“เหรอออ สวยขนาดนี้เป็นเมืองรองหรอวะ?” นี่คือสิ่งที่เราถามเพื่อนหลังจากเที่ยวตรังมาได้ 4 วันก่อนกลับบ้านเพราะความครบครันเหมือนกินก๋วยเตี๋ยวแต่ไม่ต้องปรุงแล้ว เหมือนสั่งกาแฟที่กลมกล่อมจนไม่ต้องขอไซรัปหรือครีมใดๆ เพิ่มอีก นี่คือ ‘เมืองตรัง’ เมืองที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยบอกเราว่า มาเถอะ! มันดี อาหารอร่อย ออกเกาะได้ มาแล้วเธอจะชอบที่นี่แถมไม่วุ่นวายด้วยนะ ฟังตอนแรกก็เบ้ปากแหละ แต่ตอนนี้ได้แต่ยิ้มกริ่มในใจว่า มันดีกว่าที่คิดจริงๆ ?
Day 1 : สายชิว บินบ่าย เวลาดี ไม่ต้องตื่นเช้า
ปกติเที่ยวไทยเวลาไปกันก็ต้องออกกันแต่เช้าตรู่ไปขึ้นเครื่องเพื่อให้ได้เที่ยววันที่ไปถึงกันเต็มๆ หนึ่งวัน แต่สำหรับทริปนี้นั้นเราขอชิวกว่าเดิมด้วยการเลือกบินช่วงบ่ายบ้าง คนไม่หนาแน่นเท่าช่วงเช้า แถมจากดอนเมืองไปตรังแค่ชั่วโมงนิดๆ ไปถึงก็เหมือนยังเหลือเวลาอีกทั้งบ่ายให้เดินเล่นในย่านเมืองเก่า เหมือนเป็นการชาร์จแบตก่อนเที่ยวตรังให้เต็มที่
แอร์เอเชียมีเที่ยวบิน บินตรงจากดอนเมืองสู่เมืองตรังมากที่สุดถึงวันละ 3 เที่ยวบินต่อวัน ไฟลท์เช้า ไฟลท์บ่าย หรือไฟลท์เย็นก็เลือกได้ตามสะดวก อย่างรอบนี้เราเลือกไฟลท์บ่ายขึ้นเครื่องไปก็กินอาหารที่สั่ง Pre-Book Meal ไว้ล่วงหน้าสวยปะ วันที่เราไปถึงตรังปุ๊ป ฟ้าฝนแถวนั้นก็ตื้นต้นดีใจมากๆ จนร้องไห้ออกมาเป็นน้ำฝนต้อนรับกันใหญ่เลยจ้า
หลังจากเก็บกระเป๋าเข้าที่พักเสร็จแล้วเราก็ออกมาเดินเล่นย่านเมืองเก่ากัน แวะกินชากาแฟ ขนมพื้นบ้านที่ร้าน Tubtieng Old Town เป็นอาคารห้องแถวสีเหลืองมัสตาร์ดเก่าแต่ดูขลังและมีเสน่ห์ แถมขนมพื้นบ้านในร้านก็สะอาดสะอ้านและรสชาติถูกปากเราจริงๆ กินกันจนตัวแตกไปเลยค่ะตั้งแต่ร้านแรก
และถนนแถวนั้นเราสามารถเดินดู กราฟิตี้ฝาผนังเป็นจุดถ่ายรูปที่หลายๆ คนชอบมาแอคติ้งเก๋ๆ เดินไปเดินมา ทำเป็นเผลอ หันมองข้างยิ้มอ่อนมุมปาก หรือเดินไปอีกหน่อยก็เป็นโบสถ์คริสตังที่สวยและดูเสน่ห์มาก
มาเที่ยวทะเลทั้งทีมื้อเย็นวันแรกก็เอาเลยจ้ะ เราไปโซ้ยปูดองกันที่ร้านชื่อน่ารักว่าปูม้า ปาร์ตี้ อร่อยมาก อาหารทะเลสด จานใหญ่ หอยหวาน ไม่คาว ควรมาลอง ยิ่งวันไหนฝนตกและได้ซุปแซ่บร้อนๆ โอ้ย หลับสบายทั้งคืน
Day 2 : กันตัง ปีนถ้ำ เดินหาด!
