หนาวแล้ว ต้องขึ้นภู แต่เบื่อความจอแจ ความแย่งกันเที่ยว ความอ้อร้อของคนรอบข้างและหวีดร้อง ขอที่เงียบๆ ชิวๆ มีแค่เราสองกับผู้ และเพื่อนอ่ะ เป็นไปได้มะ! บอกเลยว่าได้ที่ลำปางก็ดีอยู่ ที่นี่มันก็มีอะไรมากว่าเมืองรถม้าที่ไม่แพ้เชียงๆ ทั้งหลาย แน่นอน ความฮิปความชิคก็ต้องหลบไป กับสถานที่พักผ่อนสุดชิว พร้อมให้เอาเรื่องราวหนักๆทั้งปี ไปปล่อยกับลมหนาวให้ตัวลอยเบาหวิวเหนือเมฆ กับตารางท่องเที่ยวแบบหลวมๆ บอกเลย มีที่เที่ยวซ่อนอยู่อีกเยอะแยะ เค้าไม่ใช่เมืองทางผ่าน หรือเอาไว้ล้อว่าหนาวมากอย่างเดียวนะจ๊ะ
เรื่องเดินทางในประเทศก็หายห่วงจะจองใกล้ไกลไปปุ๊ปปั๊บก็มีให้เลือกเยอะแยะ อยากซื้อความสบายหน่อยไม่ต้องนั่งรวมกับชาวบ้าน ก็ชวนเพื่อนกันให้ครบรถตู้ แล้วก็สะดวกส่งตั้งแต่ถึงที่เที่ยว โอ๊ย มีอะไรสบายกว่านี้อีกมั้ยอ่ะ ขอแค่วันหยุดกับเงินเดือนเดือนที่ผ่านมาก็พอถมเถกับการไปพักผ่อนรับลมหนาวแบบไม่ซ้ำเพื่อนในเฟสแน่นอน
- น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน
ไฮไลท์ของทริป ที่คิดไว้แล้วว่าต้องมาเทคความชิวให้ถึงที่สุด รับบรรยากาศหนาวๆ ท่ามกลางไอร้อนๆของน้ำพุ เอ้ออออ ตอนคิดภาพมากับผู้ก็คือฟินสุดๆ กุมมือกันรับไออุ่นงี้ ตัดภาพมาสู่ความเป็นจริง มีแต่เพื่อนชะนี…แต่ก็ไม่คิดว่าเอ้ออ ไม่คิดว่าจะฟินสุดๆได้เหมือนกัน
นี่ตอนหกโมงสิบห้า นึกว่าอยู่ป่าหิมพานต์ที่มีกินรีกางปีกพับๆ รอโดนล่าม ดีงามม๊ากกกก ฟินมาก ใครอยากมีความรีเจนซี่ ก็เตรียมปีกสำเพ็งใส่พร๊อพมาให้แน่น ได้ฟีลลิ่งสวยสุดในแจ้ซ้อนแน่นอน สำหรับคุณผู้ชายก็เตรียมขากล้องมาตั้ง Time-lapse กันให้สาแก่ได้เลย ความเพลินไม่จบสิ้น พอเริ่มอินกับบรรยากาศแต่ตื่นเช้าไง กระเพาะเริ่มโหย ก็ต้มไข่กันไป ที่นี่ก็เหมือนน้ำพุร้อนทั่วๆ ไปนั่นแหละ คือโปรแกรมต้มไข่ ตามธรรมเนียมน้ำพุร้อน กินไปฟินไปกับบรรยากาศ จะไข่เป็ด ไข่ไก่ ไข่นกกระทา มีมาให้เลือกสรรเลยเตรียมแม็กกี้ไปด้วยนะ
ในส่วนของการตื่นเช้า นี่เตือนไว้ก่อน ใครไม่ตื่นมาดูความรีเจนซี่นี่ถือว่าพลาดมาก เอาจริงตื่นมาดูเถอะแล้วไม่ต้องห่วง ไม่หักโหม วางแพลนวันนี้ให้ชิวไปเลย ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น มีแค่ที่พักและน้ำพุร้อน ถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นจนเบื่อ แล้วก็กลับไปกินข้าวเช้าที่ที่พัก แล้วก็นอนสิจ๊ะ นอนไปจนเที่ยงค่อยตื่นกลับไปเที่ยวที่อุทยานต่อ กิจกรรมแน่นนะ มีทั้งที่แช่น้ำร้อนสำหรับแช่เท้า มีบ่อแช่นำ้ร้อนทั้งบ่อรวมและเป็นห้องแยก นวดไทยก็มานะแก ชิวสุด หรือสายลุยก็เดินต่อไปอีกนิดมีน้ำตกแจ้ซ้อน เดินเข้าไปไม่ลึก บรรยากาศก็สบายๆเงียบๆ นักท่องเที่ยวน้อยๆ ไม่ต้องแย่งกันสูดออกซิเจนบริสุทธิ์เลยแก ฟินนนนน
- วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (วัดพระบาทปู่ผาแดง)
เป็นอีกสถานที่ในลำปาง ที่แนะนำเลยว่าต้องไปตอนเช้า แบบเช้าตรู่ เพราะต้องไปดูทะเลหมอกและวิวลำปางแบบม่วนๆ บอกเลยว่าอันนี้คือตื่นเช้ามากๆ เพราะต้องเดินทางไปให้ถึงตีนเขาก่อนตีห้า เพื่อนั่งรถสองแถวขึ้นไปบนเขาต่ออีกเกือบยี่สิบนาที ไม่พอต้องเดินขึ้นเขาไปอีกเกือบ 1 กิโลเมตรเลยนะแก รวมๆกันแล้วก็คือตื่นตีสี่จ้าาา แต่คุ้มเว้ยแก วิวคือสุดลูกหูลูกตา รู้สึกอิสระ นานทีปีหนจะได้ตื่นเอาหน้ามารับแสงแดดอ่อนๆ ปล่อยทุกสิ่งที่หนักๆตลอดการทำงานทุกเรื่องราวหนักๆ ปล่อยทิ้งไปให้หมด ยืนสูดอากาศมองธรรมชาตินิ่งๆ แล้วปล่อยทุกเรื่องออกจากหัวให้หมด ทำตัวให้เบา ไหว้สิ่งศักสิทธิ์ นี่ยแหละสวรรค์บนดินจริงๆ
ส่วนด้านบนไม่ได้มีแค่จุดชมวิวชมทะเลหมอกนะ ยังเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์ ที่อยู่บนยอดเขามากกว่า 10 องค์ ภายในบรรจุไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างด้วยแรงศรัทธาของพระสงฆ์และชาวบ้าน ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนานนับ 10 ปี
- ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
ตอนแรกก็กะไว้ว่าคงเฉยๆ ไปให้มันครบๆ รูท มาลำปางก็ต้องไปศูนย์ช้างนั่นแหละ นานแล้วที่ไม่ได้ใกล้ชิดสัตว์ แต่พอเข้าไปถึงแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมช้างถึงต้องเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของไทย ใครจะไปรู้มาก่อนว่าที่นี่มีคุณพระ (ช้างต้นของในหลวง) เยอะมาก มีคุณพระอยู่ 2 มีช้างสำคัญอีก 4 เลยแหละะ! คุณพระทั้งหลายมียศเป็นเจ้าฟ้า ขี่ไม่ได้ ดูไม่ได้ ป้อนอาหารไม่ได้ ต้องขอสำนักพระราชวัง จะเล่าให้ฟังนี่พึ่งรู้จักคำว่า ‘ช้างนกต่อ’ 55555 โคตรเท่ ช้างนกต่อจะเป็นเพศเมียเดินสวยๆเข้าไปในป่าลึก เพื่อล่อช้างเพศผู้ออกมา ถ้ามีคชศาสตร์ 7 ประการ ของช้างมงคล ก็จะได้เป็นช้างเผือกคู่พระบารมี
ในศูนย์อนุรักษ์ก็มีกิจกรรมหลายส่วนเยอะๆมากไปกว่าการแสดงโชว์ หรือขี่ช้าง ก็คือโปรแกรมทดลองเป็นควาญช้างไปเลย แบบตื่นเช้าตรู่พาช้างไปเลี้ยงในป่า อาบน้ำ ป้อนอาหารเช้ามื้อแรก บลาๆๆๆ ชีวิตคูลๆ ฝรั่งนี่เห็นว่ามาแล้วมาอีก มากันหลายรอบ
- ถนนคนเดินกาดกองต้า
