Now Reading:

Go South to Krabi in Green Season!

Go South to Krabi in Green Season!
Go South to Krabi in Green Season!

หน้าฝนผ่านมาทีไรพวกเรากลับชอบมาเที่ยวทะเลมากเป็นพิเศษ ด้วยจังหวะที่คนน้อยกว่า ค่าใช้จ่ายทุกอย่างถูกลงจนใช้จ่ายสนุกเหลือเกิน แถมความเขียวของธรรมชาติ และความสวยของทะเลที่อาจจต้องลุ้นฝนบ้างแต่ก็ยังสวยเหมือนเดิม แถมได้ใช้ชีวิตกันได้แบบสบายๆ เป็นการพักผ่อนที่ไม่ต้องรีบต้องร้อน ละเมียดโมเม้นท์ดีๆ ไปเรื่อยๆ เน้นหนักในการพักผ่อนและทำกิจกรรมสลับกันบ้าง ให้เสียงคลื่น ลมโชยและเม็ดฝนคอยกล่อมตอนกลางคืนก็แฮปปี้แล้ว

ทริปนี้กลับมากระบี่กันอีกครั้ง น่าแปลกที่ใครถามว่าชอบกระบี่ไหม เรากลับตอบไม่ได้เพรารู้สึกเฉยๆ แต่กระบี่กลายเป็นจังหวัดที่เรากลับมาแทบทุกปี อาจจะเพราะด้วยความไม่วุ่นวาย อาหารอร่อย และมีที่พักดีๆ แถมหาดสวยครบครันในจังหวัดเดียวหละมั้ง เลยกลายเป็น Destinations สำหรับการพักผ่อนเฉยๆ ของเราไปโดยปริยาย!

นี่คือทริปเบาๆ 3คืน 4วัน เน้นพักผ่อน กินของอร่อยและนอนเอือด พร้อมกรึ่มๆ แก้มแดงระเรื่อยทุกวันในยามเย็น กับการพักผ่อนในที่พักของเครือ Accor เครือโรงแรมระดับโลกที่พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางและพักผ่อนแบบไร้ขีดจำกัดในทุกสเต็ปของการเดินทาง ได้เวลาเก็บกระเป๋า ทำตัวให้เบาสบาย และออกมาพักผ่อนที่กระบี่กัน

#wheredowegoTH #Accor #AccorLiveLimitless #ibisStylesKrabiAoNang #SofitelKrabiPhokeethra


Day 1 – Sofitel Krabi Phokeethra Golf & Spa Resort

ทริปในประเทศไม่ต้องตื่นเช้ามากเชื่อเรา! เราออกจากกรุงเทพสายๆ มาถึงกระบี่ช่วงบ่ายและใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 45 นาทีมาถึงโรงแรม เราพักกันที่ Sofitel Krabi Phokeethra Golf & Spa Resort (โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรากอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท) ตลอดทั้ง 3 คืน ที่นี่เป็นโรงแรมระดับลักชูรี 5 ดาวในเครือ Accor ที่สมาชิกสามารถสะสมคะแนนและได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมตามสถานะ

Go South to Krabi in Green Season!

โรงแรมตกแต่งสไตล์โคโลเนียลเหมือนพาเราย้อนกลับไปบ้านพักตากอากาศริมทะเลในยุคอาณานิคม ด้วยสีไม้ สีขาวและสีครีมสะอาดตา ดูอบอุ่นตั้งแต่บริเวณล๊อบบี้จนถึงห้องพัก เพราะความลักชูรีสไตล์ Sofitel นั้น ทำให้เรารู้สึกพิเศษเสมอเวลาเข้าพักไม่ว่าจะมุมไหนๆ ของโลกก็ตาม

Go South to Krabi in Green Season!

