ไทเปอีกครั้งหลังจากเปิดประเทศ นี่เป็นทริปเที่ยวง่ายๆ On Budget ที่เซ็ตเวลาไว้ 72 ชั่วโมง แต่เก็บที่เที่ยวแมสๆ ที่คิดถึงได้ครบถ้วน มาเริ่มต้นชาร์จพลังใจกันตั้งแต่ต้นปีจะได้มีแรงฮึบทำงานกันไปต่อยาวๆ
กลับมาไทเปรอบนี้ อากาศเย็นแบบที่สมการรอคอยพอให้เสื้อไหมพรมตัวเก่งได้ทำหน้าที่ของมัน แถมเจอแดดดีๆ จนประทับใจ และ Outfits ของทริปนี้ทั้งทริป เราเลือกใส่ American Eagle เป็นหลัก แบรนด์ที่ใส่สบายทุกการเคลื่อนไหว แถมมีดีไซน์และไซส์ที่หลากหลาย เนื้อผ้านิ่ม ยืดหยุ่นสูง เหมาะแก่การเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในทริปง่ายๆ สบายๆ ของพวกเรา
มาใช้เวลา 72 ชั่วโมงกันให้คุ้มค่าที่สุดกันที่ไทเป บินตรงฟูลเซอร์วิสสะดวกสบายกับการบินไทยด้วยเวลาบินตรงที่ดีที่สุดทั้งขาไปและขากลับ กับเมืองที่พร้อมให้หลงรักอย่างไทเป ฟรีวีซ่า หม่าล่าอร่อย ค่าเงินไม่แพง แถมเดินทางไม่นาน ตามรอยได้ทันทีกับเมืองที่จะทำให้เธอใจฟู
และอย่างที่เราบอกในตอนต้นว่าทริปนี้พวกเราเลือกใส่ชุดของ American Eagle เป็นหลัก เพราะปีนี้ทางแบรนด์เค้าอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางที่สนุกสนาน เป็น Great Moment ในการเดินทางและในชีวิตประจำวันของทุกๆ คน ที่เมื่อไหร่ที่ทุกคนกำลังออกไปทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ อยากให้นึกถึง American Eagle ยีนส์และเสื้อผ้าที่ใส่แล้วสะดวกสบาย และพร้อมจะกลายเป็น Outfits คู่ใจไม่ว่าจะออกไปทำอะไรก็ตาม เพื่อนๆ สามารถดูรายละเอียดเสื้อผ้าที่เราใส่กันในทริปนี้ พร้อมราคาได้ที่ https://bit.ly/3ZU9Jee
Fly direct from Bangkok to Taipei
ทริปนี้เราเลือกบินกับการบินไทยเหมือนเดิม ด้วยเวลาบินที่ค่อนข้างโอเคมากๆ คือออกจากกรุงเทพช่วงประมาณ 8 โมงเช้า และถึงไทเปช่วงเที่ยง ทำให้มีเวลาเหลือเฟือในการเที่ยวได้อีกครึ่งวันเต็มๆ ส่วนขากลับก็มีให้เลือกทั้งไฟลท์บ่าย หรือไฟลท์ค่ำ ตามสะดวก แต่ไม่ว่าจะไฟลท์ไหนๆ ก็ทำให้ไม่เพลียจนเกินไปเพราะถึงกรุงเทพช่วงเย็น และช่วงดึกก่อนเที่ยงคืน
สำหรับเราบริการของการบินไทยในชั้นประหยัดนั้นไม่ได้หวือหวาหรือเพอร์เฟคที่สุด ต้องเรียกว่าเบสิคด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเบสิคนี้แหละที่ทำให้อุ่นใจ ทั้งอาหารไทย ที่เดี๋ยวนี้หน้าตาและ Portion ใหญ่และดีขึ้น รวมถึงบริการของลูกเรือการบินไทย เป็นสิ่งที่เราประทับใจเสมอ พูดตรงๆ แบบไม่อวยเลย
ไทเปเป็นเมืองที่เดินทางง่ายมาก บางที่ที่เราไปสามารถเดินไปได้ หรือนั่งรถไฟฟ้าแล้วเดินอีกหน่อยให้ Heartbeat เพิ่มเล็กๆ พร้อมปะทะลมเย็นๆ คนไม่ชอบเดินอย่างเรายังเดินได้สบายๆ เลย จากสนามบินเพื่อนๆ สามารถนั่ง Airport Express ตรงมาลง Taipei Main Station ได้เลยใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น!