ถนนคนเดินชื่อเท่ๆ เป็นภาษาเหนือหมายถึง ตลาดตรอกท่าน้ำ เป็นถนนคนเดินเดินเลียบแม่น้ำวัง ไปจรดสะพานรัษฏา เดินกันไปชิวๆให้ฟีลดากานดา แอ้วหนุ่มเหนือกับฝรั่งให้เข็ดฝันเดินชิวๆรับลมหนาว สำหรับใครที่เป็นสายช็อป ก็เพลินกันไปกับสินค้าพื้นถิ่นมีตั้งแต่สากกะเบือ ยันเรือรบ ไม่แพ้ถนนคนเดินท่าแพเชียงใหม่แน่นอน ราคาก็เบาๆเมื่อเทียบกับของในเมืองหลวง
ส่วนสายกิน ก็กินกันไปเลยตั้งแต่ต้นจนสุดถนน อยู่ได้ทั้งคืนเงินไม่หมดกระเป๋าตังค์แน่นอน มีให้เลือกทั้งอาหารหายากของพื้นถิ่น หรือจะเป็นเมนูยำไข่น้ำแร่แจ้ซ้อน ก็ห้ามพลาดนะจ๊ะ ส่วนสายอาร์ต ถ่ายรูป ก็จอยนะ เพราะมีทั้งสถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน ไทย จีน พม่า ฝรั่ง ตามอาคารเก่าต่างๆ รวมไปถึงวัฒนธรรม และศูนย์ศิลปะล้านนา ได้บรรยากาศคลาสสิคของวันเวลาเก่าๆ ผสมกับความฮิป ความอุ่น และศิลปะร่วมสมัย ที่นี่ก็ยังมีร้านกาแฟน่ารักๆ เกสท์เฮาส์ คาเฟ่แอนด์โฮสเทล
- หล่มภูเขียว – น้ำตกแม่แก้ – น้ำตกเกาฟุ
ที่เที่ยวต่อไปนี้มีความ local สูงมาก อาจจะด้วยที่นักท่องเที่ยวยังเข้าถึงไม่ค่อยเยอะ โครงสร้างพื้นฐานก็เลยยังไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่นะ แต่รับรองว่าจะได้สัมผัสความเข้าป่าแบบชิวๆ ไม่ต้องออกแรงเยอะ และเข้าถึงธรรมชาติ ออกซิเจนบริสุทธิ์จริงๆ ด้วยรถสองแถวคุณลุงเนี่ยแหละ ที่นึกว่าออฟโร้ด ถามคุณลุงตลอดว่าอีกที่ไกลมั๊ย คุณลุงบอก 45 นาทีตลอด โน่นนนน ปาไปสองชั่วโมงจ้าาาาา นั่งกันกระเด็นกระดอนตูดชาไปเลยสองข้างถ้วน แต่คุ้มจริงๆแก กับออกซิเจนแท้ๆที่ไม่ต้องซื้อแบบอัดกระป๋อง
“หล่มภูเขียว” ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ มีความลึกมากจนมองเห็นเป็นสีเขียวมรกต ชาวบ้านแถวนี้เค้าถือว่าเป็นบ่อน้ำศักสิทธิ์มีเรื่องลี้ลับเยอะแยะ ใครชอบอะไรแบบนี้ก็ลองไปเสิชดู ส่วนตัวต้องรีบมาช่วงแสงลงจัดๆ ได้รูปสวยไปอวดเพื่อนไม่แพ้บ่อน้ำมรกตที่อื่นๆแน่นอน แต่เตือนก่อนนะ! ว่าเป็นบ่อน้ำศักสิทธิ์ ลงเล่นไม่ได้จ้าาา
น้ำตกแม่แก้ ตัวน้ำตกสูงประมาณ 10 เมตร แบ่งเป็นชั้นเล็กชั้นน้อยไปอีกมากกว่า 10 ชั้น แถวนี้เค้ามีบ้านพัก มีที่ให้เช่าเต๊นท์สำหรับคนที่อินธรรมชาติสุดๆ ลองหาข้อมูลแล้วก็ไปเข้าพักกันได้ รับรอง หนาวมากที่แท้จริงแน่นอนนนน
ถัดมาอีก 1 กม. ก็จะเจอ นำ้ตกเกาฟุ ความชิคก็คือรถไปถึงเลยไม่ต้องปีนป่ายอะไรให้เสียเวลา ใส่รองเท้าแตะไปได้ ไม่พอวิวตรงข้ามก่อนเดินเข้าไปคือสวยมากกกก เก็บเกี่ยวบรรยากาศสีเขียวไปเลยแบบ 360 องศา พอเริ่มเดินเข้าไปก็มีมอสขึ้นตามพื้นตัดกับแสงที่เล็ดลอดมาจากต้นไม้ใหญ่ เหมือนเดินอยู่แถวบ้านฮอบบิทอะไรแบบนั้น ประกอบกับเสียงน้ำตกไหลผ่าน โรแมนติกขั้นสุด อีกอย่างคือ นักท่องเที่ยวน้อยมากกก เหมือนเราจองปิดที่เที่ยวไว้ส่วนตัว ควรมา!
