Take a look around HEAVEN, South Island New Zealand Part ll

กลับสู่ท้องถนนอีกครั้งกับเส้นทางแห่งสวรรค์ของเกาะใต้นิวซีแลนด์ กับ Road Trip รีวิวเดียวพาเที่ยวทั่วสวรรค์ ตอน2 แต่เดี๋ยวก่อน ถ้ายังไม่ได้อ่าน 8 ข้อที่นิวซีแลนด์จะทำให้น้ำตาไหลพราก และ นิวซีแลนด์ตอนที่ 1 ควรมากที่จะคลิกไปอ่านก่อนที่จะอ่านรีวิวนี้ เพราะนี่คือมหากาพย์รีวิวนิวซีแลนด์ คราวนี้ภารกิจพิชิตทะเลสาบน้ำนิ่งที่เค้าว่ากันว่า สวยที่สุดในนิวซีแลนด์จนถูกขนานนามว่า Million dollar view!!! แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นเราต้องเดินทางออกจาก Wanaka มุ่งหน้าเข้าสู่ Queenstown
ออกเดินทางได้

จาก Wanaka ไปสู่ Queenstown ใช้เวลาสั้นๆ ประมาณ 2-3 ชั่วโมงหากใครแยกลงใต้จะเข้าสู่เส้นทางที่โด่งดังอีกเส้นทางหนึ่ง ชื่อว่า Crown Range Road ถนนไฮเวย์ที่ไต่ลำดับความสูงจนสามารถมองเห็นวิวของ ทะเลสาบ Wakaitipu ตลอดสายเป็นเส้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเส้นหนึ่ง และไม่นานนักเราก็มาถึง Queenstown

ถนนโล่งๆขับมาแบบมันๆ อย่าลืมมองทางมองถนนด้วยถ้าผ่านไซด์ก่อสร้าง(ซึ่งมีมาเรื่อย) สังเกตจากเจ้าหน้าที่จะกั้นให้ผ่านเลนเดียวระวังจะต้องเบรคตัวโก่งจนอาจะเกิดอุบัติเหตุได้

และเมื่อขับผ่านไซด์งานก่อสร้างอย่าเพิ่งตีนผี ให้ขับอยู่แค่ 30 กม./ชม. เพราะไม่งั้นเจ้าหน้าที่อาจจะกักแล้วแจก  ticket ก็ได้นะจ้า

เข้าสู่ Queenstown ปุ้ป รีแอคชั่นแรกของทุกคนก็คือ เห้ยยยย เจอคน!!! เจอตึกละเว้ยยย 555 พวกเราเหมือนคนป่ากันมาก ตลอดสองสามวันเจอะเจอแต่ภูเขา ท้องทุ่ง และมีแกะเป็นเพื่อน

ถึงแม้จะผ่านเมืองเล็กเมืองน้อยระหว่างทางก็ไม่มีใครสักคนจนสงสัยว่าเอ๊ะ…นี่มันเมืองจำลองรึป่าวนะ

เมื่อมาถึงที่แรกที่เราพุ่งไปเลยคือ Tourist Information เมืองนี้เค้าเป็นเจ้าพ่อของกิจกรรม มีชื่อเล่นที่เรียกตัวเองว่าเมืองหลวงของการผจญภัย (Capital of Adventure) อ้ะๆ ไหนขอดูหน่อยสิ้ อยู่มา4 วันเห็นแต่หนิมๆติ๋มๆ ไหนขอลองของจริงหน่อยเด้ะว่าจะสักเท่าไหร่กันเชียว (ปากเก่งเชียววววว…หึหึ)

เราเลือกใช้เวลาพักผ่อนในเมือง Queenstown 2 วันสำหรับวันนี้วันแรก เราปล่อยฟรียังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีเลยเเลือกให้ Tourist Info เค้าลองเลือกให้

