เกาหลีครั้งนี้จะบอกว่านี่เป็นครั้งที่หนาวที่สุดก็ว่าได้ (เท้าแตะโซลก็ -2 แล้วจ้า ฮือๆ) แต่ยัง! ยังไม่พอ! มันจะหนาวไปกว่านั้นอี้กก เพราะเรากำลังจะไปบุกแหล่งรวมกีฬาฤดูหนาวกันและสถานที่นั้นก็คือคังวอนโด
คังวอนโด (Gangwon-do) เป็นหนึ่งในโซนยอดฮิตสำหรับการเล่นกีฬาฤดูหนาวอย่างสกีและสโนว์บอร์ดของที่เกาหลี แต่นอกจากสกีแล้วเนี่ย ยังมีกิจกรรมอื่นอีกนะ จะไปปีนเขาหรือตั้งแคมป์เดินป่าดูดาวก็ได้ไม่ว่ากัน มี National park ชุกชุมถึง 3 ที่ (!) Seoraksan, Chiaksan และ Odaesan ดูจากรูปแล้วแต่ละที่นี่ไม่เบา (อยากไปมากแต่ไม่ได้ไป ใครไปก็เอามาอวดกันด้วย)
สายการบินที่ออกเดินทางไปเกาหลีใต้มีเยอะมาก เที่ยวบินบินตรงไปตามเมืองต่างๆ ของเกาหลีใต้เยอะพอๆ กับไปเชียงใหม่ ภูเก็ต ทั้ง full service และ Low Cost เพื่อนๆ ก็เลือกเดินทางได้ตามสะดวก ก่อนออกเดินทางเราแวะแลกเงินที่ Superrich Thailand (สีเขียว) ที่นี่มีเงิน Korean Won เตรียมไว้ให้สาวกออป้าทั้งหลายค่อนข้างเยอะ จะเข้าไปแลกเลยก็ได้หรือจะโทรเข้าไปจองก่อนก็ได้ที่เบอร์ (0)2 -254-4444 เพราะสาขาของเค้ามีมากถึง 13 สาขาทั่วกรุงเทพ แถมเรทก็คุ้มที่สุดแล้ว อย่างเราสะดวกที่สยามพารากอน กับสนามกีฬาแห่งชาติเป็นพิเศษ ก็เป็นเจ้าประจำของที่นี่เค้า
อ่ะ กลับมาๆ มาตั้งหลักกันที่โซลก่อน เราลงเครื่องแต่เช้ามืดเลยได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพอดี ก็แปลกดีนะ เพราะปกติจะไม่ค่อยได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นจากในเมืองเท่าไหร่ เลยเอามาฝากกัน
ก็ว่าจะไม่พามาคาเฟ่แล้วนะ 55555 แต่ขออัพเดทนิดนึง Bonanza Coffee จาก Berlin เป็นร้านที่เรารู้สึกว่าทำ Branding โหดเกินระดับร้านกาแฟธรรมดา เพราะเห็นนางอยู่บ่อยๆตั้งแต่ใน Pinterest จนตอนนี้เค้ามาเปิดที่ Seoul แล้ว ขอโฉบไปดูสักนิด ร้านอยู่ใน selected shop ชื่อ mtl (more than less) ย่านฮันนัม, สวยงามตามเรื่องค่ะ
ไปต่อกันที่ K-Style Hub แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อเมษายนปีที่ผ่านมานี่เอง แต่เดิมเป็นตึกสำนักงานขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี แต่ตอนนี้เค้าย้ายไปอาคารใหม่ละ ตรงนี้เลยปรับปรุงเป็น Tourist center แทน แถมมีถึง 5 ชั้นด้วยกัน
ชั้น 2 เหมือนเป็น greeting zone มีข้อมูลของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในเกาหลีให้เลือกหยิบได้ตามใจชอบ ทั้งภาษาจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น และไทย เดินช็อปเหนื่อยๆแล้วแวะมาพักที่นี่ก็ไม่เลว จะนั่งจะนอน (เอ้า เห็นคนมานอนจริงๆ ผ้าห่มไรงี้พร้อมเลย555) ชาร์จแบต จิบกาแฟ กินขนมก็ได้ ตามสะดวก
VR นี่รู้สึกจะมาแรงมากๆ เลยช่วงนี้ เห็นเยอะขึ้นทั้งบ้านเราและบ้านเขา สำหรับ VR ในนี้ก็สามารถมายืนเล่นกันได้ฟรีๆ มีหลายสถานที่ในเกาหลีให้เลือกสรร ที่เราลองเป็น Ski Jumping ที่คังวอนที่กำลังจะไปนี่แหละ, สนุกไปอีกแบบ
เจอ Big Bang อปป้าด้วยอ่า55555555555 แน่นอนว่างานติ่งก็ต้องมา ชั้นนี้มีโซนสำหรับไอดอลโดยเฉพาะ มีตู้ให้กดเลือกพวกนางได้เลยว่าอยากจะให้ใครออกมาถ่ายรูปกับเรา ก็….นิดนึงค่ะ
ชั้น 3 เป็นโซนอาหาร รวมสารพัดเรื่องเกี่ยวกับอาหารเกาหลีไว้ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ เมนูตามฤดูกาล และกรรมวิธีในการประกอบอาหาร เค้าทำดีนะ นิทรรศการออกไปแนว interactive อยู่เหมือนกัน
ชั้น 4 สำหรับคนที่อยากลองทำอาหารเกาหลี มาเรียนทำอาหารเกาหลีได้ที่นี่เลย หม้อ เตา กระทะ อุปกรณ์อะไรมีพร้อมหมด อาจารย์เป็นอาจุมม่าที่ดูผ่านงานครัวมาอย่างโชกโชน เราได้ลองทำ บูลโกกิ และก็แน่นอนอยู่แล้วที่มันจะออกมาอร่อย5555555
ต่อจาก K-Style Hub ก็ถึงเวลาออกเดินทางไปยังคังวอนโดกัน
จะขอเอ่ยถึงนวัตกรรมประจำทริป ณ จุดพักรถ สิ่งนั้นก็คือ Smart Toilet! นี่คือการพัฒนาครั้งใหญ่ของส้วมสาธารณะ5555 มีความเก๋ตรงที่สามารถเดินสวยๆไปยังตำแหน่งที่ว่างได้เลย(ห้องเขียว) ส่วนห้องไหนแดงก็หลบไปย่ะ ชั้นไม่เลือกเธอ
ประชากรแถบคังวอนโดนี้มีประมาณ 1.5 ล้านคนเท่านั้นเอง (เทียบกับโซลที่มี 10 ล้าน) แล้วห่างจากทะเลไม่กี่กิโลฯ ใครที่เบื่อเกาหลีเมืองๆแบบโซลเราว่าลองเปลี่ยนบรรยากาศมาโซนเงียบๆ ธรรมชาติๆแบบนี้ดู
ความพิเศษอีกอย่างของจังหวัดคังวอน (Gangwon-do) คือที่นี่เพิ่งได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่จะจัดขึ้นช่วง 9-25 กุมภาพันธ์ (โอลิมปิก) และ 9-18 มีนาคม (พาราลิมปิก) ในปี 2018, ชื่องานเต็มๆคือ ‘PyeongChang 2018 Olympic and Paralympic Winter Games’ สถานที่จัดหลักๆอยู่ที่เมือง Pyeongchang, Gangneung และ Jeongseon ซึ่งอยู่ในจังหวัดนี้ทั้งสิ้น
Mascot ประจำงาน, เสือขาว Sooharang (ซ้าย) สำหรับโอลิมปิก และหมีดำ Bandabi (ขวา) สำหรับพาราลิมปิก นี่ถ้าเป็นสิบปีที่แล้วคงวิ่งไปกอดยัยพวกนี้ แต่พอดีนี่แก่ละเนาะ ยืนชมเป็นพอ555
พอจะมีการจัดงานใหญ่อย่างโอลิมปิกฤดูหนาวแล้ว ตัวเมืองก็เลยต้องมีการพัฒนาเตรียมความพร้อมไปด้วย สนามแข่งที่นี่ก็ต้องปรับปรุงและสร้างใหม่เพื่อให้รองรับกับการแข่งขันที่จะมาถึง ช่วงนี้เลยจะมี test event สำหรับงานโอลิมปิกอยู่ เหมือนให้มาซ้อมสนาม อะไรประมาณนี้ แต่รายการซ้อมสนามแต่ละรายการนี่ World Cup ทั้งนั้นนะจ๊ะ ใครได้มาอย่าลืมเช็คตารางดู เพราะมี event ไปถึงเดือนเมษานู่น ซึ่งเราก็ได้มาดูด้วยเหมือนกัน วันนี้เป็นคิวของ Short track speed skating เหมือนวิ่งแข่งระยะสั้นแต่เปลี่ยนจากลู่วิ่งเป็นลานน้ำแข็งแทน จัดที่ Gangnueng Ice Arena
เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นกีฬาแบบนี้ (ก็แหงสิ บ้านแกมันเมืองร้อน555) นี่อาจเป็นการมาดูครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต แต่ก็นะ สิ่งที่มีเหมือนกันในทุกสนามการแข่งก็คือนักกีฬา ดูเค้าแข่งแล้วรู้สึกมีพลังไปด้วยบอกไม่ถูก แบบที่ล้มแล้วก็ลุกมาแข่งต่อนี่ยิ่งขนลุก
นึกถึงสมัยเล่นโรลเลอร์เบลดยังล้มไม่เป็นท่าเลยค่ะ นี่มีทั้งน้ำแข็ง แล้วยังต้องทำเวลาอีก ยอมพวกพี่เค้าจริงๆ ระหว่างที่พักจะมีพิธีกรออกมาทำกิจกรรมอยู่เรื่อยๆ ไอ่ที่เห็นกันในรายการเกาหลี แบบถ่ายไปที่คู่ไหนแล้วต้องจุ๊บกันนี่มันเป็นอย่างงั้นเลยนะ5555
ในรูปนี่เล่นเวฟกันอยู่ เล่นกันไปสามรอบทั้งสนาม สนุกกก
คังวอนเป็นจังหวัดที่หิมะตกเยอะที่สุดในเกาหลี ตั้งแต่พฤศจิกายนถึงมีนาคม ก็เลยมีสกีรีสอร์ทตั้งอยู่ถึง 9 แห่งด้วยกัน ในช่วงนั้นจึงมีทั้งนักท่องเที่ยวและคนเกาหลีเองมาเยี่ยมเยือนเล่นสกีกันอย่างไม่ขาดสาย ต่อจากนี้จะขอแนะนำสถานที่น่าสนใจในคังวอนที่เราไปมาละกัน
Alpensia Resort
นี่ก็เป็นหนึ่งในสนามแข่งโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้ ชื่อรีสอร์ทมาจาก Alps of Asia อ่ะ เทียบเป็นเทือกเขา Alps ของโซนบ้านเรากันไปค่ะ
รักพระอาทิตย์หน้าหนาวจริง
Alpensia Ski Jumping Center
เป็นสถานที่แข่ง Ski jumping ของโอลิมปิกครั้งนี้ด้วย เราได้ขึ้นไปดูตรงจุดปล่อยตัวละ หวาดเสียวมาก นึกภาพเหมือนกำลังเล่นรถไฟเหาะขาลงอะไรประมาณนั้น อ้อ ที่นี่มีจุดชมวิวด้วยนะ เด็ดอยู่ เพราะเห็นรอบโซนนี้เลยแบบ 360 องศา ควรค่าแก่การมามาก
นี่คือจุดปล่อยตัวนักกีฬา เรียกว่าดิ่งน่าจะเหมาะกว่า
จากจุดชมวิวจะเห็น Alpensia Resort ทั้งก้อน ลองสังเกต slope ของที่นี่จะค่อนข้างกว้างพอสมควร แต่ขอเตือนคนที่กลัวความสูงไว้ก่อน ว่าช่องตะแกรงของจุดชมวิวมันใหญ่มากค่ะ ขนาดเราไม่ได้กลัวความสูงยังใจหาย55
Woljeongsa Temple
เกาหลีก็มีวัดป่านะ แถมยังเป็นวัดป่าอายุร่วมพันปีซะด้วย ระหว่างทางที่เดินเข้าไปเราจะได้ผ่านเหล่าต้นไม้สูงชะลูด สูดอากาศบริสุทธิ์กันหน่อย ตรงกลางลานวัดมีเจดีย์ 9 ชั้นตั้งอยู่ อายุน่าจะพอๆกับตัววัดเลย เป็นหนึ่งในสมบัติแห่งชาติของเกาหลีใต้ด้วย (National Treasure No. 48) ที่วัดสงบมาก เพราะอยู่กลางป่าที่ลึกเข้ามาจากถนนใหญ่อีก หน้านี้อากาศเย็นจัดจนน้ำกลายเป็นน้ำแข็งหมด
Jeong Gang Won
