ต้อนรับเดือนแห่งความรักกับเมืองที่ใครๆ ก็หลงรักอย่างโอซาก้า เก็บครบทุกแลนด์มาร์ค และตื่นตันจนน้ำตาไหลพราก SUPER NINTENDO WORLD™ นี่คือทริป 4 วันเต็มอิ่มเที่ยวเพลินจนลืมเวลานอน และอยากกลับไปอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
ไม่มีอะไรดีต่อใจไปกว่าการได้แพลนเที่ยว และรีบกดจองตั๋วไปเที่ยวกับแก๊งเพื่อนอีกแล้ว และสำหรับเมืองแรกแห่งปีที่เราขอบินตรงไปลงทันทีได้แก่ ‘โอซาก้า’ แบบ 3 คืน 4 วัน นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือนญี่ปุ่น อากาศดี ฟ้าสวย ทุกอย่างดูเป็นใจและชวนอบอุ่นไปหมด บอกเลยว่าไม่กี่วันในโอซาก้าก็เที่ยวได้ครบหลากหลายอารมณ์สุด แค่นั่งเครื่องเบา ๆ บินตรงลงญี่ปุ่น 5 ชั่วโมง ก็ได้สัมผัสบ้านเกิดเมืองนอนโอซาก้าที่เราคิดถึง! ทั้งตะลุยของกิน ฟินต่อกับสวนสนุกในฝัน กระโดดขึ้น Shinkansen ออกไปเที่ยวนอกเมืองที่ Okayama และกลับมาเที่ยวต่อกับอีกหลากหลายโลเคชันดีต่อใจ
มาแพลนทริปแบบสุดยอดนักเดินทางมีแพลนไปกับ Klook ที่มีทุกกิจกรรมในโอซาก้าให้เธอเลือกแบบจัดเต็ม พร้อมดีลที่ดีที่สุด แถมรู้ Budget ล่วงหน้าโดยไม่ต้องถือเงินสดเยอะๆ ไปลุ้นซื้อตั๋วหน้างาน ยกระดับการเดินทางให้สะดวกสบายขึ้นอีกหลายเท่า และบินตรงจากกรุงเทพสู่โอซาก้ากับการบินไทยด้วยเครื่องใหม่ ลำตัวกว้าง จ่ายเงินครั้งเดียวรวมทุกอย่างแล้ว ทั้งที่นั่ง อาหาร และน้ำหนักกระเป๋าแบบจัดเต็ม ให้เธอพร้อมลุยในโอซาก้าตั้งแต่เริ่มเช็คอินที่สนามบิน
เครื่องใหม่ เครื่องใหญ่ นั่งสบายกว่า!
เราขอออกเดินทางแบบสะดวกสบายให้มันสาแก่ใจกับการบินไทยคนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือเลือกเช็คอินให้เรียบร้อยตั้งแต่เท้าเหยียบสนามบินที่ตู้ Self Service Check-In ด้วยตัวเองกันก่อนเลย จะได้ปล่อยตัวปล่อยใจชิลล์ เพราะเช็คอินปุ๊ป เดินไปโหลดกระเป๋าแบบไม่ต้องรอคิวนานๆ ก็ได้เวลาเดินช้อปปิ้งและเอ็นจอยโมเมนต์ดีๆ กับเครื่องดื่มและอาหารที่คัดมาแล้วของการบินไทยใน Royal Orchid Prestige Lounge กันก่อนขึ้นเครื่อง รอบนี้ไม่รีบเพราะตั้งใจไปนั่งรอแบบชิลล์ๆ และฝากท้องแบบจัดเต็ม เพราะการบินไทยเค้าเป็นตัวจริงเรื่องความอร่อย มีอาหารให้เลือกหลากหลาย บอกตรงๆ ว่าตอนเลือกเกือบตาลายเพราะมันน่ากินไปหมด
ใช้เวลาเดินทางประมาณห้าชั่วโมงนิดๆ ตื่นลืมตามาก็ถึงโอซาก้าแล้ว หลับสบายเพราะทุกที่นั่งกว้างทั้งหมด พื้นที่วางขาเยอะขึ้น! ปรับเอนเบาะได้มากกว่าใคร! ส่วนอาหารบนเครื่องการบินไทย ต้องยอมรับว่าดีขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อว่าจะดีและอร่อยได้มากกว่านี้อีกแน่นอน เพราะยิ่งได้กินของอร่อยบนฟ้ากับวิวสวยๆ มันดีงามจนล้นออกปาก
Best deal ever with Klook!