ผลลัพธ์ออกมาขอสรุปเป็นข้อๆ ดังนี้

What to do in Queenstown

1.Farm Experience

ข้ามฝั่งทะเลสาบ Wakaitipu ไปดูชีวิตในฟาร์มของชาวนิวซีแลนด์ เจอน้องแกะและเด็กเลี้ยงแกะอย่างใกล้ชิด (อิ_อิ) จองตั๋วเสร็จปั้ป เจ๊ที่ออกตั๋วให้เราบอกคำเดียวว่า วิ่งค่ะ…วิ่งเรือจะออกแล้วคะ!! แก๊งฮอบบิทซอยขากันฉับๆๆๆ เร่งไปขึ้นเรือกันที่ท่า ซึ่งห่างจาก office ไปประมาณ 5 บล๊อค

ถึงขาจะสั้นแต่พวกเราก็มาขึ้นเรือกันได้ทันเวลา เรือมีสองชั้นมีทั้งแบบ Outdoor และ Indoor โซน Outdoor จะอุดมไปด้วยชาวจีนโช้งเช้ง ไอ่เราก็ฟิตอยู่ในช่วงแรกๆ อยากเห็นวิวให้คุ้ม แต่เอาไปเอามาชักไม่ไหวลมที่ปะทะหน้าทั้งแรงและเย็นยะเยือก เอาเป็นว่ายอมแพ้ลงไปนั่งห้อง ฮีทเตอร์ ข้างล่างก็ได้

นั่งหลับๆตื่นๆในที่สุดก็ถึงจุดจอด Mt. Nicloas Farm Experience นำเราเที่ยวด้วยกรุ๊ปทัวร์เล็กๆ พาเราเดินไปดูรอบๆฟาร์ม จะว่ารอบก็ไม่ได้เพราะว่าฟาร์มนี้ขนาดก็เบาๆ แค่ใหญ่กว่าเกาะสิงคโปร์เอง!!! เออ นึกเอานะว่าเกาะสิงคโปร์ที่มีแต่แกะมันเป็นไง พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้มีเจ้าของและคนบริหารเพียง ( อะ…ลองทาย) ทั้งหมด 4 คน !!! จ้าาาา 4 คน ไม่รวมลูกน้องนะโอ้โหววววว…อยากจะสมัครเป็นลูกสะใภ้ โกรธกันทีไม่ต้องมาตามนะหลบอยู่หลังเขา หาไม่เจอหรอก

ไฮไลต์อย่างนึงที่นับว่าเป็นความโชคดีของเราคือ เรามาเที่ยวในวันที่เค้าตัดขนแกะกันวันสุดท้ายของฤดูนี้พอดี แกะที่เห็นในฟาร์มวันนั้น จึ้งไม่ใช่แกะนุ่มๆขนๆแบบที่จินตนาการไว้ แต่เป็นแกะโกร๋นๆเลือดๆ เต็มไปหมด 

ทัวร์ฟาร์มแกะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ปิดท้ายด้วยอาหารกลางวันบริการทานพอให้อิ่มท้อง ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปเบาๆเอาใจคนแก่และเด็ก เหมาะสำหรับใครที่มาเป็นครอบครัว แต่เพื่อนฝูง วัยรุ่น ไม่ได้รักสงบและสันติขนาดนั้น อาจจะไม่ค่อยถูกจริตเท่าไหร่เอาเป็นว่าสามารถผ่านได้

2. ขึ้น Queenstown กอนโดลา

ขึ้น Gondola Cable Car ไปยังวิวที่สูงที่สุดใน Queenstown อยู่บนจุดที่สวยที่สุดมองเห็นวิวทะเลสาบและภูเขาได้ทั้ง 360 องศา การไปถึงที่นั่นก็ไม่ยากเราสามารถจองตั๋วได้ที่ Tourist Infomation กลางเมืองได้เลย หรือตามชอปขายทัวร์เล็กๆในเมืองก็ได้เช่นกัน

วิว และ สี กระชากหัวใจเหมือนเดิม บนยอดมีกิจกรรม หลากหลายอย่างให้เลือกเล่น สำหรับกิจกรรม outdoor มี Luge คือการนั่งรถเข็นไถลตัวลงมาจากที่สูงบนถนนลาดแบบโกคาร์ท

หรือสายโรแมนติคจะมาตอนค่ำคืนเค้าก็เปิดให้มาดูดาวกันที่นี่ และยังมีโชว์โดยชาวเมารีแท้ๆด้วย โดยทั้งหมดนี้ใช้บัตรจ่ายแยกกันหมด สำหรับเราแก๊งเด็กอ้วนเลือกกิจกรรมกินบุฟเฟต์555 ห้องอาหารบนกอนโดล่านี้ค่อนข้างขึ้นชื่อ แต่สำหรับเราที่สำผัสมาแล้วความแพงน่าจะอยู่ที่ค่าวิวเสียมากกว่า แต่ยังไงก็ลองไปพิสูจน์ดู สำหรับคอเนื้อ แกะ วัว หอยแมลงภู่ หลากหลายพอตัวเลย

3.Funyak

เป็นกิจกรรมที่เราตั้งตารอมาตั้งแต่อยู่ไทย จ่ายตังจองล่วงหน้ากันมาตั้งนานแสนนาน Funyak คือการลองเรือแคนนูโบราณพาหนะเก่าก่อนตั้งแต่สมัยเมารี ล่องไปตามแม่น้ำ Dart river ชื่นชมความงามกันอย่างใกล้ชิด นี่ถึงกับเตรียมชุดเมารี ผูกผมเปียเตรียมถ่ายรูปเป็นโพคาฮอนทัสกันสุดฤทธิ์ แต่แล้วไงนั่งหน้ากระจกกำลังจะให้แม่เปียผม เปิดหน้าต่างออกไปเป็นแบบนี้ !!!

ใช่คะฟ้าฝนเป็นใจมาก พระเจ้ารักเราสุดๆ วันที่กูจะไปล่องเรือ หิมะตก!!! กะมาฤดูใบไม่ผลิฝนตก กอดหมอนร้องไห้ไปเลยคะ ค่าทัวร์ก็จ่ายไปแล้วมองหาเเพลน B กันด่วนๆเลย
(ฝากด้วยนะใครได้ไป ถ่ายรูปมาฝากและมาเล่าให้ฟังด้วยว่าสนุกมั้ย )

วันที่สองที่ Queenstown สรุปแล้วเราได้ทำอะไร ไปข้อต่อไปกันเลย

4.Dart River Wilderness Jet

ก็เพราะว่าเราจ่ายตังไปแล้ว นโยบายอันยุติธรรมของที่นี่คือ กิจกรรมใดถ้าเราไม่สามารไปได้ด้วยเหตุสุดวิสัย เค้ายินดีคืนเงินให้เราเต็มจำนวน ในกรณีของเราเลือกวางเเผนไว้แล้วว่าวันนี้เป็นวันกิจกรรม เราจะทำให้สุด เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ใจร้ายกับเราเกินไป สายๆก็ปล่อยพระอาทิตย์ออกมาทักทาย เลยมีโอกาสเลือกกิจกรรมใหม่มาเพิ่ม คือการนั่ง wilderness jet เรือ Jet แรงดันน้ำ นวัตกรรมที่แสนจะภาคภูมิใจของชาวกีวี ล่องทวนน้ำขึ้นไปเรื่อยๆ ชมความธรรมชาติ แบบใส่รสชาติความมันส์เล็กน้อย สอบถามความเห็นของวัยรุ่นอาวุโสทั้งหลายแล้วว่าจะลองดู งั้นพวกเราก็ลุยกันเลย ในแพคเกจมีบริการรถมารับที่โรงแรมเพราะเราไม่สามารถขึ้นเรื่อได้ที่ Queenstown ต้องนั่งรถออกไปยังเมืองใกล้ๆชื่อ Glenorchy เมืองหน้าด่านสู่  Mt. Aspring National Park อุทยานที่สงวนเฉพาะพนักงาน และผู้ประกอบการที่ได้รับการอณุญาติแล้วให้เข้าถึง แค่เส้นทางไปสู่ Glenorchy สวยงามอีกแล้ว