01 Ximending
แลนด์มาร์คแรกสำหรับการมาไทเปของเรา แหล่งรวมแฟชั่น ช็อปเสื้อผ้า ของกินอร่อยๆ เจ้าดังที่เป็นตำนาน หรือจะไว้นัดแฮงค์เอ้าไปคีบตุ๊กตาเล่นก็มี สำหรับสายหิว แนะนำว่ามาถึง Ximending ต้องได้กินบะหมี่อาจงสักรอบ มีคิวยืนรอหน้าร้านนิดหน่อย รอแปบเดียว บะหมี่ร้อนๆ ในถ้วยกระดาษก็มาอยู่ในมือเราแล้ว ฟีลลิ่งคล้ายๆ กระเพาะปลา และมีเครื่องเป็นไส้หมูพะโล้อร่อยๆ แอากาศเย็นได้กินของอุ่นๆ ก็มีแรงเดินเล่นรอบ Ximending พร้อมไปเดินช้อป คีบตุ๊กตาเล่นสัก 20 ตา
นอกจากบรรยากาศใน Ximending แล้ว ตึกที่เป็น Red House ทางเข้าซีเหมินก็เป็นจุดอยากจะให้แวะสักหน่อยเพราะบรรยากาศจะชิลๆ หรือไว้แวะพักจากความคึกคัก มานั่งชิลๆ จิบเครื่องดื่มให้อุ่นๆท้องก่อนกลับก็ดีนะ
02 Zhouji Meat Porridge
ย่านที่เดินไปไหนก็ไม่เหงาเพราะเจอคนไทยด้วยกันเยอะมากคือ แถววัดหลงซาน Lungshan Temple นี่แหละ ก่อนแวะเข้าวัด มีร้านข้าวต้มหมูกรอบร้านเด็ดแฝงตัวอยู่ ชื่อว่า Zhouji Meat Porridge เมนูเด็ดที่ต้องสั่งเลยสำหรับเราคือข้าวต้ม ส่วนหมูกรอบที่ทุกคนบอกว่าอร่อยมาก สำหรับเราให้ Average เพราะมันไม่กรอบเหมือนบ้านเราแต่ก็ไม่แข็ง กินคู่กับผักแกล้ม ซดข้าวต้มคู่กันคล่องคอ นอกจากหมูกรอกแล้วยังเมนูอื่นๆ ไก่หรือเครื่องในก็มี แต่เราแนะนำว่าต้องสั่งคือข้าวต้ม
03 Bopiliao Historical Block
ฝั่งตรงข้ามร้านข้าวต้ม คือย่านตึกเก่าสวยๆ อย่าง Bopiliao Historical Block ซึ่งเป็นย่านตึกเก่าของเมืองไทเปที่สมบูรณ์ที่สุดที่ทางการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ตึกอิฐแดงทั้งหลาย โดนแดดสะท้อนยามเช้าเป็นจุดที่ควรแวะถ่ายรูปเพราะสวยมาก แถมคนยังไม่เยอะ ได้ฟีลเดินโซนเมืองเก่าแบบ private ที่สุด
04 Lungshan Temple
วัดหลงซาน Lungshan Temple มาวัดเดียวแต่ได้ไหว้องค์เทพได้เกือบครบ อยากขอเรื่องอะไรที่นี่ที่เดียวได้ขอทุกเรื่อง เป็นหนึ่งสถานที่ที่จะเจอคนไทยเยอะมาก เผื่อใครไปคนเดียวอยากถ่ายรูปลองสะกิดถามคนข้างๆ อาจจะได้เพื่อนไทยช่วยถ่ายรูปให้ก็ได้นะ สายมูอย่างเรามาวัดทั้งทีต้องแวะซื้อเครื่องรางกลับไทยให้อุ่นใจ ที่นี่ก็มีขายแถมมีป้ายภาษาไทยให้อ่าน แบบไม่ต้องใช้แอพช่วยแปลภาษาเลย
