เวลาเราบอกว่าจะมาเที่ยวเมืองจีนมีแต่คนส่ายหัว เบ้ปากบอก ไปทำไม ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน เมืองจีนที่ได้ยินมาเป็นเเค่เสี้ยวเล็กๆ จริงเเล้วเมืองจีนเนี่ยมันกว้างแบบกว้างมาก เเละมีอะไรเจ๋งๆ ให้ไปสัมผัสอีกตั้งเยอะ ทั้งสภาพอากาศที่หลากหลาย เเละภูมิประเทศที่ไม่เคยเจอ คำว่าไม่ไปลองก็ไม่รู้ยังใช้ได้ดีอยู่เสมอ บางครั้งเราต้องออกเดินทางไปลองให้รู้เลยว่าที่ไหนเวิร์คที่สุด รีวิวนี้เราขอตะลุยไปดูที่เที่ยวยอดฮิต ชวนออกเดินทางเเละหาประสบการณ์ผ่านรีวิวสั้นๆ ให้หายคิดถึงพร้อมลิงก์รีวิวให้ไปตามรอย เเล้วจะพบว่าเมืองจีนสามารถทำให้เธอตกหลุมรักได้ไม่ยากเลย
Zhangjiajie National Forest Park
ขอประเดิมที่เเรกด้วยอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย จินตนาการถึงชาวนาวีที่เคยดูในเรื่องอวตารว่ากำลังกระโดดจากยอดเขาลูกนู้นไปลูกนี้ ที่นี่แหละหุบเขาอวตารของจริง! มาที่นี่เราจะได้เห็นปราสาทหินทรายนับร้อยตั้งสูงตระหง่านกลางทะเลหมอก เราเดินทางมาที่นี่ด้วยกระเช้าต้องอธิบายก่อนว่า อุทยาน เนี่ยมีทั้งโซนด้านล่าง และโซนด้านบน แต่ที่เราจะพาไปดูคือโซนด้านบนที่จะทำให้เห็นวิวมุมกว้างของหุบเขาอวตาร ที่นี่เป็นอีกที่ ที่ควรมามากๆ แม้ว่ากิจกรรมของมันคือการเดินดูวิวเรื่อยๆ ก็ตาม Zhangjiajie ฮิตติดลมบนขึ้นมาเพราะภาพยนตร์เรื่องอวตาร ใครๆ ก็อยากมาเห็นว่าเหล่าชาวนาวีอยู่กันอย่างไร และจะแตกต่างจากในหนังแค่ไหน ที่นี่เลยมีนักท่องเที่ยวเยอะมากตลอดทั้งปี
อ่านรีวิวฉบับเต็ม คลิกที่นี่
Tianmenshan & Tianmen Cave
ประตูสวรรค์ เทียนเหมินซาน สถานที่ไฮไลท์ของทุกคนที่มาเที่ยวเมือง จางเจียเจี้ย มาที่นี่ขอเเนะนำว่าให้มาเช้านิดนึงนะเพราะคนเยอะมาก การเดินทางเราจะนั่ง Cable Car ที่ว่ากันว่าเป็นการขึ้นเขาด้วยกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลกด้วยความยาวกว่า 7 กิโลเมตร สิ่งอลังการที่เราจะได้เจอคือวิวด้านล่างที่จะทึ่งกับความสามารถของประเทศนี้ในการทำถนนสำหรับขึ้นเขา เพราะด้านล่างกระเช้าขึ้นเขาที่สูงที่สุดในโลกที่เรานั่งอยู่นั้นคือถนน 99 โค้ง เรียกได้ว่าถ่ายรูปกันมันส์ๆ กว่าครึ่งชั่วโมงเลยหละ ไฮไลท์ของด้านบนนื้คือทางเดินกระจกเลียบเขาที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนหมอก จากด้านบน Tianmenshan เราขอลงไปต่อที่ Tianmen Cave ซึ่งเพื่อความสะดวกพี่จีนเค้าสร้างลิฟท์บันไดเลื่อนลงเขาซะเลยก็เเปลกดี 555 บอกเป็นเกร็ดความรู้สักหน่อย Tianmen Cave เป็นหลุมที่ถูกน้ำกัดเซาะระหว่างสองยอดเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก คนจีนเรียกที่นี่ว่าประตูสวรรค์และบันไดสวรรค์ 999 ขั้น ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่นี่มันเกินบรรยายมาก อยากให้ทุกคนมาสัมผัสด้วยตัวเอง ความฟินและสนุกของการค่อยๆ เดินลงบันไดที่สูงและเสียวมากกับเพื่อนเป็นอีกโมเมนท์ตลกๆ นี่สนุกเสมอ ประตูสววรค์มันก็มีเท่าที่เห็นนี่แหละแต่บรรยากาศของการ ‘กว่าจะมาถึง’ และได้มาเที่ยวกับเพื่อนในสถานที่อลังการแต่งบน้อยแบบนี้มันดีงามจริงๆ จ้า
อ่านรีวิวฉบับเต็ม คลิกที่นี่