การล่องเรือเป็นไปด้วยความเร็ว (สูง!!) เอาเป็นว่าหน้าเปิดหน้าหัน ใครนั่งริมเตรียมใจมาเลยว่าโดนแม่น้ำ Dart River ล้างหน้าแน่ๆ มั่นใจมากเพราะโดนมาแล้วโดนจนหลังๆหน้าชาหมดความรู้สึกไปเลย วิวขอพูดถึงให้ไปดื่มด่ำกันเอง 

สำหรับใครที่ชื่นชอบ Hobbit และ Lord of the Ring ที่นี่คือที่ของคุณคนขับที่ทำหน้าที่เป็นไกด์ประจำกรุ้ป จะจอดเป็นพักๆ เพื่ออธิบายสถานที่ต่างๆ ยอดเขาลูกนั้นจุดที่กัลดัฟเอาดาบปัก ตรงนั้นเป็นอันนู้นอันนี้ พูดซะจนนึกว่าเป็นเรื่องจริงไปหมด อยากจะตะโกนเรียกกอลลั่มออกมาเลย ใครที่อินกับเรื่องเราว่าต้องชอบมากๆแน่

5.เที่ยวชม พักผ่อน ช้อปปิ้งในเมือง

เข้าใจว่ากิจกรรมมันเยอะ แต่ควรแบ่งเวลาเล็กๆน้อยๆไว้ชมบรรกาศในเมือง Queenstown ด้วยเพราะเมืองนี้ค่อนข้างน่ารักกุ๊กกิ๊กทีเดียว มีหลายซอกหลายหลืบที่เรายังไม่ได้มุดเข้าไป และที่จะแนะนำก็คงหนีไม่พ้นร้านสุตฮอตของเมืองนี้ Ferge burger ร้านที่เราผ่านช่วงเที่ยงแล้วร้านแทบแตก เลยขอบายแล้วกลับมาใหม่ในเช้าวันถัดมา ร้านนี้มีทั้งหมด 3  ล๊อค เป็น Gelato coffee and Pastry bar และ burger สำหรับเราแล้ว เบอร์เกอร์ขอให้ปานกลาง แต่ที่ประทับใจสุดๆ คงเป็น พายแกะ

และที่จะแนะนำก็คงหนีไม่พ้นร้านสุตฮอตของเมืองนี้ Ferge burger ร้านที่เราผ่านช่วงเที่ยงแล้วร้านแทบแตก เลยขอบายแล้วกลับมาใหม่ในเช้าวันถัดมา ร้านนี้มีทั้งหมด 3  ล๊อค เป็น Gelato coffee and Pastry bar และ burger สำหรับเราแล้ว เบอร์เกอร์ขอให้ปานกลาง แต่ที่ประทับใจสุดๆ คงเป็น พายแกะ

6. และที่ขาดไม่ได้ Bungy jump!!

รอบๆ Queenstown เราสามารถไปหาจุด Bungy Jump ได้ 3 จุดใหญ่ๆ (ภายใต้ชื่อของ AJ Hackett บิดาของการบันจี้จั้ม) โดยมี

Nevis Bungy อันนี้เค้าขนานนามว่าเป็นตัวแม่เลย เพราะว่านางคือ Bungy ที่สูงที่สุดในนิวซีแลนด์

The Ledge ที่เรียกตัวเองว่าเป็น Free Style Bungy เพราะเชื่อกจะไม่ถูกผุกที่ข้อเท้า แต่ตะอยู่ที่เอว เราจะออกตัวด้วยท่าอะไรก็ได้ฟรีสไตล์ ตีลัง กาหน้าหลัง ใส่เกลียวซัมเมอร์ซอล ได้เต็มที่

Kawarau เป็นตำนานของบันจี้จัมพ์อยู่ที่นี่ เพราะเป็นที่แรกที่ทำการโดดบันจี้จัมพ์ กันอย่างเป็นธุรกิจเป็นที่แรก เรียกได้ว่าต้นตำหรับคือที่นี่เลย

สำหรับเรา…..แค่เห็นสะพานก็มวลท้องแล้ว เอาเป็นว่ายืนดูอยู่ห่างๆละกันเนอะ 5555

Queenstown-Lake Tekapo

ปิดท้ายทริปด้วยเมืองวิวเทพเมืองสุดท้ายของเส้นทางนี้ เราออกจาก Queenstown กันแต่เช้าเพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่ Lake Tekapo เส้นทางนี้เป็นอีกเส้นทางที่น่าประทับใจที่สุด เพราะว่าก่อนจะไปถึง Lake Tekapo เราได้ทำการบ้านมาก่อนว่าเราจะได้ผ่าน Lake Pukaki ทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดใน นิวซีแลนด์!!! เพราะเมื่อจุดหนึ่งที่น้ำนิ่งแบบสุดๆ จะเกิดภาพสะท้อนบนผิวน้ำ เกิดเป็น Mirror lake หรือทะเลสาบกระจก แถมไม่พอเพราะว่าน้ำทั้งหมดของทะเลสาบแห่งนี้เกิดมาจากการไหลรวมกันของ Glacier หรือ ธารน้ำเเข็งบนยอดภูเขาสูงซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ทำให้น้ำเป็นสีฟ้าเข้ม แค่เกริ่นแค่นี้พวกเราทั้งรถก็เหยียบคันเร่งแทบมิด เพื่อไปให้ถึงจุดชมวิวล้านดอลล่าแห่งนี้ และเมื่อมาถึงวิวข้างหน้าคือตายไปเลยย #เป็นบีก็ทำไม่ได้คริสก็อย่าหวังเลย แบบนี้

ขับรถไปไม่ไกลนักเราก็มาถึงที่หมายที่ Lake Tekapo เช็คอินที่ฮิตที่แรกโบสถ์จิ๋วประจำเมืองนี้

แนะนำเรื่องเครื่องแต่งกายกันซักนิด ตัวช่วยแรกของเรากับการสัมผัสอากาศหนาว และทริปนิวซีแลนด์ล่าสุด เราก็มีโอกาสทดลองใช้ Baselayer ซึ่งด้านในมีจุดสีเงินๆ ที่เรียกว่า Silver dots อากาศที่นั่นค่อนข้างเย็นถึงเย็นมากและมีลม การใส่Baselayerด้านในสุดสามารถช่วยได้เยอะ ใส่แล้วอุ่น แถมเบาและบาง ไม่อึดอัด ถ้าวันไหนทำกิจกรรมAdventureเยอะหน่อย เหงื่อที่ซึมออกมาก็ระบายน้ำออกไปได้ดี หรือจะหยิบมาใส่ด้านนอกก็ไม่ดู Nude จนเกินไป ข้อดีสำหรับผู้หญิงมันยังใส่แทนเลคกิ้งได้สบายๆ เลยแหละ
ฺBaselayer แบบนี้เพื่อนๆ สามารถซื้อได้ที่ Columbia Shop ทุกสาขาเลยนะ

สำหรับใครที่กำลังมองหาประเทศที่จะเอามาใส่ใน Bucket List หรือประเทศในฝันสักประเทศหนึ่ง เราขอแนะนำอย่างรุนแรงเลยว่านิวซีแลนด์รับรองไม่มีทางทำให้ใครผิดหวัง ถ้านิวซีแลนด์เป็นคนคงเหมือน สาวน้อยเวอร์จิ้นไม่เปรอะเปื้อนด้วยความวุ่นวาย อยู่แบบนิ่งๆ สวยๆ strong และ elegant ไปวันๆ สำหรับเราเองที่มาแล้วยังบอกกับตัวเองเลยว่า ถ้ามีโอกาสอยากจะกลับมาอีก ดูส่วนอื่นๆที่น่าอัศจรรย์ของที่นี่ ที่ยังเหลืออีกมาก!! น่ายินดีที่ชาวกีวีเค้าช่วยกันรักษาธรรมชาติให้ยังคงอยู่อย่างสวยงามได้ขนาดนี้