คนเราเวลาออกเดินทางมันแบ่งได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือออกไปลุยๆ กับแก๊งค์เพื่อน ไปไหนไปกัน “มึงไปกูไปเว้ย “( สุดท้ายโดนเทหมด 5555) กับอีกแบบนึงคือไปเพื่อพักผ่อน หนีหน้าเจ้านาย เบื่องานประจำ ชีวิตอ่อนล้าจากรถไฟฟ้าและฝนตกหนัก วันๆ ไม่คิดเรื่องอื่นนอกจากบอกตัวเองว่า “กูจะลาออก พักดื่มน้ำ ใจเย็นๆนะคะเพื่อนๆ” เงินทองของมีค่า เธอยังต้องกินต้องใช้ บางทีอาจจะอยากแค่หนีไปชาร์จแบต ออกไปเที่ยวเป็นเจ้าหญิง นอนดี กินดี ตื่นสายและนั่งชิวซักพักเพื่อต่อลมหายใจชีวิตการทำงานก็ได้นะ ลองเพิ่มทริปเบาๆ ให้มันเป็นรางวัลและสีสันในชีวิตดีมะ เราขอแนะนำหลวงพระบาง ทริปที่ตั้งใจขอทำตัวให้เหงื่อออกน้อยที่สุด! ไปพักที่แท้จริง ให้มันเป็น 3 วัน 2 คืนที่ตื่นขึ้นมาแล้วชิวเหมือนฝัน วันพักผ่อนในหลวงพระบาง <3
เราออกเดินทางกับแอร์เอเชียเหมือนกัน อย่าแปลกใจว่าทำไมพูดถึงกันบ่อย เพราะแอร์เอเชียเป็นสายการบินที่เรานึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เวลาคิดอยากจะไปอาเซียนใกล้ๆ แบบคิดอยากจะไปปุ๊ป จองปั๊ปแล้วออกเดินทางได้เลย ซื้อง่ายๆ จ่ายเท่าที่จำเป็น อาจจะดูจุกจิกสำหรับคนที่หันมานั่งสายการบินราคาประหยัดครั้งแรก แต่ซื้อบ่อยๆ เธอจะคล่องกว่า และประหยัดได้เยอะสำหรับทริปใกล้ๆ!
เส้นทางหลวงพระบาง แอร์เอเชียบินตรงออกจากดอนเมืองตอนบ่ายๆ บินแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เหลือเวลาชิวยามเย็นที่หลวงพระบางอีกเยอะ บางคนก็คิดว่า “เฮ้ย กูต้องออกเช้าต้องคุ้มที่สุด” อยากให้คิดใหม่ เพราะหลวงพระบางออกบ่ายๆ ก็ยังเหลือเฟือสำหรับการเที่ยว 3 วัน 2 คืน อย่าลืมว่าทริปนี้มาชิว ไม่ต้องรีบแหกขี้ตาตื่นมาสนามบินและแอร์เอเชียยังเป็นสายการบินเดียวจากกรุงเทพที่บินตรงด้วยเครื่องบินใหญ่อย่างแอร์บัส A320 ด้วยนะ
ชมวิวเมือง ดินเนอร์สวยๆ แบบโลคอล เดินล่องวัฒนธรรมที่ตลาดมืด
ยังไงดีคะกับวิวแบบนี้! เรารีบเก็บกระเป๋าเข้าโรงแรมก่อนเดินขึ้นพระธาตุพูสี เพื่อไปดูวิวพระอาทิตย์ตกดินพร้อมวิวเมืองหลวงพระบางแบบ 360 องศา ให้แดดอ่อนๆ แยงหน้าทำตาพริ้มถือกล้องถ่ายวิว แล้วหันมาบอกชายหนุ่มที่ไปด้วย .. “ขอบคุณนะคะที่พามา” ว้ายยย มโน ที่จริงคือเปตัวเอง 55555