‘เราใช้ Klook เสมอ!’ สามารถใช้คำนี้ได้จริงๆ แบบไม่อวยเวอร์ ด้วยความเป็นคนที่ขี้เกียจต่อคิวนานๆ ในการซื้อของ ยิ่งเป็นการต่อคิวเวลาไปเที่ยวเพื่อจองตั๋วอะไรซักอย่างนึงก็ยิ่งเบื่อขึ้นไปอีกแบบ x10 แต่การใช้ Klook นอกจากมีเรื่องโค้ดส่วนลดที่เยอะแล้ว มันเป็นการการรันตีอย่างนึงว่าที่ที่เราจะไปเที่ยวกัน เรามีตั๋ว มีบัตร ให้เข้าแล้วแน่ๆ โดยไม่ต้องไปลุ้นต่อคิวซื้อหน้างาน และหลายๆ ที่ก็ยังมี Expess Entrance สำหรับคนซื้อตั๋วล่วงหน้าด้วย
ที่สำคัญคือสามารถแพลน Budget ได้เพราะสามารถจ่ายเป็นเงินไทยผ่านเว็บไซต์หรือ แอพพลิเคชันได้ทันที อย่างทริปนี้ก็เช่นกัน เราซื้อและจองทุกอย่างผ่าน Klook ล่วงหน้า สะดวกสบายขึ้นอีกเป็นกอง ใครที่จะตามรอยเราในรีวิวนี้สามารถซื้อบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ รวมไปถึง JR Pass ได้ทางลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลย
Universal Studios Japan
https://bit.ly/3X0etMR
Harukas 300
https://bit.ly/3JFkVWw
JR West Kansai Wide Area Pass
https://bit.ly/3JFl5gA
Osaka Amazing pass
https://bit.ly/3JKY1NL
teamLab Botanical Garden Osaka
https://bit.ly/40vgVOw
Nankai Line Airport Express
https://bit.ly/3YqRCeH
teamLab Botanical Garden Osaka
พอออกจากสนามบินปั้ป เราขอเข้าเมืองไปเช็คอินเก็บข้าวของทำธุระส่วนตัว เอนหลังพอหอมปากหอมคอ แล้วชวนเเก๊งค์เพื่อนพุ่งตัวออกไปทำคอนเทนต์อย่างไวด้วยการไปเช็คอินแบบฟินๆ ให้ได้รูปเก๋ไปลงโซเชียลที่ ‘teamLab Botanical Garden Osaka ’ ที่เพิ่งเปิดให้ชมครั้งแรกเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
เชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ teamLab มากันบ้างแล้ว เพราะเค้าทำ Installation Art รูปแบบดิจิทัลมาแล้วหลายประเทศ และอีกหลายเมืองในประเทศญี่ปุ่น แต่ครั้งนี้พิเศษเพราะจัดกันกลางแจ้งในสวนพฤกษศาสตร์นากาอิ ที่เคยเป็นที่จัดแสดงดอกไม้ตามฤดูกาล แต่เพิ่มความอาร์ตและรวมเรื่องราวของความเป็นอดีต ปัจจุบัน อนาคตเข้าไปด้วยแสงไฟสวยๆ ให้เราตื่นเต้นตั้งแต่ทางเข้า
สวนกว้างกว่า 240,000 ตารางเมตร สว่างไสวไปด้วยโคมไฟนับร้อย ราวกับอยู่ในจักรวาลที่ระยิบระยับสุดลูกหูลูกตา บางจุดตกแต่งด้วยแสงไฟนำทางให้เราจินตนาการไปต่างๆ นานา แต่ใดใดคือทุกมุมสวยชนิดที่กดลั่นชัตเตอร์แบบหมุนรอบตัวก็ยังสวย เพราะทางนู้นก็ดี ทางนี้ก็ใช่ไปหมด ใครที่อยากหากิจกรรมแปลกใหม่ทำในโอซาก้า เราขอแนะนำให้การมาดูงานศิลปะที่ teamLab เป็นอีกหนึ่ง Bucket List ที่ควรทำเลย