เช้าวันที่ 2 เราตื่นกันแต่เช้าไปเดินเล่นตลาดสดเทศบาลสัมผัสวิถีชีวิตคนตรังยามเช้าซะหน่อย ที่นี่มีหมูย่างเจ้าดังด้วยนะ และน่าเสียดายที่เราไปไม่ทันขนาดไปตอนยังไม่แปดโมงเช้าก็หมดแล้วอะคิดดูละกันว่ามันฮิตแค่ไหน!
เราแวะกินติ่มซำยามเช้าที่ร้าน เลตรัง 2 ที่เลือกร้านนี้เพราะมันดูใหญ่ โอ่โถงและสะอาดสะอ้านน่าทาน และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ทุกๆ เข่งถูกอุ่นร้อนมาน่าอร่อย แถมยังมี ชา กาแฟ ข้าวหน้าต่างๆ และ โจ๊ก ข้าวต้มด้วยนะ เลิศมาก เป็นมื้อเช้าที่กินแล้วสามารถอิ่มไปได้ทั้งวันเลยแหละ
เสร็จจากอาหารเช้า เราบึ่งไปกันที่อำเภอกันตังกันต่อ กันตังเป็นอำเภอนึงของเมืองตรังเคยเป็นเมืองท่าสำคัญมากอีกที่นึงในสมัยโบราณ ที่นี่เป็นสถานีรถไฟสุดท้ายของเส้นทางสายอันดามัน และมีมาจอดแค่วันละ 1 ขบวนเท่านั้น เพื่อนๆ หลายคนนิยมนั่งรถไฟจากตัวเมืองตรังมาลงที่สถานีนี้เพื่อกินลมชมวิว แต่เวลาเราน้อยเลยถือโอกาสแวะมารอที่ปลายสถานีเลยดีกว่า ได้ยินแว่วๆ ว่าค่าโดยสารจากตัวเมืองตรังมาที่กันตังนั้นแค่หลักสิบนะ!
และข้างสถานีกันตัง มีคาเฟ่ ร้านเล็กๆ ชื่อสถานีรัก เป็นร้านธรรมดา แต่มีดีที่น้ำมะม่วงเบาปั่นอร่อยมาก เปรี้ยวอมหวาน หอมสดชื่นกำลังดี แก้วละไม่กี่บาทลองไปชิมดูแล้วจะติดใจ กังตังเป็นเมืองเล็กๆ เที่ยวครึ่งวันก็ครบแล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์บิดาแห่งยางพาราไทยคนแรกและต้นยางพาราต้นแรกของประเทศไทยด้วยนะ ถ้าใครสนใจเรื่องพวกนี้ก็แวะไปกันได้ ส่วนพวกเรานั้นแค่ได้มาเดินเล่นสถานีรถไฟและถ่ายรูปเพลินๆ ในสถานีก็โอเคแล้วเลยรีบกลับไปหาของอร่อยกินในตัวเมืองก่อนจะไส้กิ่วไปกว่านี้
และข้างสถานีกันตัง มีคาเฟ่ ร้านเล็กๆ ชื่อสถานีรัก เป็นร้านธรรมดา แต่มีดีที่น้ำมะม่วงเบาปั่นอร่อยมาก เปรี้ยวอมหวาน หอมสดชื่นกำลังดี แก้วละไม่กี่บาทลองไปชิมดูแล้วจะติดใจ กังตังเป็นเมืองเล็กๆ เที่ยวครึ่งวันก็ครบแล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์บิดาแห่งยางพาราไทยคนแรกและต้นยางพาราต้นแรกของประเทศไทยด้วยนะ ถ้าใครสนใจเรื่องพวกนี้ก็แวะไปกันได้ ส่วนพวกเรานั้นแค่ได้มาเดินเล่นสถานีรถไฟและถ่ายรูปเพลินๆ ในสถานีก็โอเคแล้วเลยรีบกลับไปหาของอร่อยกินในตัวเมืองก่อนจะไส้กิ่วไปกว่านี้
ซินจิว คือร้านข้าวหมูแดง หมูกรอบ ก๋วยเตี๋ยว และสารพัดอาหารคาวหวานที่เราเลือกมากินกันเที่ยงนี้ เพราะชื่อเสียงที่โด่งดังจากอาหารเช้า เราว่ามันต้องดีงามจนถึงเที่ยงแน่ๆ และได้ยินว่ารอคิวไม่นาน ที่นั่งเยอะ เลยเลือกร้านนี้กันนี่แหละ ง่ายดี ที่นี่ดังเรื่องข้าวหมูกรอบ และข้าวหมูแดง น้ำราดข้นๆ กับหมูกรอบที่กรอบนอกนุ่มใน และหมูแดงอย่างดี กินกับซุปร้อนๆ และดูดน้ำเก๊กฮวยเย็นๆ ซักแก้วก็พอแล้วสำหรับมื้อเที่ยงแบบนี้
แต่มันยังไม่พอสำหรับเราจ้ะ! เพราะมีตึกแถวหลังร้านซินจิวเป็นร้านขนมหวานเลื่องชื่อของเมืองตรัง แต่ร้านนี้ไม่มีชื่อ!
