เวลาคนพูดถึงนิวยอร์ก ภาพแรกที่คิดเหมือนกันเกือบทุกคนคือภาพของความวุ่นวาย ความเจริญของเมือง แสงสีและความเป็นตัวของตัวเองที่เปรี๊ยวจี๊ดเหมือนบีบมะนาวจากบนฟ้าแล้วราดไปทั่วทั้งเกาะ ภาพจำของนิวยอร์กนั้นหลากหลายบางทีก็เหมือนผู้หญิงแซ่บๆ ที่ทำให้ชายตาเยิ้มมองตามแบบไม่คลาดสายตา เหมือนหนุ่มเท่ๆ ที่เดินไปทางไหน ชะนีก็กรี๊ดแล้วกรี๊ดอีก จนอยากจะวิ่งเข้าไปแอบถ่ายรูปลงไอจีสตอรี่ เหมือนคนบ้าที่จู่ๆ ก็กรี๊ดขึ้นใจกลางรถ Subway เหมือนคุณป้าคุณลุงที่นั่งพูดคนเดียวแล้วตะโกนเรียกทุกคนที่เดินผ่าน เหมือนทุกอย่างที่พอจะนึกได้ เพราะที่นี่คือความหลากหลายที่รวมทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน นิวยอร์กเป็นเหมือนบ้านของความหลากหลายที่บางทีก็ดูวุ่นวายไปนิดแต่ได้ลองไปแล้วจะหลงรัก รอบนี้เราเลยขอพามาเที่ยวแบบเบาๆ ชวนเปลี่ยนนิวยอร์กให้เขียวน่ารัก สะอาดตา สบายใจ เป็น Parks Of New York ที่รวม 8 Parks น่าไปนั่งปิคนิก ทอดอารมณ์ กินเชอร์รี่กับแก๊งค์เพื่อนสาว แล้วอ่านหนังสือเล่มโปรดกัน!
Battery Park & Staten Island
มี New Yorker “บอกเราว่าที่นี่ไม่ใช่แค่ใหญ่เท่านั้นนะ แต่มันยังง่ายต่อการเข้าถึง มันมีอะไรหลายอย่างให้ทำ แค่นั่งริมน้ำเฉยๆ ก็แฮปปี้แล้ว!” เราอยากแนะนำ Battery park ที่นี่ควรเริ่มจากการมาเยือน The oculus world trade center หาอะไรกินง่ายๆ ก่อนเดินเลียบแม่น้ำออกมาทางด้านซ้ายก็จะเจอกับ Battery Park ความชิวของที่นี่คือความใหญ่โต แต่เดินไม่เหนื่อย เพราะมีหลายๆ อนุสาวรีย์ให้เราเดินดูประวัติและเรื่องราวมากมาย รวมไปถึงมิวเซียมด้วยทั้ง Jewish Heritage / Nationla Museum of American Indian ส่วนถ้าใครชอบเดินที่นี่มีทางเดินเลียบแม่น้ำฮัดสัน ที่ยามเย็ชอบมีหนุ่มแน่นๆ มาถอดเสื้อโชว์กล้ามวิ่งเลาะริมแม่น้ำฮัดสันตรง The Esplanade and Park ฮู้ยยย บอกเลยว่าแซ่บ!
ใน Battery Park ยังมี SeaGlass Carousel ม้าหมุนที่มีลวดลายประการังมากถึง 30 แบบให้ได้เล่นกัน เมื่อก่อนที่นี่ยังเคยเป็นที่ตั้งของ Aquarium แห่งแรกในนิวยอร์กก่อนที่จะย้ายไป Coney Island อีกด้วย ความชิวของที่นี่คือยังมี Installation Art เก๋ๆ ให้ถ่ายรูปเล่นได้ หรือเดินๆ ไปอาจจะเจอ Street Show เท่ๆ ที่มาเล่นให้ดูกันฟรีๆ อีกด้วยนะ
อ้อ! แล้วที่นี่ยังเป็นจุด View Point ที่สามารถมองเห็นเทพีเสรีภาพได้แบบชัดสุดๆ ด้วยนะ หรือถ้าอยากเห็นชัดกว่านั้นแบบฟรีๆ ไม่เสียเงิน ใกล้ๆ กับ Battery Park มีท่าเรือข้ามไปยัง Staten Island ด้วย เกาะที่นั่งเรือไปได้ฟรีๆ และเห็นเทพีเสรีภาพแบบชัดที่สุด
เรือ Ferry วิ่งไป Staten Island นั้น วิ่งฟรีตลอด 24 ชม. เพราะฉะนั้นถ้ามีใครมาขายตั๋วและบอกต้องเสียเงินอย่าเชื่อเด็ดขาด เพราะมันขึ้นฟรีจริงๆ ทั้งขาไปและขากลับ การข้ามไปนั้นใช้เวลาประมาณขาละ 30 นาทีเพราะฉะนั้นควรเผื่อเวลาด้วย เพราะบางทีเรือลำเล็กและคนแน่นๆ เราอาจจะไม่ได้กลับทันทีต้องรอเรือรอบถัดไปที่จะออกทุกประมาณ 30 นาที