ซื้อบัตรเข้า teamLab Botanical Garden Osaka ในราคาที่ดีที่สุดพร้อมโค้ดส่วนลดมากมายที่ https://bit.ly/40vgVOw
Universal Studios Japan
ขอพื้นที่เล็กๆ ให้ยังเป็นเด็กไปนานๆ แต่อันนี้ไม่เล็กค่ะ แถมจัดว่าใหญ่ม๊ากกกก Day 2 ของเราคือการไปเติมเต็มความฝันวัยเด็กด้วยการเล่นเครื่องเล่นแบบสุดเหวี่ยง ให้ระดับอัตราการเต้นของใจได้เต้นตึกตักหัวใจพองโตกันอีกครั้งที่ ‘Universal Studios Japan’ ที่นี่มีกิจกรรมหลากหลายให้เราทำเยอะมาก เที่ยววันเดียวแน่นอนว่าไม่พอ ใครที่ตั้งใจอยากมาเล่นเครื่องเล่นแบบจัดเต็มก็แนะนำให้ซื้อตั๋ว USJ Express Pass ล่วงหน้ามาก่อนจะได้ไม่พลาดไฮไลต์สำคัญ เพราะคิวค่อนข้างแน่นเลย ไม่ว่าวันไหนคนก็เยอะ เยอะแบบเยอะมาก หน้าร้อนคนก็ยังเยอะ
Vibes ที่ดีงามของการมาเที่ยวสวนสนุกในญี่ปุ่นคือ ทุกคนจะแต่งตัวคุมโทนตามธีม เป็นคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ แบบจัดเต็ม เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเอง ย้อนความทรงจำวัยเด็กกลับมาอีกครั้งหนึ่งวัน และนี่ก็เป็นมวลรวมที่ทำให้บรรยากาศของการมาเที่ยวสนุกกว่าเดิมทุกครั้งที่ได้มา
แน่นอนว่าเป็นสวนสนุกระดับโลก ความเวอร์วังมันต้องไม่ธรรมดา เขาเลยแบ่งโซนตามธีมของตัวการ์ตูนและภาพยนตร์ในเครือ Universal แต่ละจุดอย่างยิ่งใหญ่ เสมือนเมืองจำลองย่อยๆ มีครบทั้งมุมถ่ายรูป เครื่องเล่นปังๆ และเหล่าตัวละครมาสคอนออกมารอต้อนรับทักทาย รอบนี้เราเลยขอคัด 4 โซนเด่นๆ มาให้ชมกันอย่าง SUPER NINTENDO WORLD™ /THE WIZARDING WORLD OF HARRY POTTER™/ Minion Park และ Jurassic Park
เราจะใช้เวลาทั้งวันในสวนสนุกเดินเล่นไปตามโซนต่างๆ ใครที่หิวก็ฝากท้องไว้ตามร้านอาหารและคาเฟ่ได้เลย แต่ละโซนจะตกแต่งร้านและเมนูตามธีมต่างๆ ได้น่ารักกุ๊กกิ๊กทั้งน้ำทั้งขนม ชนิดที่ต้องยกมือถือขึ้นมาสแนปภาพก่อนกินกันทุกคน แต่ราคาค่อนข้างสูงและแอบแรงไปหน่อยแต่อร่อยชัวร์ กินเป็นมื้อเที่ยง หรือมื้อพิเศษนานๆ ทีก็ไม่เลวค่ะ
เริ่มจากโซนใหม่แกะกล่องกับ ‘SUPER NINTENDO WORLD™’ เมืองสุดคิ้วต์จากเกมส์ Nintendo แห่งแรกของโลก ที่พัฒนาไม่เคยหยุดจนถึงขั้นมีสวนสนุกของตัวเอง ซึ่งตัวชูโรงพระเอกของงานจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ Mario และ Luigi สองพี่น้องนักโหม่งในตำนาน เพราะไม่ว่าออกมาภาคไหนคนก็ตามไปเก็บหมดทุกซีซั่น