บอกใครว่าจะมาเที่ยวเมืองตรังก็แนะนำกันแต่ร้านนี้ ร้านนี้ไม่มีชื่อหน้าร้านแต่คนตรังรู้จักกันดีว่าชื่อร้าน ‘โกค็อกกับเจ๊ดี’ ขนมหวาน รวมมิตรต่างๆ แบบไทยๆ น้ำส้มปั่น มะม่วงเบาปั่นแบบไม่ใส่น้ำตาล ทำให้ชีวิตดูมีชีวิตชีวาขึ้นอีกมากโขเลยจ้า และเยื้องๆ กันมีร้านเป็นรถมอเตอร์ไซค์ขายขนมเบื้องแบบทำบนเตาถ่านที่เดี๋ยวนี้หากินยากแล้ว อร่อยมาก กรอบ หอม
ช่วงบ่ายเราเริ่มกิจกรรม Adventure มากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะคุณผู้ชม บอกแล้วว่ามาตรังเนี่ย สงสัยแล้วสงสัยอีกว่ามันเป็นเมืองรองจริงๆ หรอ เพราะกิจกรรมแน่นและเยอะขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะความไม่รู้ว่ามันน่าเที่ยว เลยหลงๆ ลืมๆ กันไปนั่นเอง แพลนช่วงบ่ายของเราวันนี้คือพายคายัคไปเที่ยวถ้ำ!
คลองและถ้ำจระเข้ขาวเป็นที่ท่องเที่ยวที่ฝรั่งฮิตกันมาก เพราะผู้คนไม่พลุกพล่านสามารถมาเที่ยวได้แบบชิวๆ เราต้องเช่าเรือคายัคจากคนพื้นที่ซึ่งเดินไปเดินมาแถวนั้น จะมีคนพายเรือพาล่องคลองไปเรื่อยๆ โดยที่สองข้างทางเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์มากราคาลำละประมาณ 700 บาทนั่งได้ 3 คนแถมยังพาเดินไปชมถ้ำด้านในอีกด้วย คุ้มค่าอยู่เพราะ Unseen ดีไม่เหมือนใคร แถมไม่ได้อันตราย แต่ตอนเดินก็ต้องระวังนิดนึดเพราะทางค่อนข้างชันพอสมควรช่วงก่อนถึงถ้ำ
ตอนเย็นเราไปดู Sunset กันที่หาดปากเมงเป็นอีก Viewpoint นึงที่รู้สึกว่าสวยมากๆ ในประเทศไทย อยากแนะนำให้ไปเลยตรงโค้งน้ำแถวๆ หาดปากเมงนั่นแหละเดินได้รอบๆ หาจุดเดินเล่นนั่งคุยกันรอพระอาทิตย์ตกดินเป็นโมเมนท์ดีๆ ที่อยากให้ทุกคนได้เจอ นี่อาจจะเป็นเสน่ห์อย่างนึงของเมืองรองเลยนะที่มีวิวดีๆ ธรรมชาติ และคนไม่พลุกผล่านแบบนี้
Day 3 : island wanderer
วันที่ 3 เราให้เวลากับการออกทะเลทั้งวัน! ถ้ามากันแก๊งค์เล็ก 2 -3 คนเราแนะนำให้ไป One Day Trip กับทัวร์อย่างเราเลือกไปกับลิบงการท่องเที่ยว ราคาต่อหัวรวมอาหารกลางวันจะตกคนละ 850 บาท แต่รอบนี้เราไปกันหลายคนประมาณ 10 คน เพราะฉะนั้นการเหมาเรือ SpeedBoat ออกไปเลยสะดวกกว่าทั้งเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า ไม่ต้องรอกันไปกันมาทั้งกรุ๊ป ราคาตกคนละประมาณพันนิดๆ ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยถ้าเทียบกับความเป็นส่วนตัว สะดวกแบบไหนเลือกแบบนั้น!
