ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 19 ที่ผ่านมาเราอยากเดินทางไปเมืองหนาวแต่ไม่หนาวมาก! อยากไปที่แดดจ้า แต่เย็นสบายและสามารถเที่ยวได้ทั้งวันโดยไม่ต้องกลัวมาจะมีพายุหิมะเข้าเมื่อไหร่ หลังจากพยายามเลือกเมืองต่างๆ มากมาย หวยก็ออกที่ ‘บาร์เซโลนา’ ประเทศสเปน เมืองในยุโรปที่ทั้งฮิปและสวย แถมอากาศช่วงต้นปีแบบนี้เมืองอื่นๆ ในยุโรปแทบจะติดลบ แต่ที่บาร์เซโลนานั้น กลางวันสิบกว่าองศา ส่วนกลางคืนก็เลขตัวเดียว ก็เลยคิดว่า “เอาที่นี่แหละ” เมืองสวยแถมอากาศช่วงต้นปีแบบนี้เมืองอื่นๆ ในยุโรปแทบจะติดลบ แต่ที่บาร์เซโลนานั้น กลางวันสิบกว่าองศา ส่วนกลอากาศดี ไม่มีพายุหิมะ ที่สำคัญคืออากาศไม่ติดลบด้วยจ้า
ทริปนี้เลยเป็นทริปตามใจตัวเองเพราะแพลนมาเที่ยวแค่ 4 วัน ตามเช็คลิสต์ที่ตัวเองอยากมาดู พร้อมกับมีเพื่อนคู่ใจคนเดิมแต่โฉมใหม่ ที่มอบสิทธิพิเศษและความสะดวกสบายให้เราตลอดหลายปีที่ผ่านมาอย่างบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจออกเดินทางไปด้วยกัน รีวิวนี้นอกจากจะพาเที่ยวบาร์เซโลนาแล้ว เราจะขอรีวิว Benefits ของบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจที่ใช้จริงบ่อยๆ เพราะคนเดินทางอย่างเราควรมีเจ้าบัตรนี้ติดตัวไว้ซักใบ อะ! อย่าพึ่งหยุดอ่าน บอกเลยว่ารีวิวนี้ไม่อวยเกินจริงชัวร์
Smooth As Silk
เราออกเดินทางจากกรุงเทพไปลงที่บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมกับการบินไทยก่อน ปัจจุบันไม่มีสายการบินที่บินตรงจากไทยไปถึงบาร์เซโลนาหรือเมืองอื่นๆ ในสเปนเลย เพราะฉะนั้นการเดินทางมาบาร์เซโลนาจากไทย ยังไงก็ต้องแวะหนึ่งครั้ง เราเลือกบินตรงจากกรุงเทพมาถึงบรัสเซลส์ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง นอนยาวๆ หลับเต็มตื่น ก่อนจะต่อเครื่องจากบรัสเซลส์ไปบาร์เซโลนาใช้เวลาแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ดูรีวิวการเดินทางกับการบินไทยต่อ คลิกที่นี่เลย
แต่ก่อนจะออกเดินทางมาถึงบรัสเซลส์ได้เนี่ย! เราเดินทางวันธรรมดาทำให้ค่อนข้างกังวลเรื่องรถติดมากๆ แต่ บัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจก็ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเวลาเร่งรีบที่ต้องการไปสนามบินได้อย่างแสนเก๋ เพราะบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจใบนี้มาพร้อมกับบริการรถลีมูซีน รับ-ส่งฟรีจากบ้านไปยังสนามบินที่ร่วมรายการทั่วเอเชีย แปซิฟิก ปีละ 2 ครั้ง (1ครั้งต่อทริป) เปลี่ยนทริปที่ต้องตาลีตาเหลือกไปขึ้นเครื่อง เป็นนั่งรอรถลีมูซีนสวยๆ อยู่ที่บ้าน พร้อมมีคนขับรถมารยาทงามมารับถึงที่กันดีกว่า สิทธิพิเศษนี้คุ้มที่สุดคือใช้ที่ญี่ปุ่นขากลับกรุงเทพ เพราะปกติค่าแท็กซี่จากโรงแรมในตัวเมืองโตเกียวมาสนามบินนาริตะก็หลายพันบาท แต่ถ้าใช้สิทธิ์ของเจ้ารถลิมูซีนนี้ก็นั่งฟรีไปเลย