The Terracotta Warriors
นอกจากกำเเพงเมืองจีนหรือพระราชวังต้องห้ามก็มีที่นี่เเหละที่ไม่ว่าใครก็รู้จัก ใครมาซีอานไม่มาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึง สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ห่างจากตัวเมืองซีอานประมาณ 1 ชั่วโมง นี่คือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ที่ควรไปดูซักครั้งนึง ด้านในจะมีทั้งหมด 3 โดม เป็นหลุมๆ ใหญ่ที่เค้าขุดขึ้นมา ความละเอียดของรูปปั้นดินเผาของทหารเหล่านี้คือปั้นจากทหารจริงๆ ทำให้หน้าตาไม่เหมือนกันซักคน โดยเมื่อก่อนเราเคยคิดว่าตอนขุดค้นพบมันคงเป็นโดมใหญ่ๆ ที่โดนลมโดนดินกดทับแล้วมีหลังคา พอขุดเจอก็ค่อยๆ เปิดหลังคาก็จะ จ๊ะเอ๋กับเหล่าทหารยืนเรียงกันเป็นร้อยๆ คน แต่จริงๆ ไม่ใช่! จริงๆมันถูกฝังลงไปในดินทีละคนๆ เพราะฉะนั้นนักโบราณคดีที่มาทำงานที่นี่โคตรเจ๋งจริงๆ ในการขุดแต่ละคนขึ้นมาให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ น่านับถือมากกกก!
อ่านรีวิวฉบับเต็ม คลิกที่นี่
Longmen Grottoes
ใครๆ มาซีอานก็มุ่งมาดูสุสานดินเผาของจิ๋นซีฮ่องเต้ที่โคตรอลังการ อยู่ซีอานกันแค่คืนเดียวแล้วไปต่อเลย บอกเลยว่าพลาดมากซีอานยังมีอะไรอีกเยอะ ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้ำผาหลงเหมิน (Longmen Grottoes) นี่คืออีกหนึ่งมรดกโลกนี่ UNESCO มาเห็นปุ๊ปก็รีบแย่งขึ้นทะเบียนมรดกโลก เพราะมันแสดงให้เห็นถึงการใช้สอยงานและประดิษฐ์งานอย่างชาญฉลาดของมนุษย์ ผาหลงเหมินตรงนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอี้ ฝั่งที่หันหน้าออกถูกแกะสลักเป็นพระพุทธรูปน้อยใหญ่เป็นพันๆ องค์อยู่ริมหน้าผาแลริมน้ำ โดยมีเป็นพันๆ องค์ยาวกว่า 1 กิโล ช่วงที่เราไปคือหน้าหนาว อากาศเย็นสบายๆ เดินได้เรื่อยๆ แถมคนไม่พลุกพล่าน มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเกิ๊นนนนนนน! เป็นอีกที่นึงที่สายถ่ายรูปไม่ควรพลาด Panorama ไปสักช็อตเพราะมันยิ่งใหญ่มากจริงๆ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม คลิกที่นี่
Jade Dragon Snow Mountain
Jade Dragon Snow Mountain คือแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAAA ซึ่งหมายถึงดีที่สุดในบรรดาสถานที่ท่องเที่ยวในจีน ตัวอุทยานอยู่ห่างจากตัวเมืองลี่เจียงประมาณ 30 นาทีเท่านั้น สะดวก ใกล้เมืองและเดินทางไม่ลำบาก เราจะเสียค่าเข้าคนละ 130 หยวนที่ประตูทางเข้าด้านหน้า และบอกคนขับว่าให้ไปส่งที่ YULONG SNOW MOUNTAIN ROPEWAY ได้เลย ที่นี่จะเป็นจุดขึ้นเคเบิลคาร์ที่ใหญ่และสวยที่สุดในอุทยาน ราคาคนละ 180 หยวนไปกลับ! และต้องเก็บตั๋วใบนี้ไว้สำหรับนั่ง Shuttle Bus ไป Blue Moon Valley อีกรอบ ไม่อย่างนั้นต้องซื้อใหม่นะคะ Jade Dragon Snow Mountain เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปีเลย ถ้าอยากเห็นหิมะแบบขาวโพลนแนะนำให้มาช่วงปลายปี แต่ถ้าชอบแบบหินๆ และมีหิมะแซมบ้างบนยอดก็มาช่วงประมาณมิถุนายนจนถึงตุลาคมได้เลย ซึ่งก็สวยหมดนะเเค่คนละอารมณ์ อีกหนึ่งอย่างที่ห้ามพลาดเมื่อมาที่นี่เราขอเเนะนำให้มาดูโชว์ที่ดีที่สุดในเมืองจีนเท่าที่เราเคยดูมา ดีงามจนน้ำตาไหลคือโชว์ Impression of Lijiang โชว์นี้เป็นโชว์กลางแจ้งมีท้องฟ้าและภูเขาหิมะเป็นฉากหลังที่อลังการและสวยงาม เป็นโชว์ที่ใช้นักแสดงหลายร้อยคนมากทำให้มี Impact ถึงผู้ชมได้ดีเลย
