ถ้าให้ลิสต์สิ่งที่ต้องทำก่อนตาย ร้อยทั้งร้อยต้องมี ‘สกี’ ติดไปด้วยแน่ๆ หรือใครยังไม่มี อ่านรีวิวนี้จบแล้วรีบเติมเข้าไปเลยนะ เพราะมัน! ดี! มาก!
‘สกี’ เป็นกิจกรรมสุดคูลเคียงคู่หน้าหนาวที่เมื่อก่อน กว่าจะได้เล่นทีก็ต้องบินไปไกลแสนไกล ลำบากชีวิตเหลือเกิน แต่รอบนี้เราจะมาชวนทุกคนไปกระโดดโลดเต้น ล้มฝุบ คลุกหิมะปุยนุ่มๆ กลิ้งไปมา มโนว่าเป็นนางเอกเอ็มวี และถ่ายรูปโปรยหิมะส่งอวดพ่อแม่พี่น้องให้หนำใจกันที่ ‘เมืองจีน’อ่านแล้วอาจจะคิดว่าเขียนผิด เออไม่ผิดหรอกหน่า เมืองจีนจริงๆ ลบภาพเดิมๆออกก่อน แล้วจะไปเล่นสกีกัน!
อ้ะๆๆ อย่าพึ่งเบือนหน้าหนี เพราะเมืองจีนรอบนี้ ไม่มีก้นบุหรี่ ไม่มีเสมหะ ไม่มีความวุ่นวาย มีแต่ความสนุก จากสกีรีสอร์ทสุดหรู อาหารจัดเต็ม และคลาสเรียนสกีแบบฟรีๆ! จะมือใหม่แค่ไหนก็หายห่วง เพราะคุณครูสุดแซ่บและหล่อกระชากใจดีเหลือเกินแถมอิมพอร์ทจากยุโรป ที่ ‘ClubMed Beidahu’ คอยดูแลเราเอง!
ClubMed Beidahu ตั้งอยู่ที่มณฑลJilin (จีหลิน) ทางตอนเหนือของประเทศจีน พึ่งเปิดสดๆร้อนๆไปเมื่อเดือนธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา ถ้า Slope เปิดครบจะมีทั้งหมด 19 เส้นทาง ยาวสุด 3200เมตร! ไถลกันได้หนำใจ ลากสังขารตัวเองแล้วยาวๆไปเลยจ้า
ความดีงามอย่างหาที่สุดไม่ได้ของที่นี่ คือ ทุกอย่าง ’All inclusive’ จ่ายครั้งเดียวจบ ไม่ต้องปวดหัว มานั่งคิดยิบคิดย่อย เอ๊ะ รวมอันนั้นรึยัง อันนี้รึยังแม้กระทั่งคลาสเรียนทั้ง Ski และ Snowboard ก็มีให้เลือกหลายระดับ ตั้งแต่คนที่ไม่เคยเล่นมาก่อนเลย ก็จะมี G.O (เป็นศัพท์ที่ใช้เรียก Staff ของที่นี่แหละ ดูน่ารักเนอะ) ที่อิมพอร์ทมาจากฝรั่งเศสบ้าง อิตาลีก็มี หรือแบบนยุ่นๆก็มาคือแซ่บๆทั้งนั้น
นางจะสอนตั้งแต่หลักพื้นฐาน ให้ไม่ต้องไปล้มลุกคลุกคลาน หัดเองล้มก้นกระแทกจนตูดม่วงให้เหนื่อย ซึ่งปกติแล้วไปรีสอร์ทอื่นๆ นั้นต้องจ่ายแยกต่างหากเป็นรายชั่วโมง ขอบอกว่าแพงหูฉีกกก! และด้วยความที่พึ่งเปิด ลานสกีจึงไม่พลุกพล่านมากนัก วาดลวดลาดกันได้เต็มที่ หายห่วง ไม่เจอรถติด 555
ถึงแม้การเดินทางมาที่นี่จะลำบากนิดหน่อย ต้องเปลี่ยนหลายต่อ โดยสายการบินที่ให้บริการก็มีหลากหลาย หาตั๋วไม่ยากเลย เราแนะนำให้เลือกบินจากไทย ไปลง ปักกิ่ง(PEK) หรือ กวางโจว(CAN) เพราะสามารถ Check-Through ได้เลย แล้วจากนั้นก็ต่อสายการบินในประเทศไปลงที่สนามบิน ชางชุน (CGQ) ซึ่งถึงตรงนี้ปุ๊ป ก็จะมีรถจาก Clubmed มารอรับ และดูแลเยี่ยงราชนิกูลไปจนถึงรีสอร์ทแล้ว
แต่เอาตรงๆว่า การเดินทางนานๆมีผลทำให้ล้าๆไปบ้าง แต่พอเจอห้องพักสวยๆ เตียงนุ่มๆ เตาผิงอุ่นๆ และวิวหิมะนอกหน้าต่าง ก็ทดแทนไอ่ความเหนื่อยที่บ่นอุบอิบๆในใจเมื่อกี้ไปได้สนิท โดยห้องพักที่นี่แบ่งเป็นหลายแบบ ทั้ง Deluxe , Family และ Suite ซึ่งเราได้แอบไปส่องมาทุกแบบแล้ว ขนาดห้อง และเตียงกว้าง สบายมาก ชะนีของเยอะไม่มีปัญหาแน่นอน หรือใครมาเป็นครอบครัวใหญ่ ห้องตอบโจทย์ก็สุดๆ
มาทดสิ่งจำเป็น ที่ควรมีเยี่ยง “ถุงยังชีพในการเล่นสกี” กัน
เสื้อ และกางเกงกันหนาว แบบกันลมกันน้ำ > โดยเสื้อกันหนาวตัวนอก ของเราเป็นแบบมีสองชั้น เป็นตัวเดียวที่ใช้ลุยไปได้ทุกที่ ไม่หนาวมากก็ถอดชั้นขนเป็ดออก แต่มาเล่นสกีแนะนำให้เพิ่มชั้นในสุดเป็น Base Layer ด้วย เพราะมันจะช่วยรักษาความอุ่น แต่ไม่ทำให้อึดอัดเพราะแนบเนื้อ
เพรียวๆและไขมันของเรา 555 และกางเกงเพื่อเล่นสกีโดยเฉพาะ จะมีสองชั้นเช่นกัน เอาไว้คลุมข้างนอกรองเท้ากันหิมะเข้านะจ๊ะ ตอนแรกก็อึดอัดแหละอยู่ในฮีทเตอร์อุ่นๆ แต่พอออกมาปุ๊ป! โชคดีชิบที่ใส่ออกมาด้วย
หมวก และถุงมือ > ขาดเธอชั้นคงขาดใจ ยิ่งใครชอบถ่ายรูป ต้องแกะมืออกจากถุงมือบ่อยๆ แนะนำให้พกถุงอุ่นติดไปด้วย
หมวกกันน็อค และ แว่นกันแดด > ถ้าเป็นมือใหม่ ยังไงก็ห้ามลืม อุปกรณ์Safety เล็กๆน้อยๆเหล่านี้สำคัญมากจริงๆนะ
รองเท้า และบอร์ด > อันนี้เราก็ไม่มีเป็นของตัวเอง (ที่ถืออยู่ยืมพี่ที่ไปด้วยกันมาถ่าย 555) ส่วนตัวสนุกกับการสังเกต การแข่งขันทางแฟชั่นของกีฬานี้มาก จนอยากเม้าท์ 555 คือพวกโปรๆเนี่ย เขาจะมีรองเท้าที่เข้าสีกับบอร์ด จะเป็นลายการ์ตูนแบ้วๆ ลายกราฟฟิคเท่ๆมั่ง และบางทีก็มามันเป็น Gangster เลย นัดกันมาอย่างดี ชอบบบบ
*****ซึ่งทั้งชุด และอุปกรณ์สามารถหาเช่าได้ในทุกสกีรีสอร์ทนะ แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นรายวัน แต่ว่าคุณภาพของที่นี่ว่าใหม่มากๆ รู้สึกปลอดภัยหายห่วง (นางที่ขันน็อตในรูปให้นิ ก็เป็นคุณครูนะ แซ่บอยู่ๆ ลีลาดี เอวพริ้ว … หมายถึงเล่นสกีนะ 555)
“ เล่น Ski หรือ Snowboard ดีอ่ะ?? ”
ถามแบบนี้ก็เหมือนไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน เพราะมันแล้วแต่คนมากๆ ส่วนตัวเคยลองทั้งสองอย่างแล้วชอบ Snowboard มากกว่า เหตุผลเพราะการแบกบอร์ดเดินนั้นเท่กว่า ทำอะไรต้องคีบคูลลแกรร 555 แต่ใครจะมาสายนี้ทำใจไว้ก่อนเลยนะว่าล้มบ่อยแน่ๆ การกลิ้งลงเนิน และมีตูดม่วงช้ำกลับห้อง จะลุกจะนั่งก็ร้องโอ้ยๆ ปวดไปทั้งตัวในครั้งแรกๆนั้นเป็นเรื่องปกติ
แต่สำหรับคนที่เวลาน้อย พวกคุณครูชอบแนะนำให้เริ่มหัดจาก Ski ก่อน เพราะเหมือนมันล้มยากกว่า มีตัวช่วยในการทรงตัวให้ยืน หัดแป้ปๆ ก็ไถลงเนินเตี้ยๆได้สบายยย ไม่หมดกำลังใจในการเล่น ซักสองสามวันก็ขึ้นไป Slope สีเขียวสำหรับมือใหม่ได้แล้วงี้
ที่นี่ ลานสกี เปิดตั้งแต่ 8โมงเช้า ถึงประมาณ 5โมงเย็น ถ้ามาช่วงเดือนพีคๆ ก็จะเปิดไฟให้เล่นตอนกลางคืนด้วย แต่แล้วแต่สภาพอากาศอีกที วัดดวงกันเบาๆ อย่างที่ไปมาเห็นแดดปุ้ปต้องรีบควักกล้องมาถ่าย เพราะอีกแป้ปเดียวฟ้าก็ทึมแบบที่เห็น 555
ซึ่งคลาสเรียนก็จะแบ่งเป็นสองช่วง คือ เช้า ตั้งแต่ 9-11 โมง กับ ช่วงบ่าย 13.30-16.30 ถ้าให้ดีคือเล่นมันทั้งวัน ล้มวนไปจนกว่าจะหมุนตัว ได้ค่ะ
แต่ถ้าใครเล่นสกีจนหมดแรงแล้ว ที่ ClubMed ก็มีอะไรสนุกๆอีกเพียบไว้รอ ทั้งห้องอาหารแบบ Buffet จัดเต็ม หรือแบบหม้อต้มชาบูร้อนๆ และบาร์ที่เปิดทั้งวันทั้งคืน สั่งชา กาแฟ แอลกอฮอล์ได้ไม่อั้น ขนมกินเล่นก็มีมาเติมเรื่อยๆ
รวมถึงห้องคาราโอเกะส่วนตัว ที่เสียดายไม่มีเพลงไทย อดร้องเพลงพี่เบิร์ดโชว์พี่น้องชาวจีนเลอ 5555 อ้อ! โต๊ะเล่นไพ่นกกะจอกก็มานะจ๊ะ ฟีลลิ่งไชนี้สสสุดๆ และสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ก็มีห้องรับฝากเลี้ยงเด็กด้วย แบบมีคลาสเรียน และลานสกีแยกให้น้องๆด้วย น่ารักมากกกก หรือจะผ่อนคลายสปา ฟิตหุ่นที่ฟิตเนส แวะช้อปที่ร้านขายของที่ระลึก และรอดูโชว์สนุกๆทุกคืนจากเหล่า G.O ก็ด้ายยย
อีกกิจกรรมพักร่างที่ทุกคนไม่ควรพลาดเมื่อมาที่ ClubMed Beidahu ก็คือ การนั่งกระเช้าขึ้นไปจิบกาแฟดูคนเล่นสกีเก๋ๆ ที่ Cafe บนยอดเขา ควรไปตอนเช้าๆ ที่หิมะของเมื่อคืนยังไม่ละลาย และเป็นจังหวะที่คนยังไม่เยอะ ถ่ายรูปมันส์มาก
ส่วนการับมือกับสภาพอากาศอุณหภูมิ -19องศานั้น เราได้ Base Layer เป็นเสื้อตัวในสุด อารมมณ์ Heattech ที่หลายๆคนรู้จักกันนั้นแหละ แต่อันนี้จะหนากว่า กักเก็บอุณหภูมิในร่างกายได้ดีกว่า ใช้ทนทาน ไม่ขาดเป็นรู 555 และจากการพิสูจน์มาแล้วด้วยตัวเอง ว่าแค่ Base Layer ของ Columbia แล้วใส่ยีนส์+เสื้อแขนยาว+เสื้อกันหนาวตัวนอก แค่นี้ก็ Survive โพสท่าจือปาก แข่งกับพี่น้องชาวจีน ท่ามกลางหิมะโปรยปรายได้เป็นชั่วโมงๆ และได้รูปทำคอลเลคชั่นลงไปอีกเป็นปีเลย 555
เราว่า ClubMed Beidahu เหมาะมากกกกก สำหรับใครที่อยากลองเล่นสกี หรือจะหัดเล่นสกีเป็นครั้งแรก เพราะคนไม่พลุกพล่านจนเกินไป มีพื้นที่ให้ฟาดลวดลายกันได้เต็มที่ ล้มกลิ้งสิบตลบก็ไม่ต้องกลัวไปชนใคร หรือโดนใครกลิ้งมาทับอีกรอบ แถมยังมีครูคอยประกบ ประคบประหงมราวกับลูกนั้น ช่วยให้เราเล่นได้สนุกขึ้น จนอาจติดใจกีฬานี้ ต้องมาซ้ำทุกหน้าหนาวไปเลยก็ได้ 5555
แอบกระซิบว่า ราคาห้องพักไม่ได้แพงอย่างที่คิด! ราคา 3 วัน 2 คืน เริ่มต้นที่ 13,200 บาท/คน ซึ่งถ้าคิดว่ารวมค่าเรียนสกี ค่าอาหาร ค่าบริการทุกๆอย่างเข้าไปแล้ว ก็ถือว่าสมเหตุสมผล และคุ้มค่าสุดๆ แต่ถ้าใครไม่สะดวกเดินทาง ClubMed ก็มีสกีรีสอร์ทอีกหลายที่เลยนะ ทั้งญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สอบถามรายละเอียดโปรโมชั่นได้ที่ www.facebook.com/clubmed หรือ www.clubmed.co.th หรือติดต่อไปที่ 02-268-8448 และ askme.th@clubmedcustomerservice.com ได้เลยนะแจ้