รอบนี้เราพักผ่อนกันในห้องพักแบบ Pool Suite และ Prestige Suite เป็น 2 Room Type ที่ดีที่สุดที่เปิดขายในปัจจุบัน ห้องพักนั้นกว้างขวางมากๆ แยกส่วนห้องนอนและห้องรับแขกอย่างชัดเจน แตกต่างตรงที่ Pool Suite จะเป็น Pool Access และมี Powder Room เพิ่มเติมอีกห้อง ส่วน Prestige Suite จะอยู่บริเวณชั้น 2 เป็น Ocean View ด้วยนะ

Go South to Krabi in Green Season!
Go South to Krabi in Green Season!

Toiletries ที่นี่ใช้ของดีมากโดยเฉพาะใครที่เป็นสมาชิก  ALL – Accor Live Limitless ตั้งแต่ Platinum ขึ้นไปหรือจองห้อง Suite จะได้ใช้ของดีอย่าง Balmain Paris หอมฉุยตลอดเวลา เราใช้เวลาโรงแรมกันทั้งวัน พักผ่อนบ้าง ดูทีวีบ้าง ออกไปนั่งชิวกันที่ Pool บ้าง Take A Moment ของใครของมันแม้จะมาด้วยกันก็ตาม เพราะทุกคนมี Goals คือต้องพักผ่อนให้เยอะที่สุด 555

Go South to Krabi in Green Season!

พอพระอาทิตย์เริ่มตก Dinner มื้อแรกของวันเราออกไปทานที่ร้านอาหารด้านนอกใกล้โรงแรมชื่อว่า Andalay Beach Bar & Cafe เลือกที่นี่เพราะเห็นรีวิวของคนอื่นที่ Sunset สวยมากๆ แต่น่าเสียดายว่าตอนเรามานั้นมีฝนปรอยนิดๆ

ส่วนอาหารนั้นคือไม่ผิดหวังเลยซักนิด อร่อยทุกจานจริงๆ สั่งได้หมดเลยแบบไม่อวย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อิตาเลี่ยน หรือพวกยำต่างๆ รสชาติแบบคนไทยทานได้ และราคาไม่แรงเกินไปเมื่อเทียบกับบรรยากาศและ Portion ที่ใหญ่มากๆ ถ้าจะให้แนะนำคืออย่าวู่วาม! ค่อยๆ สั่ง เพราะบางจานใหญ่มาก กินเหลือก็น่าเสียดายแย่เลย เป็นวันแรกที่กินอิ่ม นอนหลับตั้งแต่ลงเครื่องจนหัวถึงหมอนนุ่มๆ อีกรอบที่โรงแรม


Day 2 – Luxury Excursion

Go South to Krabi in Green Season!

เช้าวันที่ 2 เราทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร Maya (มายา) เป็นห้องอาหารเช้าของโรงแรม จะบอกว่าอาหารเช้าเยอะมาก มีให้เลือกแบบไม่หยุดไม่หย่อน รักที่สุดคงเป็นขนมจีนแกงใต้ ปาท่องโก๋และกาแฟเย็นๆ ซักแก้ว หรือใครชอบแบบ American Breakfast อาหารอินเดียหรือพวกสลัด Cold Cut และผลไม้ตามฤดูกาลที่นี่คือจัดเต็มในทุกๆ สเตชั่นเลยแหละ อยู่หลายวันก็ไม่มีเบื่อ เพราะเลือกทานได้แบบไม่ซ้ำกัน อิ่มก่อนจะซ้ำแน่นอน!

วันนี้จะออกไปเที่ยวเกาะแบบ Luxury Excursion ของทางโรงแรมซึ่งจริงๆ มีให้เลือกหลายเกาะมากที่สามารถไปได้ แต่แบบเบสิค ใช้เวลาไม่นาน และเพื่อนหลายคนก็ยังไม่เคยมา แถมใกล้โรงแรมแค่ประมาณ 15 นาทีก็คงหนีไม่พ้นเกาะห้องอีกแล้วค่ะคุณผู้ชม 555 สารภาพตามตรงว่าเราเบื่อเกาะห้องมากๆ เพราะมาแทบทุกปี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันชิวและสวยจริงๆ ปากบอกเบื่อ แต่พอไปถึงก็รีบแจ๋นลงไปเล่นน้ำ หามุมสงบๆ และหลับพักซักตื่น

Go South to Krabi in Green Season!