นอกจากความงามด้านบนเเล้ว ลงจากยอดเขาในเขตอุทยาน เราสามารถไปต่อกันที่ Blue Moon Valley ทะเลสาบสีฟ้าเป็นประกายระยิบที่เห็นปุ๊ปก็ต้องร้องว้าวให้กับความอลังการของที่นี่อีก ที่นี่มีชื่อเรียกอีกอย่างนึงว่า White Water River เป็นชื่อที่ชาวนาซีท้องถิ่นเรียกกัน น้ำสีฟ้าที่เห็นๆ กันนี้คือน้ำแข็งจากหิมะที่ละลายมาจากยอดเขานั่นเอง
อ่านรีวิวฉบับเต็ม คลิกที่นี่
Shika Snow Mountain
กว่า 4,449 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในเมืองที่เป็นตำนานและได้ชื่อว่า สงบและเรียบง่ายมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ยังมีภูเขาที่สูงเสียดฟ้าและสวยงามมากๆ อีกที่นึงคือ Shika Snow Mountain นั่นเอง ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAA น้อยกว่าที่ Jade Dragon Snow Mountain ไปหนึ่งดาว อาจเป็นเพราะสิ่งอำนวยความสะดวกและวิวยังไม่พีคเท่าที่นั่น แต่ที่นี่ก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนะจ้ะ สำหรับเราถ้าหน้าหนาวเราให้ที่ Jade Dragon ชนะ ส่วนหน้าร้อนนั้นเราให้ที่นี่อันดับหนึ่งของใจเลยเพราะความเขียวที่ดูสบายตามากกว่ามันทำให้สดชื่นจริงๆ Shika มีความหมายแปลว่า ภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ของเหล่ากวางทั้งหลาย ในพุทธศาสนานิกายที่ชาวแชงกรีล่านับถือกันนั้นเชื่อว่าเมื่อพระพุทธเจ้า พระศากยมุนีได้ไปเทศนาในเขาที่เหล่ากวางทั้งหลายอาศัยอยู่ มีกวางอยู่สองตัวที่ตั้งใจนั่งฟังเป็นอย่างดีโดยหมอบขาทั้งสองข้างแนบลำตัวและฟังพระพุทธองค์อย่างตั้งใจ ดังนั้นคนที่นี่เลยเชื่อกันว่า กวางนั้นเป็นตัวแทนของคนทั่วไปที่นับถือและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เป็นสัญลักษณ์ของสุขภาพแข็งแรงอายุยืนและผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ความหมายก็ดี๊ดี แถมวิวก็ส๊วย สวย เห็นมะ! บอกแล้วว่าถ้าหน้าร้อนเราให้ที่นี่อันดับหนึ่งเลยจ้าพี่จ๋า และมีเจ้าจามรีเดินไปเดินมาในเขาด้วยนะ น่ารักเชียว
อ่านรีวิวฉบับเต็ม คลิกที่นี่
Changbaishan Mountain National Park
หนึ่งอุทยานที่เราตั้งใจอยากมาดูมาก Changbaishan Mountain คือเเนวภูเขาที่กั้นพรมเเดินทางธรรมชาติระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของเเม่น้ำ Songhua Tumen เเละ Yalu ของจริงที่นี่คือกว้างมาก ใหญ่มาก ไม่รู้จะถ่ายแบบไหนให้มันได้อารมณ์ที่สุด โดยจริงๆ ช่วงที่สวยที่สุด คือ ตอนเข้าหน้าหนาว ที่หิมะพึ่งเริ่มตกเยอะๆ เขาทั้งลูกเป็นสีขาว แต่ทะเลสาปยังไม่แข็งตัว ประมาณ เดือน ตุลาคม-ธันวาคม และอีกทีคือ ช่วงหน้าร้อนไปเลย ที่หญ้า และดอกไม้โต จะมีสีสันไปอีกแบบ ในช่วงเดือน กรกฏาคม-สิงหาคม การเดินเล่นที่นี่คือชิวจริง เราสามารถแวะถ่ายรูป ดูวิวไปได้เรื่อยๆเลย เพราะวิวที่นี่แปลกตา ไม่บอก ก็ไม่นึกว่ามาเที่ยวจีน!
อ่านรีวิวฉบับเต็ม คลิกที่นี่