ศูนย์วัฒนธรรมที่จะให้เราได้ลองทำอาหารและขนมเกาหลี เริ่มจากขนมที่เราจำชื่อเรียกไม่ได้ละ แต่ว่าคล้ายๆแป้งโมจิเคลือบถั่ว เค้าให้ลองทำตั้งแต่ต้นเลย คือเอาข้าวมาทุบๆพลิกๆจนกลายเป็นก้อนเดียวกันหนืดๆ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆแล้วคลุกถั่ว จบ กินได้เลย
Highlight ของที่นี่อยู่ที่การทำข้าวยำหรือ Bibimbap หม้อยักษ์! (แบบคนลงไปนั่งได้อะ) แล้วมันสนุกตรงที่ได้ช่วยๆกันคลุกนี่แหละ
Jeongseon Samtan Art Mine
เหมืองเก่าตั้งแต่สมัย 50 ปีก่อน ที่ปรับปรุงใหม่ให้เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะและมีโครงการ residential artist ด้วย (ให้พื้นที่กับศิลปินทั้งที่อยู่และสถานที่สร้างสรรค์งาน)
แต่ละชั้นก็ยังมีการเก็บชิ้นส่วนประวัติศาสตร์ไว้เหมือนกัน เช่น โครงท่อในห้องอาบน้ำคนเหมือง อันนี้เราว่าเท่จริง เห็นรูปสมัยก่อนที่เค้าติดโชว์ไว้คือก็ยืนโป๊อาบกันแบบนี้แหละ สำหรับใครที่รู้สึกคุ้นๆ ที่นี่คือโลเคชั่นถ่ายหนังเรื่อง Descendants of the Sun เองจ้า จะบอกให้ว่ามาเกาหลีคราวนี้เจอแสตนดี้จุงกิอปป้าเกิน 10 หน่วยแล้ว กลัวความฮอตนี้555
ไม่ได้พูดถึงอาหารเท่าไหร่ แต่สิ่งนี้ประทับใจ มันคือหมูอบที่เอามากินในฟังก์ชันเดียวกับหมูย่างนี่แหละ จิ้มซอสห่อผักตามสไตล์ ทีเด็ดคือข้าว มีผักนึ่งโปะอยู่ด้านบนแล้วใส่ซอส คลุกผัก/ข้าว/ซอส รวมกัน กินสองอย่างนี้ด้วยกันคือฟินนนน
High 1 Resort
สกีรีสอร์ทที่บริหารโดยกลุ่ม Kangwon Land นอกจาก ski slope ที่สูงถึง 1,340m แล้วแถมให้อีกว่าคาสิโนที่นี่ยังเป็นคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีอีกด้วย! (อ่ะ ไปค่ะ) เป็นรีสอร์ทที่กลมกลืนไปกับตัวเมืองเลย เพราะไม่ได้ทำโซนปิดเฉพาะตัวรีสอร์ท แต่เค้าสร้างอาคารแต่ละหลังให้อยู่เลียบไปกับตัวเมือง และเนื่องจากระยะทางที่ค่อนข้างไกลจากแต่ละอาคาร ที่นี่เลยมี shuttle bus รับ-ส่งระหว่างอาคารให้บริการอยู่
และก่อนจะไปเล่นสกีเราจะมาออเดิร์ฟที่ฝั่งห่วงยางกันก่อน555 เรียกอย่างทางการว่า Sled นั่นเอง ห้ามหยีว่ามันไม่เท่ รู้นะว่าพวกแกก็เคยเล่นกันทุกคนนั่นแหละ, ถึงจะเป็นห่วงยางแต่ก็มีการแข่งขันเช่นกันนะจ๊ะ ชนะแล้วไม่ได้ไรนะ ภูมิใจไปเฉยๆ
สำหรับ snow sled นี้ต้องซื้อ pass ราคา 12,000 วอน จะเล่นกี่รอบก็ได้ตามสะดวก ตั้งแต่รีสอร์ทเปิดยันปิด ขอแค่เล่นเสร็จแล้วเอามาคืนตรงจุดที่ยืมนี่แหละ
ที่นี่มี Facilities ให้ครบครัน มีลิฟท์และกอนโดลาสำหรับผู้ที่มาเล่นสกี ส่วนนักท่องเที่ยวที่อยากขึ้นไปชมวิวเฉยๆตรง mountain top หรือจุด peak นั่นแหละ ก็สามารถซื้อ pass ได้ในราคาอีกเรทนึงที่ถูกกว่า
มีที่ให้เช่าอุปกรณ์และคอร์สสอนเล่นสกี/สโนว์บอร์ด (Ski School) ให้บริการอยู่ด้วย ลองเช็คเรทราคาของที่นี่ได้ตามลิ้งค์ด้านล่างเลย https://goo.gl/sJGX8I
ไปถึงก็แจ้งน้ำหนักส่วนสูงและเบอร์รองเท้า แล้วเค้าจะจัดอุปกรณ์ไซส์เรามาให้ เอาไปลองก่อนถ้าแน่นหรือหลวมไปก็เปลี่ยนได้ตามสะดวก นี่เพิ่งเคยสังเกตแผ่นสกีจริงๆว่ามันทำงานแบบนี้ คือล็อคหน้าหลังกับตัวรองเท้า
พื้นที่ราบด้านล่างจะเป็นที่สำหรับผู้เริ่มเล่นและ ski school
ส่วนนี่คือกอนโดลาขึ้นไปยัง mountain top เอาจริงนี่เป็นประสบการณ์สกีครั้งแรกของเรา ก็ค่อนข้างตื่นตากับอุปกรณ์นั่นนี่พอสมควร แบบที่เสียบสกีข้างกอนโดลาไรงี้
ระหว่างทางขึ้นก็จะเห็นคนโน้นคนนี้สกีสวนเราไป บางคนลีลาเยอะมากกกก ไอ้เราก็นึกในใจ..แม่งทำไมเท่จังเลยวะ แต่พอชมเท่านั้นแหละ ล้มเลยค่ะ55555
สามารถเลือกขึ้นมาได้สองแบบจะกอนโดลาหรือลิฟท์ก็ได้ (คิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ทุกที่) สำหรับคนที่ใส่อุปกรณ์พร้อมแล้วก็กระโดดขึ้นนั่งลิฟท์นี่ พอถึงที่หมายก็สไลด์ลงมาสวยๆ เริ่มเล่นได้เลย
วันที่ไปเล่นแดดค่อนข้างดี เลยเหงื่อซ่กไปโดยปริยาย คนค่อนข้างเยอะเลยนะ ขนาดเป็นวันธรรมดา สำหรับคนที่มาทานข้าวหรือชมวิวก็มีร้านอาหารและ Observatory Deck ให้บริการอยู่ด้านบนนี้ด้วย
ความพิเศษอีกอย่างของที่นี่คือมี beginner slope ที่จุดเริ่มอยู่ตรง mountain top เลย แถมยังยาวถึง 4.2km สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเล่นสกีแบบเราๆก็ไปเริ่มตรงจุด peak กับเค้าได้เหมือนกัน ไม่อันตรายเพราะเค้าแบ่งประเภทความยากของ slope เอาไว้เรียบร้อย
ถ้าไม่แน่ใจก็ไปเช็คหน้างานกันอีกที มีป้ายแบ่งสีตามความยากค่อนข้างชัดเจนพร้อมคำแปลเป็นภาษาอังกฤษอยู่
สำหรับการเดินทางมาโซนนี้ก็มีหลายช่องทาง ทั้งรถไฟ รถบัส หรือจะขับรถมาก็ได้เหมือนกัน เพราะสกีรีสอร์ทส่วนใหญ่มีที่จอดรถรองรับอยู่แล้ว ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวจังหวัดและการเดินทางได้ที่นี่ https://goo.gl/4Ijm8X
พูดถึงรถไฟ KTX เราเพิ่งไปอ่านมา เค้ากำลังสร้างสถานีเพิ่มเติมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาที่คังวอนด้วย กำหนดเสร็จกลางปีนี้ล่ะ แล้วการเดินทางโดยใช้รถไฟจากสนามบิน Incheon มาถึงนี่ก็จะใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากช่วงฤดูหนาวหิมะขาวโพลนแล้ว ก็ยังมาที่นี่ได้ตลอดทั้งปี เพราะที่นื่คือปอดของเกาหลี จะมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือชมต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็สวยไม่แพ้ใครเหมือนกัน