เค้าบอกว่ามาหลวงพระบางไม่ขึ้นพระธาตุพูสีถือว่าไม่ถึง 55555 เหมือนไปเชียงใหม่แต่ไม่ไปดอยสุเทพ เหมือนมากรุงเทพแต่ไม่เจอวัดพระแก้ว เอ้าาาา! ที่นี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ พระธาตุพูสีเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบางที่ควรขึ้นมาดูวิวก็ส่วนนึง และมาแสดงความเคารพต่อสถานที่ เดินพอเหนื่อยขึ้นมาเจอวิวก็สดชื่นแล้ว
หลวงพระบางรอบนี้เราพักกันที่ 3 Nagas Luang Prabang Mgallery by Sofitel โรงแรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของย่านใจกลางเมืองมรดกโลก ตอนแรกเห็นว่าเป็นอาคารเก่า บอกตรงๆ ก็แอบกลัวนิดนึงแหละ หลอนตัวเอง 5555 แต่พอเข้าไปดูในห้องก็น้ำตาจะไหล เพราะที่นี่ทำได้ดีมาก ดูแลรักษาอาคารอย่างดี จัดไฟ จัดเตียงและองค์ประกอบต่างๆ ลงตัว และไม่น่ากลัว ที่ดีกว่าห้องคือพนักงานที่นี่น่ารักมาก โดยเฉพาะป้าแม่บ้านที่ยิ้มและทักเราทุกเช้าที่เจอกัน
ฝั่งตรงข้ามก็เป็นร้านอาหารเก๋ๆ พร้อมรถโบราณเป็นพร็อบให้มานั่งถ่ายรูปได้ด้วยนะ เย็นวันแรกที่เราถึงเลือกทานอาหารในโรงแรมนี่แหละ เพราะที่นี่ทำอาหารโลคอลได้อร่อยมากโดยเฉพาะจิ้นควายย่าง กับ ตะไคร่น้ำทอด ไม่เคยคิดว่ามันกินได้ อร่อยจนนึงว่าเป็นสาหร่าย 5555
แถมไม่ต้องไปตามหาเช่าจักรยานเพิ่มเติมเพราะที่ 3Nagas เตรียมจักรยานไว้ให้ทุกคนแล้ว ยืมไปปั่นกันได้ฟรีๆ และไม่ใช่จักรยานกิ๊กก๊อกนะฮ้า เป็นจักรยานที่เอามาเป็น
พร็อบต่อได้เก๋ๆ 5555 ปั่นได้ ไม่อายฟ้าอายดิน แต่อย่าลืมล๊อคล้อด้วยนะ
เย็นวันแรกหลังดินเนอร์กันอย่างมูมมามไม่เกรงใจร้านหรูที่ราคาไม่แพง เราก็ถีบจักรยานไปเดินตลาดมืดกันต่อ บอกตามตรงว่าไปดูเดินดูอย่างเดียวก็พอ เพราะของส่วนใหญ่บ้านเราก็มี เราคิดว่าสิ่งที่ควรซื้อคือพวกสินค้าแฮนด์เมดจากชาวบ้านจริงๆ มากกว่า เช่นผ้าปัก เสื้อลายหลวงพระบาง อย่าไปซื้ออะไรที่หาได้ตามบ้านเราเพราะราคาแรงมากกกกกกก คิดซะว่าไปเดินเอาบรรยากาศเป็นอีก Checklist นึงที่ต้องมาก็พอ
ฉันข้าวเหนียวกับอะไร เที่ยวนอกเมืองครึ่งวัน และ Cafe Hopping!
