเที่ยวแบบไม่รู้เหนื่อย ความศิวิไลซ์สุดคึกคักของโฮจิมินท์ ผสมผสานกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมแบบเวียดนาม ทำให้เมืองนี้เป็นอีกเมืองที่บูทีคมากๆ สำหรับการเดินทาง ทริปนี้เราขอมาใช้ชีวิต 72 ชั่วโมงในโฮจิมินท์ แลนด์มาร์คน่าไป คาเฟ่ฮิต บาร์ดีๆ ที่ไม่อยากให้ลับ และร้านอร่อยที่คัดมาแล้วว่า ‘ตามรอยเถอะ ไม่ผิดหวังจริงๆ!’
ทริปนี้เราออกเดินทางกับ CardX บัตรเครดิตดีไซน์ทันสมัยที่พร้อมจะไปกับเราในทุกที่ และพร้อมที่จะนำเสนอความเป็นไปได้ใหม่ๆ เหมือนกับการเดินทาง บัตรเครดิต CardX ULTRA PLATINUM โฉมใหม่นี้ สีสันสวยงาม และสำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจ อยากบอกให้ทุกคนสบายใจว่า CardX เป็นบริษัทในเครือ SCBx ที่ได้รับการโอนย้ายธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบางประเภทมาจาก SCB เพราะฉะนั้นเชื่อถือได้ สิทธิประโยชน์จัดเต็มเหมือนเดิมแน่นอน 😊
#wheredowegoTH #CardXThailand #CardXpossibilities #SCBX
Godmother.
มีคนบอกว่ามาถึงโฮจิมินท์แล้วเนี่ย อย่าไปทานอาหารเช้าโรงแรมแบบซ้ำซากเลย เพราะที่นี่มีร้าน Brunch ดีๆ ให้เลือกเยอะมาก ทั้งแบบเวียดนาม และแบบเวสเทิร์น มาถึงปุ๊ปเราแวะกันที่ร้าน GodMother กันก่อนเลย ร้านนี้มีดีที่อาหารเช้าอร่อยทุกเมนู มู้ดของร้านจะเป็นสีพาสเทล ตัดกับเก้าอี้กำมะหยี่สีเขียว สลับครีม ทำให้บรรยากาศยามเช้าอบอุ่นมาก
แถมอร่อยทุกเมนูจริงๆ เราสั่ง Omelette Arnold Bennet เป็น Crab Meat แบบจัดเต็ม และ American Breakfast แบบแน่นๆ โอ้โห อร่อยมากๆ แถมราคาไม่แพงด้วย อยากให้ทุกคนมาลองด้วยตัวเอง
Lacaph Espresso Bar
เสร็จจาก Brunch เราแนะนำว่าควรหากาแฟดีซักแก้วให้ชุ่มฉ่ำ เพราะบรรยากาศในโฮจิมินท์นั้นเอาเรื่องเหมือนกัน 555 เดี๋ยวจะเพลียกันได้ง่ายๆ เรามาแวะกันที่ Lacaph Espresso Bar ทางเข้าจะลึกลับนิดนึงเพราะตั้งอยู่ชั้นสองของตึกที่ทางเข้าเหมือนหนังฆาตกรรม และเข้าไปในร้านแล้วมู้ดดีมากกกกก
เรามาแวะที่สาขาเล็กๆ ตรงถนน Dong Khoi เดินจากร้าน Godmother มาประมาณ 8 นาทีก็เจอแล้ว อยากบอกว่าดีงามมากๆ ทั้งบรรยากาศ ความเป็นกันเองของบาริสต้า และรสชาติกาแฟ เราสั่ง Lacaph Bar Signature อย่าง Cabonated Cold Steep Cascara ที่เป็น Lemonade กับ Cold Brew ดื่มง่ายมาก เปรี้ยวนำ หวานตาม มีรสของกาแฟอย่างชัดเจน
สารภาพอย่างนึงเวลามาเวียดนามเราไม่ชอบเรื่องของค่าเงินและการนับเงินที่นี่มากๆ เพราะมันโดนโกงได้ง่าย หรือบางครั้งเราก็จะสับสนกันเอง แต่เวียดนามรอบนี้ร้านไหนๆ ก็รับบัตรเครดิตทั้งนั้นอย่าง Espresso Bar เล็กๆ ที่นี่ก็รับเช่นกัน บัตรเครดิตมันทำให้การเดินทางแต่ละครั้งของเรา Seamless มากขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะกับ CardX ULTRA PLATINUM หยิบออกมาก็มั่นใจว่าบัตรสวยกว่าใครแน่นอน 😊
ฝั่งตรงข้ามกับ Lacaph Espresso Bar เป็นถนนที่เดินเล่นกันได้ทั้งสายเลยนะ เราแนะนำให้แวะถ่ายรูปคูลๆ กับ Ho Chi Minh City Opera House เดินเลยมาอีกหน่อยบริเวณหน้า Hotel Continental Saigon ก็สวยคลาสสิคมาก และฝั่งตรงข้ามก็ยังมี People’s Committee Building ให้เดินไปถ่ายรูปเล่นอีกด้วยนะ