ด้านในโซนนี้เค้าทำถึงมาก เพราะแต่งแต้มทั้งเมืองให้กลายเป็น Mario World สมจริงทั้งปราสาท ต้นไม้เอยใด เนินดินที่มีกล่องให้กระโดดโหม่งรับรางวัล ดอกไม้กินคนที่โผล่ออกมาทำเราตายประจำ รวมถึงวายร้าย Bowser และ Princess Peach เหล่าตัวละครมาสคอตที่ออกมาโชว์ตัวเดินพาเหรดให้เรารอต่อแถวร่วมเฟรมถ่ายรูปแบบฉ่ำ ใครชอบตัวไหนเป็นพิเศษก็วิ่งเข้าไปกอดได้เลย
แฟนคลับตัวจริงของ J. K. Rowling ต้องกรี๊ดออกมากับโซนนี้ที่ ‘THE WIZARDING WORLD OF HARRY POTTER™’ ให้เราสวมบทนักเรียนจากโรงเรียนประจำฮอกวอตส์ สานฝันด้วยการเดินเข้าไปในหมู่บ้าน Hogsmeade Village สาขาโอซาก้า ที่จะมีกิจกรรมให้ทำเรื่อยๆ เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ เราสามารถซื้อไม้กวาด เสื้อคลุมแล้วเดินเล่นร่ายคาถาตามจุดต่างๆ ที่เค้าเตรียมไว้ให้ได้ด้วยนะ
เดินเพลินๆ เข้ามาด้านในก็จะเจอกับรถไฟขบวนที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 จอดเทียบชานชาลาอยู่ ถัดไปเป็นปราสาทสุดอลังการ เอาจริงแฟนพันธุ์แท้พอได้มาเห็นอะไรแบบนี้มันก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ด้านในจะมีเครื่องเล่น Harry Potter and the forbidden Journey เป็นเครื่องเล่นมหัศจรรย์เหมือนได้ขี่ไม้กวาดไปกับแฮร์รี่ตะลุยไปในฮอกวอตส์จริงๆ พูดละน้ำตาจะไหล 55555 สนุกมาก ต้องลอง!
กิจกรรมมันเยอะไปหมดจริง เดินทัวร์ปราสาท ขึ้นรถไฟเหาะตีลังกาม้วนสามตลบ แวะทักทาย Fat Lady หน้าประตูทางเข้า Gryffindor ออกมาจิบชาที่ร้าน Madam Puddifoot และอีกหนึ่งไฮไลต์ที่สาวกแฮรี่ไม่ควรพลาดคือ บัตเตอร์เบียร์อร่อยๆ ใช่มะ ที่นี่ก็มีแต่เพิ่มเติมเข้ามาเป็นไอศกรีมบัตเตอร์เบียร์ด้วยนะเออ อร่อยไม่แพ้กัน!
อีกอันนึงที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาดในโซน ‘Jurassic Park’ เสียเงินค่าบัตรเข้ามาถ้าได้เล่นแค่อันนี้อันเดียวก็คุ้มละอะ 5555 มันคือ The Flying Dinosaur เป็นรถไฟเหาะ แต่ไม่เหาะธรรมดานะก็นอนเหาะไปเลยสิคะ ให้อารมณ์ฟีลลิ่งเหมือนโดนเทอโรซอร์บินมาโฉบเราขึ้นไปบนฟ้า แล้วมันก็บินสะเปะสะปะตามวิถีของมัน เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาตีลังกาห้ารอบแบบสะใจ คุ้มค่าแก่การเข้าแถวพูดเลย!