เราแนะนำให้นั่งเรือข้ามไปช่วงกำลังโพล้เพล้ แล้วไปดูพระอาทิตย์ตกที่ดาดฟ้าบน Pier ของ Staten Island เป็นโมเมนท์ที่ดีมากๆ ที่นึงเพราะค่อนข้างเงียบ ไม่มีคนและเป็นส่วนตัว เราชอบมาก ยิ่งซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ มายืนจิบข้างบนนี่อย่างชิว
เวลานั่งเรือออกไป ขาไปให้อยู่ด้านขวา และขากลับให้อยู่ด้านซ้าย เธอจะตะลึงกับวิวฟรีที่ดีที่สุดในนิวยอร์กเพราะเราสามารถเห็นทั้ง Lower Manhattan, Ellis Island Governors Island และ The Statue of Liberty หรือเทพีเสรีภาพนั่นเองจ้า ย้ำอีกรอบว่านั่งฟรี ขาไปช่วงโพล้เพล้ ขากลับก็ต้องโพล้เพล้ แล้วมันจะเป็นโมเมนท์ดีๆ ของเธออีกวันนึง
Tramway to Roosevelt island
เกาะเล็กๆ ที่มาถึงปุ๊ปยังยืนเอ๋อว่านี่ออกมาเมืองอื่นแล้วรึป่าว? เพราะความเงียบสงบของ Roosevelt Island ทำให้รู้สึกโล่งหูและสบายตาเหลือเกิน ทุกคนต้องเคยเป็นกันบ้างแหละเวลาไปเที่ยวเมืองใหญ่ๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่าง ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ เวลาช็อปปิ้งหนักหน่วงทั้งวัน แล้วเดินเข้าสวนสาธารณะไปนั่งพักเบาๆ แล้วรู้สึกดี นี่เลย! ที่นี่เป็นแบบนั้น 55555 มันไม่ได้ให้ความรู้สึกแปลกแยกกับเมือง เพราะมองข้ามแม่น้ำไปคือตึกระฟ้าที่พร้อมให้เราเข้าไปขลุกตัวด้วยทั้งวัน แต่ฝั่งนี้เหมือนเป็น Oasis เล็กๆ ของคนเมืองที่มาได้ง่ายๆ เพราะมันตั้งอยู่กลางแม่น้ำ ระหว่างแมนฮัตตันและควีนส์
แถมถ้ามาช่วงประมาณเดือนเมษาถึงต้นเดือนพฤษภาเราจะเห็นต้น Cherry Blossom บานเต็มต้นบนถนนเลียบแม่น้ำ
รอบนี้เราไปมาช่วงกลางวัน จริงๆ ที่นี่มี Freedoms Park อยู่ปลายสุดของเกาะที่ๆ เราสามารถไปนอนเล่นได้ทั้งวัน แต่รอบนี้เราขอแวะใกล้ๆ Tramway อย่าง สวนเล็กๆ ที่เป็นเนินเตี้ยๆ เหมือนในเรื่องเทเลทับบี้ใกล้ๆ กับ Cornell Tech ที่นี่เป็นเนินทำให้เวลาเรานอนเล่นมันไม่ต้องราบไปกับพื้น ลุกนั่งสะดวก วิ่งเล่นก็สนุกด้วยนะ!
ทริปนี้เรากับเพื่อนพก Smooth E Skin Therapie มาด้วย จริงๆ จะบอกว่าพา Smooth E กลับมาบ้านเกิดก็คงไม่ผิด เพราะส่วนผสมของ Smooth E ทั้งหมดเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา นี่โลชั่นเวชสำอางสูตรเข้มข้นพิเศษ ช่วยเราฟื้นบำรุงปัญหาผิวแห้งมาก แห้งคัน แห้งขุยและแพ้ง่าย ได้อย่างล้ำลึกตรงจุด ยิ่งคนเที่ยวบ่อยๆ อย่างพวกเรา แน่นอนว่าปัญหาจากสภาพอากาศที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศทำให้มีปัญหาอยู่แล้ว การมีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและแนะนำโดยแพทย์ผิวหนังยิ่งช่วยเราบำรุงผิวให้ดีและพร้อมสำหรับออกเดินทางเสมอ ขวดเล็กแค่นี้ พกพาง่ายมาก!