ทัวร์ One Day Trip จะพาออกไปดำน้ำด้วยกันทั้งหมด 4 เกาะด้วยกันคือ เกาะช้าง เกาะเชือก เกาะกระดานและถ้ำมรกต โดยเรือจะออกช่วงเช้าประมาณ 9 โมง และกลับเข้าฝั่งอีกทีประมาณ 4 โมงเย็น ถ้าไปเป็นกรุ๊ปบนเรือจะมีบุฟเฟต์อาหารกลางวันให้ทาน ส่วนเราเลือกแบบง่ายๆ เพราะอยากชิวมากกว่าเลยขอให้เค้าจัดข้าวกล่องมาให้แทนเลยสะดวกที่สุด จะได้มีเวลาถ่ายรูปเก๋ๆ ให้เต็มที่ ข้าวของไม่ต้องมากมายค่ะ หิวมากก็รอไปกินบนแผ่นดิน 5555
เราอยากเตือนนิดนึงว่าเวลาดำน้ำและต้องเข้าไปในถ้ำหรือเข้าไปใกล้โขดหินต่างๆ อย่าไปสัมผัสหรือไปจับเด็ดขาดเพราะมันคมมากๆ ล่าสุดเพื่อนที่ไปด้วยกันโดนบาดที่นิ้วต้องเย็บไปหลายเข็ม แนะนำให้ดำอยู่ในที่โล่งๆ โปร่งสบายจะดีที่สุด ช่วงสายๆ เราดำน้ำที่เกาะเชือกกับเกาะม้า พอใกล้ๆ เที่ยงหลังทานอาหารเสร็จแล้วก็ดำไปที่ไฮไลท์ของวันนั่นคือ ถ้ำมรกต แนะนำให้มาช่วงสายๆ ถึงบ่ายต้นๆ ช่วงที่แสงกระทบน้ำในถ้ำจนกลายเป็นสีเขียวมรกตให้เราว่ายผ่านเข้าไปเจอชายหาดที่อยู่ในถ้ำอีกที บอกเลยว่าสวยและคุ้มค่ามากที่สุด
ส่วนเกาะสุดท้ายของวันที่เราขึ้นไปพักผ่อนกันคือเกาะกระดาน เกาะนี้มีหาดและชิงช้าให้นั่งเล่น เหมาะแก่การเอาลำโพงมาเปิดเพลงแล้วนอนให้แดดเลียเล่นๆ ก่อนกลับขึ้นฝั่ง ที่นี่สวยงามและเงียบสงบเหมือนกัน ที่สำคัญน้ำใสมากๆ ด้วยนะ
เป็น One Day Trip ง่ายๆ ที่ไม่เหนื่อยจนเกินไปและใครๆ ก็มาได้แบบสบาย ไม่แพงอีกด้วยเนอะ แต่เดินทางช่วงนี้อาจต้องเตรียมตัวกันซักหน่อยทั้งเรื่องของอากาศและคลื่นลม ควรเช็คดีๆ ก่อนออกเดินทางด้วยจ้า
Day 4 : กินหมูย่าง นั่งรถหัวกบเที่ยวเมือง!