โซนอื่นๆ จะออกแนวขวัญใจเด็ก เพราะทีมงานก็จะเล่นใหญ่กับการที่มีแร๊พเตอร์หลุดออกมา เด็กๆ ก็จะกรีดร้องเหมือนกำลังโดนไล่ฆ่าอยู่จริงๆ ส่วนเราเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เรื่องเล่นใหญ่ไว้ใจเราก็กรี๊ดลั่นให้ดังกว่าไปเลยสิคะ
ฝึกภาษา Banana Language จากที่บ้านมากันให้พร้อม เตรียมตัวมาอินกับโซน ‘Minion Park’ พูดภาษาบานานานานา และเดินเล่นเพลินๆ ไปกับสีสันของบ้านเรือนที่ตกแต่งได้น่ารักสุดๆ ราวกับหลุดออกมาจากในการ์ตูน ความเก๋คือจะมีแก๊งมินเนียนซ่อนตามจุดต่างๆ คอยจับตาดูคุณอยู่แบบน่ารักไม่ไหว อยากวิ่งเข้าไปถ่ายรูปคู่กดชัตเตอร์จนเมมเต็ม
โซนนี้ออกแนวน่ารักวัยใส ด้านในจะมีคาเฟ่ ร้านรวงให้ช้อปปิ้งเยอะแบบไม่หวาดไม่ไหว ถ้าเป็นโซนเครื่องเล่นจะเป็นเกมเบบเบาสมอง เหมาะสำหรับเด็ก ๆ อย่าง Banana Cabana เกมยิงเป้า Space Killer นั่งรถ Freeze Ray Sliders ส่วนเครื่องเล่นหลักต้องยกให้ Despicable Me Minion Mayhem ที่ให้เรานั่งรถไฟไปชมฉากมันส์ๆ ในเรื่อง
ซื้อบัตรเข้า Universal Studios Japan ในราคาที่ดีที่สุดพร้อมโค้ดส่วนลดมากมายที่ https://bit.ly/3X0etMR
Shinseikai
ตกเย็นเราขอฝากท้องไว้ที่ย่าน ‘Shinseikai’ ย่านวัฒนธรรมใจกลางโอซาก้า สามารถเดินมาได้ไม่ไกลจากสถานีรถไฟทั้งเอบิสึโชและโดบุทสึเอ็นมาเอะ เลือกลงตามที่สะดวกได้เลย
ที่นี่เป็นย่านหาของกินอร่อยๆ ตอนกลางคืนที่ขึ้นชื่อว่าต้องมาให้ได้ แม้ช่วงโควิทจะทำเอาโลกปั่นป่วนทำให้ที่นี่ก็แอบเงียบเหงาไปบ้าง แต่ข้อดีคือคนไม่พลุกพล่านหาของกินง่าย แค่เดินผ่านๆ ก็รู้ได้เลยว่ามีร้านอาหารแทรกตัวอยู่ทั่วทุกตรอกทุกมุมล่อตาล่อใจเต็มไปหมด
ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องของกินแบบเต็มคาราเบล ระหว่างทางก็จะเต็มไปป้ายไฟสวยๆหน้าร้าน แข่งกับบรรดาสตรีทฟู้ด ขนมแปลก ๆ ที่กลับไทยไปชั่งน้ำหนักอาจจะต้องตกใจ! ทั้งสตรอเบอร์รี่เคลือบน้ำตาลเอย ปลาหมึกย่างเอย ทาโกะยากิ น้ำหวานเลิศๆ แต่มาถึงโอซาก้าทั้งทีอย่าลืมไปกิน ‘ทาโกยากิ’ กับ ‘คุชิคัตสึ’ ของทอดเสียบไม้ที่นี่อร่อยมากกกกก เพราะชินเซไกเป็นเหมือนบ้านเกิดเมืองนอนของทั้งสองเมนูนี้ ย่านนี้เลยมีร้านสไตล์นี้มากมายจนเลือกไม่ถูกว่าจะเข้าร้านไหนดี แต่เชื่อเหอะว่าหลับตาจิ้ม เอาเข้าปากก็ต้องร้องออกมาว่าสุโก้ยแทบทุกร้าน ความเป็นญี่ปุ่นจะไม่ทำให้
Kurashiki
ชวนกระโดดขึ้น Shinkansen ซื้อ Kansai Wide Area Pass ออกไปเมือง ‘Kurashiki’ ในจังหวัด Okayama กัน เราแนะนำว่าซื้อ Kansai Wide Area Pass บัตรแบบใช้เที่ยวได้ 5 วันในราคาถูกกว่าครึ่งจะดีกว่า ขนาดมาเที่ยววันเดียวราคานี้ยังคุ้มเลย และ JRwest ยังมี Pass ครอบคลุมไปได้อีกหลากหลายเส้นทางทั้งโตเกียว ฟุกุโอกะ ใครจะมาเที่ยวก็วางแผนเดินทางมาให้ดีช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อีกเยอะเลย
ซื้อ JR West Kansai Wide Area Pass ในราคาที่ดีที่สุดพร้อมโค้ดส่วนลดมากมายที่ https://bit.ly/3JFl5gA
ระยะทางเกือบ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ที่สำคัญวิวข้างทางคือดีงามมาก โดยเฉพาะช่วงอากาศเริ่มหนาว ถ้าโชคดีได้เจอหมอกจางๆ ตัดกับภูเขาสีเขียวสบายตาละก็เป็นโมเมนต์ที่ดีต่อใจจนหลับไม่ลงเลย
Kurashiki เป็นเมืองเก่าชวนอบอุ่นหัวใจ ที่มีความสวยงามของคลองโบราณ รายล้อมด้วยต้นหลิวรอบๆ และมีร้านของขายของฝากกระจุกกระจิกและขนมอร่อยๆ ให้เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ได้ตลอดเส้นทาง ในอดีตที่นี่ยังเคยใช้เป็นโกดังเก็บข้าวของพวกพ่อค้าคนรวยๆ ซึ่งปัจจุบันเป็นเขตอนุรักษ์ที่สามารถเดินเที่ยวชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ได้ทั่วเลย ถ้าใครขี้เกียจจะใช้บริการรถลากหรือล่องเรือไปตามคลองก็ได้ นั่งซึมซับบรรยากาศเมืองเก่าไปเรื่อยๆ โรแมนติกมาก
อ้ออย่าลืม! เราขอแนะนำให้แวะชิม ‘Fruit Parfait’ อย่างที่นี่จะมีไอศกรีมลูกพีชที่ฮอตฮิตมากกก เพราะเป็นบ้านเกิดของ Momotaro ลูกพีชที่นี่จะสดใหม่และหวานอร่อยเป็นพิเศษ พอเอามาทำไอศกรีมก็ยังมีเนื้อให้เคี้ยวหนึบๆ อยู่เล๊ยยยย!
รวมไปถึงการแวะชิมต่อกับ ‘Happy Pudding’ อีกหนึ่งเมนูที่อร่อยมาก ๆ จากร้าน YUURIN-AN Café ปักหมุดเซฟลิสต์เอาไว้ตามรอยกันได้เลย ช่วงที่อากาศหนาวๆ ได้ทานพุดดิ้งนุ่มๆ กับชาเขียวอุ่นๆ บอกเลยว่าเพอร์เฟคที่สุด
บริเวณเดียวกันยังมี Denim Street เล็กๆ ที่ทั้งตรอกร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเปิดร้านขายยีนส์เหมือนกันตลอดทั้งเส้น เหมือนเป็นการรวมทุกร้านที่ขายยีนส์ในเมืองให้มาอยู่ในละแวกเดียวกันแล้วก็ขายของกันซะเลย เชื่อว่าไปเดินเพลินๆ ก็ได้ของติดไม้ติดมือกันมาคนละตัวสองตัว
Harukas 300
เริ่มต้นเช้าวันใหม่แบบสดใสด้วยการขึ้นไปชมวิวที่สูงที่สุดในโอซาก้ากัน! มาถึงโอซาก้า เราขอพาขึ้นตึกไปชมภาพมุมสูงสวยสบายตาของเมืองนี้กันบ้างที่ ‘Harukas 300’ จุดชมวิวบนยอดตึก Abeno Harukas ที่มีหอชมวิว Harukas Observation Deck 300 บนชั้น 60 ให้ชมกันแบบ 360 องศา เรียกได้ว่าสูงสุดในโอซาก้าและประเทศญี่ปุ่นแค่พูดขาก็สั่น
ด้านบนยังมีคาเฟ่น่ารักๆ ให้นั่งพักผ่อนแบบชิลล์ และถ่ายรูปคู่กับวิวสวยๆ กว้างสุดลูกหูลูกตาของโอซาก้าทั้งได้เมือง ยาวไปจนถึงฝั่งริมทะเลที่เป็นที่ตั้งของสนามบินคันไซอีกด้วย ไม่ว่าจะขึ้นมาชมช่วงเวลาไหนก็สวยไปหมดทั้งตอนเช้าและช่วงค่ำๆ ที่แสงสว่างจากทั้งเมืองจะเปิดรอต้อนรับเรา เก๋แค่ไหนคิดดูขนาดวิวห้องน้ำยังสวยมาก ผนังทั้งแถบเป็นกระจก เอาจริงเข้าห้องน้ำยังสามารถชมวิวโอซาก้าได้เลย เริ่ดมาก!
นอกจากนี้ยังมีกิมมิกเก๋ๆ คือหมีสีฟ้า Abeno Bear ที่รักการนอนเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งเป็นคาแร็กเตอร์ประจำของที่นี่ให้ถ่ายรูปคู่แบบน่ารักๆ ตามจุดต่างๆ ส่วนใครอยากเพิ่มประสบการณ์ความหวาดเสียวที่นี่เค้าก็มีกิจกรรมชมวิวแบบเสียวสุดขอบตึกไปเลยชื่อว่า EDGE THE HARUKAS และกิจกรรมชมวิวจากลานเฮลิคอปเตอร์ชื่อว่า HARUKAS 300 Heliport Tour แบบจัดเต็มให้ตื่นเต้นกันอีกด้วย
ซื้อบัตรเข้า Harukas 300 ในราคาที่ดีที่สุดพร้อมโค้ดส่วนลดมากมายที่ https://bit.ly/3JFkVWw
Kaiyukan Aquarium
โลเคชั่นต่อมาขอพาย้อนวัยอีกครั้งไปชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ‘Kaiyukan Aquarium’ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และได้รับความนิยมเพราะสัตว์น้ำที่จัดแสดงในอควอเรียมค่อนข้างมีหลากหลายให้ตื่นตาตื่นใจ
โดยจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 โซน แต่ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่ Central Tank ที่สูงถึง 9 เมตรให้ชมปลาน้อยใหญ่ว่ายมาวนไปแบบ Full HD ตัดขาดจากโลกภายนอก และซึมซัมไปกับบรรยากาศที่เหมือนโดดดูดเข้าไปสู่ท้องทะเลแห่งมหาสมุทรแฟซิฟิคที่ทางพิพิธภัณฑ์ตั้งใจจำลองสภาพแวดล้อมออกมาให้คล้ายคลึงมากที่สุด
ด้านใน Aquarium มีคาเฟ่ขายกาแฟ อาหาร ขนม และไอติมโคนลายจุดสุดน่ารักที่เค้าออกแบบให้มีลวดลายลักษณะคล้ายฉลามวาฬพระเอกของอควาเลียมแห่งนี้ด้วย
ใครที่มาที่นี่ช่วงบ่ายแก่ๆ แบบเรา ก็สามารถเดินเพลินๆ ชมฝูงปลาให้จุใจจนถึงเย็นแล้วเดินอ้อมออกมาด้านหลังพิพิธภัณฑ์ จะเจอท่าเรือขนาดใหญ่ Port Of Osaka ที่ควรค่าแก่การไปนั่งดู Sunset ยามเย็น เพื่อรอรับพลังงานดี ๆ จากวิวพระอาทิตย์ตกดินพร้อมกันได้เลย
Dotombori
หากมีโอกาสมาเยือนโอซาก้า ถ้าไม่ได้มาเดินชมแสงสียามค่ำคืนและช้อปปิ้งแบบจุใจที่ย่าน ‘Dotonbori’ ก็เหมือนมาไม่ถึง โดยเฉพาะกิจกรรมถ่ายรูปคู่กับป้ายคุณลุงกูลิโกะขนาดใหญ่ที่โด่งดังไปทั่วโลก ถึงจะเป็นเครื่องยืนยันว่าเราได้มาถึงย่านโดทงโบริแล้วจริงๆ
โดทงโบริเป็นเหมือนย่าน กิน ดื่ม เที่ยว ช้อป แบบครบครัน สามารถเริ่มเดินยาวๆ ได้ตั้งแต่สะพานโดทงโบริบาชิไปจนถึงสะพานนิปปงบาชิ บรรยากาศชิลล์มาก เพราะตลอดสองข้างทางจะเป็นร้านรวง ร้านค้า ร้านเหล้า และของกินประดับประดาด้วยป้ายไฟที่ออกแบบมาประชันความโดดเด่นเห็นในระยะสองร้อยเมตร