ที่นี่ยังมี Tramway ให้นั่งด้วยนะ เราจะได้เห็นวิวมุมสูงเหนือแม่น้ำเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ช้าๆ ขากลับให้ยืนด้านซ้าย เพราะช่วงเย็นจะเป็นช่วงที่พระอาทิตย์คล้อยมาด้านนั้นพอดี เธอจะถ่ายรูปสวยมาก และทุกอย่างจะเพอร์เฟกต์ที่สุด!
High Line Park in The City
นี่คือสวนกลางป่าคอนกรีตที่แท้จริง แถมไม่ใช่สวนธรรมดาเพราะเป็นสวนลอยฟ้าอีกต่างหาก High Line เป็นทางรถไฟยกระดับมาก่อน ก่อนที่จะถูกยกเลิกและปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ จนประชาชนเสนอให้ร่วมกันอนุรักษ์พื้นที่แห่งนี้เอาไว้เพื่อเป็นสวนสาธารณะ ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกมุมฮอตฮิตเพราะมีทั้งโซนให้นั่งเล่นชิวๆ และร้านค้ามากมาย ที่นี่เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 5 ทุ่ม มาเดินเล่นเงยหน้ามองด้านบนแล้วจะรู้สึกดีใจที่มีมุมเขียวแบบนี้อยู่ในเมืองใหญ่ ได้ฟีลลิงป่าคอนกรีตที่แท้! แถมยังมีวิวของแม่น้ำฮัดสันอยู่ไกลๆ ให้ชื่นใจด้วยนะ
Central Park
มีคนบอกว่าที่นี่คือหัวใจของนิวยอร์กเลยก็ว่าได้ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางมหานครระดับโลก ใหญ่ขนาด 460 สนามฟุตบอลมาต่อกัน เซ็นทรัล พาร์ค คือสถานที่สีเขียวสำหรับเอาไว้พักผ่อนใจกลางเมืองอย่างแท้จริง เราจะเห็นคนออกมานอนอาบแดดกันในวันหยุด นั่งฟังเพลง หรือจูงหมาเดินเล่น หรือออกมาปิคนิกชวนเพื่อนซื้อขนมและอาหารทานเล่นจากมินิมาร์ก ออกมากินกันชิวๆ นั่งคุยกันเพลินๆ เป็นสวรรค์ของคนเมืองในวันหยุดที่ไม่โหยหาแสงสีอีกแล้วอะค่ะ
อารมณ์แบบนั่งกินโดนัท แนมด้วยสตอรเบอร์รี่ จิบน้ำใบข้าว หัวเราะคิกคักกับเพื่อนสาวและชวนกันทาครีมเพิ่มผิวสวย!
ใน Central Park ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกเยอะมาก! ทั้งพายเรือเก๋ๆ ที่ต้องออกกำลังแขนมากเป็นพิเศษ ปั่นจักรยานที่ต้องคำนวณเวลาดีๆ เพราะทุกนาทีเป็นเงินเป็นทอง หรือนั่งรถม้าลากเลื่อนที่คิดเงินเป็นหลักนาที โอ้ยย จะบ้าตาย หรือจะเดินทอดน่องเล่นๆ เดินไปตรงน้ำพุ นั่งดูเด็กๆ หัวเราะ และคนเดินไปมาก็ไม่เลวเลยหละ
The Met Cloisters & Fort Tryon Park
The Met Cloisters เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานทางศิลปะในช่วงยุคกลางของยุโรป ที่นี่เป็นสาขาย่อยของ The Met ถ้าซื้อบัตรมาแล้วสามารถใช้เข้าได้ทั้ง 3 ที่คือ The Met Fifth Avenue, The Met Breuer, and The Met Cloisters ซื้อบัตรครั้งเดียวสามารถใช้ได้ 3 มิวเซียมภายใน 3 วันติดต่อกันเลยแหละ สำหรับเราเลือกมาที่ The Cloisters เพราะชอบบรรยากาศของสถาปัตยกรรมที่นี่และติดอกติดใจกับสวนหย่อมที่จำลองรูปแบบในยุโรปยุคกลางออกมาได้มีเสน่ห์
Cloisters แปลว่าทางเดินมีหลังคาเลยไม่แปลกใจเลยว่ามีส่วนโค้งเว้าเต็มไปหมด และทุกจุดทำได้ประณีตมากจริงๆ ถ้าเบื่อๆ ความเป็นอเมริกันจ๋า แนะนำให้มาเดินเล่นที่นี่เลยเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศกลับไปเดินเล่นในยุโรป ด้านในยังมีศิลปะที่หลากหลายในยุคกลางทั้งสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในยุคต่างๆ ที่จัดวางไว้อย่างสวยงามและรักษาอย่างดี
