ฤดูท่องเที่ยวของ ‘โซล’ กำลังจะกลับมาอีกครั้ง อากาศเริ่มเย็นเข้าสู่การผลัดเปลี่ยนจากฤดูใบไม้ร่วงเข้าสู่หน้าหนาว ประเทศแรก ๆ ที่เราคิดถึงคือเกาหลีใต้ หนึ่งในประเทศเที่ยวง่าย มองไปทางไหนก็เจอกับผู้คนเเต่งตัวเท่ ๆ เดินขวักไขว่ยังกับหลุดออกมาจากรันเวย์แฟชั่น เพียบพร้อมด้วยไลฟ์สไตล์สุดชิคตั้งแต่หัวเมืองยันท้ายซอย ของอร่อยมีให้เช็กอินตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ยังไม่รวมบ้านเมืองที่มองไปทางไหนก็อบอุ่นสบายตา ไม่ว่าจะเป็น ตึกสวย ๆ คาเฟ่ และมิวเซียม ที่เหมือนคุมโทนไอจีตลอดเวลา แค่นี้ก็เป็นเหตุผลที่เรากดจองตั๋วแบบไม่คิด เพื่อบินตรงลงโซลไปสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้อีกครั้ง
พาเที่ยวจัดเต็มกับ 21 โลเคชั่นโคตรรชิค ให้กดเซฟลิสต์ตามไปเช็กอินกันแบบจุก ๆ ทั้งคาเฟ่คูล ๆ พระราชวังโบราณ ย่านช้อปปิ้งฮิป ๆ พิกัดนั่งปิกบิคชมพระอาทิตย์ตกดินแบบเกาหลีเกาใจ และปิ้งย่างร้านอร่อยที่ไม่ควรพลาด ครั้งนี้เราเที่ยวกันแบบสุดคุ้มค่ากว่าเดิมเพราะเดินทางไปพร้อมกับบัตร PLANET SCB บัตรคู่ใจนักเดินทางที่แลกเงินได้เทียบเท่าร้านแลกเงินชั้นนำ เรทดี แลกเงินง่ายผ่าน SCB EASY App แถมใช้ได้ทั่วโลก พร้อมสิทธิประโยชน์จากบัตรมากมายที่ PLANET SCB มอบให้แล้วเราอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักผ่านรีวิวนี้
และทริปนี้เราบินตรงกับการบินไทย บินสบายกว่าด้วยบริการแบบฟูลเซอร์วิส แค่ 5 ชั่วโมงนิดๆ จากกรุงเทพฯ บินตรงสู่โซลทุกวันวันละ 3 เที่ยวบิน จะออกเช้าออกค่ำก็สะดวกสบายพร้อมเที่ยวโซลแบบจัดเต็มได้ทั้งวัน ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักกระเป๋า อาหาร หรือที่นั่ง เพราะซื้อตั๋วครั้งเดียวก็จัดเต็มรวมทุกอย่างให้ช้อปปิ้งเพลินๆ ได้ทันที
นี่คือ 21 โลเคชั่นที่ไม่ว่าฤดูไหนก็พร้อมเที่ยว พร้อมกิน ในโซลแบบชีวิตดีๆ ในราคาเกินคุ้ม
#wheredowegoTH #PLANETSCB #บัตรของคุณเรทของคุณ
#ThaiAirways #MagicalJourney #SmoothAsSilk
Before Take Off
เราออกสตาร์ทไวหน่อยเพราะตั้งใจอยากไปใช้บริการ Miracle Lounge ไม่ต้องกังวลแม้บินชั้นประหยัดเมื่อถือบัตร PLANET SCB เพราะมีส่วนลดเข้าใช้บริการได้สูงสุด 50% เพียงกดรับ e-Coupon ส่วนลด 50% สำหรับลูกค้าใหม่ และ 30% สำหรับลูกค้าปัจจุบัน พร้อมชำระส่วนต่างด้วยบัตร PLANET SCB ก็มีที่นั่งชิลกินของอร่อย ๆ ก่อนออกเดินทางแบบไม่รีบ ข้อดีของ MIRACLE LOUNGE คือ พื้นที่กว้างขวางและเป็นส่วนตัว ของกินอร่อยเพียบ พร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัดเต็มแบบ Free Flow รวมถึงบริการห้องอาบน้ำอีกด้วย
ทริปนี้เราบินตรงกับการบินไทยสบายกว่าด้วยบริการแบบฟูลเซอร์วิส โซลนั้นเที่ยวง่ายมาก จองตั๋วแล้วจัดกระเป๋าสบาย ๆ เตรียมตัวไปเดินเฉิดฉายแบบพสเกาหลีได้เลย แถมบินตรงกับการบินไทยสบายกว่าด้วยบริการแบบฟูลเซอร์วิส ที่รวมอาหาร น้ำหนักกระเป๋า แถมยังสามารถเลือกที่นั่งได้ล่วงหน้าแบบสบายหายห่วง
ส่วนอีกเหตุผลที่เลือกเที่ยวโซล เพราะเดินทางแค่ 5 ชั่วโมงนิด ๆ จากกรุงเทพฯ แถมการบินไทยเค้ามีบินตรงสู่โซลทุกวัน ตั้งวันละ 3 เที่ยวบินทั้งเช้าและค่ำ! ใครชอบบินเช้าแบบได้พักร่างก่อนเที่ยวก็มีเลือก หรือใครชอบบินค่ำถึงโซลเช้า ๆ เที่ยวจัดเต็ม ก็เลือกเดินทางกับการบินไทยได้เช่นกัน ขอบอกว่าเส้นทางนี้การบินไทยเค้าเปิดให้บริการเครื่องบินรุ่นใหม่อย่าง Airbus A350 และ Boeing 787 Dreamliner ด้วยนะลำใหญ่ ปลอดภัยสะดวกสบายอย่างแน่นอน!