เราใช้เวลาครึ่งวันเช้ากับ Luxury Excursion ด้วยเรือแบบ Private Boat ของโรงแรม ซึ่งจะพาไปดรอปจุดต่างๆ มีทั้งเนินทรายที่ตอนเช้าสามารถลงไปนั่งปิกนิกทำคอนเทนต์ได้ และหมู่เกาะต่างๆ ช่วงนี้เราจะเจอพี่ชาวประมงเยอะหน่อยเพราะแมงกระพรุนเยอะมากๆ พี่เค้าจะตักไปขาย ได้ยินว่าราคาดีถึงตัวละ 5 บาทแหนะ

ส่วนไฮไลท์คงหนีไม่พ้นเกาะห้องและลากูนที่เราสามารถไปนั่งแช่น้ำเย็นๆ หรือดูวิวในลากูนแบบ 360 องศาก็ฟินอยู่นะ

Go South to Krabi in Green Season!
Go South to Krabi in Green Season!

เรากลับมาทานมื้อเที่ยงกันที่ Koh Poda Pool Bar (เกาะปอดะ พูลบาร์) เป็นห้องอาหารริมสระของโรงแรมจะบอกว่าอาหารง่ายๆ อย่างปลาหมึกย่าง ข้าวปลาแกะ โรงแรมทำอร่อยมากนะ 555 ไม่เชื่อต้องลอง เราก็ทานง่ายๆ แบบนั้นแหละ สั่งเลยค่ะ เนื้อย่าง ข้าวปลาแกะ และปลาหมึกย่างน้ำจิ้มแซ่บๆ พร้อมน้ำมะพร้าวซักลูก โอเคแล้วอะ เป็นมื้อกลางวันกับวิวสระที่ดีงามมาก

Go South to Krabi in Green Season!

ช่วงบ่ายสำหรับสายกิจกรรมสามารถว่ายน้ำเล่นในสระที่ใหญ่และยาวที่สุดในประเทศพร้อมเครื่องเล่น Wibit สุดมันส์ หรือจะเล่น Paddleboard ได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม! หรือจะนอนเปลชิวๆ ยามบ่ายหน้าห้อง Pool Suite ส่วนตัวก็ได้ สำหรับเราคนขี้เบื่อ เล่นอย่างละนิดละหน่อยก็เบื่อแล้วเลยเลือกไปทำสวยแทนที่ So Spa With L’Occitane ค่ะ

Go South to Krabi in Green Season!

เพราะ So Spa With L’Occitane ของที่นี่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ L’Occitane ทั้งหมด และในส่วนของห้องสปาก็ดูดีมากๆ สวย หรู ดูแพง และเงียบสงบเหมาะแก่การผ่อนคลายแบบลูกคุณหนู มีจากุซซี่สำหรับสองท่านสำหรับคู่รักหรือเพื่อนสาวที่ซี้กันก็อาบน้ำแร่แช่น้ำนมหลังทำสปาได้อย่างเป็นส่วนตัวเลย

Go South to Krabi in Green Season!

อย่างที่เราบอกไปในตอนต้นว่าสมาชิก ALLสามารถใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับสมาชิกได้แบบเต็มอิ่มมากๆ โดยเฉพาะสมาชิก ALL ระดับ Platinum ขึ้นไปสามารถใช้ Club Lounge ของโรงแรมได้ด้วย ซึ่งเรียกกันแบบหรูหราว่า Club Millésime (คลับ มิลเลซีม) ความพิเศษคือมี Afternoon Tea ให้ทานฟรีช่วงบ่ายของทุกวัน และมีช่วง Happy Hours ที่มี Canapés อร่อยๆ เสิร์ฟพร้อม cocktails และ Wines นานาชนิดแบบไม่จำกัดตั้งแต่ 17.30-19.30 น. ยิ้มกริ่มออกจากคลับกันถ้วนหน้า สำหรับใครไม่มีได้เป็นสมาชิกก็สามารถสมัครได้ฟรีและค่อยๆ สะสมคะแนนเรื่อยๆ แต่ถ้าอดใจไม่ไหวก็สามารถจองห้องพักแบบรวม Club Access ก็สามารถใช้คลับนี้ได้เช่นกัน