ตามสไตล์พวกเราวันสุดท้ายคือวันที่ชิวที่สุดคือตื่นสาย เที่ยวเมือง กินของอร่อย และกลับบ้าน ที่เมืองตรังมีเอกลักษณ์อย่างนึงคือนั่งรถหัวกบที่สามารถเช่าได้จากแถวๆ หน้าสถานีรถไฟตรัง ให้ขับพาเที่ยวชมเมืองโดยจะเป็นราคาเหมาเป็นชั่วโมงซึ่งไปตกลงกันได้เองเลยจ้าว่าอยากให้ขับรถวนรอบไหนบ้าง ถ้าตามแพลนฮิตๆ ส่วนใหญ่คือ ย่านเมืองเก่า – โบสถ์คริสตังหัวถนนราชดำเนิน- วงเวียนปลาพะยูน- หอนาฬิกา โดยรวมแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ด้วยแล้วไม่น่าจะเกิน 2 ชั่วโมง
และมาตรังไม่กินหมูย่างก็เหมือนไปเชียงใหม่แล้วลืมกินไส้อั่วนั่นแหละ หมูย่างเมืองตรังเป็นอาหารที่มีอยู่ทั่วเมืองและหลายร้าน ใกล้ร้านไหนหรือถูกใจร้านไหนก็ไปกินได้ตามสะดวก อย่างเราไปกินร้าน ตรังหมูย่าง จังหวะดีมากตอนที่ไปป้าเค้ากำลังย่างเสร็จใหม่ๆ 1 ตัวพอเห็นพวกเราถือกล้องไปด้วยก็รีบเรียกใหญ่เลย “เอาละน้า ป้าจะสับละนะ!” โช้ะๆๆๆๆๆๆ ไปสู่ขิตเรียบร้อยจ้าน้องหมู 555 หมูย่างเมืองตรังมันมีเอกลักษณ์คือหนังกรอบพองและเนื้อข้างในนุ่มๆ และรสหวาน แถมต้องจิ้มด้วยซอสพริกนะ โอ้โห อร่อยลื้มมมม
ส่วนใครสายขนมหวานเรามีแนะนำ 2 ร้าน ร้านแรกคือขนมเปี๊ยะซอย 9 เป็นขนมเปี๊ยะที่อร่อยที่สุดแล้วตั้งแต่กินมา ยิ่งออกจากเตามาร้อนๆ ยิ่งอร่อย หอม หวานกำลังดี และแป้งกรอบแตะสัมผัสลิ้นก็ละลาย กินกับชาหรือกาแฟร้อนๆ ยิ่งอร่อย ร้านนี้ขายดีมากต้องต่อคิว ควรไปซื้อแต่เช้าก่อนที่มันจะหมดไปอย่างรวดเร็ว!
ส่วนอีกร้านนึงเป็นร้านที่ใครๆ ก็บอกให้มาลองกินนั่นคือร้าน Richy ร้านเบเกอรี่เจ้าอร่อยของเมืองตรัง เนื้อเค้กที่นุ่ม สัมผัสบาง แต่หอมและหวานเวลาทานเป็นอะไรที่เลอค่ามากที่สุดสำหรับการกินทิ้งทวนก่อนกลับกรุงเทพ รสชาติแบบนี้ หน้าตาสวยงามแบบนี้อยู่กรุงเทพชิ้นละหลายร้อยแน่นอน แต่ที่นี่ราคาเบาๆ เหมาะสำหรับคนที่รวยแต่ในอินสตาแกรมแบบเรา 55
เราชอบที่สุดคือเค้กมะพร้าวอ่อนใบเตยกินแล้วรู้สึกฟิน พร้อมกับน้ำเปรี้ยวๆซักแก้ว โอ้โห! อร่อยจนยอมอ้วน ไปกินซะ
นี่คือทริปเที่ยวเมืองรอง เมืองต้องห้ามพลาดพลัสเมืองที่ 2 ของไปไง มาไง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และแอร์เอเชียประจำปีนี้ บอกเลยว่าดีใจที่ได้มาตรัง ที่นี่ควรจะเป็นเมืองหลักได้แล้ว เพราะความอร่อย คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายมาและอะไรหลายๆ อย่างทำให้รู้สึกได้เลยว่าคุ้มมากถ้าจะมา สำหรับใครที่แพลนมาเที่ยวตรังเร็วๆ นี้ ก็บอกให้ใจชื้นได้เลยว่าไม่ผิดหวังแต่ถ้าใครยังไม่มีแพลน ตรังอาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกที่นึงให้มาใช้ชีวิต Adventure และกินอร่อย เที่ยวสบายไปด้พร้อมกันๆ นะ