Ho Chi Minh City Book Street
จริงๆ ที่เที่ยวส่วนใหญ่ในโฮจิมินท์แบบชิคๆ จะอยู่ใน District 1 เกือบทั้งหมดเลย ถ้าเลือกที่พักก็แนะนำให้เลือกบริเวณนี้ เพราะมันเดินเที่ยวได้อย่างสะดวกกันจริงๆ เราเดินมาต่อกันที่ Ho Chi Minh City Book Street เราชอบที่นี่มากๆ เป็นบรรยากาศที่ไม่ค่อยเห็นในเมืองอื่นๆ แถบอาเซียน มันมี Vibes ที่น่ารักของคนรักการอ่านมารวมตัวกันเป็นถนนหนังสือทั้งเส้น อยากให้ลองมาเดินเผื่อได้หนังสือภาษาอังกฤษดีๆ กลับไปนอนอ่านที่โรงแรม เพราะราคาไม่แพงเลย
Ngon Restaurant
เราไปทานอาหารเที่ยงกันที่ร้านเวียดนามชื่อดังอย่าง Ngon Restaurant เป็นร้านที่อร่อยมากอีกร้านนึง ใครอยากทานอาหารเวียดนามที่รสชาติดี สะอาดสะอ้าน แนะนำร้านนี้เลย แต่ราคาจะแรงนิดนึงตามคุณภาพ ร้านตกแต่งสวยงามมาก
Ho Chi Minh Fine Art Museum
อาคารทรงโคโลเนียลสีเหลืองมัสตาร์ดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ Ho Chi Minh Fine Art Museum พิพิธภัณฑ์ที่แสดงศิลปะในแขนงต่างๆ โดยที่มีจะมีทั้งผลงานของศิลปินชาวเวียดนาม และนิทรรศการหมุนเวียนของศิลปินต่างประเทศ มีหลายๆ มุมที่ถ่ายรูปสวย และเดินดูเรื่องราวได้น่าสนใจอย่างไม่รู้เบื่อ เราแนะนำให้มาช่วงบ่ายๆ เป็นจุดที่พักหนีอากาศอบอ้าวได้ดี เอ้อ! ที่นี่เค้าห้ามใช้กล้องใหญ่ถ่ายรูปนะ แต่พวกกล้องจากสมาร์ทโฟนถ่ายได้เลยไม่มีปัญหา มีค่าเข้าคนละ 30,000 ด อง
S’mores Saigon Caffè
จากอาหารเที่ยง และมิวเซียมถ้าตาเริ่มเยิ้มเมื่อไหร่ แนะนำให้หาคาเฟ่ดีๆ ในเมืองที่มีให้เลือกเยอะมาก เราเลือกมากันที่ S’mores Saigon Caffè เพราะชอบดีไซน์ของร้านเป็นพิเศษ แล้วก็ไม่ผิดหวังเพราะเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง Coffee และ Non-Coffee พร้อมขนมฮิตที่บาริสต้าที่ร้านแนะนำก็อร่อยใช้ได้เลย
ร้านตกแต่งแบบปูนเปลือยในตึกคูหาเดียว แต่เพิ่มสีเขียวด้วยต้นไม้สดๆ และบนชั้นดาดฟ้ายังมีเหมือนเป็น Houseglass ให้นั่งทอดอารมณ์พร้อมแสงธรรมชาติสวยๆ ส่องเข้ามา ถ้าตอนกลางวันอาจจะร้อนหน่อย แต่พอคล้อยบ่ายบรรยากาศดี
Mong Bridge
พอพระอาทิตย์เริ่มคล้อยลงเราแวะมาเดินชิลๆ กันที่ Mong Bridge เป็นแลนด์มาร์คที่เพื่อนชาวเวียดนามบอกว่า ใครๆ ก็ชอบแวะมาถ่ายรูปที่นี่ เพราะมีสถาปัตยกรรมตึกเก่าของเวียดนามเป็นฉากหน้า และด้านหลังไกลๆ เป็นตึกดีไซน์ทันสมัย เหมือน Stark Tower ของ Marvel
ส่วน Vibes บนสะพานสีเขียวๆ ของ Mong Bridge ก็แปลกตาดี เป็นวิวเมืองที่สวยงาม จบวันในโฮจิมินท์ได้แบบเพอร์เฟค
สำหรับบัตรเครดิต CardX ULTRA PLATINUM ข้อดีหลักๆ ที่เราชอบมาก จำง่ายๆ เลยคือรับ CardX Rewards สูงสุด X5* เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ทุก 25 บาท/เซลล์สลิป ในหมวดร้านอาหาร (ไม่รวมร้านอาหารในโรงแรม), ช้อปในห้างสรรพสินค้า(ไม่รวมร้านค้าเช่าในห้าง) และหมวดความบันเทิง เช่น ดูหนัง ร้องคาราโอเกะ ใครเป็นสายชอบเก็บพอยท์ไปแลกของรางวัล บอกเลยว่าบัตรนี้ปั่นพอยท์ได้เร็วมาก พอได้พอยท์มาง่ายๆ ก็สามารถนำไปแลกรับประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่ตามมา
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางในต่างประเทศที่เราแนะนำทุกคนตลอดว่าไม่อยากให้ประมาทหรือชะล่าใจนั่นก็คือประกันการเดินทาง ซึ่งเมื่อชำระค่าโดยสารทางอากาศผ่านบัตรเครดิต CardX ULTRA PLATINUM จะได้รับประกันภัยคุ้มครองการเดินทางทั้งในและต่างประเทศด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุด 8,000,000 บาท*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
Mùa Craft Saké
พอฟ้ามืดตาก็ใสแจ๋วทันที 555 เราแวะมาทานอาหารเย็นพร้อมเครื่องดื่มดีๆ กันที่ Mùa Craft Saké ร้านที่เคลมว่าตัวเองเป็น Vietnam’s First Craft Sake Brewery ในร้านบรรยากาศดีมาก โปร่งสบาย พร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบญี่ปุ่น เหมาะแก่การปล่อยตัวปล่อยใจไปกับอาหารและสาเกคุณภาพ 5555
ที่นี่มีการใช้วัตถุดิบของเวียดนามมาทำอาหารญี่ปุ่น และมีการทำอาหารแบบผสมผสานเช่น โอโคโนมิยากิขนมเบื้องญวณ เห็นแปลกๆ แบบนี้อร่อยมาก รวมถึงพวกอาหารปิ้งย่างเสียบไม้ต่างๆ ก็ราคาไม่แพงเลยเริ่มต้นที่ประมาณ 40 บาทไทยเท่านั้น ส่วนใครที่อยากลองชิมสาเกแบบกรุบกริบก็มี Sake Flight เป็น Shot เล็กๆ มาให้ลองทานเราชอบรสฝรั่งกับเสาวรสมาก ดื่มง่าย เมาง่าย เอวหวานทันทีเช่นกัน แต่มาทั้งทีต้องเอาให้ถึงเวียดนาม
ส่วนใครที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเราบอกเลยว่าที่เวียดนามราคาไม่แพงเลย แม้จะเป็นร้านหรูๆ แต่ถ้าใครอยากจัดหนักจัดเต็มพกบัตรเครดิต CardX ULTRA PLATINUM ไว้ก็อุ่นใจ เพราะสามารถแบ่งจ่ายยอดชำระ 0% ได้นานถึง 4 เดือน* เมื่อมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป เพราะฉะนั้นไปเที่ยวทั้งทีบัตรเดียวก็พอ 😊ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cardx.co.th/credit-card/promotion/delight-campaign-promotion-0percent
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
L’usine
Brunch อีกร้านที่เรารักและอยากแนะนำให้คนมาเยอะๆ อย่าง L’usine อาคารเล็กๆ 2 ชั้นหัวมุมถนนที่จอแจด้านนอก และพอเดินเข้ามาด้านในแล้วกลายเป็น Oasis สำหรับคนที่ต้องการอาหารดีๆ และบรรยากาศเบาสบาย ที่นี่มีช็อปเล็กๆ ขายงานคราฟท์ต่างๆ เสื้อผ้า และของใช้ภายในบ้าน และอีกส่วนนึงคือร้านอาหารสำหรับ Brunch มื้ออร่อยก่อนออกไป Explore เมืองกันต่อ
ที่นี่มีทั้งอาหารแบบเวสเทิร์นและอาหารแบบเวียดนาม รวมไปถึงอาหารสำหรับคนรับสุขภาพ เราสั่งมาลองทุกอย่างแล้ว อร่อยหมดเลย ทั้ง Avocado Toast และกาแฟแบบเวียดนามสไตล์ Tradition ที่นี่ก็มีเสิร์ฟเช่นกัน
Dabao Concept
Concept Café ที่ถ้ามีเวลาก็อยากให้ทุกคนแวะมาเยือน ด้วยบรรยากาศแบบ Open Air ใต้ต้นไม้น่ารัก บ้านเก่าโบราณสไตล์จีนนิดๆ ผสมผสานกันเป็น Vibes ที่ร่มรื่นเหมาะแก่การทอดอารมณ์กับกาแฟดีๆ ซักแก้ว เราสั่ง Coconut Coffee ที่เป็นน้ำมะพร้าวปั่น ราดด้วย Vietnam Coffee พร้อมโรยด้วยมะพร้าวกรอบ โอ้โห.. อร่อยจนต้องซ้ำแก้วที่ 2 ทันที!
Independence Palace
อีกหนึ่งมิวเซียมที่น่ามาแวะมากๆ เมื่อมาเยือนโฮจิมินท์คือ Independence Palace ที่นี่เหมือนทำเนียบประธานาธิบดีเดิมสมัยที่เวียดนามยังแบ่งออกเป็นเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ เป็นฐานที่ตั้งสุดท้ายก่อนการล่มสลายของโฮจิมินท์ ก่อนการรวมประเทศเป็นเวียดนามในปัจจุบัน ด้านในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อย่างสมจริงว่าแต่ละห้องเมื่อก่อนใช้ทำอะไรบ้าง ถามด้านบนดาดฟ้ายังมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์พร้อมจัดแสดงเฮลิคอปเตอร์รุ่นเดียวกับที่เคยใช้ในอดีตด้วยนะ
ความดีงามของที่นี่อีกอย่างนึงคือต้นไม้ โฮจิมินท์เป็นเมืองที่ร่มรื่นมากๆ ต้นไม้เยอะ ถ่ายรูปสวยเดินไปไหนก็เห็นสีเขียวของสวนสาธารณะส่วนกลางเต็มพื้นที่จริงๆ
Saigon Central Post Office
ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นที่ทำการไปรษณีย์ที่สวยอันดันต้นๆ ของโลกที่ยังใช้งานกันอยู่จริงๆ Saigon Central Post Office อยู่ใกล้ๆ กับ Book Street ที่เรามาวันแรก ตั้งแต่ตั้งใจว่าจะข้ามไปแต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วแวะมาดูให้เห็นกับตาซะหน่อย ข้างในก็เป็นสไตล์โคโลเนียล หลังคาโค้ง เพดานสูง กระเบื้องสวย กระจกละเอียด ใครอยากส่งโปสการ์ดกลับบ้านที่นี่ก็ยังเปิดให้ส่งได้จริงตามปกตินะ
Tan Dinh Church
อีกหนึ่งไฮไลท์ของคนมาเที่ยวโฮจิมินท์ที่ไม่มาไม่ได้นั่นก็คือ Tan Dinh Church โบสถ์คริสต์สีชมพูอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตามเวลาทั้งด้านในด้านนอก สามารถเข้าไปนมัสการพระเจ้า พร้อมกับถ่ายรูปชิคๆ ได้ที่นี่ ฝั่งตรงข้ามของโบสถ์ยังมีร้านกาแฟชื่อดังอยาก Cong Caphe ที่มีชั้นดาดฟ้าให้ทุกคนสามารถเข้าไปนั่งจิบเครื่องดื่มพร้อมกับชมวิวได้เช่นกัน
Café Apartment
หลายคนอาจจะเคยเห็นภาพนี้ แต่พอได้มาดูของจริงก็ต้องบอกว่าทึ่งกับความช่างคิดของคนที่นี่ Café Apartment คือตึกที่เป็นคาเฟ่เกือบทั้งหมดในทุกๆ ชั้น ทุกคนสามารถขึ้นลิฟต์ไปด้านบนสุดโดยมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แล้วค่อยเดินย้อนลงมาตั้งแต่ชั้น 8 จนถึงชั้น 1 ที่นี่มีทั้งแต่คาเฟ่โลคอล ไปจนถึงร้านดังอย่าง % Arabica กันไปเลย
Banh Mi Huynh Hoa
นี่เป็นสตรีทฟู๊ดร้านเดียวที่ได้ลองทานในทริปนี้เพราะเพื่อนชาวเวียดนามบอกว่า บั๋นหมี่ของร้าน Huynh Hoa นั้นอร่อยที่สุดแล้วในโฮจิมินท์ ขนมปังบาแกตส์แบบฝรั่งเศสที่อบจนกรอบนอกนุ่มใจใส่ใส้ด้วยเนื้อหมูประเภทต่างๆ ทั้งหมูหยอง หมูแผ่น หมูสามชั้น และซอสของร้าน พร้อมแยกผักมาให้เราใส่เองต่างหาก กัดไปคำแรกเท่านั้นแหละ โอ้โห้.. กินจนหมดคนละชิ้น!