ใกล้ๆ กันยังมี Fort Tryon Park สวนสาธาณะที่เงียบสงบ ใกล้ๆ กับ The Cloisters ที่มองเห็นวิวแม่น้ำฮัดสันอย่างสวย บรรยากาศของที่นี่ถ้ามาตอนใบไม้เปลี่ยนสีน่าจะสวยมากๆ แต่มาช่วงซัมเมอร์แบบนี้ก็เขียวไปอีกแบบ แลกมากับดอกไม้ที่แข่งกันบานให้เราเอาหน้าไปแนบซ้ายแนบขวาถ่ายรูปนั่นเอง
Gantry Plaza State Park – Long Island City
ที่นี่ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ Gantry Plaza State Park – Long Island City เป็นที่ๆ ควรจะมาช่วงเย็นๆ นั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน และมีวิว Background ด้านหลังเป็นป้าย Pepsi-Cola Sign อันโด่งดัง ส่วนด้านหน้านั้นคือวิวแมนฮัตตันแบบตึกสูง ที่นี่คนนิยมมาวิ่งออกกำลังกายกันยามเย็น พาสุนัขมาเดินเล่น หรือมานั่งคุยกับเพื่อน อ่านหนังสือ หรืออยู่กับตัวเอง ด้วยความที่มันไม่มีอะไรมั้ง มันเลยทำให้ที่นี่เป็นที่นิยม ความไม่มีอะไรในความหมายของนักท่องเที่ยวแต่มีคุณค่าต่อนิวยอร์กเกอร์เพราะมันคือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจใจกลางเมืองใหญ่นั่นแหละ แค่ดูวิวแมนฮัตตันยามเย็นก็มีความสุขแล้ว
และอีกหนึ่งโลชั่นเวชสำอางสูตรเข้มข้นพิเศษที่เราอยากแนะนำคือ Smooth E WhiteTherapie โลชั่นที่เราใช้กันจริงๆ ในทริปนี้และมีส่วนมากๆ ในการช่วยฟื้นบำรุงดูแลปัญหาผิวให้สวยกระจ่ายใจได้ง่ายๆ อย่างเป็นธรรมชาติ Smoot E เป็นเวชสำอางที่นำส่วนผสมและวัตถุดิบนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ทำให้มั่นใจได้ว่าเราได้ใช้ของที่มีคุณภาพในการช่วยแก้ปัญหาผิว 5 อย่างด้วยกันคือ ช่วยลดรอยคล้ำและแผลเป็น / ช่วยลดรอยแตกลาย / ช่วยฟื้นฟูและสร้างสมดุลให้กับผิว / รักษาความชุ่มชื่นให้กับผิว ทำให้ผิวของเรากระจ่ายใสอยู่เสมอ เหมาะมากๆ สำหรับสาวผิวแห้ง Smooth E ทำให้รู้เลยว่าเวชสำอางไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแถมมีกลิ่นหอมอีกต่างหาก ส่วนตัวเราชอบนะ เพราะกลิ่นมันดูแพงดีอะ 555
บางทีคนเราก็มองหาที่เที่ยวง่ายๆ แบบนี้แหละ ยิ่งเวลาไปเมืองนอกเรายิ่งต้องเผื่อเวลาให้ตัวเองเสมออย่างน้อย 1-2 วัน ให้มีเวลาเพลิดเพลินให้เวลากับตัวเองไม่ต้องช็อปปิ้งอย่างหนักหน่วง หรือเที่ยวตามเช็คลิสต์ให้ครบ แต่ขอแค่เป็นวันง่ายๆ นั่งคุยกับตัวเองให้สมกับมาพักผ่อน ทบทวนเรื่องราวดีๆ และมีโมเมนท์ที่น่าประทับใจกับเพื่อนร่วมกัน เราเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่ามากที่สุดในการเดินทาง
และสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังจะออกเดินทางอย่าลืม! เพิ่มคุณค่าให้กับผิวของทุกคนให้ดูกระจ่างมากยิ่งขึ้นด้วยโลชั่นเวชสำอางคุณภาพดีด้วยส่วนผสมและวัตถุดิบจากสหรัฐอเมริกาอย่าง Smooth E WhiteTherapie และ Smooth E Skin Therapie ให้มันเป็นอีกหนึ่งสิ่งดีๆ และน่าประทับใจการพกติดตัวไปด้วยในทุกๆ ทริป และช่วยสร้างคุณค่าผิวที่สวยจนมองเห็นได้จากภายนอกไปด้วยกันนะ ?