ที่นี่สามารถเดินชิมของอร่อยของโอซาก้าได้ตลอดทั้ง 2 ฝั่ง เพราะของกินเยอะแบบถล่มทลายมากทั้งขาปูยักษ์ ซูชิราคามิตรภาพ ยากิโซบะ ราเมงรสเลิศ ไปจนถึงปิ้งย่างเนื้อที่พลาดไม่ได้ แต่ที่ยืนหนึ่งติดอันดับในย่านนี้ ก็ยังคงต้องยกให้สองเมนูยอดฮิตอย่าง ทาโกยากิไส้ปลาหมึกยักษ์ โรยด้วยแผ่นปลาโอแห้งราดซอสมาแบบฉ่ำๆ กับคุชิคัตสึของทอดเสียบไม้ชุบเกล็ดขนมปังที่อร่อยอย่าบอกใคร ที่มีร้านขายแทบทุกจุดบนถนน และที่บอกร้านไหนก็อร่อยเหมือนกันหมดเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศญี่ปุ่น
โดทงโบริจึงเป็นอีกหนึ่งย่านและ Bucket List ที่ต้องมาซึมซับบรรยากาศที่นี่ให้ได้ซักครั้งนึงในชีวิตก่อนกลับบ้าน
บอกแล้วว่าโอซาก้าเที่ยวง่ายแค่ 3 คืน 4 วันก็เที่ยวครบได้อรรถรสทุกโมเมนต์ เป็นเมืองเรียบง่ายที่แวะมาเที่ยวกี่ครั้งก็ยังฮีลใจได้เสมอไม่ว่าจะเป็นผู้คนใจดี วัฒนธรรมดั้งเดิม สีสันยามค่ำคืน และที่สำคัญของอร่อยเยอะแยะไปหมดเต็มสองข้างทาง ไปจนถึงการเดินทางที่ง่ายแสนง่าย เดินนิดเหนื่อยหน่อยก็แวะหยอดกาชาปอง เลี้ยวเข้าคาเฟ่ไปจิบชาให้ชื่นใจ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความน่ารักดีต่อใจเล็กๆ ในโอซาก้าที่เราอยากให้เพื่อนๆ ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งนึงในชีวิตแล้วจะตกหลุมรักโอซาก้าจนอยากกลับไปซ้ำๆ แบบพวกเราเลย
สำหรับใครที่จะเที่ยวในเมืองโอซาก้าเยอะๆ เราอยากแนะนำให้ซื้อ Osaka Amazing Pass เพราะเข้าสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมได้หลายอย่างมากๆ ในราคาที่ถูกลงและดีที่สุด ส่วนใครที่กลัวตกเครื่องบินขากลับ แนะนำให้เดินทางด้วย Nankai Line Airport Express ไปทันแน่นอนสบายหายห่วง!
ซื้อ Osaka Amazing pass ในราคาที่ดีที่สุดพร้อมโค้ดส่วนลดมากมายที่ https://bit.ly/3JKY1NL
ซื้อตั๋ว Nankai Line Airport Express ในราคาที่ดีที่สุดพร้อมโค้ดส่วนลดมากมายที่ https://bit.ly/3YqRCeH
และอย่าลืมว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและราคาแพงที่สุด เธอสามารถประหยัดเวลาและเที่ยวได้เต็มที่มากขึ้น เมื่อจองทุกอย่างล่วงหน้าในราคาพิเศษและดีลที่ดีที่สุดผ่าน Klook แถมบินตรงกับการบินไทยด้วยเวลาบินที่เหมาะกับคนไทย ประหยัดเวลาต่อเครื่อง อาหารถูกปาก และที่นั่งกว้างขวางสะดวกสบายก็ยิ่งทำให้ทริปของเธอนั้นพิเศษกว่าใคร 😊