ทั้ง 3 ที่นี้จะอยู่ละแวกเดียวกัน อยู่ไม่ไกลกันมากเพราะฉะนั้นใครอยากสลับแวะอันไหนก่อนหลังก็ทำได้เลย แต่แนะนำว่าควรมาตั้งแต่เช้าๆ หน่อย ออกจากที่พักซัก 08.00 น. จะได้มีเวลาเหลือๆ ไปเที่ยวที่อื่นกันต่อ
05 Chiang Kai-Shek Memorial Hall
แลนด์มาร์คสวยๆ กว้างๆ สำหรับคนมาเที่ยวไทเปครั้งแรกอย่าง Chiang Kai-Shek Memorial Hall ใครมาครั้งแรกแนะนำอยากให้มาเที่ยวสักครั้ง ความยิ่งใหญ่ อลังการที่นี่ บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของเจียงไคเช็ก บุคคลสำคัญของชาวไต้หวันได้ดีมากๆ นอกจากมาถ่ายรูปข้างนอกแล้ว ใครอยากเดินเล่นดูพิพิธภัณฑ์ข้างในก็ซื้อบัตรเข้าดูได้ หรือใครมาถูกเวลาก็จะเห็นการเปลี่ยนเวรของทหาร ที่เป๊ะปัง (แถมหล่อด้วย)
06 Rongjin Gorgeous Time
ใกล้ๆกับ Chiang Kai-Shek Memorial Hall ระยะเดิน 15 นาทีถึง มีคอมมูนิตี้เปิดใหม่อย่าง Rongjin Gorgeous Time ที่เอาบ้านข้าวราชการเก่ามาปรับปรุง แต่ร้านรวงที่มาเปิดก็คือมีความฮิป ร้านที่เราแวะเข้าไปชื่อ Good Cho’s เป็นคาเฟ่และมีเบเกิลให้เลือกหลายแบบมาก ระหว่างรอเบเกิลก็แอบไปช้อปของในร้าน มีแต่ของน่ารักๆ ให้เสียเงินอีกแล้ว จะสายคาเฟ่หรือสายทำคอนเทนต์ต้องมานะ
หลังจากที่เราได้ลองใส่ยีนส์ในหลายๆ รูปแบบของ American Eagle ต้องบอกเลยว่าจุดเด่นของสินค้าคือมียีนส์หลายทรงมากๆ และมีไซส์ รวมถึงความยาวของกางเกงให้เลือกเยอะ ซัพพอร์ตทุกรูปร่างและส่วนสูง ทำให้ไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบไหนก็ใส่สบาย เพราะเสื้อผ้าเค้ามีความยืดหยุ่นสูงนั่นเอง
07 Taipei Fish Market
เดินไปเดินมา ชักเริ่มหิวๆ มาไต้หวันมีทะเลล้อมรอบทั่วประเทศ ก็ต้องแวะไปหาอาหารทะเลสดๆ กินที่ Taipei Fish Market แนะนำว่ามาก่อนเที่ยง คุณจะได้ของสดและยังมีของให้เลือกอยู่เพราะถ้ามาบ่ายๆแล้ว ของจะเริ่มหมดแล้ว ส่วนราคา อย่าคิดว่ากินที่ตลาดจะได้ราคาถูก แต่ถึงราคาไม่ถูกแต่สำคัญคือเราจะได้กินของสดใหม่ และคุณภาพดีจริงๆ
08 Bishan Camping Area
จุดแลนด์มาร์คสำคัญ อย่างตึกไทเป 101 ใครอยากขึ้นไปดูวิว Landscape มุมสูงของไทเปก็ซื้อตั๋วขึ้นไปดูข้างบนได้ แต่คราวนี้เราขอชวนคุณไปดูตึกไทเป 101 จากจุดชมวิว Bishan Camping Area สำหรับใครที่ไม่ใช่สายเดินขึ้นเขาช้างเพราะหัวเข่าบอกว่าสงสารกูเถอะ ก็แนะนำว่ากด Uber มาเลย ราคาประมาณ 500 กว่าบาท แต่ได้วิวถ่ายรูปสวยๆ พื้นหลังเป็นไทเป 101 แบบสุดปังไปเลย