จุดนี้ ขอกราบรถกระบะคุณลุง โดยไม่ต้องรอให้ลุงมาตะโกนใส่หน้า แบบแรงๆเลยจ้าาาาา ฝ่าฟันความอุปสรรคของถนนมาให้พวกนี่ได้ไปถึงที่เที่ยวขนาดนี้ อะ กราบบบบ!!!
- กลุ่มผ้ามัดย้อมบ้านแสนตอ
ความฮิปในความพื้นบ้าน กับกิจกรรมที่ชาวฮิปๆชอบ คือการทำผ้ามัดย้อม ที่ลำปางนี่ก็มีกับเค้านะจ๊ะ เป็นกลุ่มผ้ามัดย้อมบ้านแสนตอ มีอุ๊ยๆ ป้าๆ คอยต้อนรับคอยสอนกันแบบกันเองสุด เราอยากเรียนรู้ อยากได้อะไรแบบไหนก็คุยกับอุ๊ยๆได้เลย เค้าเห็นพวกเราเหมือนเป็นหลานจริง ม่วนใจ๋มาก รู้สึกได้ถึงความฮิปที่ไม่ต้องคีปลุคแต่ได้ผ้าสวยๆกับไปอวดชาวโซเชียลด้วยนะเอ้ออออ
- รถม้าชมเมือง (สถานีจอดรถม้า ข้างวัดป่าดัวะ) และวัดพระธาตุลำปางหลวง
ไหนๆก็มาลำปางเมืองรถม้าละ จะพลาดได้ยังไงละ ใครอยากเป็นแม่มณีเตรียมชุดไทยมาทะลุกระจกพบความล้านนาพกที่ฟ้อนเล็บมาด้วยนะจ๊ะ ค่าใช้จ่ายก็น้อยนิดถือเป็นค่าอาหารม้า มี 2 เรท รอบเมืองเล็ก 150 บาท รอบเมืองใหญ่ 200 บาทหรือเช่าให้ไปรูทอื่นก็ชั่วโมงละ 300 บาท ก็นั่งชมเมืองลำปางที่ยังคงมีกลิ่นไอความเก่าแก่ผสมความโมเดิร์นเล็กน้อย ผ่านหอนาฬิกาประจำเมืองสุดคลาสสิค และบ้านเรือนไม้ ให้ฟีลลิ่งย้อนอดีตอินๆไปกับเจ้านางเหนือ เป็นความชิวที่แบบไม่ต้องสรรหา ไม่ต้องคิดเยอะ อากาศเย็นๆ อะไรก็ดีไปหมด
ในส่วนของใครที่บอกว่ามาลำปางแล้วไม่แวะไปสักการะวัดพระธาตุลำปางหลวง แล้วเหมือนจะมาไม่ถึง ก็เหมือนจริงๆอะแหละ มีโอกาสก็ไปสะสมแต้มบุญ สักการะให้สบายใจ ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆในปีใหม่ที่จะมาถึง ความสวยงามและความศักสิทธิ์ของพระธาตุยังคงอยู่เหมือนเดิมจากสมัยเด็กๆที่เคยมาสักการะ มีน้องม้าต้อนรับอยู่หน้าวัดเหมือนเคย ขอจบสวยๆ แบบใสๆ ของทริปนี้ด้วยใจบริสุทธิ์ และเบาหวิวจากเรื่องหนักๆทั้งปี และตักตวงลมหนาวก่อนกลับมาเจอรถติดในเมือง
เราสัญญากับตัวเองแล้วว่าต่อไปนี้จะพยายามหาเวลาเที่ยวไทยมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ พาเที่ยวต่างประเทศกันจนติดใจ เลยอยากเพิ่มความชิคให้บ้านเราบ้าง เราว่าคงสนุกน่าดู จะเที่ยวไทยให้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ จะพาไปดูที่สวยๆ ในบ้านเราบ่อยๆ จะเป็นอีก 1 กระบอกเสียงในการบอกให้กับทุกคนรู้ว่าบ้านของพ่อนั้นสวยแค่ไหน :)