มาค่ะ! มาเริ่มเที่ยวบาร์เซโลนากันดีกว่าแม้ทริปนี้เวลาจะสั้นแต่ก็ฟินมากกก เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังแพลนทริปเที่ยวยุโรปอยู่ เผื่อเวลาไว้ซัก 4 วัน แล้วปันใจแบ่งมาให้บาร์เซโลนาก็จะฟินเวอร์นะคะบอกเลย ทริปนี้เราจะเดินตามรอยดูงานของ Gaudi ศิลปินเอกกัน ขอแนะนำเป็น Checklist เพื่อให้เพื่อนๆ สะดวกแก่การตามรอยเด้อ
la Pedrera (Casa Milla)
พูดถึงบาร์เซโลนาจะไม่รู้จักชื่อนี้ไม่ได้เลยคือ Antoni Gaudi พ่อมดแห่งวงการสถาปัตย์ ที่เค้าเชื่อว่าเส้นตรงนั้นสำหรับมนุษย์ ส่วนความโค้งเว้าต่างๆ นั้นสำหรับพระเจ้า ผลงานของเค้าเลยเป็นสถาปัตยกรรมแบบไม่มีเส้นตรง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยในยุค 20’s หลายๆ คนเคยมองว่า Gaudi มันบ้า! มันสร้างอะไรของมันวะ! แต่ปัจจุบันผลงานของเค้าได้ถูกยกย่องว่านี่คือศิลปินเอกของโลก ที่ผู้คนต่างหลั่งไหลมาบาร์เซโลนาเพื่อมาดูผลงานของพ่อมดแห่งวงการสถาปัตย์คนนี้!
ที่แรกที่เรามาคือ la Pedrera (Casa Milla) บอกตรงๆ ว่าค่าเข้าสถานที่พวกนี้แพงมาก ควรเลือกเข้าในที่ที่เราสนใจและอยากเข้าไปดูจริงๆ ประวัติคร่าวๆของที่นี่คือ Mr. Pere Milà อยากจะสร้างบ้าน เลยให้ Gaudi มาออกแบบให้พ่อมด Gaudi นี้นางเป็นคน หลงไหล และอินกับธรรมชาติทั้งหมด ความโค้งเว้าจากใบไม้บ้าง ผนังจากเปลือกต้นไม้บ้าง หรือแรงบันดาลใจจากแมลงต่างๆ ถูกสร้างออกมาเป็นบ้านหลังนี้
ปัจจุบันที่นี่ก็ยังเป็นอพาร์ทเมนต์ที่มีคนอาศัยอยู่จริงๆ แต่ไฮไลท์ของมันคือดาดฟ้าที่ๆ Gaudi สามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ออกมาได้เต็มที่ เป็นศูนย์รวมปล่องแบบน่ารักเต็มไปหมด แนะนำเลยว่าควรขึ้นมาดู มันน่ารักมาก
Catedral de Barcelona
วิหารบาร์เซโลนาที่คนนิยมมาทำพิธีมิสซากันที่นี่ แต่ช่วงที่เราไปนั้นคนเยอะมาก จนเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าได้เฉพาะผู้ที่เขาไปทำพิธีเท่านั้นและกำหนดเวลาให้นักท่องเที่ยวเข้าเป็นรอบ ทำให้เราอดดูพิธีมิสซาในโบสถ์ประจำเมืองบาร์เซโลนานี้ ที่นี่เข้าชมฟรี เราเลยแวะกลับมาดูด้านในอีกรอบวันที่เค้าเปิดให้เข้าไปได้ ก็บอกว่าไม่ผิดหวัง! อาจจะไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา แต่ก็ขลังเลยทีเดียวกับศิลปะแบบโกธิคภายในโบสถ์ เราว่านี่เป็นอีกหนึ่งโบสถ์สวยในยุโรปเลยนะ ควรแวะมาดูซักครั้งเด้อ ช่วงที่เราไปมีเหมือนวงออเคสตร้าเล่นให้ดูกันฟรีๆ ด้านหน้าโบสถ์ด้วย แล้วชาวบาร์เซโลนาก็ออกกำลังกายตามจังหวะ
ใกล้ๆ กับโบสถ์ยังมีถนนยอดฮิตอย่าง La Rambla ถนนช๊อปปิ้งของเมือง ถ้าจะหาซื้อของฝากหรือของจุ๊กจิ๊กน่ารักก็ต้องมาซื้อกันที่นี่แหละ แต่! ระมัดระวังตัวกันด้วยเสมอ เพราะแถวนี้โจรชุกชุมมาก ระวังโดนล้วงกระเป๋าสตางค์ด้วยนะ
การเดินทางในบาร์เซโลนานั้นแสนสะดวกแทบไม่ต้องนั่งแท็กซี่เลย เพราะบัตรใบเดียวสามารถขึ้นได้ทั้งรถบัส รถไฟใต้ดิน รวมถึงรถไฟไปสนามบินด้วย เราซื้อแบบ Unlimited 3 วัน ราคา 22.90 ยูโรถือว่าคุ้มมาก เพราะถ้าซื้อแยกเที่ยวก็ตกประมาณ 2 ยูโรกว่าๆ แล้ว ทั้งนี้ก็แล้วแต่คนด้วยเพราะบางสถานที่ก็เดินถึงกันหมดอาจจะไม่ต้องใช้พวกขนส่งสาธารณะ
สำหรับเรื่องที่พักนั้น บาร์เซโลนาเป็นเมืองที่น่ารักอีกอย่างนึงคือ ค่าที่พักไม่แพง! ไม่แพงของเราไม่ได้หมายถึงการนอนโฮสเทล แต่เราต้องอัพเกรดให้ชีวิตมีระดับขึ้นมานิดนึงนะฮ้า คือการเลือกนอนโรงแรม 3-4 ดาวซึ่งบางทีรวมๆ แล้วนอนแบบนี้จะถูกกว่านอนโฮลเทลซะด้วยซ้ำ แถมคุ้มกว่าเดิมไปอีกถ้าจองโรงแรมผ่านบริการเลขาส่วนตัวด้วยบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจ
Complimentary 4th night คือโปรแกรมพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจแบบเรา คือ นอนที่ไหนติดต่อกัน 4 คืน จะฟรีทันทีคืนที่ 4 ไม่ว่าจะราคากี่บาทก็ตาม จะจองโฮสเทลหลักร้อย หรือโรงแรมหลักหมื่นก็ฟรีเหมือนกันถ้าถือบัตรซิตี้เพรสทีจ วิธีเช็คว่าโรงแรมไหนที่เข้าร่วมรายการบ้างคือให้ถามบริการเลขาส่วนตัวที่แถมมากับบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจถือสายรอไม่นานเลย เราเคยให้เลขาส่วนตัวจองร้านอาหารมิชลินสตาร์ 3 ดาวที่นิวยอร์ก ใครๆ ก็บอกว่าจองยากและเลขาส่วนตัวของบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจสามารถจองได้! และจัดการให้เราอย่างรวดเร็ว ประทับใจมากจริงๆ
ทริปนี้เราเลือกพักเครือโรงแรมบูทีคของยุโรปชื่อว่า Room Mate โรงแรมที่พักชื่อว่า Room Mate Anna เป็นธีมใต้ท้องทะเลตอนเช็คอินพนักงานอัพเกรดห้องให้ฟรีอีกหนึ่งระดับ ห้องนี้เป็นธีมปะการังสีแดง เดินเข้าไปทำให้รู้สึกเฟรชๆ เวลาตื่นนอนห้องนั้นกว้างขวางพอสำหรับ 2 คนและมีห้องน้ำในตัว แถมอยู่ใจกลางเมืองและใกล้สถานีรถไฟฟ้าเดินแค่ 1 นาที เราจ่ายไปแค่ 10,000 บาทถ้วนเท่านั้นสำหรับการพัก 4 คืนถือว่าถูกมากๆ กับโรงแรมระดับนี้ เพราะเราได้ฟรีคืนที่ 4 นั่นเอง
Park Güell
ที่นี่เหมือนเป็นสวนสนุกสมัยก่อนมีพื้นที่กว้างขวางมาก บางส่วนสามารถชมได้ฟรี และบางส่วนต้องเสียเงินเข้าไปชมเป็นเหมือนสวนสาธารณะที่สร้างโดย Gaudi เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว เน้นงานกระเบื้องโมเสคเอามาประติดประต่ออย่างสวยงามทั่วทั้งสวน ที่นี่เป็นมรดกโลกด้วยนะ ไฮไลท์ของมันไม่ใช่อะไรใหญ่โตแต่เป็นเจ้าน้ำพุมังกรน้อยหรือ Dragon Mosaic ที่ทุกคนอย่างมายลโฉมความน่ารักของมัน ที่นี่เราจะเห็นวิวเมืองบาร์เซโลนาทั้งเมืองอีกด้วย คนไทยชอบเรียกที่นี่ว่าบ้านขนมปังขิง เพราะมีอาคารหลังนึงรูปทรงเหมือนขนมปังขิงเลยจ้า
Palau de la Música (Concert Hall)
ที่นี่เราให้เป็น A Must! ของบาร์เซโลนาอีกที่นึงเลยแหละ เพราะความใหญ่โตโอ่อ่าที่เปิดมาร่วมร้อยปีแล้วแต่ดูคลาสสิคไม่มีเบื่อเลย Palau de la Música (Concert Hall) เป็นการออกแบบ แบบคาตาลันโมเดิร์น คือแบบเฉพาะพิเศษของแคว้นคาตาลันที่ตั้งของเมืองบาร์เซโลนานี่แหละ ผู้สร้างที่นี่เป็นอาจารย์ของ Gaudi อีกทีที่ได้ทิ้งศิลปะที่ยิ่งใหญ่ให้คนทั้งโลกอิจฉาบาร์เซโลนา เพื่อนๆ สามารถซื้อตั๋วเข้ามาชมคอนเสิร์ตได้ตามรอบการแสดงต่างๆ ที่มีจัดไว้ หรือสามารถซื้อทัวร์แบบเราเข้ามาเดินดูสถาปัตยกรรมด้านในก็ได้เช่นกัน ซึ่งมีทั้งแบบเดินชมด้วยตัวเองต้องมาก่อน 9 โมงเช้า และแบบมีไกด์ทัวร์เดินนำเริ่มตั้งแต่ 10 โมงเช้า ราคาอยู่ที่คนละ 20 ยูโร ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นคนซ้อมคอนเสิร์ตกันอยู่แบบเราก็ได้ อิอิ
แอบบอกทริคสำหรับการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศหน่อย! เวลาใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ เราแนะนำใช้จ่ายเป็นเงินสกุลของประเทศนั้นๆ เท่านั้น เพราะเวลาเราจ่ายด้วยเงินสกุลต่างประเทศจะได้แต้มพิเศษเป็น 25 บาท ได้ 3 คะแนนสะสม ซึ่งทำให้เก็บคะแนนเปลี่ยนเป็นไมล์และแลกตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่งได้เร็วยิ่งขึ้น แถมใช้จ่ายเป็นสกุลต่างประเทศบางทีก็ถูกกว่าจ่ายเป็นเงินบาทด้วยซ้ำ จำไว้ว่า! ถ้าพนักงานถามว่าจ่ายเป็นเงินบาทหรือเงินสกุลบ้านเค้า ให้เลือกเงินสกุลต่างประเทศเท่านั้นสำหรับบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจจะคุ้มค่าที่สุด และคุ้มค่าต่อที่สองเรายังจะได้ anniversary bonus on top ขึ้นมาอีก ตามจำนวนยอดที่เราใช้ใน 12 เดือนมากที่สุดถึง 5% ต่อปีขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ถือบัตรเครดิตซิตี้และสถานะซิตี้โกลด์
Sagrada familia
นี่คือไฮไลท์ของเมืองบาร์เซโลนาที่ทั้งโลกใจจดใจจ่อเฝ้ารอมันสร้าเสร็จเพราะนี่คือผลงานการก่อสร้างที่ยาวนานมากว่า 130 ปีและยังคงสร้างอย่างต่อเนื่อง! นี่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ Gaudi เพราะตั้งแต่ที่เค้าเริ่มคิดที่จะก่อสร้างก็มุ่งมั่นให้กับผลงานชิ้นนี้เพียงชิ้นเดียวจนเสียชีวิต
ความตั้งใจของ Gaudi คือต้องมียอดสูงแหลมทั้งหมด 18 ยอด แต่ตอนนี้สร้างได้เพียง 8-10 ยอดเท่านั้น ห้องทำงานต้นแบบและที่เก็บชิ้นส่วนทั้งหลายเคยถูกไฟไหม้มาก่อน ทำให้ลูกศิษย์ของ Gaudi ทั้งหลายที่รับหน้าที่สร้างต่อพยายามทำตามต้นฉบับดั้งเดิมไว้ให้มากที่สุด และกำลังเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2026 เพื่อเฉลิมฉลองการจากไปครบ 100 ปีของ Gaudi
ความอลังการของที่นี่อยู่ที่ผนังและเพดานทั้งหมด ทุกๆ อย่างที่เขาสร้างขึ้นมานั้นมีความหมายอย่างลึกซึ้งนั่นคือการใกล้ชิดและเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ โอ้ยยย พูดแล้วขนลุกนะคะคุณ! แถมยังไม่มีเส้นตรงเลยซักนิดเพราะอย่างที่เราบอกไว้แต่แรกว่าเส้นตรงนั้นสำหรับมนุษย์ ที่นี่คือโบสถ์เพราะฉะนั้นส่วนโค้งเว้าต่างๆ นั้นเพื่อพระเจ้า! แนะนำให้มาที่นี่ช่วงบ่ายแก่ๆ ใกล้พระอาทิตย์ตกดินเพราะมันเปี่ยมไปด้วยพลัง แสงแดดที่สาดกระจกสีเข้ามาทำให้ข้างในโบสถ์นั้นระยิบระยับเป็นประกายน่าค้นหา และเธอจะต้องขอบคุณตัวเองที่ได้มาดูอะไรแบบนี้
Port Vell and Barcelona Beach
ความดีงามของเมืองนี้อีกข้อคือติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถ้ามาหน้าร้อนนะนี่คงไม่ได้ดูหรอกบ้านเมืองหรือสถาปัตยกรรมระดับโลก คนมานั่งจิบน้ำส้มแล้วให้ผู้ชายที่เดินผ่านไปผ่านมาพร้อมอาบแดดเป็นกับแกล้มให้อิชั้นกระชุ่มกระชวยหัวใจแน่ๆ Port Vell เป็นย่านการค้าริมทะเลของเมือง เธอควรเผื่อวันว่างไว้หนึ่งวันมาเดินเล่นชิลๆ กินข้าวผัดสเปนกับแซงเกรีย แล้วนั่งอิ่มเอมกับบรรยากาศรอบๆ เมืองที่จะทำให้มีชีวิตชีวา แม้ช่วงนี้อากาศจะดีแบบที่เราฝันไว้ แต่ก็แอบเสียใจว่าทำไมผู้ชายไม่ถอดเสื้อเยอะกว่านี้! อ้ออ ลืมไปมันหนาว เดี๋ยวค่อยมาอีกรอบก็ได้เนอะ อิอิ
เราอิจฉาคุณภาพชีวิตของคนที่นี่มากๆ เพราะนางมีเลนจักรยานให้ขับทั่วทั้งเมือง มีเลนสำหรับคนเดิน และขับรถอย่างชัดเจน ทำให้เห็นภาพคนเมืองนี้ชอบเดิน ชอบปั่นจักรยานหรืออะไรก็ตามที่มีล้อเอาออกมาเดินทางกันอย่างสนุกสนาน เห็นแล้วก็อยากจะโหลด Tinder ออกมาหาคู่ให้รู้แล้วรู้รอด 5555 นั่นแหละจ้ะ ถ้ามีเวลาควรมากินลมชมวิวกันแถวนี้นะ
ขากลับกรุงเทพเราต้องบินไปกลับไปที่บรัสเซลส์เปลี่ยนเครื่องรอบนึง การเดินทางระยะสั้นๆ ส่วนใหญ่ก็ต้องนั่งชั้นประหยัดนี่แหละคุ้มที่สุดแล้ว แต่จะคุ้มกว่าเดินมากๆ ถ้าเราสามารถประหยัดค่าอาหารที่สนามบิน และมีที่นั่งพักรอขึ้นเครื่องแบบสะดวกสบาย หรูหราและมีเครื่องดื่มร้อนเย็นให้จิบแก้คอแห้งทุกๆ สนามบินทั่วโลก อีกหนึ่งความเก๋ของบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจ คือมีบัตร Priority Pass ที่สามารถใช้เข้าเลาจน์ได้มากกว่า 1,000 แห่งทั่วโลก! และไม่จำกัดจำนวนครั้ง ถ้าปีนึงเธอต้องเที่ยวซัก 20 รอบและบินชั้นประหยัดก็อยากให้อุ่นใจได้ว่าเธอจะมีห้องรับรองพิเศษเหมือนคนที่เดินทางด้วยชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่ง ประหยัดค่าอาหารการกินในสนามบินที่แสนแพงไปได้เยอะจริงๆ นะ เป็นบัตรที่เราใช้บ่อยที่สุดและแฮปปี้มากที่ซิตี้ให้มา
บาร์เซโลนาเป็นอีกเมืองนึงที่อยากแนะนำให้มาจริงๆ นะ มันอธิบายความรู้สึกนี้ไม่ถูกว่าดีหรือไม่ดียังไง แต่รวมๆแล้วมันเท่! เป็นอีก Destination นึงที่น่าจะถูกจริตคนวัยรุ่นอย่างเราที่สนใจมากกว่าการช๊อปปิ้ง และนั่งคาเฟ่ชิลๆ ซึ่งเมืองนี้ก็มีจ้า แต่บาร์เซโลนาให้เราได้มากกว่านั้น มันเปิดโลกของความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่เรียกว่ามรดกโลกที่ทรงคุณค่า มันพาเราเจออากาศดีและฟ้าสวยตลอด 4 วันเต็มที่อยู่ที่นี่ อยากให้มาเที่ยวที่นี่กันเยอะๆ จะหลงรักบาร์เซโลนา แล้วอย่าลืมพกบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจที่จะทำให้เธอได้สัมผัสโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ไม่รู้จบกับสิทธิพิเศษที่จะยกระดับชีวิตการเดินทางของเราให้แตกต่าง
สำหรับเราบัตรเครดิตซิตี้เพรสทีจเป็นบัตรที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราตั้งแต่เริ่มทำเพจใหม่ๆ และเดินทางเยอะ เราไม่ได้มองว่านี่คือการโฆษณาเพราะเราใช้เองจริงๆ มาตลอด 4 ปีที่ถือบัตรใบนี้ และอยากให้ทุกคนได้ลองและสัมผัสกับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มจริงๆ ๆ รักมากกว่าเดิมเพราะบัตรแบบใหม่สวยและใช้วัสดุที่พิเศษสุดๆ ไม่เหมือนใคร เป็นบัตรพลาสติกที่มีส่วนผสมของโลหะและมีน้ำหนักกว่าบัตรทั่วไป ทำให้บัตรดูหรูหรากว่าบัตรใบอื่นๆ ที่ถืออยู่ สนใจรายละเอียดของบัตรคลิกที่นี่ได้เลย https://bit.ly/2ScN8Wx #citiprestige #unforgettableexperiences #travelwithstyle