09 Sisinan Village Museum
ลงจาก Bishan Camping Area ก็แวะถ่ายรูปกับตึกไทเป 101 แบบใกล้ๆ ที่ Sisinan Village Museum เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัตถุโบราณของไต้หวันและของท้องถิ่นเดิม บอกเลยว่ามุมนี้ถ่ายตึก Taipei 101 ปังสุดในบรรดา Public Area ทั้งหลาย อาจจะเป็นเพราะ มีห้องน้ำ มีของกิน และมีหญ้าให้นั่งนุ่มๆ นั่นเอง 5555
10 Chun Shui Tang
Chun Shui Tang ร้านดังที่เคลมว่าเป็นร้านชาไข่มุกแรกของไต้หวัน แต่นอกจากชาไข่มุกที่คนมารอซื้อ ที่ร้านยังขายอาหารแถมบอกเลยว่าอาหารอร่อยด้วย โดยเฉพาะเมนูเต้าหู้ และผักต่างๆ นั่งพักขา ดื่มด่ำรสชาติชาไข่มุกไต้หวันออริจินอลฉ่ำๆ เรามาทานที่สาขา Xinyi ใกล้ตึก Taipei 101 ร้านนี้จริงๆ แล้มีหลายสาขามากๆ ที่หลายคนนิยมไปนี่สุดก็น่าจะเป็นที่ Chiang Kai-Shek Memorial Hall ที่เปิดตั้งแต่ 11.00 น. เป็นต้นไป
11 Raohe Night Market
ไทเปเป็นอีกเมืองนึงที่มี Night Market เยอะมากๆ ให้เลือกเดินกิน ช๊อปปิ้งในราคาที่ถูกใจกันสุดๆ แถม Street Food นี่ก็รสชาติเข้าได้กับคนไทย หวาน มัน เค็ม นัวๆ มีเผ็ดแซมบ้าง โอ้ยเดินกินกันไปทั้งคืนเลยสิคะ รอบนี้เราเลือกมา Raohe Night Market หนึ่งในตลาดกลางคืนชื่อดัง เพราะเค้ามีซาลาเปาอบโอ่งที่ได้ Bib Gourmand จาก Michelin อยู่ปากทางเลย สำหรับเราเฉยๆ แต่เพื่อนบางคนก็ชอบมาก
12 Taipei Xinhai City God Temple
นอกจากวัดหลงซานที่สายมูห้ามพลาดแล้วนั้น สำหรับคนที่กำลังตามหารักแท้ ไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาว เราขอแนะนำให้มาไหว้ที่นี่ Taipei Xinhai City God Temple เพราะคนไต้หวันก็เชื่อว่าที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มากๆ นอกจากเทพเจ้าองค์อื่นๆ ที่ช่วยประทานพรเรื่องหน้าที่การงาน แคล้วคลาดปลอดภัย สุขภาพร่างกายแล้ว ที่นี่ก็มี เทพแห่งความรัก ‘เย่วโหลว’ เทพเจ้าด้ายแดงเหมือนที่วัดหวังต้าเซียนในฮ่องกง แนะนำว่าควรมาเช้าๆ คนจะยังไม่เยอะมาก
อย่างเราก็ครึ้มอกครึ้มใจอยากมาเอาวันสุดท้ายก่อนไปสนามบิน ก็เรียก Uber จากโรงแรมมาเลยสิคะ ความรักรอเราอยู่!
13 New Mala Hotpot
มื้อที่ต้องกินให้มันถึงไทเปจริงๆ ก็ต้อง ชาบูหมาล่าไต้หวันสิคะ เราไปกินที่ร้าน New Mala Hot Pot ร้านบุฟเฟ่ต์น้องใหม่ที่กำลังดัง แนะนำว่าให้จองมาก่อนจะได้โต๊ะชัวร์ๆ สามารถจองออนไลน์ได้ด้วย (Link : https://inline.app/booking/-LjL6vW09dVGOC0tGamg:inline-live-1 ) ไลน์บุฟเฟ่ต์หลักร้อยแต่เหมือนได้กินหลักพัน เพราะมันเยอะมาก ถ้าเป็นสายเนื้อต้องสั่ง มีให้เลือกเยอะมาก ส่วนซุปที่ต้องสั่งแนะนำน้ำซุปหมาล่าอันนึงแซ่บๆ และเป็นซุปใสปกติอีกซักอัน บอกเลยว่าต้องมาโดน ไลน์อาหารว่าดีแล้ว ไลน์ขนมก็ไม่แพ้กันนะ
สำหรับใครที่อยากออกนอกไทเปไปนิดนึง จริงๆ มีหลายเมืองมากๆ ที่เราสามาถนั่งรถไฟออกไปเก็บแบบเช้าเย็นกลับได้ แต่ด้วยคอนเซ็ปต์ของทริปนี้คือขอมาที่แมสๆ ให้หายคิดถึง เราเลยเลือกนั่งรถ Local ที่ไม่ไกลมากไป Houtong Cat Village และจุดฮิตอย่าง Jiufen นั่นเอง 5555
14 Houtong Cat Village
เรานั่งรถไฟออกจาก Taipei Main St. ไปลงที่สถานี Houtong St. เลย เดินทางง่ายมากๆ ใครที่กลัวหลงหรือไม่รู้จะเริ่มยังไงแนะนำให้ถามจากจุด Information ในสถานี Taipei Main St. ได้เลย เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้และ Helpful มาก
เดิมแล้วหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านนี่ทำเหมืองกัน จนพอเริ่มมีคนย้ายออกบ้าง แต่ทิ้งไม่ได้พาน้องแมวไปด้วย จนออกลูกออกหลานกลายเป็นหมู่บ้านของเจ้าเหมียวสี่ขา แต่ไม่ต้องห่วงเพราะว่าที่นี่เขาดูแลและมีการจัดการสุขภาพน้องแมวเป็นอย่างดี สำหรับใครอยากมาเล่นก็แค่หาตัวที่เป็นมิตรและผูกมิตรไว้ และดูป้ายให้ดีว่าตรงไหนให้อาหารได้หรือไม่ได้นะ
หมู่บ้านแล้วจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งรถไฟ ฝั่งนึงจะมีพวกศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ความเป็นมาของเหมือง และร้านค้าต่างๆ และอีกฝั่งนึงจะเป็นเหมือนโซนที่พักอาศัยและมีร้านค้าต่างๆแซมอยู่ด้วย ลดหลั่นตามไหล่เขาลงมา ก็เดินดูได้ทั่วๆ แต่ระมัดระวังเรื่องเสียงกันด้วยนะ
15 Jiufen
เราไปต่อที่ที่ใครมาก็ชอบและหลงรัก อย่าง Jiufen ต้นแบบของหมู่บ้านอยู่ในการ์ตูนดังอย่าง Spirited Away เป็น Tourist Spot ที่ใครมาไต้หวัน หรือไทเปก็ต้องหาเวลาไปเที่ยว เพราะนอกจากเป็นหมู่บ้านที่มีจุดถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด อากาศที่นี้ก็ดีมากเพราะอยู่บนเขา เวลาเดินเข้าไปในตรอกซอย จะให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นคนในหมู่บ้านนั้นจริงๆ ถึงนักท่องเที่ยวจะเยอะมากๆ แต่บรรยากาศมันพาให้เราสนุกและเอนจอยกับจิ่วเฟิ่น เราเคยมาเที่ยวที่นี่ทั้งในโมเม้นท์แบบแดดออกแรงๆ ฝนตก และหนาวจัดจนครึ้ม จะบอกว่ามันน่ามาทุกๆ ฤดู อย่าถอดใจถ้าแพลนไว้แล้วว่าจะมาแต่ดันฝนตก ยังมาได้จริงๆ
มาที่นี่ก็อย่าลืมแวะกินบัวลอยอร่อยๆ ให้ร่างกายอบอุ่น หรือชาผลไม้ซักกาก็โอเคเลย หรือจะเป็นไอศกรีมผักชีที่โรยถั่วตัดกับผักชี และรสชาติไอศกรีมเป็นสัปปะรด หรือแวะไปกินชาดูวิวธรรมชาติ โมเม้นท์พระอาทิตย์ตกดินถ้าเจอแดดสวยๆ ก็คือโรแมนติกสุดๆ
กลับมาเที่ยวไทเปคราวนี้ มีได้เที่ยวจุดท่องเที่ยวที่คิดถึงและอยากกลับมาบ่อยๆ รวมถึงจุดเช็คอินใหม่ๆ ห่างหายจากการเที่ยวมานาน ไทเปก็ยังให้ความรู้สึกอบอุ่น ไม่น่าเบื่อ แถมเดินทางไม่ยากและไม่ต้องใช้วีซ่า อีกข้อที่สำคัญคือเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงมากจนเดินไป