ถ้าใครติดตามเรื่อง กาแฟ และเบียร์ อยู่ละก็ น่าจะต้องเคยอ่านชื่อเมืองนี้ผ่านๆ จากนิตยสาร และบทความซักอัน เพราะคนที่นี่นั้น เขาเอาจริงเอาจังกับสองเรื่องนี้แบบสุดๆ อาจจะเรียกได้ว่าโลกของพวก Nerd ด้านกาแฟ และเป็นแหล่งดึงดูด Geek เรื่อง Craft Beer เลยแหละ สังเกตง่ายๆว่า เดินไปทางไหนทุกหัวมุมถนน จะต้องเจอร้านกาแฟอย่างน้อยหนึ่ง และอีกสิบก้าวถัดไป ก็จะเจอโรงบ่มเบียร์ เป็นอย่างนี้สลับกันไปเรื่อยๆ 555
ดังนั้น ถ้าถามว่า Portland มีอะไรให้เที่ยวบ้าง มันก็จะตอบยากนิดนึงอะเน้าะ เพราะก็จะไม่ได้มีสถานที่เด่นๆ แบบถ่ายรูปลงแล้วพ่อแม่พี่น้องรู้ทันทีว่าเราอยู่ที่ไหนขนาดนั้น ส่วนตัวคิดว่า ไอ่เมืองที่เขาบอกกันว่า เป็นต้นกำเนิดของฮิปเตอร์โลกอย่าง Portland เนี่ย เหมาะกับคนที่มองหาที่เที่ยวแบบชิวๆ มาใช้ชีวิตช้าๆ เอ็นจอยผู้คน และธรรมชาติ ถ้าใครติ้กถูกหมดทุกข้อที่ว่ามา ตีตั๋วมา และหาวันว่างมาเลยจ้ะ อยู่ยาวๆเป็นอาทิตย์ก็ไม่มีเบื่อแน่นอน
โดยหลักๆแล้ว เมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนโดยมีแม่น้ำกั้นกลาง ได้แก่ Down Town, Nort East, South East และ South West โดยแต่ละย่านนั้นล้วนแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นแบบไม่ซ้ำกันเลย เน้นเป็นพวกร้านรวงให้เดินเล่น รอเวลาแสงดีๆไปวิ่งออกกำลังในสวน ที่จริงๆเรียกว่าเป็นป่าเถอะ ถ้าจะใหญ่ขนาดนี้
และที่นี่เหมือนเป็นเมืองที่ไม่มีใครทำการทำงาน เพราะร้านกาแฟและร้านอาหารคนแน่นตลอดเวลา ยิ่งถ้าได้มาเที่ยวตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์พอดี ก็จะเพิ่มความคึกคักไปอีกสิบเท่า ด้วย Flea Market น่ารักๆทั่วเมือง
พอมาถึงปุ้ป เราก็พุ่งตัวไปสถานที่ๆอยากไปมากที่สุดอันนึงในทริปนี้ นั่นก็คือ Powell’s book store ใช่แล้ว! เราอยากมาเที่ยวร้านหนังสืออีกแล้วจ้า 555 แต่อย่าพึ่งเบ้ปากเบือนหน้าหนี เพราะที่นี่ไม่ใช่ร้านหนังสือธรรมดา แต่มันเหมือนห้องสมุดซะมากกว่า ด้วยขนาดที่ใหญ่ถึง 3 ชั้น จนต้องมีแผนที่ของร้านแจกตรงทางเข้า ว่าจะหาหนังสืออะไร ได้จากห้องไหน
เขาจะใช้การแบ่งหมวดหมู่ตามสี แล้วถ้าใครสนใจเล่มไหน ก็สามารถหยิบไปลองอ่าน พร้อมนั่งจิบกาแฟ กินขนมได้ชิวๆ ไม่ต้องกลัวเมื่อย ไม่ต้องกลัวโดนพนักงานจ้องตาเขม็ง ว่าอ่านอยุ๋แล้วไม่ซื้อซะที เพราะที่นี่บรรยากาศดีสุดๆ รับรองว่าใครรักหนังสือ สามารถอยู่ที่นี่ได้เป็นวันๆเลย อย่างเรานิเข้าไปแล้ว เหมือนโดนดูดเข้าไทม์แมชชีน รู้ตัวอีกที เห้ย! ผ่านไป 3 ชั่วโมงแล้วหรอ
อ่ะๆ แต่ถ้าใครไม่ใช่หนอนหนังสือ ก็เพียงแต่เดินออกมาฝั่งตรงข้าม ก็จะพบกับร้านค้ามากมาย ให้ได้ช้อปปิ้งกันแบบจุใจ เพราะที่ Portland นั้น Tax Free จ้าาาา ไม่ต้องคอยบวก Tax ให้ปวดหัว เหมือนสวรรค์นักช้อปตัวจริงจ้า เห็นราคาไหน จ่ายราคานั้น และมีมาหมดทุกแบรนด์ จะ Sephora, Nike, Adidas, Apple และทุกอย่างที่นึกออก ของครบ แน่นเต็มshelf ลุยเลยจ้า
มาต่อกันที่เรื่องอาหารบ้าง ก่อนจะมาเราก็กังวลแหละ ว่าอาหารอเมริกาจะไม่อร่อย มาม่ง มาม่า ปลากระป๋อง และอาหารแห้งทั้งหลาย ขนมาเต็ม แต่ที่ไหนได้ อเมริกาไม่ได้มีแต่ Junk Foods นะยะ โดยเฉพาะที่ Portland ซึ่งเอาดีๆว่าแทบหาร้านจำพวก Food Chains ไม่เจอเลย! ซึ่งหนึ่งในร้านที่ได้ไปกินมาแล้วชอบมากๆก็คือ ร้านอาหารเช้า ชื่อน่ารักๆว่า Sweedeedee
ร้านเปิด 8 โมง เราไปถึง 8โมงนิดๆ ก็คนแน่นร้าน จนต้องนั่งข้างนอกแล้ว อะไรมันจะขนาดนั้น นี่มันวันธรรมดานะแก ไม่ทำงานทำการกันหรอไง! หลักๆเขาขายอาหารเช้าแบบเพื่อสุขภาพ อย่างที่ชอบมากๆ คือ Granola ใส่อะไรมาบ้างไม่รู้ มีกระทั่งดอกไม้ 555 แต่อร่อยจริง ขนาดเพื่อนที่เกลียดพวกซีเรียล พวกธัญพืชทั้งหลาย ยังต้องเอ่ยปากชมจานนนี้เลย
นอกจากนี้อีกร้านนึงที่เราประทับใจมากๆ ก็คือ
แวะอ่านที่เที่ยวอื่นๆ ใน Seattle และ Portland ต่อได้ที่นี่เลย
Northwest National Park, USA 2017 >> https://www.wheredowego.in.th/travel/north-america/northwest-national-park-usa-2017/
Story of Seattle, USA 2017 >> https://www.wheredowego.in.th/travel/north-america/story-of-seattle-usa-2017/