01 Public Garden (Jongno-gu)
พิกัดแรกเอาใจสายคาเฟ่ด้วยการพาไปเติมคาเฟอีนหลังลงเครื่องกันที่คาเฟ่ชิค ๆ ที่ ‘Public Garden’ ร้านน่ารัก ๆ แถวตลาด Gwangjang Market ย่านชงโน ที่คิ้ววววววท์ตั้งแต่ดีไซน์ร้านยันพนักงานเสิร์ฟ เรียกว่าดีต่อใจตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง
บรรยากาศร้านเค้ากิ๊บเก๋ ชิล ๆ เหมือนนั่งอยู่ในสวน แต่เป็นสวนบนดาดฟ้าที่มองออกไปเห็นวิวเมืองได้แบบเต็มตา อากาศเย็นพัดพาลมมาปะทะแบบสบาย ๆ ขอแนะนำให้นั่งโซนเอาต์ดอร์เลยบรรยากาศดีมาก
เราลงเครื่องมาเช้า ๆ เลยขอแวะมาทานบรันช์กันที่นี่ รอบนี้ลองสั่งทั้ง Ceviche de Camaron, Guacamole และ Tagliatelle, Red Wine Braised Beef รสชาติดีทั้งคู่ ส่วนกาแฟก็ดีงามพร้อมลุยเที่ยวโซลต่อแบบเต็มพลัง
02 Gwangjang Market (Jongno-gu)
ที่เลือกมาคาเฟ่แถวนี้ เพราะติดกับ Gwangjang Market ย่านที่มีตลาดเก่าแก่กว่า 100 ปีของเกาหลี เรียกได้ว่าเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ เพราะที่มีทั้งของซื้อของขายที่เป็นของสด ผลไม้ ร้านอาหารและคาเฟ่ดัง ๆ ก็อยู่รวมกันในตลาดนี้ รอบนี้เราแวะมาเพราะตั้งใจมาทานบะหมี่ Netflix และ Pizza Pie! ที่ล่อต่อล่อใจตั้งแต่ดูซีรีส์ เลยอยากแนะนำบอกต่อสองพิกัดในตลาดที่ไม่ควารพลาด
Gohyang Kalguksu (บะหมี่ Netflix)
ขอเรียกว่าบะหมี่ Netflix อร่อยสมคำร่ำลือ! ร้านหาไม่ยากเพราะคนนั่งมุงกันเยอะมาก แต่อยากให้รอชิม ต่อคิวนิดหน่อยไม่นานมากเพราะมีคนคอยจัดคิวให้ ไฮไลต์เมนูยอดฮิดนอกจากเกี๊ยวโฮมเมดที่คุณป้าทำให้ดูกันสด ๆ แล้ว ตัวเส้นบะหมี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน! เราชอบสูตรบะหมี่เย็นของคุณป้ามาก เส้นเหนียวหนึบกำลังดี เดินมาเหนื่อย ๆ รอคิวแปป ๆ ก็โซ้ยกันไปคนละชามสองชามกับเพื่อน โคตรสดชื่น!
Onion Gwangjang Market
หนึ่งในลิสต์คาเฟ่ฮอปเปอร์ภาคพื้นเกาหลี ต้องมีร้าน ‘Onion’ อยู่ในลิสต์ คาเฟ่ยอดนิยมที่ต้องมาเช็กอินเวลามาเที่ยวเกาหลี จากครั้งก่อนที่เคยไปสาขาแรกในบ้านฮันอก รอบนี้เค้าขยายความอร่อยมาเปิดกันกลางตลาดหน้าซอยไปเลย และแน่นอนคนเยอะเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมว่าที่นี่เค้ามี Iced Honey Green Tea แบบสดชื่น ๆ ให้ทานพร้อม Pizza Pie พายกรอบทรงพิซซ่า ที่ราดซอสสตรอเบอร์รี่ฉ่ำ ๆ มาเสิร์ฟ บอกเลยว่าอากาศเย็น ๆ แบบนี้กินคู่กันโคตรฟิน!
03 Dongdaemun Design Plaza
Dongdaemun History & Culture Park Exit 1
พาไปชมงานอาร์ตผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโซลที่ ‘ Dongdaemun Design Plaza’ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า DDP พลาซ่าที่รวมทั้งไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้ง งานอาร์ต แกลลอรี ฯลฯ อีกมากมายเอาไว้ด้วยกัน ทีนี่เลยเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเกาหลีใต้ เพราะเป็นหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด และจัด Seoul Fashion Week กันแทบทุกปี ถ้าใครมาช่วงเดือนมีนาคมและตุลาคม จะได้เห็นวัยรุ่นเกาหลีแต่งตัวเท่ ๆ ออกมาประชันแฟรชกันเต็มไปหมดบริเวณข้างหน้า
แต่ความดีงามไม่หมดเท่านี้ เพราะอยากชวนมาตราตรึงชมผลงานดีไซน์โค้งมนสุด Futuristic ของ Zaha Hadid สถาปนิกสาวแห่งยุคชาวอังกฤษ-อิรัก ที่มีผลงานดีไซน์โด่งดังไปทั่วโลกกัน ถ้ามาตอนช่วงเย็น ๆ จะได้ชมบรรยากาศอาคารทั้งตอนคลีน ๆ เรียบ ๆ แต่พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ที่นี่ก็เท่ขึ้นมาทันตาเพราะเค้าจะจัดแสดงไฟธีมต่าง ๆ ให้เข้ามาเดินเล่นถ่ายรูปกัน ถ้าเดินข้ามฝั่งถนนมาแถวนี้ก็มีร้านขายเบียร์ฉ่ำ ๆ กับไก่ทอดให้เลือกเยอะมาก ถือเป็นการจบวันแบบเบา ๆ วันแรกในเกาหลีหลังจากไม่ได้ไปมาหลายปี ก่อนเริ่มเที่ยวแบบจริงจังในวันพรุ่งนี้!
อีกหนึ่งเหตุผลที่เราชอบบัตร PLANET SCB คือความสะดวกในการใช้งาน บัตรใบนี้สามารถเบิกถอนเงินสด กดเงินเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศได้ที่ตู้ ATM ในต่างประเทศ ที่มีสัญลักษณ์ VISA ได้ทั่วโลก หรือถ้าไม่ชอบถือเงินสดเยอะๆ ใช้บัตรใบนี้ก็อุ่นใจได้เหมือนกันเพราะไม่มีค่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ 2.5% จะรูดช้อป แตะจ่าย หรือช้อปออนไลน์ ก็คุ้มทุกสกุลเงิน
Day 2
04 Music Complex Seoul (Insadong)
พิกัดถัดมาบอกเลยต้องจด! เห็นร้านนี้จากใน Reels ที่เลื่อนดูผ่าน ๆ แล้วจึ้งงงงงมาก ภาพคนนั่งกินกาแฟในร้านเท่ ๆ โทนสีแดง-ดำ พร้อมเครื่องเล่นแผ่นเสียงโต๊ะละเครื่อง บอกตัวเองเลยว่าต้องไปให้ได้ แล้วก็ไม่ผิดหวังเพราะร้านสวยจริง เท่จริงไม่จกตา และกาแฟก็ราคาแพงจริง 555 เพราะว่าเค้ารวมค่าเข้าไว้แล้วเรียบร้อย ซึ่งถ้าจะให้คุ้มต้องสั่งแก้วที่ 2 เพราะลดลงไปเกือบ 50% และคาเฟ่เกาหลีอย่างที่รู้ ๆ กันคือ 1 Order = 1 Person เท่านั้น
กาแฟเริ่มต้นที่แก้วละ 19,000 วอน หรือประมาณห้าร้อยบาทไทย ลองแกล้ง ๆ นั่งฟังเพลงเพลิน ๆ สุ่มเลือกแผ่นเสียงมานั่งฟังหลบแดด หลบหนาวกันซักชั่วโมงสองชั่วโมงเนอะจะได้คุ้ม ๆ ที่สำคัญร้านนี้ใช้ PLANET SCB จ่ายได้เลยทันทีด้วยนะ ล็อกเรทดีๆ ไว้ก่อนถูกอย่างก็ถูกลงกว่าเดิม
05 Bukchon Hanok Village (Jongno-gu)
มาเกาหลีก็ต้องทำตัวกลมกลืนกับวัฒนธรรมด้วยการแวะมาเที่ยว ‘Bukchon Hanok Village’ โลเคชั่นแห่งประวัติศาสตร์ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องอันทันสมัยของกรุงโซล ที่พาเราเดินลัดเลาะรอบซอยไปชมความสวยงามของบ้านโบราณสไตล์ฮันอก ที่เป็นซิกเนเจอร์ของเกาหลี ซึ่งเรามักจะเห็นผ่านตามาจากซีรีส์หลาย ๆ เรื่อง ที่นี่เค้ารักษาอาคารบ้านเรือนในสมัยโบราณ เอาไว้ได้ดีมาก บางบ้านที่เราเห็นพื้นที่เยอะ ๆ ไม่ต้องเดาให้ยากค่ะเป็นบ้านของขุนนางระดับสูงของเกาหลีในสมัยก่อนแน่นอน โดยบางส่วนเป็นบ้านคนที่เค้าอยู่อาศัยกันจริง ๆ ในปัจจุบัน บางส่วนปรับปรุงให้เป็นโรงน้ำชา คาเฟ่ เกสต์เฮาส์ ฉะนั้นแวะไปเที่ยวแล้วก็อย่าเสียงดังน้า
06 Chimps Burger (Jongno-gu)
ถ้าเดินจากปากทางเข้า Bukchon Hanok Village ไปทางสถานีรถไฟประมาณ 300 เมตร จะเจอกับ ‘Chimps Burger’ ร้านเบอร์เกอร์คูล ๆ ริมถนนใหญ่ ที่บังเอิญเดินผ่านแล้วหน้าร้านเตะตาจนต้องเดินเข้าไปเซย์ฮายสั่งเบอร์เกอร์มาลองกิน แล้วดันอร่อยจริง อร่อยมากกก โดยเฉพาะ Blue Shimps Burger รสชาติดีแบบดีเลย อร่อยอยู่ท้อง ราคาไม่แพงด้วย ปกติเราไม่กินหัวหอมในเบอร์เกอร์ แต่ร้านนี้กลิ่นไม่ฉุนเลยเนื้อก็โอเค อยากให้ลองปักหมุดตั้งใจมากันดู
07 Gyeongbokgung Palace (Jongno-gu)
ไม่ไกลจาก Bukchon Hanok Village เดินต่อมาอีกนิดแวะเช็กอิน ‘พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)’ กันซะหน่อย ที่นี่โออ่าและใหญ่มากใช้เวลาเดินชมแบบครบ ๆ มีครึ่งวัน เพราะพื้นที่ค่อนข้างกว้าง และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดกรุงโซล เดิมที่นี่จะเป็นตำหนักมากกว่า 200 หลัง แบบที่เราเคยเห็นในซีรีส์ย้อนยุค แต่หลังจากการรุกรานของญี่ปุ่น อาคารส่วนใหญ่ก็ถูกทำลายลงเหลืออยู่เพียงแค่ 10 หลังเท่านั้น
เราชอบบริเวณพระที่นั่งคึนจองวอง (Geunjeongjeon) และศาลาเคียงฮวยรู (Hyangwonjeong) บรรยากาศร่มรื่นมากเพราะตั้งอยู่กลางน้ำและมีมุมใต้ต้นไม้ให้หลบร้อน เพราะพื้นที่กว้างมากกว่าจะเดินมาแต่ละจุดทำเอาหอบ 55555 เราแนะนำว่ามาช่วงเย็นก่อนปิดประมาณ 1 ชั่วโมง โอเคเลยคนจะน้อยมากและถ่ายรูปง่ายดีไม่ติดคน
อีกอย่างนึงที่อยากบอกทุกคนไว้คือเรื่องไม่คาดคิดมันเกิดขึ้นได้เสมอ เพราฉะนั้นเราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการวางแผนไว้ให้ดี และ PLANET SCB ก็รู้ใจนักเดินทางเพราะ ฟรีประกันการเดินทางสูงสุด 10 วัน เอกสิทธิ์สำหรับผู้ถือบัตร VISA คุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 2,000,000 บาท และพร้อมดูแลช่วยเหลือ24 ช.ม. ด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินยามเดินทางทั่วโลกอีกด้วย
08 Musoe Kimchi Grilled Pork Belly
มาเกาหลีทั้งที ขอสวมบทพสเกาหลีทำทรงที่ร้านปิ้งย่างแบบจอย ๆ หลังเลิกงาน ทุกคนรู้โลกรู้ ปิ้งย่างเกาหลีคือยืนหนึ่ง มาถึงโซลจะพลาดได้ไง ขอแนะนำร้าน ‘Musoe Kimchi Grilled Pork Belly’ ร้านนี้อยู่ในฮงแดเลย ไวป์ดีมาก ๆ นึกออกมาปิ้งย่างมันต้องเสียงดังเฮฮาปาจิโกะ ย่างกันแบบมันส์ ๆ ราคาถูกด้วยแต่ขั้นต่ำต้องสั่ง 3 คน คือจะไปคนเดียวก็ได้แต่สั่งขั้นต่ำ 3 เซ็ตงี้ เซ็ตนึงประมาณสามร้อยกว่าบาท เราไปซ้ำกันถึงสองรอบ! เพราะมันอร่อยมากมีมื้อกลางวันด้วย หมูผัดกิมจิดูดี อร่อย กิมจิเด็ดมาก แกนึกออกมะเครื่องเคียงล้านแปดอร่อยหมดประทับใจ หลังกินหมูย่างเสร็จสามารถสั่งให้เค้าผัดข้าวต่อให้ได้ด้วย เริ่ดมากก
09 Hongdae
ฝากท้องกับร้านปิ้งย่่าง มิชชั่นวันนี้ยังไม่จบเพราะการมาเกาหลีให้ครบเครื่องมันต้องช้อปปิ้ง ปักหมุดต่อไปที่ ‘ฮงแด’ ค่ะ ย่านนี้ยืนหนึ่งเรื่องแฟชั่นให้ช้อปปิ้งแบบฉ่ำ ๆ ทุกตรอกซอกซอยมีแบรนด์ดัง เครื่องสำอางงานผิวงานจึ้งจิตฉ่ำวาวแบบเกาหลี รองเท้ารุ่นใหม่เพิ่งออกมีครบให้เลือกแบบสับ คือใครจะหาซื้อรองเท้า New Balance ซักคู่ที่เค้าแย่งกันแทบตายในไทยก็มาที่นี่แหละ เลือกแบบไม่ต้องแย่งใคร ช้อปฉ่ำแบบไม่สนราคาพรีเซลล์
Day 3
010 Seosomun Shrine History Museum (Jung-gu)
ถ้าใครจะหามิวเซียมดี ๆ ชมงานศิลปะแบบ Art Therapy แถมเข้าฟรี! แวะมาที่ ‘Seosomun Shrine History Museum’ หรือพิพิธภัณฑ์ซอโซมุน ที่ชาวเน็ตถ่ายภาพอัพลงไอจีจนฮิตกันไม่หวาดไม่ไหว ภาพลานกว้าง ๆ ห้อมล้อมด้วยกำแพงอิฐสีส้มแดง ด้านบนเปิดโล่งมองเห็นท้องฟ้า นี่โคตรจะมินิมัลมินิใจจนต้องยากมาตามรอย แต่ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์คาทอลิคในช่วงสมัยปลายราชวงศ์โชซอนของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ลานประหารเดิม
โครงสร้างของอาคาร คือ สวยมาก เหมาะสำหรับสายอาร์ต และสายชอบถ่ายรูป ด้านในจะเป็น Exhibition Hall จัดแสดงงานย่อย ๆ ถ้าเดินต่อลงมาที่ชั้น B3 จะเจอกับ Consolation Hall ขนาดใหญ่ เค้าจะฉายโปรเจ็กเตอร์แบบ 360 องศาบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของคาทอลิคในยุคโชซอนให้ดู ความเก๋ของที่นี่คือไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่น่าเบื่อเลย เพราะตลอดทางเค้าดีไซน์สเปซได้สวยทุดจุดจริง ๆ
011 Mangwon Area
จากมิวเซียมช่วงเช้า เรากระเถิบไปเที่ยวกันต่อแถวย่านมังวอน ย่านอาร์ต ๆ ฮิป ๆ ที่คนชอบงานศิลปะต้องแวะเวียนกัน เพราะที่นี่แหละแหล่งรวมคาเฟ่สุดชิค ร้านถ่ายรูปสติกเกอร์ยอดฮิต และ Lifestyle Shop สุดคิ้วต์ที่รวมงานดีไซน์และคาแรกเตอร์จากศิลปินเกาหลีตลอดสองข้างทางให้เดินชม ช้อป และชิมแบบเพลิน ๆ เราเลยขอแนะนำสามพิกัดนย่านที่ต้องไปแวะให้ได้
Dami Dumplings
ร้านเกี๊ยวยอดฮิตของเกาหลี ที่ตอนแรกตั้งใจกินรองท้องเพราะดูเป็นร้านที่มีหลายสาขา ฟีลแบบกินกันตาย กินไปก่อน กินรองท้องก่อนมื้อหลัก ปรากฏว่ากิมจิมัมดูหรือเกี๊ยวซ่ากิมจิ อร่อยเต็มข้อแบบสุด ๆ ใครเจอร้านนี้ก็แวะกินแบบจริงจังได้เพราะอร่อยจริง
Cafe Mugyehoek