เราวันต่อมาเราตื่นเช้าหน่อยล้างหน้าล้างตา แต่งตัวสวยๆ กลิ่นตัวหอมๆ ออกมารอที่หน้าโรงแรม รอตักบาตรข้าวเหนียว ข้อดีของการพักที่นี่คือเส้นที่พระท่านบิณฑบาตร เริ่มต้นอยู่ด้านหน้าโรงแรมพอดี เราเลยได้มีโอกาสใส่บาตรพระท่านเป็นคนแรกๆ แต่ไม่ต้องกลัวบาตรเต็ม เพราะพระท่านมีเป็นร้อยรูป พร้อมกับเณรน้อยอีกเป็นร้อย รอให้เราใส่บาตร แต่บางทีก็สงสัยเพราะทุกคนใส่แต่ข้าวเหนียวหมดเลย แอบบงงอยู่เหมือนกันว่าท่านจะฉันกับอะไร 5555
เสร็จจากตักบาตรหน้าตาอิ่มบุญดูมีน้ำมีนวล เราก็ไปเดินเล่นตลาดเช้าดูวิถีชีวิตของคนที่หลวงพระบาง แต่ส่วนใหญ่จะขายอาหารสด บางคนอาจจะไม่สนใจแต่เดินดูก็เพลินๆ ดีเค้าว่าทานอะไรกัน ซื้อของสดไปทำอะไรกันต่อ ขนมยามเช้าแบบบ้านเราก็มีนะ ขนมครกน้ำตาล ข้าวมันสังขยา เดินกินไปเรื่อยๆ อร่อยดี
เราแนะนำให้เดินสุดตลาดจนมาโผล่ฝั่งแม่น้ำโขง มาตอนเช้าๆ แบบเรา จะเห็นสามีของป้าๆ แม่ค้าบางคน เอาเรือมาจอดเทียบรอรับ – ส่ง ไปฝั่งตรงข้าม ลุงๆ หลายคนใจดีมาก เราเลยถามว่าอยากล่องน้ำโขงซัก 30 นาที ลุงคิดเท่าไหร่? ลุงบอก 4 คน 300 บาทละกัน! เรารีบกระโดดขึ้นเลยเพราะไม่แพง
จบพาร์ทเช้าที่ประมาณ 7 โมงนิดๆ ถามว่าเวลาที่เหลือทำอะไร ? รีบอาบน้ำไปเที่ยวต่อหรอ บอกเลยว่าไม่ใช่กับที่นี่ 55555 เพราะเรากลับไปนอนกันต่อ แล้วลงมาทานอาหารเช้าโรงแรมแบบโลคอลประมาณ 10 โมง ก่อนจะนัดรถมารับออกไปเที่ยวแบบ One Day Trip ในราคา 1,000 บาท แต่รถที่เช่าไว้เป็นรถแวนแบบ 7 ที่นั่งอย่างดี เช่าไว้ประมาณ 5 ชั่วโมง ถือว่าคุ้มกว่านั่งรถพ่วงแน่นอน เราว่าราคาต่อการเช่าครึ่งวันประมาณ 1,000-1,500 รวมค่าน้ำมันเรียบร้อยแล้วถือว่าไม่แพง
เริ่มกันที่บ้านม้ง หมู่บ้านที่เด็กเยอะแบบแตกแตน เดินไปทางไหนก็จะวิ่งเข้ามาเล่นด้วย เราว่าหมู่บ้านนี้ที่ไทยอาจมีให้เห็นเยอะแล้วเราเลยไม่ค่อยตื่นเต้นกันเท่าไหร่ แต่ฝรั่งกรุ๊ปข้างๆ ที่มาเห็นตื่นเต้นกันมาก สาวไหม ปั่นด้ายกันใหญ่ ส่วนเราก็แวะแปปนึงเล่นกับน้องๆ แบบสาวสวยจากประเทศไทย เอื้อเฟื้อรักเด็ก ใครผ่านไปแถวนี้อย่าลืมซื้อลูกอมติดไม้ติดมือไปฝากน้องๆ ด้วยนะ
จุดต่อมาคือปางช้าง เราไม่แนะนำให้ขี่เพราะราคาฝรั่งมาก แพงกว่าบ้านเราเยอะ แต่ไปให้อาหารน้องยังพอรับไหว ที่นี่มีน้องช้างประมาณ 13 เชือก เราจ่ายค่าเข้าและให้อาหารน้องๆ ได้แบบใกล้ชิดและไม่จำนวนจำกัด คือแกะหยวกกล้วยจนเหนื่อยก็ยังไม่อิ่ม แกะกล้วยให้เป็นหวีก็ยังไม่พอ จนบอกตัวเองว่าพอเถอะ
มาถึงไฮไลท์ของหลวงพระบางอีกที่นึงอย่าง น้ำตกตาดกวางสี เค้าบอกกันว่านี่คือน้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง เป็นน้ำตกหินปูนที่ไม่สูงมากเท่าไหร่ แต่น้ำใสมาก สีฟ้าใสใส มองดูแล้วสบายตา แถมกระโดดเล่นจ๋อมแจ๋มๆ คลายร้อนกันได้ทั้งวัน
ก่อนทางเดินเข้าไปจะเจอศูนย์อนุรักษ์หมี ทางเดินที่นี่ทำไว้อย่างดี พาสูงวัยที่บ้านมาเที่ยวได้แบบชิวๆ เลยแหละ น้ำตกที่นี่สวยมาก ไม่ได้โม้ แต่ถ้าไปสายหรือบ่ายอาจจะหามุมถ่ายรูปยากนิดนึงเพราะนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำก็เยอะไม่แพ้กัน
จบ Half Day Trip เบาๆ ที่น้ำตกตาดกวางสีเรานั่งรถกลับเข้าเมืองอีกประมาณ 45 นาที ก่อนให้รถส่งเราที่โรงแรมก่อนขับจักรยานในเมือง Cafe Hoping แบบแสนเก๋ ชีวิตดี สะพายย่าม ใส่แว่น เหน็บหนังสือที่เอาไว้นั่งอ่านพร้อมเป็นพร้อบถ่ายรูปลงไอจี 5555
แวะพิพิธภัณฑ์หลวงพระบางซะหน่อย ที่นี่เก็บสมบัติชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศลาว ที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงพระบางมาก่อน เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตหลายพระองค์ ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองและกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในที่สุด ที่นี่ถ้าไม่ได้สนใจประวัติศาสตร์มากๆ เราว่าเดินดูรอบๆ ก้ได้ เพราะด้านในห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด
หลวงพระบางเป็นเมืองที่ปั่นจักรยานถึงกันหมดในตัวเมือง บางจุดอาจจะเหนื่อยแต่แต่ถือว่าออกกำลังกายก็ไม่เลวเลย เราแวะไปร้านฮิตอย่าง JOMA แวะชิมเค้กกับอเมริกาโน่เย็นซักแก้ว ร้านนี้ใครๆ ก็แนะนำ ถ้าไม่ถึงพระธาตุพูสี และมากิน JOMA ก็เหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบาง เราสั่งทาร์ตเลม่อน รสชาติกลมกล่อมใช้ได้ แต่บรรยากาศร้านเนี่ย อบอุ่น นั่งเพลินๆ ดูผู้คนสัญจรเรื่อยๆ ก็เพลินตาดี
นั่งพอหอมปากหอมคอเราปั่นจักรยานไปต่อค่ะ! ของฟรีรอเราอยู่ที่ Sofitel Luang Prabang ข้อดีของการพักโรงแรมเครือ Accor Hotels ในหลวงพระบางคือเราสามารถใช้ประโยชน์จาก Facilities ต่างๆ ของทั้ง 2 ที่ได้ เราพัก 3 Nagas Luang Prabang Mgallery by Sofitel ก็สามารถใช้สระว่ายน้ำที่โคตรสวย ฟิตเนสของ Sofitel ได้เช่นกัน
รวมไปถึงของฟรีอย่าง Afternoon Tea ที่มีทุกวันช่วงประมาณ 4 โมงเย็นของทุกวัน ก็ฟรีจ้า 55555 ว้ายเลิศ จ่ายถูกแต่ได้เยอะกว่า จักรยานไม่ต้องเช่า สระว่ายน้ำก็มี ฟิตเนสก็พร้อม รวมไปถึงอาหารเช้า ชา กาแฟ น้ำผลไม้ และ Afternoon Tea แบบนี้ก็รวมหมดแล้ว!