Koheis
Japanese attention to detail in Your living room… นี่คือประโยคที่ร้านนี้ใช้นิยามตัวเอง บาร์เทนเดอร์ชาวญี่ปุ่นที่เคยเป็นทหารผ่านศึกมาก่อน และหลงใหลในรสชาติของค็อกเทลจนได้มาเปิดบาร์เล็กๆ ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนห้องนั่งเล่นในเมืองโฮจิมินท์
เราเจอร้านนี้ผ่านการแนะนำของเพื่อนชาวเวียดนามอีกนั่นแหละ ค็อกเทลที่นี่รสชาติดีเลย ชงค่อนข้างเข้มและราคาถูกกว่ากรุงเทพฯ มาก ใครที่มาถึงโฮจิมินท์แล้วอยากมีโมเม้นท์ Night in Saigon ก็แนะนำร้านนี้ ราคาดี สะอาด ปลอดภัย และเดินทางสะดวกแน่นอนเพราะอยู่ใน District 1
Pizza 4P’s
วันสุดท้ายก่อนกลับเราไม่พลาดแวะทานพิซซ่าร้านที่ใครๆ ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘มึงต้องแวะกินร้านนี้ให้ได้นะ!’ เข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนถึงอวยนักอวยหนา เพราะมันอร่อยจริงๆ ทั้งเคลสลัด โคลคัท พาสต้า ลาซานญ่า ซุปเห็ด และตัวพิซซ่าที่เป็นไฮไลท์แล้วเราสามารถเลือกได้ 2 หน้าแบบแบ่งครึ่งกัน แนะนำว่าควรสั่ง 4cheese half นึง ส่วนอีก half ก็ตามใจชอบ
เราแนะนำว่าถ้าจะทานเป็นมื้อเที่ยงควรไปถึงร้านประมาณ 11 โมงในช่วงที่คนยังไม่เยอะ เพราะไปช่วงใกล้เที่ยงอาจจะต้องรอคิวซักพักนึงเลย จริงๆ Pizza 4P’s มีหลายสาขาเป็นแฟรนไชส์ แต่เราแนะนำให้ทานที่สาขา Ben Thanh เพราะบรรยากาศดี และใครที่ชอบช้อปปิ้งอาจจะเดินเล่นที่ตลาด Ben Thanh ต่อได้เลย เพราะเป็นตลาดขายของฝากที่ใหญ่ที่สุด
43 Factory Coffee Roaster
ก่อนขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ เราแวะที่ 43 Factory Coffee Roaster ที่นี่เสิร์ฟ Specialty Coffee ที่มีความมุ่งมั่นมากๆ ในการเสิร์ฟสิ่งที่ดีที่สุดจากฟาร์ม คัดเลือกเมล็ดอย่างดีจากทั่วโลก และคั่วเองจนมั่นใจและส่งต่อรสชาตินั้นสู่คนที่อยากลองชิมจริงๆ บอกเลยว่าราคาค่อนข้างแรงแต่คุ้มค่า
และที่นี่ก็จัดร้านได้เท่มากๆ ส่วนใครที่ไม่มีเวลานั่งดื่มด่ำกับ Specialty Coffee แนะนำให้ถามบาริสต้าว่าวันนี้มีอะไรที่สามารถซื้อเป็น Cup ได้บ้างมั้ย เพราะบางวันจะมีกาแฟที่สามารถขายแบบ Americano / Espresso ได้เช่นกัน
โฮจิมินท์เป็นเมืองที่ร่มรื่นมากๆ เพราะต้นไม้เยอะ และอย่างที่เราบอกว่าที่นี่กำลังโต ทันสมัย ในขณะเดียวกับก็ผสมผสานกับวิถีชีวิตชาวเวียดนามเดิมได้เป็นอย่างดี ถ้าใครกำลังมองหาทริปใกล้บ้านที่ไม่ต้องใช้วันลาเยอะ มาเปลี่ยนบรรยากาศเดินชมบ้านเมือง พร้อมใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบายเป็น Seamless Experience ในอาเซียนกับ บัตรเครดิต CardX ULTRA PLATINUM ชีวิตอัลตรา ชีวิต X5 ทุกวัน เราว่าที่นี่เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย