ถ้ากำลังจะไป หรือแพลนไว้ว่าอยากไปเกาหลีใต้ แล้วโดนเพื่อนเบะปากใส่ บอก “บอริ่งงงงง” ก็ไม่ต้องสน 555
ก็เล่นไปง่ายขนาดวีซ่าไม่ต้องขอ แถมตั๋วโปรโมชั่นของ Thai AirAsia X ก็มีมาแบบกระหน่ำๆ
เดี๋ยวลด เดี๋ยวแลกแต้ม บางทีถูกกว่านั่งไปเชียงใหม่ช่วงเทศกาลอีก ชาวติ่งจะอดใจไหวได้ยังไง!
เมื่อใจมันเรียกร้องหาอปป้า ถึงแม้ว่าจะไม่เคยได้อปป้ากลับมาซักครั้ง ยังไง้ ยังไงก็ต้องจัด!
ทริปนี้เราบินตรงออกจากดอนเมืองตอนตี 2 พอขึ้นเครื่องปุ้ปก็หลับสนิทเป็นตาย เพราะที่นั่งตรง Quiet Zone มันเงียบจริงๆ ไม่มีเสียงเด็กร้องกลางดึกให้กวนใจแน่ๆ เพราะเป็นโซนที่จะไม่มีเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี แถมไฟด้านบนยังเป็นสีฟ้า ไม่แสบตา
จริงๆ ใครเคยอ่านรีวิวก่อนหน้านี้ของเราแล้ว คงจะได้เห็นเกาหลีฝั่งเกาะใต้ อย่าง เมืองปูซาน
ในช่วงใบไม้ผลิ ซากุระบานซะพรั่ง ชายหญิงชาวเกาก็นัวกันซะซากุระสีหวานแม่งดูจืดไปเลยกัน
คราวนี้เราเอาภาพเกาหลีหน้า(กำลังจะ)หนาว ที่รับรองว่า เหงาทำร้ายคนโสดกว่าตอนหน้าร้อนอีก! มาฝากบ้าง
ข้อดีของมนุษย์นกฮูก ที่ชอบอยู่กะกลางคืนมากกว่ากลางวัน ก็คือฤดูนี้ฟ้ามันมืดเร็วมาก เวลาเที่ยวธรรมชาติเดินสวยๆ อาจจะน้อย
แต่ถ้าผับบาร์เหล้ายาและปลาปิ้ง ตามสบายเลย ยันฟ้าสว่างไปเลย งั้นรอบนี้ขอเอาภาพน่ารักๆมาให้ดูกันเพลินๆ ดีกว่า
เพราะใครๆ ก็รู้อยู่แล้วนี่นา ว่าเกาหลี ฤดูไหนก็น่าไปทั้งนั้น
ปูซาน
ตลาด Jagalchi
ตลาดปลาที่เกาหลี ไม่เหมือนที่ญี่ปุ่น และไต้หวันก็ตรงที่ ไม่มีอาหารปรุงสำเร็จวางขายเป็นกล่องๆ ไอ่เรามาถึงก็เล็งจะกินซูชิก่อนเลย
ปรากฏว่าที่นี่เน้นเป็นร้านนั่งกิน หรือจับสดๆมาตุ๋นต้มนึ่งให้มากกว่า
แต่ถ้ามาถึงเกาหลีแล้ว ไม่พูดถึงเมนูนี้คงไม่ได้ “ซันนักจี” หรือ ปลาหมึกสด เต้นดึ้บๆ แบบที่เห็นนางเอกในซีรีย์เกาหลีกินกัน
คนขายบอกว่า ปกติเขาไม่ได้หั่นละเอียดกันแบบนี้ แต่เห็นลองครั้งแรก กลัวพันคอตาย 555
ซึ่งกรรมวิธีไม่มีอะไรมาก เจ๊แกขาย 3 ตัว 20,000 วอน พอเราบอกโอเคปุ้ป เจ๊ก็หยิบหมึกมือเปล่าขึ้นมาเด็ดหัว หั่นๆแล้วคลุกน้ำมันงา เสริ์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีอิ้ว และวาซาบิ หรือจะจิ้มโคชูจัง ซอสพริกเกาหลีก็ได้ ไม่ผิดๆ
เรื่องรสชาติ ถ้าใครชอบเคี้ยวอะไรหนึบๆ นี่คือสวรรค์ของคุณ! เพราะมันเหนียวมากกก ดูดฟัน ติดเพดานปากจริง ไว้คราวหน้าจะลองแบบทั้งหมด ขอเวลาอัพสกิลแพร้พพ
Gamcheon culture village
บ้านสลับสีที่เรียงตัวกันเป็นระเบียบ ดูดีงามนี้ เมื่อก่อนเคยเป็นแหล่งที่อยู่สำหรับผู้ลี้ภัยมาก่อน แต่ปัจจุบันปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีการเพ้นท์กำแพง มีร้านค้าบลาๆเต็มถนน ซึ่งความเก๋ของที่นี่ คือ จะไม่มีการสร้างบ้านบังวิวกัน ไม่เชื่อลองเดินวนไป ซอกแซกไปเรื่อยๆดูก็ได้ แต่ระวังตอนเดินกลับจะหอบกินแบบเราเอา 55
Haeundae Beach
จริงๆแล้วที่นี่เป็นชายหาดสุดชิคที่ตอนหน้าร้อน คนจากทั่วเกาหลีจะพากันมาสะบัดผ้า ใส่บิกินี่ โชว์ซิกแพคกัน แต่ดันไปผิดฤดูไปหน่อย เลยเจอแต่ร้านอาหาร 555 ซึ่งหนาวๆแบบนี้ แน่นอนว่าต้องจัดหม้อไฟ! หรือใครใจกล้า อยากให้ลอง “ยำปลาไหล” ที่นั่งลอกหนังกันสดๆ แบบจัดใส่จานแล้ว ปลายังดิ้นอยู่เลย บรึยย
Jangseungpo
ถัดออกจากเมืองปูซานไม่ไกล เราตรงมาที่เมืองนี้ เพื่อที่จะข้ามไปเกาะ Oedo-Botania
ซึ่งเป็นเกาะเอกชน ถูกปรับปรุงให้กลายเป็นสวนไว้เดินเล่น อย่างวันที่ไปก็เจอครอบครัว และคู่รักเต็มไปหมดเลย วิวเป็นหน้าผา และทะเลใส ส่วนของสวนจะเน้นตกแต่งสวนให้แบบยุโรป ถ้าพาแม่มา แม่น่าจะอยากแวะถ่ายรูปทุกจุด 555
แต่เราไม่ค่อยอินกับพวกที่เป็นสิ่งสร้างขึ้นมาเท่าไหร่ เลยหลบมานั่งชมวิวดีกว่า เผลอแป้ปๆก็ครบชั่วโมงนึงพอดี นั่งเรือกลับไปกินข้าวเที่ยงได้
อาหารเที่ยงวันนี้ เป็นมื้อที่สนุกที่สุดในทริป 555 เราได้กิน “ปูดอง”
ตอนแรกจินตนาการรสชาติไว้ว่า ต้องน่ากลัวแน่ๆ แบบปูดองในส้มตำบ้านเรา ที่จะกลิ่นแรงๆอย่างนั้นอะ แต่ก็กลั้นใจลอง เพราะเห็นอปป้าโต๊ะข้างๆ ดูดกันมันมาก ซ้วบซ้าบๆ แถมทำหน้าฟินมาก
กัดคำแรกปุ้ป อร่อย! มันไม่คาวเลย แถมแค่กัดเบาๆ เนื้อปูเด้งดึ๋งๆก็หลุดออกมาแล้ว ใครมาเยือนทางใต้ ห้ามพลาดนะเมนูนี้!
อ้อ! นอกจากดองซีอิ้วแล้ว ก็มีปูดองซอสโคจูด้วยนะ รสชาติก็คล้ายๆกัน แต่หวานๆเผ็ดๆมากกว่าจ้ะ
Dongpirang Wall Painting Villages
เป็นหมู่บ้านเรียงตัวกันบนยอดเขาคล้ายๆกับหมู่บ้านกัมชอน แต่มีขนาดเล็กกว่า และกำแพงถูกวาดให้เป็นแบบสามมิติ ไว้ถ่ายรูปได้ด้วย เราแอบเห็นพวกลุงๆป้าๆสนุกกันใหญ่ 555 แถมถ่ายรูปเหนื่อยแล้ว ก็เดินขึ้นมานั่งพักชิวๆ ตรงจุดชมวิวข้างบนได้
ด้วยความที่ตรงนี้เป็นเมืองท่า นอกจากจะหาอาหารทะเลสดๆได้ในตลาดข้างล่างแล้วมานั่งจกพร้อมจิบเบียร์ริมน้ำชิวๆได้แล้ว วิวพระอาทิตย์ตกดิน ก็สวยงาม ละม้ายคล้ายว่าอยู่ยุโรปเหมือนกันนะเออ
โซล
เรากลับมาเมืองหลวงของที่นี่ ด้วยรถไฟความเร็วสูง หรือ KTX โดยใช้เวลาแค่ 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็วาร์ปมาเจอสีสันแห่งเมืองหลวงแล้ว
สิ่งที่ประทับใจนอกจาความรวดเร็วแล้ว ก็เรื่องตรงเวลานี้แหละ ทำให้วางแผนเที่ยวได้เป้ะ ไม่มีสะดุดเลย
ปล.ถ้าใครได้มาสถานีรถไฟปูซาน มีอน่างนึงที่ไม่อยากให้พลาด คือ ร้านลูกชิ้นทอดร้านนี้ เขาบอกว่าเป็นของขึ้นชื่อของเมือง คนนิต่อคิวกับให้พรึ่บ กัดเข้าไปคำนึง โอยยย! อร่อยๆๆๆๆ ไส้ชีสก็มา หยิบไปหยิบมาพูนกล่องเฉยเลย
N seoul tower
เราว่าคนไม่ได้มาที่นี่ เพื่อขึ้นตึกไปชมวิวมุมสูง หรือแค่คล้องกุญแจอย่างเดียวหรอก แต่ทางเดินขึ้น ที่ชันและยาวหลายกิโล โอบล้อมไปด้วยไปไม้แดงต่างหากที่น่าสนใจ เขาว่ากันว่า พวกคนจีบกันใหม่ๆ จะพากันมาเดินขึ้นที่นี่ เพราะระหว่างเดิน จะได้มีเวลาจีบกัน ฮึ่มม! มันหน้าหมั่นไส้ไหมล่ะ?! อยากจะเตะน่องทุกคนเลย เป็นคนขี้อิจฉา
อีกอย่าง มีเพื่อนเกาหลีกระซิบบอกเรามาว่า ถ้าเห็นคู่รักถือเค้กมาด้วยกัน เป็นสัญลักษณ์ ว่าเดี๋ยวคืนนี้จะไปซั่มกัน 555 เหมือนแบบ ซื้อมาเตรียมไว้ เสร็จภารกิจจะได้ฉลองไรงี้ เราก็ไม่รู้จริง ไม่จริงนะ แต่พอเดินๆอยู่ ละเห็นคนถือกล่องเค้กมาเป็นคู่ มันก็อดนึกไม่ได้อะ 555 จะเดินเข้าไปถามก็ใช่ที่ นี่เลยมองด้วยสายตายั่วยวนเป็นการอวยพรว่า โชคดีเว้ยพวก!
Namsangol Hanok Village
เรื่องของเรื่อง คือ ทางรัฐบาลอยากอนุรักษณ์บ้านทรงโบราณ แบบที่เห็นกันในซีรีย์ย้อนยุคไว้ ก็เลยรวบรวมบ้านคนดังในอดีต ทั้งหลังเล็กและใหญ่มาจัดแสดงไว้ที่นี่
ซึ่งวัฒนธรรมโบราณของเกาหลีน่าสนใจมาก เมื่อก่อนในตระกูลใหญ่ๆ ผู้ดีๆหน่อย มีระเบียบว่า ชาย-หญิงต้องแยกบ้านกันอยู่
โดยสังเกตง่ายๆว่า บ้านผู้หญิงจะหลังใหญ่กว่า มีห้องครัว มีโอ่งหมักกิมจิอยู่ ส่วนบ้านผู้ชายจะขนาดเล็กๆ มีแค่โต๊ะเขียนหนังสือ ต่างฝ่าย ก็มีคนรับใช้ดูแลไป
พอถึงฤกษ์งามยามดีเมื่อไหร่ เหล่าคนใช้ก็จะพาคุณผู้ชายมาส่งเรือนผู้หญิง นั่งรอเหล่าท่านๆซั่มกัน 555 พอเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับไปนอนบ้านตัวเอง 555 ฟังดูแล้วก็ตลกปนสงสาร อะไรมันจะยากขนาดนั้นนนนน! นอนกอดต่อไม่ได้เลย
DDP
ที่นี่เป็นห้างที่ปรับปรุงจากสนามกีฬาเก่า โดยเน้นคอนเซปต์เก๋ ดีไซต์ดี ขายแต่ของมีสไตน์ ที่ราคาไม่น่ารักเท่าไหร่ แบ่งเป็นหลายโซน จำได้ไม่หมด 555 แต่ชอบจัดแสดงงานดีๆ อย่างตอนที่ไป ตรงสวนด้านหน้าก็มีดอกกุหลาบไฟ (แปลไทยแล้วตลกชะมัด 555) ไว้ให้ถ่ายรูป โดยมีถึงเดือนกุมภานี้เท่านั้นนะ!
ถ้าใครเดินชมงานศิลป์จนเหนื่อยแล้ว แนะนำให้นั่งเฉยๆ แล้วแอบมองอปป้าไปเรื่อยๆ เป็นกิจกรรมยามว่างที่เพลิ้น เพลิน 5555 อยากเดินเข้าไปชาร์จแกล้งทำกาแฟหกใส่แล้วกระชากเสื้อมาเช็ดให้แบบรัวๆ
หรือใครเป็นขาช้อป อยากให้ลองข้ามฝั่งไป เพราะตรงข้ามเป็นแหล่งช้อปปิ้ ที่มีทั้งห้างใหญ่ สำหรับใครที่อยากซื้อของแบรนด์ หรือใครสายแดก ก็มีพวกซุ้มผ้าใบ street food ให้เลือกเพียบ อร่อยไหมหรอ? ถาม อนนี่ในรูปดูดีกว่า 555
Lotte World Aquarium
ถ้าใครเคยไปอควาเรียมที่ญี่ปุ่นแล้ว ทีนี้คือลูกเจี๊ยบไปเลย 555 แต่ความน่ารักก็ยังมี คือ เจ้าเบลูก้า 2 ตัวที่เป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดของที่นี่ น่ารักมากกกก แถมยังมีมุมที่จัดแสดงสัตว์น้ำเชิงของเล่น แบบถ้าพาเด็กมา น่าจะหลอกให้อยู่ได้ทั้งวัน อย่างเราก็โดนหลอกให้ไล่สะสมสแตมป์ แต่สุดท้ายก็เก็บไม่ครบ แฮะๆ
Song ga-rill
“ชองการิล” เป็นย่านเก๋ๆ ที่สมัยก่อนฮอตฮิตมาก คือถ้าใครอยากเจอดาราต้องมาเดินย่านนี้อะไรแบบนั้น แต่ธรรมชาติของประเทศนี้คือ เทรนด์เขา มาไว ไปไวมาก ถ้าที่ไหนเริ่มดังปุ้ป มันก็เต็มไปด้วย Café และ Selected Shopละ แล้วก็มันเริ่ม Mass คนก็จะย้ายไป เกิดย่านฮิปอันใหม่มาแทน อะไรแบบนั้น
เราไปถึงที่นี่ตอนเที่ยงพอดี ก็ตกใจว่าทำไมเงียบกริบขนาดนี้ แต่กินข้าวเสร็จออกมาอีกทีบ่ายโมง อู้หูวว!
ฝูงชนหน้าตาดี แต่งตัวเป้ะ ราวกับหลุดมาจากแมคกาซีน ยังกับมาเดินแฟชั่นวีคเหล่านี้มาจากไหนกัน! คือแค่นั่งดูก็สนุกแล้วอะเอาจริงๆ
ดูซิๆ ขนาดเป็นอปป้าตัวน้อย ยังเท่ขนาดนี้ ถ้าโตแล้วจะเท่ขนาดไหน งืออออ
รวมๆแล้ว เกาหลี เป็นประเทศที่ไปกี่ที่ก็สนุก มันมีอะไรมากกว่าเมียงดงแน่ๆ เราว่าเมื่อก่อนถ้านักเดินทางหน้าใหม่จะไปนอกคงไม่พ้น สิงคโปร์ ฮ่องกง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้วหละ มันเปลี่ยนเป็น สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี หรือญีปุ่นแทนแล้วจริงๆ เพราะตั๋วโปรมันเยอะ ไปได้บ่อยๆ อย่าง Thai AirAsia X ก็มีบินตรงจากดอนเมือง-โซล วันละ2เที่ยวบิน สะดวกเวลาไหนก็เลือกเอา เดี๋ยวนี้จะไปเกาหลีหรือนั่งรถเมล์ไปสยาม เวลาก็พอๆ กัน แล้วจะรู้ว่าการใกล้ชิดอปป้าไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมจริงๆ 555