มาย่านฮิปไม่แวะคาเฟ่มันจะยังไง เดินเพลิน ๆ แวะสุ่มเข้าไปนั่งสักร้านที่สวย ๆ ก็คือดีต่อใจแล้ว โดยเฉพาะร้านนี้เห็นหน้าร้านเงียบ ๆ ข้างในเฟอร์เท่ ๆ เพียบนะคะ เกาหลีเค้ายืนหนึ่งเรื่องการมิกซ์แอนด์แมทช์เฟอร์นิเจอร์กับสเปซมาก ๆ ครีเอทีฟสุด ๆ และเปิดเพลงดีเลยลองสั่ง Signature Drink อย่าง Einspanner ลาเต้กับวิปครีมนุ่ม ๆ มากินคู่กับ Brown Cheese Croiffle รสชาติไม่หวานกำลังดีเลย
Mangwon Market
ย่านนี้เค้าไม่ได้ฮิปอย่างเดียว เพราะดังเรื่องของทอดด้วย 55555 ทริปนี้กินจนตัวแตก เดินไปกินไป ด้านในจะเป็นซอยเล็ก ๆ สองข้างทางมีแต่ของทอดซึ่งอร่อยมาก คนท้องถิ่นก็มากินกันเยอะ โดยรวมย่านนี้เป็นย่านที่เที่ยวสนุกเลย ครบทั้งคาเฟ่ (ที่เยอะมาก ๆ) ร้านอาหาร ร้านของปุ๊กปิ๊ก กระจุกกระจิกน่ารักเต็มไปหมด เดินเล่นได้ทั้งวันทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน
012 Protokoll Roaster (Yeonhui-ro)
ไปต่อกันที่อีกหนึ่งคาเฟ่ที่เราตั้งใจมา เพราะส่องไอจีอยู่นานร้านเท่มาก จุดเด่นคือตรงป้ายหน้าร้านที่เห็นแว้บแรกก็จำได้ทันทีว่าร้าน ‘Protokoll’ กาแฟอร่อยและถูกเพราะเป็น Roaster ราคาก็น่ารักเริ่มต้นที่ 5,500 วอน เท่านั้น ใครชอบทานของหวานก็จะขอแนะนำเค้กคัสเตล่า รสชาติดีสั่งมากินกับกาแฟแล้วอื้มมมอร่อย บรรยากาศร้านจะดูดิบ ๆ หน่อย ไวป์ดีมองออกไปนอกหน้าต่างเจอพื้นที่สีเขียวสบายตา ความเก๋ของเค้าคือออกมาโต๊ะมาพร้อมโคมไฟ พร้อม Work From Seoul ไปเลยสิคะ บรรยากาศให้สุด ๆ แถมยังมีของจุ๊กจิ๊กที่เป็นแบรนด์ดิ้งของร้านที่น่าซื้อเยอะแยะมากเลย เรายังได้แก้วกลับมาคนละใบเลยเท่มาก
014 Gyodae Icheungjip (Dangsan-ro)
ร้านหมูย่างเกาหลีที่มีหลายสาขาอยากให้มาลอง รอบนี้เราแวะกินที่สาขา Dangsan ห่างจาก Yanghwa Hangang Riverside Park ที่ดูวิวกันตอนเย็นประมาณ 10 นาทีเดินเท่านั้น ร้านบริการดีมากให้เครื่องเคียงเยอะซอสดี แถมมี Seafood Hotpot อย่าง Haemul Naembi Chuga ให้สั่งเพิ่มด้วย ที่เป็นไฮไลต์อยากให้ลองกิน Chalssooktteok Gui จะเป็น Rice Cake ผสม Mugwort หรือจิงจูฉ่ายจิ้มน้ำผึ้ง ปังมากอร่อยจับใจจู
ทุกๆ เช้าก่อนออกจากที่พักในทริปนี้สิ่งที่เราทำกันก็คือ แลกเงินผ่านแอป SCB EASY ไว้ก่อน เพราะ PLANET SCB สามารถล็อกเรทแลกเงินที่ดีที่สุดได้มากถึง 13 สกุลเงิน ทำให้อุ่นใจเวลาใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายไม่บานปลาย ควบคุมได้ สุดคุ้มกว่าเดิม
แถมบัตรใบนี้ยังฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ และสำหรับผู้ที่สมัครบัตรวันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2566 จะได้รับเครดิตเงินคืนค่าธรรมเนียมแรกเข้า 200 บาท เมื่อเปิดใช้งานบัตร และลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน SMS เท่ากับว่าบัตร PLANET SCB เป็นบัตรที่ฟรีทั้งค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมรายปีกันไปเลย!
015 Hannam
Hannam exit 1 หรือ Hangangjin exit 3
ถัดจากย่านมังวอน ก็มีฮันนัมนี่แหละที่ต้องแวะมาทุกครั้งที่บินตรงลงโซล เป็นอีกหนึ่งย่านชิคที่อยู่ใกล้กับย่านดังอย่าง Itaewon ที่สำคัญคือย่านนี้ Happening มากสำหรับเราทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดเส้นทางตรอกซอกซอยจะมีร้านเสื้อผ้า กระเป๋าแบรนด์ฮิต ๆ ของเกาหลีไว้เพียบ เช่น Mardi, Emis, Marithe, Depound ฯลฯ รวมถึงคาเฟ่น่ารักกาแฟดีงาม ตื่นสาย ๆ ก็เดินออกมาแวะทานบรันช์พร้อมเดินเล่นช้อปปิ้งกันต่อได้ไม่มีเบื่อ รวม ๆ เป็นย่านของคนฮิป ชิค คูล มองเข้าไปร้านไหนก็คือเก๋หมดอยากเดินเข้าไปช้อปทุกร้าน ละลายเงินวอนสุด ๆ
016 April Coffee / 에이프릴커피 (Itaewon-ro)
ร้านแรกที่เราขอเปิดวาร์ป เพราะเป็นร้านกาแฟที่พส. ซาจังนิม Coundsheck แนะนำมาว่าถ้าชอบจิบกาแฟร้านนี้กาแฟดีมากกกก และก็จริงอย่างนางว่ามันดีย์จริง เพราะที่นี่เป็น Slow Bar เลยลองสั่งอเมริกาโน่เย็นมาชิม พนักงานเค้าก็จะฟิลเตอร์กาแฟกันให้ดูสด ๆ แบบพิถิพิถัน และใด ๆ ที่นี่เป็นร้านเก๋ที่พร้อพเฟอร์จัดเรียงเก๋ไก๋ แมทช์คู่สีได้ตรงจริตเพราะคิดมาแล้วอย่างดี บรรยากาศอบอุ่นสุด ๆ เหมาะกับโซลช่วง Autumn มากเลย
017 Pallette Hannam Main Brunch (Hannam)
อย่างที่บอกว่าย่านฮันนัม ตื่นสาย ๆ ก็เดินมาทานบรันช์รองท้องก็ชิล ๆ ต่อได้ทั้งวัน ร้านนี้เดินจากร้าน April มาประมาณ 150 เมตร จะเจอร้านอาหารเล็ก ๆ แบบเล็กมากซ่อนอยู่ลองสังเกตดี ๆ ร้านนี้จะขายบรันช์ทานง่าย ๆ ทั้งแกงกระหรี่ พาสต้า และแฮมเบิร์ก ราคาไม่แพงเลยแถมอร่อยมากด้วย อยากให้ไปลองกันมันฉ่ำดีงามมาก
018 Anthracite Coffee Hannam
สายฮอปไปต่อค่ะอย่าแผ่วว การตะเวนฮอปคาเฟ่ในโซลถือเป็นมิชชั่นที่ไม่ควรพลาดในการมาเกาหลี เพราะทุกร้านมันดี มันเก๋ มันเริศ ส่วนร้าน ‘Anthracite Coffee Hannam’
ร้านนี้จะมีประมาณ 3-4 สาขา เรามาแวะกันที่ย่าน Hannam เค้าจะตกแต่งแบบเท่ ๆ สไตล์อินดัสเทรียลมีการเอาสีเงินมามิกซ์กับปูนเปลือย บรรยากาศคึกคักตลอดทั้งวัน กาแฟดี ขนมดี ราคาไม่แพงด้วย ควรค่าแก่การมานั่งพักเหนื่อยหลังจากเดินเล่นย่านนี้ก่อนมูฟไปที่อื่นต่อค่ะ
ฟ้าที่โซลเนี่ยวันไหนสวยก็ส๊วยสวยเหมือนที่ญี่ปุ่นเลย ถ้าใครแพลนจะไปดู Sunset ที่นี่ก็เพลินอยู่นะ นอกจาก Yanghwa Hangang Riverside Park ที่ใกล้ที่พักเราเมื่อวานแล้วอยากแนะนำต่ออีก 2 ที่คือ
019 Yeouido Hangang Park
ถ้าอยากได้ฟีลปิกนิกริมแม่น้ำฮันให้มาตรง ‘Yeouido Hangang Park’ สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ระหว่างสะพานคังดง กับสะพานจัมชิลชอล โลเคชั่นสวยมากเพราะเป็นพื้นที่อนุรักษ์แหล่งน้ำ มีร้านเสื่อ ร้านโต๊ะปิกนิคให้เช่าพร้อม แค่วางบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตทิ้งไว้กับที่ร้านได้เลย แต่แนะนำให้หาร้านใหญ่ ๆ ที่น่าไว้ใจหน่อย แล้วไปซื้อเบียร์ ซื้อไก่ทอด รามยอนมานั่งกินแบบฉ่ำ ๆ รอดูพระอาทิตย์ตก อากาศจะเย็น ๆ หน่อยพอได้กินรามยอนบอกเลยว่าฟิน
020 Nodeul Island
ปิดท้ายกันที่ ‘Nodeul Island’ สวนสาธารณะที่กินพื้นที่ทั้งหมดของเกาะโนดึล เกาะกลางน้ำที่เคยถูกทิ้งร้างเอาไว้แต่ตอนนี้โคตรชิค! มีมุมนั่งชิลให้ดูพระอาทิตย์ตกสวย ๆ พร้อมวิวรถไฟบนสะพานวิ่งเป็น Background แต่ตรงนี้จะไม่ได้มีเสื่อ ตะกร้าปิกนิค หรือร้านขายไก่ทอดแบบตรง Yeouido Hangang Park เยอะขนาดนั้น จะเน้นเป็นมุมเล็ก ๆ บนเกาะให้นั่งชิล ๆ บนพื้นหญ้ากันซะมากกว่า แต่วิวสวยประทับใจไม่แพ้กันเลย
Day 5
021 Lotte Department Store Yeongdeungpo
ด้วยความที่การบินไทยมีไฟล์ทกลับให้เลือกเยอะ เราเลยจองช่วงไฟล์ทเย็น ๆ จะได้มีเวลาช้อปปิ้งแบบสวย ๆ ก่อนกลับต่ออีกหน่อย เลยขอแวะไปที่ห้าง Lotte เพราะว่าอยู่ใกล้โรงแรม ข้อดีคือที่เกาหลีเนี่ยสามารถทำ Tax Refund ได้ด้วยนะ บางร้านสามารถทำที่ร้านได้เลย สินค้าจะลดราคาจากหน้าช้อป ส่วนบางร้านจะให้ขอเอกสาร Tax Refund ไปทำที่สนามบินซึ่งได้เงินคืนเยอะมาก รอบนี้เราเลยจัดเสื้อกันหนาว Snow Peak เตรียมไว้ก่อนเข้า Winter นี้ เสื้อสวยและอุ่นมากกกก ใครมาเกาหลีต้องรีบซื้อติดไว้เลย เพราะแบรนด์นี้ยังไม่มีขายในไทย
อย่างที่บอกล็อกเรทล่วงหน้ากับ PLANET SCB ใช้จ่ายก็คุ้มกว่าใคร คำนวณราคาสินค้าที่จะช้อปปิ้งกันล่วงหน้าได้เลย
อย่างที่บอกว่าการบินไทยบินตรงสู่กรุงโซลมากถึง 3 เที่ยวบินต่อวัน ขากลับไทยเราก็สามารถเลือกไฟลท์เย็น ๆ เผื่อใช้เวลาอยู่จิบกาแฟต่ออีกหน่อย และเดินช้อปปิ้งก่อนกลับเพิ่มได้อีกครึ่งวัน สำหรับเราบินตรงกับการบินไทยแบบฟูลเซอร์วิสสะดวกสบายที่สุด เลือกที่นั่งได้ แถมได้นั่งเครื่องใหญ่ยืดขาสบาย ที่สำคัญมีอาหารไทยให้เลือกเยอะมากกก มันฉ่ำมาก ๆ เวลาได้กินอาหารไทยบนไฟลท์ก่อนกลับ จังหวะที่เราโหยความแซ่บ ความเครื่องแกงแบบไทยอะไรจะฟินไปกว่านี้
ฤดูหนาวของโซลกำลังมาถึงแล้ว ใบไม้เริ่มผลัดใบอากาศเย็นขึ้นนิด ๆ เดินเล่นแบบชิล ๆ ได้ตลอดทั้งวัน เราขอยกให้เป็นฤดูท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของโซลเลย แพลนเที่ยวหลวม ๆ ได้ ตื่นสายหน่อยออกไปทานบรันช์ ตามหาร้านคาเฟ่ชิค ๆ ได้ทุกมุมเมือง ใครที่ชอบงานอาร์ตโซลก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่โอเพนเรื่องงานศิลปะมาก ๆ Seoul – Before Autumn ฤดูกาลดีต่อใจแบบนี้ รีบจองตั๋วกับการบินไทยไปเที่ยวกัน