พระอาทิตย์ใกล้ตกดินหมดวันที่ 2 ของเรา ในหลวงพระบางเราออกไปเดินเล่นริมแม่น้ำคาน ข้ามสะพานไม้ไผ่ไปถ่ายรูปเล่น ก่อนไปนั่งจิบเบียร์เย็นๆ ที่บาร์ยอดฮิตอย่าง Utopia
มันเป็นโมเม้นท์ที่ดีมากเลย การมาเที่ยวแบบชิวๆ หรูๆ หน่อยแต่ราคาไม่ได้แพงโอเว่อร์ ความง่ายๆ ของที่นี่ทำให้เราสงบ และมีความสุขมากกกกกกกกกกกกกกกกจริงๆ!
ที่ Utopia ตอนกลางวันถึงช่วงเย็นๆ จะเป็นที่นั่งชิวๆ ได้มาก แต่ตกดึกมามันจะเปลี่ยนเป็นจุดเมามันส์แบบเต็มที่เหมือนกัน เราเองอย่างที่บอกว่ามาพักผ่อน อะไรเหนื่อยเกินไป เต้นจนเหงื่อออกง่ามนี่ต้องขอพักเอาไว้ก่อน 5555 เลยจบที่มื้อบ้านๆ ตามเพื่อนแนะนำอย่างหมูกะทะริมน้ำโขงนั่นเองแก๊
ตื่นสาย หน้าสวย กินบ้านๆ เดินชมเมือง ทำสปาและจกส้มตำ!
มาหลวงพระบางทั้งทีอย่าลืมกินข้าวเปียกและข้าวเปียกเส้น เราแวะไปกินอาหารเช้าแบบสายมากๆ เกือบ 10 โมงที่กาแฟประชานิยม ร้านที่คนไทยในหลวงพระบางเมาท์ว่า ที่คนไทยชอบ เพราะร้านนี้มันรสชาติแบบไท๊ยไทยนั่นเอง 555555 แต่เราไปกินก็ไทยจริงๆ อร่อยและคิดถึงบ้านได้อยู่เด้อกับกาแฟและชาเย็นโบราณ
คอกาแฟและสายคาเฟ่อย่างเราไม่ได้จบแค่ร้านนี้แน่นอน ปั่นต่อค่ะ! ปั่นไปร้านต่อไปที่ขนมปังและครัวซองค์อร่อยมากกกกกก La Beneton Cafe ร้านขนมปังฝรั่งเศสใกล้โรงแรมที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องแวะไป ร้านชิคๆ ที่ขับผ่านเฉยๆ กลิ่นครัวซองค์และขนมปังต่างๆ ก็หอมเตะจมูก มานั่งเช็คเฟซบุ๊ค อัพไอจี จิบกาแฟ อ่านหนังสือได้ซัก 2 พารากราฟก็คุ้มแล้วคุ๊ณณ
ก่อนจะกลับไปนอนเล่นที่โรงแรมก่อนเช็คเอาท์ เราแวะไปไหว้พระไหว้เจ้าที่วัดเชียงทองกันก่อนกลับเอาบุญคุ้มหัวกันซะหน่อย หลังจากเมืองจีนที่ไปกันมาแทบไม่ได้เข้าวัดเข้าวาเล๊ย วัดเชียงทองเนี่ยให้ความรู้สึกตอนเดินเข้ามาเหมือนกลับไปเข้าวัดที่เชียงใหม่ เพราะวัดนี้ได้อิทธิพลจากอาณาจักรล้านนา ล้านช้างมาค่อนข้างเยอะ สถาปัตยกรรมในวัดเลยดูเหนือๆ เหมือนภาคเหนือบ้านเรา สีสันงดงาม ดูมีชีวิตชีวา
เราเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเตรียมไปทำสปาผ่อนคลายชีวิตก่อนไปสนามบิน แต่ดั๊นนน ไปเจอ Hidden Places ร้านส้มตำร้านใหม่ๆ ในหลวงพระบาง อย่าง ZAAB OH LUANG PRABANG ที่นี่มีไก่ทอดขายด้วย พร้อมกับส้มตำรสแซ่บ แซ่บแบบไม่คิดชีวิต สารภาพตามตรงว่าไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าร้านอยู่ตรงไหน เอาเป็นว่าลองถามคนแถวๆ นั้นดูเด้อออ
ไฟลท์บินของแอร์เอเชียออกจากหลวงพระบางในช่วงเย็น ทำให้เรามีเวลาชิวในเมืองนี้อีก 1 วันเต็มๆ บางคนอาจจะอยากปั่นจักรยาน เดินเล่นดูวิถีชีวิตของคนหลวงพระบาง หรือจะไปทำสปาสวยๆ ก็ไม่ว่ากัน อย่างเราก็ไปทำสปากันก่อนไปขึ้นเครื่องที่ Sofitel เพราะลูกค้าที่พักจะได้ลดราคา 50% พูดตรงๆ คืองกแหละ แต่ถ้าใครอยากหาคาเฟ่นั่งชิวรอไปสนามบิน ขอเช็คเอาท์เลทนิดหน่อยถ้าห้องว่างแล้วพักผ่อนให้เต็มอิ่มก่อนกลับไปสู่ชีวิตกับงานประจำต่อก็ไม่ว่ากัน
บางคนบอกว่าหลวงพระบางเป็นเมืองที่แพงมากกกกกกก ไม่น่ามา และไม่มีที่เที่ยวที่น่าสนใจ เราว่าพูดแบบนี้มันก็ใจร้ายกับที่นี่ไปซะหน่อย เราเองก็เป็นคนที่เดินทางบ่อย เลยเลือกที่จะเก็บแต่ประสบการณ์และความทรงจำดีๆ ของแต่ละที่กลับมา เรารู้สึกเสมอว่าแต่ละที่ ที่ไป ทุกที่มีเสน่ห์ของมันเอง บางที่อาจเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตรใหญ่โต บางที่ก้เยอะเหลือเกินกับกิจกรรมผจญภัยและช๊อปปิ้งแบบโคตรครบครัน แต่บางทีอย่างหลวงพระบางคือเมืองที่รอให้เรามาใช้ชีวิตแบบช้าๆ ไม่รีบร้อน รู้จักการรอคอยและพักผ่อน บางคนอาจจะแสวงหาความไม่มีและชีวิตช้าๆ แบบนี้มาตลอดก็ได้นะ นั่นแหละ ถึงบอกว่าที่นี่คือเหมาะสำหรับการพักผ่อนที่แท้จริง
หลวงพระบางมาง่ายๆ ไหนๆ ก็กะจะชิวกันเต็มที่แล้ว นั่งรถอาจจะเหนื่อยเกินไป อย่าลืมนึกถึงแอร์เอเชียก่อนเดินทางมาหลวงพระบาง เพราะแอร์เอเชียบินตรงสู่หลวงพระบางจากดอนเมืองวันละ 1 เที่ยวบิน แถมบินครบคลุมทั่วอาเซียนมากที่สุด เอ้ออออ รอบนี้เราไม่ได้กินกระเพราหม่อมหน่อยแล้วนะ 5555 เปลี่ยนเป็นกระเพราเห็ดแบบสาวสวยรักสุขภาพ ไม่กินเนื้อสัตว์เพราะเมื่อวานกินหมูกะทะไปเยอะแล้ว อย่าลืม! สั่งอาหารก่อนเดินทางกับแอร์เอเชีย กับชุด Santan Combo Meal เริ่มต้นแค่ 100 บาทเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องเงินกีบนั้นไม่มีแลกจากไทย แต่สามารถใช้เงินไทยแลกได้เลย หรือสามารถแลกเงินดอลลาร์จากไทยไปแลกเป็นกีบก็ได้ บางคนบอกว่าได้เรทดีกว่า บาทแลกกีบ เรื่องนี้ก็แล้วแต่ทริคใครทริคมันเลยจ้า ส่วนเราแลกดอลลาร์ไปติดมือไว้เพราะสามารถจ่ายเป็นดอลลาร์ได้เลย โดยแรกที่ Superrich Thailand สีเขียว ต้องย้ำนะว่าสีเขียวเพื่อให้ได้เรทที่ดีที่สุดในแต่ละวันแล้วจะไม่เสียใจเล๊ยยย แถมมีมากกว่า 15 สาขาทั่วกรุงเทพและสนามบินภูเก็ต