สำหรับมื้อเย็นเราฝากท้องไว้ที่ห้องอาหาร Venezia (เวเนเซีย) เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยนของโรงแรม รสชาติใช้ได้เลย แต่บรรยากาศอาจจะดูทึมๆ ไปนิด เราสั่งทั้งสปาเก็ตตี้ พิซซ่าและสลัด ทานพออยู่ท้องให้หลับสบาย และกลับไป Enjoy Moment กันต่อที่ Explorer Bar

Go South to Krabi in Green Season!

Explorer Bar เป็นบาร์สำหรับนักเดินทางที่ตกแต่งด้วยไม้สักและหนังสีดำสวยงาม ที่นี่มีบาร์เทนเดอร์ชาวต่างชาติที่ชำนาญมากๆ ค่อยปรุงเครื่องดื่มแบบเฉพาะตัวให้แต่ละคน เธอสามารถนั่งชิลๆ ได้ทั้งวันตั้งแต่ช่วงเย็นๆ จนถึงเที่ยงคืนกันเลย เราเลือกจบวันกันแบบชิลๆ ที่ Explorer Bar นี่แหละ ยิ้มกริ่มหลับสบายกันถ้วนหน้า บอกแล้วว่ามาพักผ่อนจริงๆ!


Day 3 – Railey Beach

Go South to Krabi in Green Season!

เราออกจากโรงแรมตั้งแต่เช้าตรู่ประมาณ 06.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีจากโรงแรมไปท่าเรืออ่าวน้ำเมา วันนี้จะเป็นวันแรกที่เราจะไปทำกิจกรรมที่ไม่ว่ามากระบี่กี่ครั้งก็ไม่เคยได้ทำเพราะกลัว 555 นั่นคือการปีนผาและโรยตัวจากหน้าผาแบบที่ต่างชาติชอบทำกัน เพราะที่นี่ความยาก ความสนุกนั้นติดอันดับโลก ที่นักปีนผาควรมาปีนให้ได้ซักครั้งในชีวิต!

เราเดินทางเข้าไร่เลย์จากท่าเรืออ่าวน้ำเมาใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 15 นาทีเท่านั้น ค่าเรือจะเที่ยวละ 100 บาทต่อคน แต่ถ้าเหมาจะลำละ 600 บาทออกได้ทันที นั่งได้ประมาณ 6-8 คน ถ้าไปกันเยอะๆ เหมาเลยจะคุ้มกว่าไม่ต้องรอให้เรือเต็ม

โรงเรียนสอนปีนเขานั้นมีเยอะพอสมควรเลยในไร่เลย์ ทุกคนสามารถเดินเลือกได้เลยว่าอยากใช้บริการเจ้าไหน ดูถูกจริตกับวิธีการสอนของใคร สามารถรสอบถามราคาแต่ละร้านได้เลยว่ามีแพ็คเกจยังไงบ้าง เราใช้บริการที่ร้าน Trek Rock Climbing School อยู่ตรงท่าเรือพอดี โดยซื้อแพ็คเกจปีนหน้าผาและโรยตัวจากถ้ำค้างคาว คนละ 1,500 บาท ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง

เริ่มจากปีนหน้าผาบริเวณหาดถ้ำพระนาง จะบอกว่าอย่าหาทำในการปีนเอง ควรมีผู้เชี่ยวชาญควรช่วยเหลือและดูแลตลอดการปืนหน้าผา เพราะอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ตลอดจริงๆ แต่ความฟินคือวิวแบบ 360 องศาด้านบนหลังจากปีนขึ้นไป ก็ไม่แปลกใจว่าทำไมต่างชาติถึงชอบมาปีนและรักที่นี่กันมาก

Go South to Krabi in Green Season!

ส่วนการโรยตัวจากถ้ำค้างคาวนั้น เราจะต้องเดินเข้าไปในป่านิดนึง แล้วเดินขึ้นเขาเข้าไปในถ้ำ ทางจะค่อยๆ ชันขึ้นจนถึงต้องใช้บันไดในการปีนป่าย พอถึงจุดสูงสุดมองลอดถ้ำออกไปจะเห็นวิวไร่เลย์ตะวันออกแบบกว้างสุดลูกหูลูกตา และเป็นจุดเดียวกันกับที่เราต้องโรยตัวลงไปด้านล่าง มาถึงตรงนี้ใครเปลี่ยนใจจะเดินลงขอบอกว่ายากกว่าโรยตัวเยอะมาก เพราทั้งมืดทั้งชัน เดินโรยตัวลงไปว่าจะเร็วและปลอดภัยกว่าแน่นอน

Go South to Krabi in Green Season!
Go South to Krabi in Green Season!
Go South to Krabi in Green Season!

เราใช้เวลาตั้งแต่เช้าจนถึงประมาณบ่ายสามที่ไร่เลย์ก่อนจะนั่งเรือกลับขึ้นฝั่งที่ท่าเรืออ่าวน้ำเมา เปลี่ยนชุด ล้างเนื้อล้างตัวให้เรียบร้อย ก่อนไปกินซีฟู๊ดกันต่อ เราเลือกทานที่ ร้านบ้านโกเล็ก ริเวอร์ไซด์ ร้านตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำและมีวิวป่าโกงกางแบบกว้างสุดลูกลูกตา รสชาติอาหารดีเลย แต่ราคาก็แรงนิดนึง เราสั่งทั้งกุ้งอบวุ้นเส้น ปูเนื้อนึ่ง หอยนางรม และอาหารใต้อื่นๆ เป็นมื้อที่ดีมากหลังจากเหนื่อยกับการปีนผาและโรยตัวที่ไร่เลย์

Go South to Krabi in Green Season!
Go South to Krabi in Green Season!

กินคาวเสร็จแล้วต้องต่อด้วยของหวานยอดฮิตของกระบี่อย่างโรตีหน้าโวค สี่แยกมนุษย์โบราณ ที่อร่อยถึงใจมาก เป็นโรตีเข้มข้มด้วยนมข้น ราดบนแป้งโรตีกรอบๆ หอมๆ เราสั่งมาแทบจะทุกอย่างทั้งแบบกรอบ ใส่ไข่ ใส่กล้วยหรือไมโล ดีทุกแบบจริงๆ กินคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ หรือชาร้อนที่ทางร้านเสิร์ฟให้ฟรีก็ฟินจนน้ำตาไหล

Go South to Krabi in Green Season!

เราปิดท้ายวันดีๆ ด้วยการไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ลานพระอาทิตย์หน้า อบจ.กระบี่ ตรงนี้เป็นเหมือนลานกิจกรรมของคนท้องถิ่นที่มาออกกำลังกายและใช้ชีวิตกันยามเย็น มีเรือรบหลวงและเครื่องบินรบที่ปลดประจำการแล้วจอดให้ถ่ายรูปกันเก๋ๆ ด้วย ถ้าวันไหนอากาศดีแบบเราก็จะเห็นพระอาทิตย์ตกสวยๆ ลับขอบฟ้าโดยมีวิวป่าโกงกางอยู่ด้านหลัง

Go South to Krabi in Green Season!

และสำหรับใครที่อาจจะกำลังแพลนกระบี่เป็นทริปลุยๆ Budget Trip เที่ยวกับเพื่อนเป็นฝูง เน้นทำกิจกรรม Outdoor เป็นหลัก อยากแนะนำอีกโรงแรมที่คุณภาพดีแต่ราคาถูกมากในเครือ Accor อย่าง ibis Styles Krabi Ao Nang (ไอบิส สไตลส์ กระบี่ อ่าวนาง) ราคาเริ่มต้นหลักร้อย แต่ทุกๆ ห้องรวมอาหารเช้าแบบจัดเต็มไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ที่นี่อยู่ในย่านอ่าวนางสามารถเดินไปเล่นน้ำหน้าหาดได้เลย และมี Shuttle Bus ของโรงแรมรับส่งไปที่อ่าวนางอยู่เป็นระยะ

ด้วยคอนเซปต์ของ ibis Styles ที่เน้นวัยรุ่นอย่างเราๆ ก็ทำให้ราคาไม่แพงมากนัก แต่มี Facilities ที่ครบถ้วนทั้งสระว่ายน้ำ โต๊ะพูล หรือบาร์เล็กๆ เอาไว้แฮงค์เอาท์ยามเย็น ที่นี่ยังขายอาหารแบบ Comfort Food ง่ายๆ ที่สามารถมานั่งทานแบบเร็วๆ ก่อนไปเที่ยวที่อื่นต่อ หรือซื้อเป็น To-go ง่ายๆ ไปทานระหว่างไปเที่ยวเกาะก็ได้เช่นกันนะ

และห้องพักขนาดกะทัดรัดสมราคา สะอาดสะอ้านก็เป็นอีกตัวเลือกดีๆ ของโรงแรมเครือ Accor ในย่านอ่าวนางเลย

Go South to Krabi in Green Season!
Go South to Krabi in Green Season!

กระบี่สำหรับเราเป็นเมืองง่ายๆ เอาไว้กินเอาไว้นอน เหมาะสำหรับการพักผ่อน โดยเฉพาะหน้า Green Season แบบนี้ที่ทุกอย่างถูกลงกว่าครึ่งแถมไม่ต้องแย่งกันกินกันใช้ คนน้อยเบาสบาย ต่อคิวไม่นาน เลือกนอนโรงแรมลักชูรีได้ในราคามิตรภาพ ลองแวะมาเที่ยวกระบี่กันอีกซักครั้ง เคยมาแล้วก็มาใหม่ได้ มาหากิจกรรมใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยทำ โรงแรมใหม่ที่ยังไม่เคยนอน และใช้ชีวิตให้ให้คุ้มค่าที่สุดสมกับการเดินทางได้อีกครั้ง

อย่าลืมว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เดินทาง อยากให้ทุกคนคิดว่านั่นคือรางวัล จะเล็กจะน้อยก็ตามเราต้อง Treat ตัวเองให้ดีและเพอร์เฟคที่สุด นั่งคือวันหยุดที่มีคุณค่าของเรา ส่วนตัวเราเองนั้นเลือกพักผ่อนในโรงแรม Chain ใหญ่ๆ เสมอเมื่อมีโอกาส เพราะเชื่อในการจัดการและระบบการดูแลและบริการที่ดี อย่างน้อยต่อให้บุกป่าฝ่าดงลำบากเที่ยวลำบากแค่ไหน ขอแค่กลับห้องพักแล้วได้นอนเตียงนุ่มๆ ห้องน้ำสะอาดก็ดีใจแล้วจริงๆ นะ อย่าลืมสมัครสมาชิก ALL ไว้ด้วยเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ระหว่างการพักผ่อนที่มากกว่าเดิม ทั้งคลับเลาจน์ อัพเกรดห้องพัก และอาหารเช้าฟรีในเอเชียและแปซิฟิกด้วยนะคะ

Go South to Krabi in Green Season!
Go South to Krabi in Green Season!

Go South to Krabi in Green Season!

Booking.com
Input your search keywords and press Enter.